ซ่อนรัก บทที่ 31 : วันรวมแฟนเก่า

ซ่อนรัก บทที่ 31 : วันรวมแฟนเก่า

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

บรมเดินในงานกับวิศว์และถามวิศว์ว่า

“คุณปาเป็นนางเอกในงานคืนนี้ แกรู้สึกยังไง?”

“แกพยายามถามให้มีประเด็นอยู่เรื่อย”

บรมหัวเราะ

“มันตลกนี่หว่า แกกับคุณปาสนิทกันขนาดไหน แต่ในงานต้องทำเป็นคนแปลกหน้า ไม่รู้จักกัน ตลกจริงๆ ว่ะ”

“ม่ขำนะ”

“แต่กันว่าควรขำแล้วล่ะ”

“ทำไม?”

“โน่น…แกต้องหัวเราะไม่ออกแล้ว เจอใครรู้ไหม”

โน่น…ใครหรือ?

เธอ…คนนั้นกำลังเดินตรงมา เมื่อเห็นสองหนุ่มที่คุ้นเคย เคยรู้จักสนิทสนม…พิเศษ

เทวี…กับกัลยาณี ผู้เป็นน้องสาว

เทวี…อดีตคนสนิทรู้ใจของวิศว์ แต่ต้องเลิกกันเพราะความหึงหวงมากของฝ่ายหญิง เทวีไม่อยากให้วิศว์เดินทางไปต่างประเทศ แต่เขาต้องการเวลาส่วนตัว ต้องการการเดินทางไปดูงานและสั่งซื้อสินค้าตกแต่งบ้าน ปีละหลายๆ ครั้ง จึงไม่ลงตัวและเลิกกันในที่สุด

“วิศว์…เป็นคุณจริงๆ ด้วย” เทวีรีบเดินมาใกล้และโอบกอดทักทายอย่างสนิทสนม

“คุณวี…” วิศว์ก็โอบกอดตอบ

“คิดถึงคุณเสมอค่ะ คุณคิดถึงวีบ้างไหมคะ”

เหมือนคำตอบจะช้าไปนะ คำถามต่อมาคือ

“วิศว์ยังโสดใช่ไหมค่ะ ยังไม่ได้แต่งงานใช่ไหมคะ วีคอยติดตามข่าวของคุณเสมอ”

วิศว์กลับไม่กล้าตอบ ไม่อยากโกหกอดีตคนรัก บรมช่วยเพื่อน

“ไม่เจอกันนานเลยครับ คุณวียังสวยเหมือนเดิม”

“สวยแล้วมีประโยชน์อะไรคะ ไม่มีใครอยู่ข้างๆ เหงามากค่ะ” ตอนนั้นถ้าไม่เลิกกับวิศว์ ป่านนี้…ป่านนี้ นึกๆ แล้วก็ยังเสียดายมิตรภาพและอดีตกับวิศว์ ตอนนั้นวีงี่เง่าและโง่มากๆ ที่เลิกกับวิศว์

ชายหนุ่มยิ้มกว้าง

“อะไรที่มันผ่านไปแล้วอย่าคิดมากครับ”

“วียังคิดถึงคุณเสมอ”

วิศว์หันไปทักทายกัลยาณี…น้องสาวของเทวีที่กำลังคุยกับบรม

“คุณณี สบายดีนะครับ”

“สบายดีค่ะ พี่วิศว์ดูหล่อกว่าเดิมนะคะ เมื่อก่อนหล่อแล้ว ตอนนี้หล่อขึ้นอีก”

“ปากหวานกับพี่เสมอ”

“เกือบเป็นพี่เขยของณีแล้ว เสียดายจัง”

เทวีสอดมือเข้าที่แขนของวิศว์ พลางกล่าวว่า

“เราเริ่มเป็นแฟนกันใหม่ก็ได้นะคะ” ทำกิริยาเหมือนกึ่งเล่นกึ่งจริง

ทุกคนในวงจึงหัวเราะ บรมมองหน้าวิศว์ เออ…แกยังหัวเราะออกนะ

แต่ในงาน…ปารีสอยู่กับดุสิตกำลังคุยกัน หากสายตาของปารีสกำลังมองมาทางวิศว์ที่มีท่าทีสนิทสนมกับหญิงอีกคน ถึงขนาดหัวเราะกันกอดแขนกัน

จะบอกว่าไม่รู้สึกหรือ?

เธอไม่อยากหลอกตัวเอง เธอรู้สึกแน่ๆ ไม่ชอบเลยที่เห็นภาพแบบนั้น

ทำไมถึงไม่พอใจล่ะ/

อธิบายไม่ถูกนะ ในขณะเดียวกันทางวิศว์ก็มองดุสิตกับปารีสผู้ชายด้วยกันพอดูออกว่าดุสิตรู้สึกอย่างไรกับปารีส

ดุสิตเริ่มเห็นว่าปารีสมองใครอยู่ จึงมองตามแล้วเบิกตากว้าง

“อ้าว…นั่นมันคุณทวีกับคุณกัลยาณีนี่ มากับผม ผมจะแนะนำให้รู้จัก” เขาแตะข้อศอกหญิงสาวเบาๆ ให้เธอเดินตาม

ดุสิตยิ้มร่าเริงทักทายพูดกับเทวีว่า

“รู้จักกันหรือครับ?”

เทวีพยักหน้า

“ค่ะ…เรา…หมายถึงวีกับวิศว์ เราเคยสนิทกันมากค่ะ สนิทเป็นพิเศษเลยค่ะ”

“ผมขอแนะนำนะครับ คุณปารีส เธอคือนางเอกของงานวันนี้ครับ เธอชนะเลิศการประกวดของเรา” หันมาพูดกับปารีส “คุณทวีเธอเป็นเจ้าของโรงแรม และคุณกัลยาณี เธอเป็นน้องสาวของคุณเทวีครับ”

ต่างทักทายกัน โดยเฉพาะกัลยาณีพอทักทายปารีสแล้วก็สบตาหวานกับคนแนะนำ พลางกล่าวว่า

“ไม่เจอกันนานนะคะ”

ดุสิตพยักหน้า

“ก็พอสมควร”

“ราวสามสี่เดือนค่ะ” ผู้หญิงจะจดจำวันเวลาได้แม่นยำกว่า

“หรือครับ คงราวนั้นล่ะ”

ราวงั้นล่ะ…กัลยาณีหัวเราะแปร่งๆ เคยเป็นอะไรกับดุสิตหรือ?

ถามตัวเอง ก็ตอบไม่ได้

ทำท่าเหมือนเขาจะรักตน พาตนไปเที่ยว…ดื่มกิน ซื้อของ เเล้วก็จบลงอย่างรวดเร็ว

ดุสิตได้ชื่อว่าเปลี่ยนผู้หญิงบ่อย แต่ไม่ควรจะจบเร็วขนาดนี้

ตนจะถือว่าเคยเป็นแฟนเก่า ไม่ชอบคำนี้เลย ไม่ชอบเป็นเเฟนเก่า อยากให้เป็นตลอดไปมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ เขาก็ห่างเหินไปเสียอย่างงั้น

ต่างคนต่างทักทายกันตามมารยาท พูดคุยกันเบาๆ

หรืองานนี้จะเป็นงานรวมแฟนเก่าจริงๆ ล่ะ

รัศมีกับอุเทนปรากฏตัวในงาน

ทั้งสองไม่ได้รับเชิญ แค่เดินผ่านงาน และรัศมีก็รู้มาก่อนว่าปารีสได้รับรางวัล ตั้งใจแต่แรกคือมาทานอาหารในโรงแรม แต่พอเดินผ่านงาน รัศมีก็ชวนสามีเข้ามาเฉย ทั้งที่อุเทนแย้งว่า

“งานของเพชรอนันต์นะครับ เขาไม่ได้เชิญเรา”

รัศมีเชิดหน้า

“ก็เข้ามาเอง ในฐานะลูกค้า ไม่ได้เรอะ”

“เราเป็นคู่แข่ง”

“เปล่า…ตอนนี้เราเข้ามาในฐานะลูกค้าแล้วกัน”

“ผมว่ามันไม่เหมาะ”

“กลัวอะไร ฉันกับคุณอนันต์กับลูกๆ พวกเขาก็รู้จักกันดี เราอยู่ในธุรกิจเดียวกัน พวกเราไม่ใช่ศัตรูกันหรอก”

“ผมว่ายังไงก็ไม่เหมาะ วันนี้เป็นงานรางวัลของพวกเขา”

รัศมีจ้องหน้าสามีที่อ่อนวัยกว่า ถามเสียงเย็นเย็นๆ

“กลัวเจอปารีสหรือไง?”

“เอ้อ…เธอได้รับรางวัล”

“ใช่สิ ได้รับรางวัล เก่งนะ ปารีสแฟนเก่าเธอ เก่งจริงๆ ออกจากบริษัทเราก็ไปได้ดีอีกบริษัท”

“ปกติเธอเก่งอยู่แล้วครับ”

“นึกเสียดายหรือไง อุเทน” เรียกเสียงแข็ง “ปารีสรู้จักพัฒนาตัวเอง รู้จักว่าตัวเองต้องทำอย่างไร เธอต้องหัดพัฒนาตัวเองบ้างสิ อย่าให้แพ้อดีตแฟน!”

กลืนน้ำลายยากเย็น รู้ทั้งรู้ถ้าแต่งงานกับรัศมี ตนต้องเป็นเบี้ยล่าง ตกอยู่ภายใต้อำนาจเงินของฝ่ายหญิง หักลบกลบกันแล้วคิดอย่างดีแล้ว ตนเลือกจะยอม ยอมแล้วต้องยอมตลอดชีวิต

ตลอดชีวิต…จริงหรือ?

ขอสบายก่อน ขอกอบโกยก่อน อย่างไรก็ต้องอดทน

“ครับ…”

“ครับอะไรของเธอ รับคำแล้วต้องทำให้ได้!”

“ครับ”

รัศมีกับอุเทนก้าวเข้ามาในงาน และเห็นกลุ่มของดุสิตจึงรี่เข้าทักทาย

“คุณดุสิต…คุณนิกร..”

ดุสิตเลิกคิ้ว

“อ้าว…คุณรัศมี คุณอุเทน”

“ขอมางานในฐานะลูกค้านะคะ อย่าคิดว่าเป็นคู่แข่งนะคะ พอดีมาทานอาหารในโรงแรม เดินผ่านพอดี ก็อยากเข้ามายินดีกับคุณดุสิตคุณนิกรที่จัดงานวันนี้ค่ะ”

“ได้เลยครับ ยินดีต้อนรับครับ คุณรัศมีเป็นคนเก่งในวงการ”

“เก่งอะไรคะ ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ผู้หญิงทำมาหากิน” แล้วหันมาทางปารีสกล่าวว่า “ยินดีกับปารีสด้วย เธอเก่งมาก ไม่คิดว่าจะเก่งขนาดได้รับรางวัลชนะเลิศ แหม…ผู้หญิงเรานี่มีความแข็งแกร่งนะ บางเรื่องแพ้บางเรื่องก็อยากเอาชนะให้ได้”

ปารีสหน้าเข้ม

อีกครั้งที่รู้สึกได้ว่า เจ้านายเก่าพูดจามี ‘นัย’ มีคำว่า ‘แพ้’ และ ‘ชนะ’

“ค่ะ…การแพ้บางครั้งก็อาจเป็นชัยชนะ เพราะบางครั้งคนที่คิดว่าชนะก็อาจเป็นคนพ่ายแพ้นะคะ”

อุเทนเกรงว่า สาวสองวัยจะยิ่งพูดอาจยิ่งเข้าตัวเอง จึงรีบแทรกพูดกับวิศว์และบรมว่า

“อ้าว…คุณก็มาด้วย คุณวิศว์ คุณบรม ร้านของผมไปถึงไหนแล้วครับ?”

“ใช้เวลาหน่อยครับ เพราะต้องอาศัยฝีมือตกแต่ง” บรมตอบ

“ผมใจร้อนอยากเปิดร้านเร็วๆ”

“ใจร้อนเกินไปจะไม่ได้ของดีๆ นะครับ” วิศว์พูด

“ผมเชื่อฝีมือคุณครับ”

“ผมรับงานมาแล้ว ไม่อยากให้ลูกค้าผิดหวัง”

รัศมีพูดกับอุเทนตัดบทว่า

“เราไปดูสินค้ากันเถอะ”  และพูดเบาๆ ว่า “ต้องเรียนรู้จากบริษัทคู่แข่งบ้างนะ อุเทน”

ปารีสโคลงศีรษะ…ในเวลาต่อมาก็มีพิธีมอบรางวัลบนเวที โดยผู้ชนะทั้งสามขึ้นรับรางวัลกับนิกร ซึ่งถือว่าเป็นประธานจัดงาน

หลังมอบรางวัลแล้ว ก็อิสระให้ทุกคนได้เดินชมสินค้าและทานอาหารว่าง

รัศมีพบคนรู้จักจึงคุยกัน ทำให้อุเทนมีเวลาได้พบกับปารีสสองต่อสอง

“ปาครับ ผมยินดีด้วยจากใจจริง” เพราะมีเวลาสองต่อสองเช่นนี้ จึงรีบพูด

“ขอบคุณมาก”

“คนเก่งอย่างไงก็เก่งเสมอ”

“ไม่ต้องชมกันหรอก คำว่ายินดีได้ยินมาหลายครั้งแล้ว น่าเบื่อ”

“ปา…คุณเป็นอะไร เหมือนคุณจะหงุดหงิดนะ”

“เฉพาะกับคุณมั้ง”

“ผมอยากเหมือนเดิมนะ ให้เหมือนเดิมได้ไหม”

“เหมือนเดิมแบบไหนล่ะ?” เธอถามห้วนๆ กวนๆ

“เราเป็นพี่เป็นน้องกัน เหมือนเดิมคือยังรักกันหวังดีต่อกัน”

หญิงสาวแค่นหัวเราะ

“ลองคิดในแง่กลับกันนะ ถ้าคุณเป็นปา คุณจะนับถือเป็นพี่น้องกันมั้ยคะ… พี่อุเทน!” ใช้เสียงดุดันเรียกพี่…อีกครั้ง

รัศมีมีมองหาสามีหนุ่ม แล้วก็เจออยู่กับปารีสอีก

แหม…เผลอเป็นไม่ได้นะ จะย้อนกลับไปหาคนเก่าอีกแล้ว แต่รัศมีก็ยังเป็นรัศมีที่ยิ้มแย้มเสมอ เยือกเย็นเสมอ

“อยู่นี่เอง เพื่อนเก่าคุยกันคงไม่ขัดจังหวะนะ” กล่าวอย่างยิ้มแย้ม

ปารีสเองก็ยิ้มกว้าง

“มาขัดจังหวะน่ะดีแล้วค่ะ เป็นเจ้าของต้องหมั่นดูแลให้…เข้าคอกนะคะ”

รัศมีชะงัก เช่นเดียวกับอุเทน

ร้ายนักนะเรา รัศมีตอบโต้

“เจ้าของคนไหนก็หวงของของตนทั้งนั้นล่ะ”

“ก็รักษา…ของ…ให้ดีนะคะ ของบางอย่างชอบแหกคอกค่ะ”

รัศมีเม้มริมฝีปาก จะโต้ตอบอีก แต่ถูกอุเทนดึงตัวออกห่าง

“ไปทางนั้นเถอะครับ”

ได้…ได้…ไม่อยากพูดมาก ก็แย่งของเขามาจริงๆ คนแพ้จะผ่านจะจิกจะกัดบ้าง ก็ต้องยอมเป็นครั้งคราว

ปารีสถอนใจยาว จะต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปหรือ ถ้าพบเจ้านายเก่ากับคนรักเก่า เหนื่อยใจเหลือเกิน

หญิงสาวเดินไปชมผลงานของรองชนะอีกสองคนที่กลางงาน

ตรงนั้นรินทร์กำลังพูดกับญาติห่างๆ ซึ่งเป็นรอง

“มองยังไงของพี่ทรัพย์ ก็สวยกว่าคุณปารีส ตัดสินกันยังไงไม่รู้ ไม่ยุติธรรม”

ทรัพย์เห็นปารีส จึงรีบส่งสัญญาณให้เงียบแต่ไม่ทัน

“อย่าพูดมาก”

“กลัวอะไร รินทร์เป็นคนตรงๆ แบบนี้ล่ะ”

“เฮ้ย…ระวังคำพูด”

“รินทร์ไม่เคยกลัวใครทั้งนั้น เพราะชอบพูดตรงๆ และชอบพูดความจริง ไม่ยุติธรรม”

ทรัพย์ต้องเบรคญาติผู้น้องแล้ว โดยทักทายกับปารีส

“คุณปารีส ของคุณออกแบบเก๋มากครับ”

รินทร์หันขวับ

“อ้าว…คุณปา คงไม่ถือนะฮะที่รินทร์ออกความเห็นตรๆ”

ปารีสยิ้มกว้าง

“ไม่ถือเลยค่ะ เพราะงานออกแบบเป็นงานสร้างสรรค์ บางคนชอบแบบนี้ บางคนไม่ชอบแบบนี้ อิสระทางความคิด”

“การตัดสินอาจโอนเอียง”

“เป็นไปได้ค่ะ ว่าคนตัดสินชอบแบบไหนมากกว่ากัน”

“ชัยชนะจึงไม่ขาวสะอาด”

หญิงสาวยักไหล่ พูดตรงๆ ว่า

“ก็อาจจะ ต้องถามคุณนิกรค่ะ ฉันเองไม่ถือว่าชนะเลิศ เพราะทุกชิ้นในงานออกแบบชนะเลิศได้ทั้งนั้น แต่กติกาเป็นของคุณนิกร จึงมีสิทธิ์เต็มที่ในการตัดสิน”

 



Don`t copy text!