ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Maroon Lake วิวสวยจับจิต อากาศหนาวจับใจ

ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Maroon Lake วิวสวยจับจิต อากาศหนาวจับใจ

โดย : Kanonsky

Loading

อ่านเอา ไม่ได้เป็นนำเสนอเพียง นิยายออนไลน์ เท่านั้น แต่เรายังสรรหาเรื่องราวน่าสนใจรอบโลก อย่างการท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ มาฝากกัน ในคอลัมน์ โลกกลางเลนส์ โดย Kanonsky พนักงานออฟฟิศที่ชอบสะพายกล้องไปส่องโลก

………………………………………….

 รัฐโคโลราโดเป็นรัฐที่มีเทือกเขาและป่าไม้ที่สวยงามมากครับ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐอยู่ในแนวของเทือกเขาร็อกกี้ จึงมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ โดยต้นไม้ที่ขึ้นส่วนมากจะเป็นต้นสนและต้นแอสเพน

ทะเลสาบมารูน ในเวลาประมาณตีสี่กว่า ฟ้าใสแต่ได้เห็นดาวระยิบระยับมากมาย

ในช่วงปลายเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง เจ้าต้นแอสเพนก็จะพร้อมใจกันเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทั่วทั้งภูเขาครับ ผู้คนจึงนิยมมาเที่ยวกันช่วงนี้มากเป็นพิเศษ

จุดที่พลาดไม่ได้เลยก็คือบริเวณทะเลสาบมารูน (Maroon Lake) ที่อยู่ห่างจากเมืองสกี รีสอร์ตชื่อดังอย่างเมืองแอสเพนไปไม่เกิน 20 กิโลเมตร เพราะเป็นจุดที่สามารถมองเห็นเทือกเขามารูนเบลส์และแนวป่าแอสเพนสีเหลืองทองได้อย่างชัดเจน มุมนี้เรียกได้ว่าเป็นมุมมหาชน สัญลักษณ์ของรัฐโคโลราโดพอๆ กับเทือกเขาร็อกกี้ได้เลยครับ

แสงแดดอาบยอดเขามารูนเบลส์ จนเป็นสีส้มสวยงามมาก

วันนั้นผมกับเพื่อนๆ ขับรถกันจากเดนเวอร์มาถึงแถวๆ เมืองแอสเพนที่เราจองโรงแรมไว้ตอนบ่ายๆ ทีแรกคุยกันว่าจะขับรถขึ้นภูเขาไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกดินกัน แต่อากาศในเขตภูเขาเชื่อใจไม่ได้ครับ ขับรถขึ้นเขาไปได้นิดเดียว พวกเราก็เจอกับพายุฝน สักพักจากฝนกลายเป็นหิมะ ทุกคนจึงขอถอยกลับมาตั้งหลักที่โรงแรมก่อน

ป่าแอสเพนที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองจากแสงแดดยามเช้า

พายุหิมะตกหนักมาก ค่ำๆ พวกเราเลยเดินไปถามคุณป้าผู้ดูแลโรงแรมว่า พรุ่งนี้จะไหวไหมถ้าเราจะออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบมารูนกันตอนเช้า ป้าตอบจากประสบการณ์ว่า หิมะหลงฤดูแบบนี้อีกเดี๋ยวก็หยุดแล้ว ไม่น่ามีปัญหา

พวกเราเลยถามต่อว่าต้องออกไปกี่โมงดี เพราะคิดว่าฟ้าสว่างหกโมงเช้า ไปถึงสักตีห้าครึ่งก็น่าจะกำลังดี คุณป้าบอกว่าถ้าพวกยูจะถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลสาบมารูน ต้องไปจองที่ตั้งแต่ตีสี่นะ! ผมฟังแล้วอึ้ง คิดในใจว่าป้าหลอกเราหรือเปล่า แต่ก็ได้ไม่ได้พูดอะไร กลับมาคุยกันในกลุ่ม ตกลง เอาก็เอา ไหนๆ มาถึงแล้วก็คงต้องเชื่อป้าดู

น้ำในทะเลสาบใสและนิ่งเป็นกระจกเงา

วันต่อมา พวกเราตื่นนอนออกจากโรงแรมกันประมาณตีสามครึ่งครับ หิมะไม่ตกแล้ว แต่อุณหภูมิในป่าตอนนี้อยู่ที่ประมาณ -20 องศาเซลเซียส โชคดีที่เราเตรียมตัวมากันพร้อม จัดเสื้อกันหนาวมาเต็ม เพราะรู้ว่าอากาศในภูเขานั้นเชื่อใจไม่ค่อยได้ ทำให้อยู่ในป่าได้แบบไม่ทรมานมากนัก

ภูเขาโดยรอบกำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งหมด

ผมมาถึงทะเลสาบมารูนตอนตีสี่หน่อยๆ ก็พบว่ามีตากล้องคนอื่นมารอแล้วอีกหลายสิบคน เลยต้องเดินหาที่ลงสักพัก (คุณป้าที่โรงแรมไม่ได้หลอกจริงๆ) หลังจากนั้นก็ต้องนั่งรอในความมืดที่อุณหภูมิ -20 องศาไปจนกว่าจะสว่างครับ

แต่ก็เป็นการรอที่คุ้มค่าที่สุด เพราะว่าพายุหิมะเมื่อวานทำให้เกิดสภาพที่เกิดขึ้นได้ยาก คือ เป็นฉากใบไม้เปลี่ยนสี (fall foliage) จากต้นแอสเพนสีเหลืองทองและ winter wonderland จากหิมะที่เพิ่งตกบนยอดเขามารูนเบลส์และต้นสนรอบๆ เรียกว่ามาทีเดียวได้เห็นสองฤดูเลยครับ

Don`t copy text!