ซ่อนรัก บทที่ 20 : กลับมาแล้ว

ซ่อนรัก บทที่ 20 : กลับมาแล้ว

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

ใบหน้าคุณนาถที่แปรเปลี่ยน แม้จะซ่อนรอยยิ้ม แต่ลึกๆ ซ่อนอะไรมากกว่ารอยยิ้ม

รอย…เจ็บปวด…ที่ยากจะลืมเลือน

คุณนาถพูดยิ้มๆ เย็นๆ ว่า

“นั่นสินะ…คุณอนันต์เป็นพ่อตัวอย่าง” ประชดประชันชัดๆ

“แต่อานุชมักพูดว่า เจ้าชู้ตัวพ่อมากกว่านี่ครับ” ดุสิตว่า

“ถูกต้อง…เจ้าชู้เป็นเรื่องธรรมดา” อาจิรานุชเสริม “แต่แม่แกเก่ง จัดการอยู่หมัดทุกราย”

ดุสิตหัวเราะ

“ผมเชื่อครับ เบื้องหลังความสำเร็จของผู้ชาย มักต้องมีเมียเก่ง จะเก่งเรื่องใดก็ตาม ผมถือว่าเก่งครับ”

“โดยเฉพาะจัดการกับสาวๆ ของพ่อแก คนเป็นเมียต้องเหนื่อยเป็นพิเศษ” อานุชเสริม

“เหนื่อยเลือดตากระเด็น” คุณนาถพูดยิ้มๆ เย็นๆ อีกตามเคย

“คุณแม่นี่ตลกนะครับ”

คิดว่าแม่จะพูดตลกเสียอีก

คุณอนันต์มองบุตรชายคนเล็ก ท่านต้องการตัดบทเรื่องอดีตของตัวเอง จึงถามขึ้น

“กร…แกเป็นอะไรหรือเปล่า เงียบอยู่คนเดียว”

นิกรสะดุ้ง กำลังจะตักอาหารเข้าปากถึงกับวางช้อน

“ครับ” เขาอยากถามบิดา อยากพูดมาก “ผมเจอคนที่เก็บเพชรได้แล้วครับ เขาชื่อวิศว์ครับ เป็นอินทิเรียดีไซน์เนอร์ที่เก่งมาก ผมอยากตอบแทนเขา แต่เขาดูเฉยมากเลยครับ ไม่ต้องการอะไรตอบแทนเลยครับ”

ดุสิตยกมือตบบ่าน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ

“อะไรวะ ยังติดใจอยู่อีก”

“ผมแคร์มากจริงๆ ครับ”

“ก็ดีนะ ถ้าแกจะนึกถึงบุญคุณคน ก็ตอบแทนซะสิ”

“ผมขอปรึกษาคุณพ่อ คุณแม่ดีกว่า ผมจะตอบแทนยังไงดี”

คุณนาถพูดทันที เพราะนิกรเป็นลูกรัก

“เชิญเขามากินอาหารบ้านเราดีมั้ย?”

นิกรขมวดคิ้ว

“เขาจะยอมมาหรือครับ ผมว่ายากนะ ท่าทางเขาไม่สนใจเรื่องนี้เลย ทั้งที่เพชรมูลค่ามหาศาล”

“ก็เจอคนซื่อสัตย์แบบลูกแม่แล้วไง ลูกแม่เป็นคนซื่อสัตย์ ก็เจอคนดีเข้ามาในชีวิต”

“ผมรู้สึกติดค้างเขาครับ”

“คนดีแบบนี้อาจไม่ต้องการอะไรตอบแทนแบบแพง” ทำท่าคิด

“ก็เอากระเช้าผลไม้ดีๆ สักกระเช้าสิ” คุณอนันต์โพล่ง

นิกรพยักหน้าทันที

“จริงสิครับ กระเช้าผลไม้ตอบแทนในตอนนี้ก่อน ผูกมิตรกับคนดีก่อนครับ ผมว่าเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้” เขามีความคาดหวัง

“ทำที่เหมาะสมนะลูก” คุณนาถว่า

“ไม่รู้ว่าทำไมผมรู้สึกถูกชะตากับเขาเหลือเกิน”

“ดีแล้วลูก ค่อยเป็นค่อยไป”

“ผมอยากเป็นเพื่อนกับเขา”

“แกเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน หัดมีเพื่อนบ้างก็ดี” ยังไงก็รู้สึกห่วงลูกคนนี้เป็นพิเศษ

 

คุณวดีและหฤทัยมารับปารีสที่สนามบิน ช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถและขับกลับมาที่คอนโด

ปารีสกระโจนลงบนโซฟาตัวใหม่ เหยียดแขนเหยียดขาตามสบายแบบคนกันเอง แถมบิดขี้เกียจหลายรอบ

“อยู่บนเครื่องนั่งไม่สบายเลย”

“ก็แกมีเงินตั้งเยอะ ทำไมไม่นั่งชั้นหนึ่งไปเลย” หฤทัยว่า

ปารีสไม่ทันตอบ กุลวดีรีบพูดแทน

“ว้าย…อย่ายุยัยปาสิ จะรวยขนาดไหน ประหยัดได้ก็ประหยัดสิจ๊ะ”

“ได้มาจากคุณรัศมีตั้งสิบล้าน”

“เก็บไว้ใช้ที่เป็นประโยชน์ดีกว่า”

“คนอย่างยัยปาไม่ต้องประหยัดหรอก เงินก็มี แถมยังได้ฟรีๆ อีกสิบล้าน สบายเลย ไม่ต้องทำงานเป็นปีๆ ยังได้”

“บอกว่าอย่ายุยัยปลาให้ใช้เงิน เงินมีก็ไม่จำเป็นต้องฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย”

“โอ๊ย…เงินจากการขายแฟน ใช้ๆ ไปเถอะ ใช่ให้สะใจ”

ปารีสนั่งมองเพื่อนสองคนพูดไปมาเกี่ยวกับตัวเอง

ใช่…เงินจากการขายแฟน…

“ถ้าแฟนไม่โอนเอนไปด้วยกับฝ่ายคนซื้อ ฉันก็จะไม่ได้ชื่อคนขาย!” ปารีสโพล่ง

“ฉันเห็นด้วยกับแกนะ ที่รับเงิน” หฤทัยว่า

แต่กุลวดีแย้ง

“แต่ฉันไม่เห็นด้วย รับเงินมาสบายใจเรอะ?”

“สบายใจหรือไม่สบายใจ ก็รับไว้ก่อน!” ปารีสพูดด้วยใบหน้าราบเรียบ ทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บ แต่ความเจ็บจางลงเรื่อยๆ ตามวันเวลา หากก็ยังเจ็บปวดอยู่

“เห็นด้วย…เห็นด้วย…ดีแล้วต้องรับ เงินตั้งสิบล้าน ไม่รับก็โง่ตาย น่าจะได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะคุณรัศมีกำลังหลงอุเทน เรียกเท่าไหร่ก็ได้” หฤทัยพูดยิ้มๆ

“โอ๊ย…ไม่รู้จะพูดยังไง” กุลวดีว่า

“ก็คิดเสียว่า ราคาค่าตัวอุเทน…มีราคาสิบล้านไง!” หฤทัยพูดไปก็หัวเราะ

“อย่าเน้นนักเลย เห็นใจยัยปาด้วย เพิ่งกลับมา”

“จ๊ะ…จ๊ะ” เข้าไปกอดเพื่อนที่นั่งเอนบนโซฟาอีกครั้งหลังจากที่กอดที่สนามบินไปครั้งหนึ่งแล้ว “กอด…กอดรับกลับบ้านเรา”

กุลวดีเดินไปรินน้ำส้มในตู้เย็นเอามาให้เพื่อน

“กินให้สดชื่น”

หฤทัยจับแขนและบีบแขนปารีส ทนไม่ไหวแล้ว

“ขอถามหน่อยนะ …เพื่อน…ทำไมไม่ให้แฟนแกไปรับที่สนามบิน ทำไมเป็นพวกเรา ทั้งๆ ที่พวกแกก็เพิ่งสวมแหวนแต่งงาน ยังข้าวใหม่ปลามันกันแท้ๆ”

พยายามจะไม่พูดถึง ‘วิศว์” เกรงจะสะกิดใจเพื่อนรัก ทั้งที่ตอนแรกก็ตกลงกับกุลวดีไว้แล้วจะไม่ถามถึงวิศว์กับเพื่อนรัก เกรงว่าไม่สะดวกจะพูดถึง แต่มันอดไม่ไหวจริงๆ

กุลวดีติ่งทันที

“ทัย! อย่าพูดสิ เราคุยกันแล้วนี่”

“ขอโทษที มันอดไม่ได้จริงๆ”

“ก็ยัยปาไม่อยากพูดถึงไง”

“แต่ต้องพูดกับพวกเรา จะไม่บอกคนทั้งโลกก็ได้ แต่กับฉันกับแก…ยัยปาต้องพูด”

“ก็ให้มันพร้อมจะพูดก่อนสิ” กุลวดีสังเกตเห็นแววตาปารีส เก็บกดและเศร้า

“ฉันอยากรู้นี่นา”

กุลวดีหันมาพูดกับปารีสว่า

“ถ้าแกไม่พร้อมจะพูด ก็ไม่ต้องพูดหรอกนะ”

“พูดได้” ปารีสถอนใจยาว “กับคุณวิศว์…ก้อ..ก้อ…ดีนะ เขาดีกับฉันมาก ระหว่างที่อยู่ยุโรป เขาก็คอยดูแลเทคแคร์ฉันอย่างดี แต่ว่ามันดีเกินไปไหม มันเร็วเกินไปไหมกับคนเพิ่งรู้จักกันจนฉันสับสนและชักไม่แน่ใจ”

“ขอดูรูปเขาหน่อยสิ” หฤทัยร้องขอ “เอาแบบชัดๆ”

“ไม่จำเป็นหรอก”

“อะไรกัน รูปเพื่อนเขย แบบเห็นหน้าชัดๆ ก็ไม่ให้ดู”

“ขอเก็บเป็นความลับก่อนได้มั้ย”

“แกไม่เคยมีความลับกับพวกเรานะ”

“ก็ไม่มี…ส่งรูปให้อยู่แล้วนี่”

“แกส่งมาแค่สองรูปสามรูป แถมยังถ่ายแบบมัวๆ ไม่ชัด”

“เน้นวิวไงล่ะ”

“ขนาดไม่ชัดก็ยังดูรูปหล่อนะ หุ่นดี…”

“ขอให้ฉันมั่นใจอีกหน่อย”

“แกก็เป็นซะแบบนี้ ไม่แน่ใจแต่ดันแต่งงานกับเขาที่เมืองนอก” และมองแหวนในมือ “แหวนแต่งงานใช่ไหม แกยังใสๆอยู่เลย แสดงว่าแกก็คงชอบเค้าไม่น้อย”

แววตาปารีสสับสน

“ณ ตอนนี้ เขาไม่มีอะไรบกพร่องเลย ฉันเองไม่เข้าใจตัวเอง ทำไม่ลังเลขึ้นมา”

“ถ้าเขารู้ว่าแกกลับมาไม่บอก เขาจะโกรธนะ”

ปารีสยักไหล่

“ไม่รู้สิ ไม่รู้”

กุลวดีต้องโพล่งขึ้น

“พอเถอะ…ทัย ยัยปาไม่สบายใจอยู่ด้วย แถมเดินทางกลับมาเหนื่อยๆ ให้ยัยปาพักผ่อนเถอะ”

“งั้นขอถามอีกหน่อย พ่อแก้ไม่เป็นไรนะ” หฤทัยคนขี้สงสัย

“จ๊ะ…พ่อก็ปลอดภัยแล้ว ฉันถึงบินกลับ” ปารีสตอบชัดเจน

 

ผ่านอีกวัน…

กุลวดีกับหฤทัยตื่นแต่เช้าไปทำงาน เหลือแต่ปารีสที่ตื่นสายพักผ่อนเต็มอิ่ม

ตื่นขึ้นมาก็พบว่า กุลวดีเตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มกุ้งไว้ให้บนโต๊ะ และเขียนกระดาษว่า อุ่นก่อนกิน

ก็ต้องอุ่นละ เพราะเย็นชืดหมดแล้ว เข้าไมโครเวฟแป๊ปเดียวก็กินได้

หลังอิ่มข้าวต้มแล้ว ปารีสออกจากห้องในคอนโด ว่าจะไปหาอะไรดื่ม…กาแฟสักแก้วหรือชาร้อนสักแก้ว ในตึกข้างๆ คอนโด ยังไม่ทันจะลงลิฟท์ก็เปลี่ยนใจเดินไปสุดทางเดิน

หล่อนยังมีห้องในคอนโดนี้ ห้องพิเศษสองห้องติดกันที่ซื้อไว้ต่างหาก จากห้องที่อยู่รฃวมกับเพื่อนรักสามคน

ใช้การ์ดเปิดเข้าไป

ตอนซื้อเมื่อสองปีก่อน สองห้องและทำประตูเชื่อมเปิดถึงกันได้ เพราะเผื่อไว้จะให้บิดามารดามาพัก แต่ท่านก็ยังไม่เคยมาพักเลย ห้องกว้างขวางพอควรและแยกเป็นสัดส่วน

ราคาตอนซื้อสองห้อง ได้ราคาพิเศษราวสิบล้าน แต่ตอนนี้ซื้อขายกัน ห้องเดียวเจ็ดล้านแล้ว ถ้าขายก็ได้กำไรหลายล้าน เพราะสองห้องติดเลย กว้างขวางเป็นพิเศษ

หญิงสาวคิดถึง ‘วิศว์’

ตอนนอนกอดกันในห้องพักในโรงแรมที่สวิตเซอร์แลนด์ คุยกันเรื่องที่พัก

“ผมจะซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อเราสองคน” วิศว์วางแผน

“ฉันมีคอนโดค่ะ”

“คุณอยู่กับเพื่อน”

“ฉันมีคอนโดของฉันเองค่ะ สองห้องเปิดถึงกันได้ ตอนซื้อก็เพื่อฉันส่วนตัว กับอีกห้องให้พ่อกับแม่ เราไปอยู่คอนโดของฉันก่อนได้”

“แล้วเพื่อนคุณจะคิดอย่างไร?”

“คอนโดเดียวกัน ฉันแทบไม่ต้องย้ายอะไร เพราะของบางส่วนฉันก็เอามาเก็บที่ห้องของฉันเอง”

“ผู้หญิงมีสมบัติเยอะ สมบัติส่วนตัว ผมรู้”

“ก็พวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าบางส่วนน่ะคะ ห้องที่ฉันอยู่กับยัยวดีกัยยัยทัย ผู้หญิงสามคน คิดดูสิคะ เสื้อผ้าเยอะแค่ไหน กระเป๋า รองเท้า ก็ผู้หญิงล่ะค่ะ รักสวยรักงามนี่ คุณแน่ใจเหรอคะ ที่จะมาอยู่กับฉันจริงๆ เพราะเรายังรู้จักกันไม่ดีพอผมอยากรีบไปอยู่กับคุณจะตาย คุณแน่ใจเหรอคะที่จะมาอยู่กับฉันจริงๆเพราะเรายังรู้จักกันไม่ดี”

“พอผมอยากรีบไปอยู่กับคุณจะตาย เราจะได้เรียนรู้กัน ปรับตัวกันไป อยากอยู่กับคุณทุกวันเลย”

ในขณะนั้น นอนกอดกันบนเตียง และเขาก็กอดหล่อนแน่นขึ้น เริ่มจะซุกซนอีกแล้ว จมูกคลอเคลียบริเวณแก้ม

แต่ในส่วนลึก ปารีสยังกังวลอะไรบางอย่าง

“เรื่องของเรา มีแต่ยัยวดีกับยัยทัยสองคนเท่านั้นที่รู้”

“ผมก็มีแต่ไอ้บรมที่รู้”

“ขอบคุณที่คุณเชื่อฉัน ยังไม่บอกใคร”

“ผมก็ไม่รู้จะปิดบังไปทำไม จะเก็บซ่อนไปทำไม”

“ฉันเป็นผู้หญิงค่ะ ฉันขอ”

“ผมยอมรับได้ ผมรอได้”

เขาเป็นคนแบบนี้ จะไม่ให้หญิงสาวใจอ่อนได้อย่างไร

วิศวืไม่เคยดื้อดึง กดดัน บังคับ เขากลับพยายามเข้าใจความรู้สึกของเธอ

จมูกและปากที่คลอเคลียแก้มเปลี่ยนที่ไปเรื่อย เกือบทั่วใบหน้าและจะหยุดที่ริมฝีปาก  เธอว่า

“คุยกันก่อนค่ะ”

“ไม่คุยแล้วครับ คุณทำให้ผมหยุดตัวเองไม่ได้”

“แต่…”

“แต่อะไรล่ะ หล่อนก็ตันความต้องการของเขาไม่ได้สิ จะว่าข้าวใหม่ปลามัน…ใช่เลย”

ลงท้ายด้วยการทำหน้าที่ภรรยา ด้วยความเต็มใจ

วิศว์รู้วิธีว่าจะสามารถทำให้เธอคล้อยตามอย่างนุ่มนวล และทุกครั้งด้วยความสุขของทั้งสองฝ่าย โดยไม่ดื้อดึงบังคับสักนิด

แล้วปารีสก็สะดุ้งตื่นจากความคิด

ใช่สิ…เธอกำลังอยู่ในคอนโดของตัวเอง และเห็นภาพของวิศว์มาอยู่ด้วย แต่…แต่…แต่…ทำไมเธอกลับมาแล้วนี่…ปารีส…เธอกลับมาแล้ว ทำไมไม่บอกเขาล่ะ?



Don`t copy text!