ซ่อนรัก บทที่ 14 : บริษัทไหนๆ ก็มีคลื่นใต้น้ำ

ซ่อนรัก บทที่ 14 : บริษัทไหนๆ ก็มีคลื่นใต้น้ำ

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

คนที่ได้ยินกลุวดีคุยกับหฤทัยคือ ศิรินภา

ศิรินภาเป็นผู้ช่วยของเลขารินทร์

รินทร์เลขาของคุณจิรานุช  คุณจิรานุชมีงานมาก พลอยทำให้รินทร์มีงานมากด้วย จึงต้องมีศิรินภาคอยรับงานอีกทอดหนึ่ง

แบรนด์เพชรอนันต์ที่มีชื่อเสียง มีคนทำงานที่เก่งกาจสามคนคือ คุณอนันต์ คุณจิรานุช สองพี่น้องร่วมเรียงเคียงกันทำงานอย่างหนัก มารุ่นลูกก็คือ ดุสิต

สามคนที่ถือว่ามีอำนาจ

คุณจิรานุชไม่เคยมีปัญหาการทำงานกับพี่ชายเลย แต่กลับมีปัญหากับหลานชายหนุ่มแน่นไฟแรงอย่างดุสิต

ดุสิตพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อเอาชนะอาสาวที่ดุดัน เสียงดังและมีอำนาจมาก

ภายนอกอาจดูว่าดุสิตเคารพอานุช แต่ลึกๆ หลายคนก็ดูออกว่า ตนจะแพ้พ่ายแก่อานุช เพราะดุสิตปรารถนาจะขึ้นตำแหน่งแทนที่บิดา ที่มักบ่นเสมอว่า อยากพัก อยากไปเที่ยวรอบโลก

ตำแหน่งของคุณอนันต์นั้น จิรานุชก็ต้องการ จึงมักมีการแข่งขันกลายๆ  เกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างระวัง จะไม่ทำอะไรให้เกิดความเพลี่ยงพล้ำเสียหาย จนสูญเสียตำแหน่งของคุณอนันต์ที่กำลังมองว่าจะส่งต่อเก้าอี้ให้กับใครดี ระหว่างลูกกับน้องสาว

จิรานุชมีเลขาคู่ใจคือ รินทร์ กับลูกน้องรินทร์ชื่อศิรินภา สองคนนี้ที่จิรานุชไว้ใจได้

ทั้งสองก็ทุ่มเทช่วยเจ้านายตน ผลความทุ่มเท จิรานุชจึงตอบแทนด้วยเงินเดือนสูง และของกำนัลของขวัญราคาแพงเสมอ

ศิรินภาได้ยินประโยคสำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อเจ้านายตน จึงรีบมารายงานรินทร์

รินทร์เป็นสาววัยสามสิบเศษ จัดเป็นสาวเท่ ตัดผมสั้นแบบผู้ชาย เป็นที่รู้กันว่ารินทร์เป็นทอมบอย ไม่สนใจเพศหญิง แต่ดูแลใส่ใจเจ้านายอย่างคุณนุชดีเลิศ

รินทร์หวังอะไรนั้น ไม่มีใครกล้าพูดมาก ในเมื่อคุณนุชมีอำนาจมาก รินทร์ก็มีอำนาจไม่น้อย

ศิรินภาพูดเบาๆ กับรินทร์ และรินทร์ก็เบิกตากว้างย้ำถาม

“เธอแน่ใจนะ นภา?”

“นภาได้ยินกับหูตัวเองเลยค่ะ”

เลขาคุณจิรานุชพยักหน้า

“ดีมาก”

“คุณกรทำงานพลาดแบบนี้ สมควรถูกตำหนินะคะ

“เดี๋ยวเจ้านายก็จัดการกันเองล่ะ”

รินทร์รีขเข้ามาที่ห้องของคุณจิรานุช

“เรื่องด่วนฮะ คุณนุช”

จีรนุชเงยหน้าขึ้นจากอัญมณีตรงหน้า เลิกคิ้ว

“ว่าไงล่ะ”  ถามห้วนๆ กับใบหน้าที่สวย ดวงตาดุ สาวใหญ่ที่ยังสวยมาก ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริง

เลขาทอมจึงรายงานตามที่ได้ยินมา และลงท้ายว่า

“ถ้าผู้ชายคนเก็บได้ไม่นำมาคืน ป่านนี้คงเป็นเรื่องใหญ่นะฮะ คุณกรทำผิดพลาดมาก”

จิรานุชสงบนิ่ง ฟังและฟัง และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆ

“ทำไมเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักที ตอนฉันอายุเท่านี้ ยี่สิบสี่ ฉันสามารถคิดโปรเจคทำกำไรให้บริษัทเป็นพันล้านแล้ว”

“เด็กรุ่นใหม่ยังไงก็เก่งสู้คุณนุชไม่ได้ฮะ”

“ไหนว่าจะเป็นความหวังของบริษัทไม่ใช่เรอะ” ทำเสียงในลำคอ จะว่าดูถูกก็ไม่เชิง สมเพชก็ไม่ใช่

“คิดว่าคุณกร คงไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ ความผิดพลาดของตัวเอง เสียชื่อเสียหน้าฮะ”

“แล้วเธอคิดว่าควรเจอปล่อยเงียบเรอะ?”

“ไม่ฮะ รินทร์ถึงรีบมารายงานคุณนุช มันต้องเป็นเรื่องใหญ่ฮะ ให้คุณอนันต์รู้เรื่องด้วย”

“แล้วดุสิตรู้เรื่องหรือยัง?”

“คิดว่ายังฮะ คุณกรคงไม่กล้าบอกพี่ชาย”

“ถึงบอกพี่ชายก็คงปกป้องน้องชายล่ะ นายสิตตั้งป้อมชูธงว่าต้องเหนือกว่าชั้นอยู่แล้ว กรเป็นน้อง เป็นคนของสิต เขาต้องปกป้องคนของเขา”

“โอ๊ย…คุณนุชฮะ อย่างคุณสิตก็สู้คุณนุชไม่ได้หรอกฮะ มือคนละชั้น”

“อย่างไร สิตกับกรก็เป็นหลานชายของฉัน หลานแท้ๆ”

“แต่หลานอย่างคุณสิตตั้งใจจะเหนือกว่าคุณนุชนะฮะ ตั้งใจแบบเห็นๆเลย อยากเอาชนะคุณนุชตลอด เพื่อจะแทนตำแหน่งคุณนุช”

“ฉันเป็นรองก็แต่พี่อนันต์ พี่ชายฉันรู้ว่าฝีมือใครเป็นอย่างไง และพี่ก็ยุติธรรมเสมอ”

“แต่คุณสิตไม่ยอมนะฮะ”

“ก็ให้เขาแสดงฝีมือสิ”

“แล้วเรื่องคุณกร?”

“ต้องพูด!”

“ใช่ฮะ…ต้องเปิดเผยความผิดพลาดของคุณกร”

“ฉันก็ไม่อยากทำลายอนาคตของหลานชายคนนี้ กรเป็นคนดีและซื่อ แต่ความผิดพลาดครั้งนี้จะผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ ปล่อยผ่านก็เท่ากับทำร้ายกร เขาโชคดีครั้งนี้ ใช่จะโชคดีตลอดไป”

“คุณนุชพูดถูกเลยฮะ ต้องทำให้ดังไปทั่วบริษัท ให้ทุกคนรู้ กระทบถึงคุณสิตให้มากที่สุดเลย”

“รู้นะต้องทำยังไง”

“ฮะ…รินทร์จัดการเองกับข่าว”

“ดี…ฉันจะไปพบนายสิต ดูว่าเขาจะพูดอย่างไร”

 

นิกรตัดสินใจไม่ถูกว่าจะบอกพี่ชายหรือไม่

ความผิดพลาดของตัวเอง มูลค่าห้าสิบล้าน เขาก็วนกระวายใจกับความผิด แต่ก็ยังหวาดหวั่น

กุลวดียกกาแฟเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม และเขาบนแกมถามกลายๆ ว่า

“ควรรายงานพี่สิตหรือไม่…ควรไหม…ควรไหม?”

หญิงสาวยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเจ้าชายหนุ่ม ความที่ตัวเองตัวเล็ก ผิวดำ แทบไม่มีอะไรโดดเด่นเลย นอกจากใบหน้าคมเข้ม เป็นส่วนดีที่สุดในตัวเธอ และกับนิสัยอ่อนโยน เห็นอกเห็นใจคนอื่น กุลวดีจึงเป็นที่รักของคนไม่ยาก เธอมองเจ้านายอย่างไตร่ตรอง

“วดีอยากแนะนำว่าไม่ควรบอก แต่วดีรู้นิสัยคุณกรดีคะ คุณเก็บความลับไม่อยู่หรอกค่ะฎ

หน้าตาเจ้านายที่กังวล แสดงออกหมดแล้ว

เพราะซื่อตรง และเล่นละครไม่เก่ง

“ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ได้ไหมล่ะ?”

“คนอื่นอาจจะได้ค่ะ แต่คุณกรทำเป็นเรอะคะ?” เธอย้อนถาม

“ก็อยากเป็นนะ”

“ลองมั้ยคะ”

“แต่ว่าผมไม่สบายใจ”

“นั่นสิคะ วดีถึงว่าคุณกรมีคำตอบอยู่ในใจ”

“สรุปแล้ว?” นิกรยังกังวล “พูดไปจะมีอะไรเกิดขึ้น พี่สิต อานุช คุณพ่อ คุณแม่” แล้วถอนใจยาว “พี่สิตกับคุณแม่อาจจะผ่านได้ แต่คุณพ่อกับอานุชจะเป็นยังไง”

“ใจจริงวดีไม่อยากให้คุณกรพูดเลยค่ะ”

“ใช่สิ ผมเหมือนลูกเมียน้อยเลย”

“ก็อย่างที่บอกว่า คุณกรมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว”

“ผม…ลังเล”

ไม่ลังเลก็ไม่ใช่คุณนิกรหรอก

“ผมทำผิดมากใช่ไหม?”

“แต่คุณกรยังโชคดีนะคะ ได้ของคืน”

“ผู้ชายคนนั้นไม่อยู่ให้ตอบแทนบุญคุณเลย น่าจะทิ้งที่อยู่หรือนามบัตรไว้ก็ดี”

“วดีผิดเองค่ะ ไม่รอบคอบขอที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ และเขาก็รีบร้อนมากตอนออกไป” ตอนท้ายต้องหยุด ไม่ใช่เรื่องต้องแก้ตัว ยอมรับว่าตอนนั้นก็ตื่นเต้นตกใจกับความผิดพลาดของเจ้านาย จึงทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ “วดีผิดเองค่ะ” หล่อนย้ำ

ชายหนุ่มโบกมือ

“ผมสิผิดแต่แรก”

แล้วก็มีโทรศัพท์จากสายชล เลขาสาวของดุสิตโทรมาแจ้งว่า

“คุณสิต เชิญคุณก่อนไปพบที่ห้องทำงานค่ะ”

“โอเคผมจะรีบไป”

นิกรเดินผ่านกุลวดีไปพบพี่ชายที่ห้องทำงาน

ห้องทำงานพี่ชายกว้างกว่าตนแน่นอ นด้วยตำแหน่งที่จะต้องขึ้นไปแทนที่บิดา แต่ยังไงก็ต้องผ่านด่านอาจิรานุชไปก่อน ซึ่งพี่ชายเคยบอกตนว่า ต้องชนะอานุชด้วยผลงานเด่นๆ ให้ได้

“แกมาสายไปหน่อยนะ แต่พี่ก็มอบสินค้าให้ลูกค้าไปแล้ว เกือบไม่ทันนัด” ดุสิตพูดขึ้น

นิกรกำมือแน่น จะพูดเรื่องความผิดของตัวเอ งยอมรับว่าพูดยาก หวั่นใจด้วย โดยตำหนิแน่ๆ

“วันนี้ดูแกไม่สบายนะ หน้าตาซีดๆ ชอบกล” พี่ชายว่า

“คือผม…?”

“ถ้าไม่ไหวก็กลับไปนอนพักเถอะ”

“ครับ”

“อ้าว…ไปสิ ไปหาหมอหน่อยก็ดี”

“ครับ พี่สิตตามผมมาไม่มีอะไรจะพูดกับผมหรือครับ”

“ว่าจะมอบงานให้ทำ แต่ดูสีหน้า วันนี้อย่าเลย ไว้พรุ่งนี้ดีกว่า”

“คือว่า ผมมีเรื่องจะบอกพี่สิตครับ” ตัดสินใจว่าต้องพูด…ไม่ไหวจริงๆ กับความรู้สึกผิดเช่นนี้

แต่แล้วประตูห้องทำงานของดุสิตก็เปิดออก และจิรานุชก็ก้าวเข้ามาทันทีแทบจะไม่มีการเคาะประตูบอกล่วงหน้า ใครจะกล้า ถ้าใช่อานุชคนนี้

จิรานุชจ้องมองนิกร แล้วพยักหน้าพูดโพล่งว่า

“ต่อหน้าสิตนี่แหละ อาต้องพูดละนะ เก็บไว้ไม่ได้ กับความผิดพลาดของกร ทำไมกรไม่พูดว่าทำห่อเพชรหาย”

นิกรตกใจมากกว่าดูสิเสียอีก

ทำไมอานุชรู้เรื่องนี้?

มีแต่เข้ากับกุลวดีที่รู้เรื่องนี้แค่สองคน

และแน่นอนว่า กุลวดีต้องไม่บอกอานุชแน่นอน ไม่บอกเด็ดขาด กุลวดีเป็นคนของเขา ซื่อสัตย์ หวังดีต่อเขาเสมอ ตั้งแต่เรียนจบ กุลวดีก็สมัครงานบริษัทในตำแหน่งอื่น แต่เขาถูกชะตา บุคลิกซื่อจึงให้หล่อนมาเป็นเลขาแทนคนเก่าที่ลาออก

ไม่รู้ว่าทำไมในตอนนั้น เขาเลือกกุลวดี ผู้หญิงตัวเล็ก ผิวดำคล้ำ แต่มีดวงตาเป็นประกาย เปล่งถึงความจริงใจ

แล้วอาจิรานุชดูเรื่องได้อย่างไร?

เขาเชื่อกุลวดีร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม

“ผม…ผมว่ากำลังจะบอกพี่สิต” นิกรพูดไม่เต็มเสียง เพราะเขาลังเลแต่ต้น พอตัดสินใจจะพูด อานุชก็เข้ามาขัดเสียก่อน

“บอก…บอก…บอกแล้ว บอกหรือยังล่ะ?” จิรานุชถาม

“คือ…ว่า…”

“ว่า…ว่า…ว่า”

“ผมจะบอกแน่นอนครับ”

“กร อารู้นิสัยแก แกกลัว แกไม่กล้า แก…”

ตอนท้ายคือ แกขี้ขลาด แต่หยุดทัน จิรานุชยังไม่อยากทำร้ายจิตใจหลานชายคนเล็กเกินไป

“ผมกำลังจะบอกจริงๆ นะครับ” แล้วหันมาทางพี่ชาย “ผมไม่กล้าปิดบังพี่สิตหรอกครับ”

ดุสิตงง

“มันเกิดอะไรขึ้น ห่อเพชรหาย อะไร อย่างไร ที่ไหน ก็เมื่อครู่พี่ก็มอบเพชรให้ลูกค้าไปแล้ว เพียงแต่แกมาสายไปนิด แต่ก็ไม่เสียหายอะไรนี่”

จิรานุชตอบแทนว่า

“ก็หล่นหายตอนเดินมาที่บริษัทล่ะ ยังโชคดีที่มีคนเก็บได้ที่ศูนย์การค้าและส่งคืนกร”

ดุสิตมองหน้าน้องชาย นิกรจึงพูดว่า

“ผมจอดรถที่ศูนย์การค้า และเดินผ่านร้านค้า ชนกับเด็ก คงจะหล่นตอนนั้นครับ”

“ทำไมแกไม่จอดที่ตึกสำนักงานเราเลยล่ะ?”

“ผมเคยชิน ชอบเดินผ่านร้านค้าครับ ตึกศูนย์กับสำนักงานเราก็ติดกัน  มีทางเชื่อมเดินถึงกันได้เลย ผมชอบจอดรถที่ศูนย์มากกว่าครับ”

“ใครเก็บได้เอามาคืนแก่?”

“ผมไม่รู้จักครับ เขาคืนแล้วก็ไปเลยครับ”

“อ้าว”

“เพราะกรโชคดีมาก” จิรนุชพูดขึ้น “ถ้าคนเก็บได้ไม่คืน จะเป็นยังไง?”

เงียบกริบ…

ความเสียหายมหาศาล สำหรับคนที่สำหรับคนไม่มีผลงานดีๆ อย่างกร

“ผมขอโทษครับ”

ดุสิตจึงพูดกับอาสาวว่า

“ก็ได้คืนมาแล้วนะครับ ไม่มีความเสียหาย”

“แกก็ชอบให้ท้ายน้อง”

“กรไม่ได้ตั้งใจนะครับ”

“ใครจะตั้งใจทำของหายล่ะ พูดตลก จะให้เรื่องมันเงียบเรอะ”

“ผมจะคุยกับกรเอง”

“ไม่ได้ ต้องบอกผู้ใหญ่ พี่อนันต์กับพี่นาถต้องรู้เรื่องนี้ เย็นนี้คุยกันที่โต๊ะอาหาร”จิรานุชเด็ดขาดตามนิสัยเหมือนเดิม



Don`t copy text!