ตุ๊กตาผีที่แท้ทรู

ตุ๊กตาผีที่แท้ทรู

โดย : จินต์ชญา

ไม่ใช่แค่ นิยายออนไลน์ เพียงอย่างเดียวที่มีให้อ่านได้ อ่านดี อ่านฟรี ที่อ่านเอา แต่เรามีเรื่องให้ อ่านออนไลน์ กันมากมาย เช่นเดียวกับคอลัมน์ คอลัมน์  ‘เรื่องผีที่ฉัน (อยาก) เล่า’ ของ ‘จินต์ชญา’

……………………………………………………….

 

ตุ๊กตาผีนี่ก็ขยับเองได้ ขยับเปลี่ยนที่ไปมา

เปลี่ยนอิริยาบทแก้เมื่อย แถมเขียนหนังสือได้อีกต่างหาก

โดยเขียนข้อความเป็นลายมือเด็ก ว่า “help us”

 

เราคุยเรื่องตุ๊กตาผีสิงทั้งของไทยและเทศมาก็หลายตอนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์หรือเรื่องเล่าทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นชัคกี้หรือแอนนาเบล ที่ตอนแรกฉันนึกว่าเป็นเรื่องสมมุติดูกันสนุกๆ  แต่จริงๆ แล้วกลายเป็นว่า ตุ๊กตาผีในหนังนั้นมีจริง แถมเฮี้ยนระดับสิบอีกด้วย….

ที่เมืองมอนโร รัฐคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา มีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บของแปลกๆ จากทั่วโลก เป็นของที่ใช้ในการทำพิธีแบบแม่มด หมอผี The African Fertility Dolls  หรือตุ๊กตาวูดู กะโหลก มัมมี่ ที่เจ้าของคือ เอ็ด (เสียชีวิตเมื่อปี 2006) และ ลอเรน วอแรน ปัจจุบันอายุ 90 กว่า เชื่อว่ามีอาถรรพ์ เก็บมาจากประสบการณ์ในการปราบวิญญาณของทั้งคู่ พิพิธภัณฑ์นี้ชื่อ The Warrens Occult Museum เป็นบ้านเล็กๆ ที่มีสิ่งของน่ากลัววางเต็มไปหมดแทบจะไม่มีทางเดิน เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้

ลอเรน และ เอ็ด วอแรน

สามีภรรยาคู่นี้เป็นนักปราบผีร้ายที่มีชื่อเสียง จะแปลว่าอย่างไรดี เป็น ‘นักปีศาจวิทยา’ หรือ Demonologist  และตุ๊กตาในพิพิธภัณฑ์ที่เขาเก็บไว้ก็เป็นตุ๊กตาดังๆ น่ากลัวระดับสิบทั้งนั้น เวลาจะเข้าพิพิธภัณฑ์ เขาจะมีการสวดมนต์ปัดเป่าคนที่เข้าไปก่อน แล้วก็เตือนอย่างแรงว่าอย่าแตะต้องอะไรในนั้น เพราะวิญญาณจะเข้าสิงได้ การเข้าชมพิพิธภัณฑ์เลยต้องเก็บไม้เก็บมือให้ดี ดูแต่ตามืออย่าต้องเด็ดขาด

สิ่งของน่ากลัวขึ้นชื่อในพิพิธภัณฑ์มีดังต่อไปนี้…

The Shadow Doll เป็นตุ๊กตาเก่าๆ หน้าตาน่ากลัว ไม่น่าเล่น มีผู้ซื้อมันไปจากร้านขายของที่ระลึก (หน้าตาแบบนี้ จะซื้อเพื่อ??) เขาว่าเจ้าของเก่านอนหลับฝันร้ายทุกคืน ตื่นขึ้นมาก็เจอรอยขีดประหลาดตรงข้อมือ เลยติดต่อเอ็ดกับลอเรนมาดู พบว่ามีพลังงานแฝงอยู่ในตุ๊กตา เลยขอเอาไปเก็บที่พิพิธภัณฑ์ เขาว่ามีส่วนประกอบของกระดูกใช้หลอกคน ใครคิดทำลายมัน มันจะทำร้ายจนตาย… กึ๋ยยยยยย

กระจกทวิภพ… เอ๊ย The Conjuring Mirror กระจกต้องคำสาป ใช้เพื่อเรียกดวงวิญญาณชั่วร้าย เจ้าของเดิมคือพ่อมด สตีเวน โซลาโน ที่อาศัยในรัฐเพนซิลเวเนีย ประวัติมีอยู่ว่าเขาใช้กระจกบานนี้เพื่อประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ จนทำให้เขามองเห็นอนาคต อีกทั้งยังใช้แกล้งคนอื่นทำพิธีกรรมต่างๆ สาปแช่งคน แต่กรรมดันตามสนอง มีวิญญาณมาตามหลอกหลอนจนเขาต้องติดต่อคริสตจักรให้มาปราบวิญญาณชั่วร้ายในกระจก ต่อมาคริสตจักรได้ส่งเอ็ดและลอเรน คู่สามีภรรยานักปราบผีมาทำพิธีเพื่อสะกดวิญญาณชั่วร้ายภายในกระจก และนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์

ใกล้ๆ แถวนั้น มีตุ๊กตาแขวนคออยู่คู่หนึ่ง ชื่อ Death Dolls เป็นพวกตุ๊กตาไสยศาสตร์ของพวกพ่อมดแม่มด ใช้เส้นผมและเสื้อผ้าคนตายที่ถูกปลุกเสกขึ้นมาเพื่อสังหารผู้คน และใครก็ตามที่มีมันไว้ครอบครองภายในบ้านจะต้องพบกับโรคภัยไข้เจ็บและความโชคร้าย เจ้าของเดิมคือลูกสาวเศรษฐีผู้มั่งคั่ง ในรัฐคอนเนตทิคัต เจอตุ๊กตาเคลื่อนที่เร็วและอาถรรพ์ ทำให้เจ็บป่วยและโชคร้ายมากมายเลยต้องปรึกษาเอ็ดกับลอเรนให้เอาไปที

เดินๆ ไปจะเจอออร์แกนที่ว่างๆ ก็เล่นเองได้ หรือ โลงศพพวกแวมไพร์ โลงมัมมี่ จนกระทั่งไปถึงตุ๊กตาซุป’ตาร์ของเรา นั่นคือ แอนนาเบล ซึ่งดูจากหน้าตาก็น่ารัก คล้ายๆ ตัวโบโซ่ของแมคโดนัลด์ (บางคนเป็นโรคกลัวโบโซ่นะ เพราะจมูกใหญ่ ปากเหยิน ดูน่ากลัว) ฉันรู้จักเรื่องราวของแอนนาเบลจากภาพยนตร์หลายเรื่อง ทั้ง The Conjuring ในปี ค.ศ. 2013, Annabelle ในปี ค.ศ. 2014 และภาคต่อที่เป็นเนื้อเรื่องก่อนหน้า คือ Annabelle: Creation ในปี ค.ศ. 2017 รวมถึงมีการแต่งเป็นหนังสือ ในปี ค.ศ. 2002.

ในภาพยนตร์ ตุ๊กตาแอนนาเบลหน้าตาน่ากลัว น่าสยดสยอง เป็นตุ๊กตาแบบโตเป็นสาวแล้ว ทำด้วยไม้ ไม่น่ารักเหมือนของจริง เขาว่าไม่ยอมทำแบบเหมือนจริง คนจะหลอนกันไปหมด  

ส่วนเรื่องราวของแอนนาเบลเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1970  ที่ร้านขายของเก่า มีคนดันไปซื้อตุ๊กตาตัวนี้มาให้ลูกสาวชื่อดอนน่าซึ่งเป็นนักศึกษาพยาบาล เป็นของขวัญวันเกิด นางก็เอาไว้ในหอพักที่อยู่ร่วมกับเพื่อนชื่อแองจี้ ต่อมา อีตุ๊กตาผีนี่ก็ขยับเองได้ ขยับเปลี่ยนที่ไปมา เปลี่ยนอิริยาบทแก้เมื่อย แถมเขียนหนังสือได้อีกต่างหาก โดยเขียนข้อความเป็นลายมือเด็ก ว่า “help us” “ help lou”    

ตุ๊กตาแอนนาเบล

คืนหนึ่งดอนน่ากลับหอไปเจอตุ๊กตามือเปื้อนเลือดอยู่บนเตียง เลยไปติดต่อร่างทรงที่เข้าทรงแล้วก็บอกว่ามีวิญญาณเด็ก 7 ขวบชื่อแอนนาเบลมาสิง ขออยู่ด้วย นางสองคนนี่ก็บ้า ดันให้อยู่ต่อ แต่เพื่อนชายอีกคนในหอชื่อลู เป็นคนปกติ ไม่บ้าก็เลยไม่คิดเช่นนั้น แอนนาเบลเลยทำร้ายเขาซะเลย ลักษณะไม่ใช่โดนเด็กผู้หญิงทำร้ายล่ะ โดยปกติก็ฝันร้ายทุกวัน แต่วันหนึ่งตื่นขึ้นมาคล้ายโดนผีอำ ขยับตัวไม่ได้ เจอตุ๊กตาปีนขึ้นมาบนขา แล้วบีบคอจนสลบ พอวันรุ่งขึ้นต้องไปจัดการ  เดินเข้าไปในห้อง มีอะไรไม่รู้มาทำร้ายเขา โดยเป็นรอยเล็บเล็กๆ เลือดออกซิบๆ ทีนี้ทุกคนเลยวิ่งแจ้นไปหาเอ็ดกับลอเรน ซึ่งเชื่อว่ามีซาตานร้ายอาศัยอยู่ในนั้น หลอกว่าเป็นวิญญาณเด็กผู้หญิง แต่ถ้าอยู่ต่อ จะต้องทำร้ายคนจนถึงชีวิตแน่ๆ เอ็ดกับลอเรนก็เลยนำกลับมาบ้าน

ระหว่างทาง แอนนาเบลยังแผลงฤทธิ์ รถของทั้งคู่เกิดบังคับไม่ได้ ต้องจอดรถและพรมน้ำมนต์ใส่แอนนาเบล และสวดมนต์ ทำกางเขนไล่ เพื่อสะกดปีศาจก่อนเอากลับมาอย่างทุลักทุเล

Warning… Positively Do Not Open

ถ้าตอนนี้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ตุ๊กตาแอนนาเบล จะนั่งอยู่ในตู้ที่มีกระจกปิด และมีไม้กางเขนกำกับอยู่ด้านบน พร้อมคำเตือนว่า ห้ามเปิดเด็ดขาด “Warning… Positively Do Not Open” เพราะถึงเอามาไว้ที่นี่ บางทีมันก็ยังย้ายที่ไปมา เลยต้องใส่ตู้ไว้ สองสามีภรรยาบอกว่า แอนนาเบลเป็นวัตถุผีสิงที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในนี้

ตามทฤษฎีที่สองสามีภรรยาอธิบาย แอนนาเบล เป็นไม่ได้เป็นแค่ตุ๊กตาผีสิง แต่เป็นสื่อ ‘ปีศาจ’ อยู่ในนั้น รอเวลาให้คนมาแตะต้องแล้วครอบงำจิตใจ หรือข้ามมิติมาเข้าสิงนั่นเอง เพื่อทำร้ายหรือฆ่าคน ขนาดลอเรนยังบอกเองว่าไม่อยากจะจ้องมันเลย สมัยก่อนเคยมีคนไปลองดี เคาะตู้กระจก พอกลับออกไปแค่ไม่กี่ชั่วโมง รถจักรยานยนต์ก็ประสบอุบัติเหตุ ทำให้เขาคนนั้นเสียชีวิตทันที เลยต้องปิดป้ายเตือนตัวใหญ่ๆ ไว้จะได้ทราบทั่วกัน และจะได้ไม่มีใครอาจหาญไปลองดีอีก

เรื่องตุ๊กตาผีทำนองนี้ในเมืองไทยก็พอเคยได้ยินเหมือนกัน  มีเพื่อนเล่าให้ฟังว่า…

ตอนเธอเล็กๆ อายุแค่ 5-6 ขวบ แม่ไปต่างจังหวัดทางภาคเหนือ ขากลับซื้อตุ๊กตาเล็กๆ เป็นไม้แบบตั้งโชว์มาฝาก คือแบบนี้เอาไว้ดูเล่น ไม่ใช่แบบเอามาเล่น สักพัก ของรก แม่เลยเอาไปเก็บไว้ไหนไม่รู้…

อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนฝันว่าตุ๊กตาตัวนี้มาบอกว่าให้ช่วยที เพราะโดนขังอยู่ในตู้ เธอเลยไปบอกแม่

ตอนแรกแม่ก็ไม่ค่อยเชื่อ พอเปิดตู้ออกมาเจอจริงๆ !

แม่คงกลัวมาก… เลยเอาไปโยนทิ้ง…

ตุ๊กตาผีที่แท้ทรู…

…………………………………

ภาพประกอบ : http://www.warrens.net

Don`t copy text!