สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา ตอนที่ 7 : พรพระราชทาน

สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา ตอนที่ 7 : พรพระราชทาน

โดย : สิริทัศนา

เรื่องเล่าและเกร็ดประวัติศาสตร์ อันเกี่ยวเนื่องกับ สมเด็จพระปิยมาวดีศรีพัชรินทรมาตา พระสนมเอกในรัชกาลที่สี่ พระราชชนนีแห่งสมเด็จพระนางเรือล่ม สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงอยู่เบื้องหลังยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลงในประวัติศาสตร์ไทย ถ่ายทอดโดย สิริทัศนา เรื่องราวที่แม้จะไม่ใช่ นิยายออนไลน์ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์น่าสนใจที่ อ่านเอา นำมาให้คุณได้ อ่านออนไลน์

“เจ้าจอมมารดาเปี่ยมได้รับ ‘พรพระราชทาน’ จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

และพรนั้นก็ส่งผลให้สายของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม มีพระมหากษัตริย์และพระราชินีหลายพระองค์”

 

พรพระราชทาน

ประเพณีการเฉลิมพระนามและพระราชทานพรพระเจ้าลูกเธอประสูติใหม่ มีอยู่ในหนังสือ ความทรงจำ

พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับพระราชอนุชาเมื่อทรงพระเยาว์
จากซ้าย-พระองค์เจ้าศุขสวัสดี สมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ สมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ พระองค์เจ้าคัคณางคยุคล พระองค์เจ้าอุณากรรณอนันตนรไชย พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ 

บทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าไว้ว่า…

ประเพณีในราชสกุลสมัยนั้น เมื่อพระเจ้าลูกเธอประสูติ ถ้าเป็นพระองค์ชาย ได้พระราชทานพระขรรค์เล่มหนึ่งกับปืนพกกระบอกหนึ่ง ถ้าเป็นพระองค์หญิง ได้พระราชทานพระภูษาแพรคลุมพระองค์ผืนหนึ่ง เป็นของเฉลิมขวัญให้วางไว้ในกระด้งที่รองพระองค์ เมื่อประสูติแล้วได้สามวัน มีการพิธีเวียนเทียนสมโภชตำหนักที่ประสูติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จลงประทับเป็นประธาน ทรงรดน้ำพระมหาสังข์และเจิมพระราชทาน

“เมื่อประสูติแล้วได้เดือนหนึ่ง มีการพิธีสมโภชอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า สมโภชเดือน เป็นการใหญ่กว่าสมโภชสามวัน ต้องหาฤกษ์ทำในวันดี บางทีเกินวันครบเดือนไปหลายๆ วัน พิธีนั้นเริ่มด้วยพระสงฆ์เจริญพระปริตรตอนบ่ายเมื่อก่อนวันฤกษ์ ครั้นถึงวันฤกษ์ เวลาเช้า เลี้ยงพระ และสงฆ์อำนวยพรก่อน แล้วจึงทำพิธีพราหมณ์ คือ โกนผมไฟ ไว้จุก แล้วพระครูพราหมณ์เอาลงอาบน้ำในขันสาคร ครั้นถึงเวลาบ่าย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จลงประทับเป็นประธานในการพิธีเวียนเทียนสมโภช และทรงรดน้ำพระมหาสังข์ ทรงเจิมเหมือนครั้งก่อน สมโภชแล้วพระครูพราหมณ์อุ้มเอาขึ้นวางในพระอู่ไกวร่ายมนต์กล่อมสามลา เป็นเสร็จการพิธี ในวันพิธีสมโภชเดือนนี้ ทูลกระหม่อมพระราชทานของขวัญ คือ ทองคำสำหรับให้ทำเครื่องแต่งตัวกับเงินร้อยชั่ง (แปดพันบาท) สำหรับเป็นทุน และพระราชทานชื่อ

“ลักษณะที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามพระเจ้าลูกเธอนั้น ทรงเขียนลายพระราชหัตถ์เป็นสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นอักษรและภาษาไทยพระราชทานนาม อีกฉบับหนึ่งเป็นอักษรอริยกะ และภาษามคธ”

“คาถาที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์พระราชทานพระเจ้าลูกเธอนั้นประทานพรบางอย่างเหมือนกันทุกพระองค์ แต่มีบางอย่างแปลกๆ กัน สมเด็จกรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการได้ทรงพยายามรวบรวมคาถาพระราชทานพรแปลเป็นภาษาไทย ตรัสว่า ทรงพิจารณาดูพรที่พระราชทานแปลกกันนั้น มักจะได้ดังพระราชทาน”(1)

พระราชโอรสธิดาในรัชกาลที่ 4 ภาพจาก https://digital.lib.kmutt.ac.th

พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้า ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเปี่ยม ทรงได้รับคาถาพระราชทานพรพิเศษดังนี้

พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณฯ “จงเป็นสุขมีอายุยืนนาน จงอย่ามีโรค จงปราศจากความขัดข้องวุ่นวาย

พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าเทวัญอุทัยวงศ์ “จงมีอายุยืนนานมีความสุขสำราญ ไม่มีโรค มียศ มีบริวาร  แลประกอบด้วยเดชเป็นปานนั้น  พึงรักษามารดาของตนอย่างไร จากบุรุษอื่น แลพึงตามรักษาตระกูล  แม้เป็นของบิดาไว้ในอนาคตกาลฯ

พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ “ขอพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ กับทั้งอารักขเทวดา จงช่วยอภิบาลรักษา พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์นั้นให้พ้นภัยจากอันตรายเป็นนิตย์”

พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา “ดำรงอิศริยยศตั้งอยู่ในพระบรมราชวงศ์ที่ประเสริฐสูงสุดของพระบิดายั่งยืนกาลนานเทอญ

พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี “จงเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์ใหญ่ มีโภคสมบัติมาก อันคนเป็นอันมากนิยมนับถือ ขอเธอจงรักษาเกียรติยศของบิดามารดาไว้ทุกเมื่อ จงทำนุบำรุงพี่น้องชายหญิงอันดี”

พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ “มีปัญญา และปรีชาในประโยชน์อย่างใด พึงรักษาตระกูลให้สำเร็จประโยชน์อย่างนั้น เทอญ”

คุณจุลลดา ภักดีภูมินทร์ วิเคราะห์ไว้ใน เวียงวัง ว่า “หากพิจารณาตามคำแปลคาถาพระราชทานพระนาม จะเห็นได้ว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงพระปรีชาในการผูกดวงชะตา ทรงทายทักดวงพระชะตาพระราชธิดา แต่ละพระองค์อย่างแม่นยำ นอกจากพระพรตามธรรมดาๆ เช่น ให้มีความสุข ไม่มีโรค มั่งคั่ง ฯลฯ แล้ว จะทรงเน้นพระพรพิเศษแตกต่างกันออกไป ตามที่คงจะได้ทรงมีพระวิจารณญาณต่อดวงพระชะตานั้นๆ”

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงศึกษาวิชาโหราศาสตร์ ดาราศาสตร์ เชี่ยวชาญทั้งอย่างไทยและตะวันตก จนถึงคำนวณแสงแดดและดวงดาวได้มาแต่ยังทรงผนวช ทรงพระราชนิพนธ์ ตำราเศษพระจอมเกล้า ที่ท่องจำและเชื่อถือกันในหมู่นักโหราศาสตร์มาจนทุกวันนี้

เศษพระจอมเกล้า เป็นการทำนายพื้นดวงจากวันเดือนปีเกิด โดยนับวันอาทิตย์เป็นเลข 1 ไปจนถึงวันเสาร์เป็นเลข 7 เดือนอ้าย ธันวา เป็นเลข 1 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นเลข 12 ปี ชวด เป็นปีที่ 1 ไปจนถึงปีกุนเป็นปีที่ 12

“ตัวเราพระจอมเกล้า 

บำรุงเหล่าราษฎร์สำราญ

เลี้ยงเสนาข้าราชการ

ใช้แบบนี้ดีนักหนา

ตำรานี้ชื่อ ตรีภพ

จงปรารภเร่งศึกษา
หญิงชายที่เกิดมา

ตามชะตาชั่วและดี

ให้เอาเดือนกับวัน 

 ประสมกันเข้ากับปี

แม้ได้เท่าไรมี 

 จึงประกอบให้ควรทาย

ถ้าเห็นมากกว่าสิบ

จงลบสิบเสียให้หาย

เหลือนั้นควรทำนาย

ตามตำหรับโบราณมา

ไม่ต้องไปคูณหาร

ให้ป่วยการเสียเวลา

ตรีภพ ดังนี้นา

นั้นแน่นักประจักษ์จริง”

บวกตัวเลข วัน เดือน ปี รวมกันแล้วลบด้วย 10 เหลือเศษเท่าไร มาอ่านคำทำนาย

“เศษหนึ่งเสาเรือนไหม้

ชะตาใครทั้งชายหญิง

ไร้เรือนที่พักพิง

ที่พึ่งพักพำนักเนา

จะร่อนเร่ระเหระหน

เร่งเจียมตนอย่าดูเบา
เพราะว่าชะตาเรา      

โทษประกอบจึงเกิดกรรม

เศษสองจะครองไข้

มีโรคร้ายสิงประจำ

หยูกยาจะพาทำ

บ่ถูกแท้จนแก่ตัว

เศษสามความสบาย 

มีข้าควายและเกวียนวัว

พอสมสกุลตัว

เข้าที่ทายสถานกลาง

เศษสี่มีข้าครอก

อเนกนอกคณานาง  

อุปถัมภ์ล้วนสำอางค์

บ่ไข้ชุกบ่ทุกข์เป็น

เศษห้าชะตากลับ

ทุนทรัพย์แลแสนเข็ญ

ภายหลังชะตาเป็น

ทุนทรัพย์นับหมื่นพัน

เศษหกจะยกญาติ

เป็นเชื้อชาติประเสริฐสรรพ์
เงินตรายศฐาพลัน

ทุนทรัพย์ลำดับมี

เศษเจ็ดชั้นผ้าขาด

 จะนุ่งห่มก็เต็มที

พักตราย่อมราคี

ระคายยับทั้งทรัพย์สิน

เศษแปดนั้นเปรื่องยศ

จะปรากฏกระเดื่องดิน

ทรัพย์ศฤงคารสถานถิ่น

ทั้งอำนาจแลวาสนา

เศษเก้ากินข้าวกลางตลาด

เสมอชาติสุนัขขา

ถึงจะมีวาสนา

 ต้องประกอบทำการงาน

แม้นตระกูลทลิทก      

ถึงต่ำตกก็บ่นาน

ดังนักเลงสุราบาน     

พอขวนขวายใส่ท้องตน

เศษศูนย์นกแขกเต้า

ทำรวงรังระวังฝน

แสวงดีย่อมมีผล

อย่าคลอเคล้ากับเหล่าพาล     

เหมือนปักษีอันมีปีก

 รู้หลบหลีกธนูพราน   

ถ้าประมาทจะเสียการ      

จะชอกช้ำระกำกาย ฯ

จะด้วยพระปรีชาสามารถทางโหราศาสตร์ ทรงทำนายดวงชะตา หรือทรงพระเมตตาเจ้าจอมมารดาเปี่ยมเป็นพิเศษก็ไม่อาจทราบได้ แต่มีผู้ใหญ่* เล่าต่อๆ กันมาว่า เจ้าจอมมารดาเปี่ยมได้รับ ‘พรพระราชทาน’ จากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพรนั้นก็ส่งผลให้สายของเจ้าจอมมารดาเปี่ยม มีพระมหากษัตริย์และพระราชินีหลายพระองค์

……………………………………….

อ้างอิง :

  1. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ, ความทรงจำ (พระนคร : สำนักพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, 2505)
  2. จุลลดา ภักดีภูมินทร์, พระราชธิดาในรัชกาลที่ ๕, สกุลไทย, ฉบับที่ 2443, ปีที่ 47, วันที่ 14 สิงหาคม 2544

      *คุณอร่าม สวัสดิวิชัย

 

 

Don`t copy text!