มนตราตะเกียงแก้ว บทที่ 1 : ตะเกียงแก้ว …หาย !

มนตราตะเกียงแก้ว บทที่ 1 : ตะเกียงแก้ว …หาย !

โดย : โสภี พรรณราย

มนตราตะเกียงแก้ว โดย โสภี พรรณราย เรื่องราวของเมืองเวทย์มนตร์และมนตราสำคัญที่ผนึกอยู่ในตะเกียงของท่านยาย เมื่อวันหนึ่งตะเกียงถูกขโมยไป อันตรายใหญ่หลวงกำลังคุกคามโลกเวทย์มนตร์ หัวขโมยจะนำเอามนตราที่อยู่ในตะเกียงแก้วไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด…นิยายออนไลน์ น่าติดตามอีกเรื่องที่ อ่านเอา อยากให้คุณได้ อ่านออนไลน์

………………………………………….​

-1-

 

“ตะเกียงแก้วหาย!”

แม่มดทาฮิร่าตกใจเกือบเป็นลม เซถลาไปที่เก้าอี้และรีบทรุดกายลงนั่ง

ใจเต้นแรง มือเย็นเฉียบ ณ ขณะนี้ทำอะไรไม่ถูก

เจ้าแมวเปอร์เซียค่อยๆ ย่างก้าวเข้ามาใกล้ช้าๆ และเห็นท่าทางของเจ้านายที่ดูแปลกประหลาด จึงเอ่ยปากถาม

“ยายทาฮิร่า เป็นอะไรไป?”

“ตะ…ตะ…เกียง…แก้ว แก้ว…หะ…หะ…หาย” อยู่ๆ ก็ติดอ่างขึ้นมาเสียอย่างงั้น

เจ้าแมวชิกเก้นเผลอกระโดดตัวลอย พลอยตกใจไปด้วย

“แย่แล้ว…ยาย มันจะหายได้อย่างไง”

“ไม่รู้…ไม่รู้…”

“หาดีหรือยัง หมู่นี้ยายกะป้ำกะเป๋ออยู่บ่อยๆ”

“ก็ข้าวางของข้าอยู่ที่ประจำ”

ที่ประจำของคฤหาสน์ในเมืองเวทมนตร์ บนโต๊ะศิลาขาวอันเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ เป็นที่รู้กันว่าตะเกียงแก้วของแม่มดอาวุโสทาฮิร่า คือ สิ่งมหัศจรรย์และมีค่าควรเมือง ติดตัวทาฮิร่ามาตั้งแต่โบราณบรรพบุรุษตกทอดเป็นมรดกล้ำค่า

ทาฮิร่าจะให้เป็นที่อาศัยของแม่มดน้อย พ่อมดน้อย เฉพาะที่มีชะตาต้องกันกับตะเกียงเท่านั้น

ใช่ว่าใครจะเข้าไปอยู่ได้ทุกคน

ต้องมีบุญบารมีร่วมกัน

ในเมืองเวทมนตร์แห่งนี้ ตะเกียงแก้วของทาฮิร่าเป็นหนึ่งเดียวโบราณของแท้ ส่วนอื่นๆ จะมีตะเกียงแก้วอีกเท่าไหร่ ก็ล้วนเป็นของที่พ่อมด แม่มดเนรมิตใช้งานชั่วครั้งชั่วคราว แล้วจะสูญสลายไปตามอำนาจเวทมนตร์ของผู้เนรมิตนั้น

“ทำไม…ทำไม…เป็นแบบนี้…” แม่มดทาฮิร่าพึมพำถามกับตัวเอง ลนลานตกใจ

เจ้าแมวชิกเก้นพูดอย่างแผ่วเบาว่า

“หรือจะเป็นอาถรรพณ์ อาเพศ แห่งเมืองเวทมนตร์อีกแล้ว”

แม่มดอาวุโสสะดุ้ง

“เจ้าพูดอะไรของเจ้า”

“ก็เหมือนตอนอสูรน้อยมากำเนิดก็มีลางร้ายนี่ ยาย”

ผู้อาวุโสสังหรณ์ใจ

“เจ้าพูดถูกเลย ชิกเก้น”

ต้องยอมรับความจริงเลยว่า ตนก็คิดเช่นนั้น

มาแล้ว อาเพศแห่งเมืองเวทมนตร์

เป็นลางมาแล้ว บ่งบอก

ของวิเศษตะเกียงแก้วอันตรธานสูญหายไปไหนหรือ?

ตนพยายามใช้เวทมนตร์เพื่อมองหา ‘ตะเกียงแก้ว’ แต่กลับพบความมืดมิด แม้จะตั้งใจใช้คาถาชั้นสูง ก็ยังไร้ผล

“ยาย…ใช้คาถาค้นหาสิ” ชิกเก้นแนะนำ

“แล้ว…แต่ไม่เห็น”

“ยายก็กะป้ำกะเป๋อ ท่องคาถาถูกๆ ผิดๆ ประจำ สงสัยจะท่องผิดแน่ๆ เลยไม่เห็น”

“เจ้านี่ชักจะพูดมากไปแล้ว ข้าใช้คาถาถูกต้อง คาถาชั้นสูงสุดด้วยซ้ำ แต่มันมองไม่เห็นเลย”

ขณะกำลังรู้สึกสิ้นหวัง พลันนอกกระจกแลเห็นแม่มดบาบาร่าขี่ไม้กวาดมาพร้อมเจ้าไทเกอร์แมวคู่ใจนั่งอยู่หน้า ลอยละลิ่วผ่านหน้าต่างเข้ามา

“เพื่อนมาเยือนแล้ว” แม่มดบาบาร่าส่งเสียงมาแต่ไกล

เห็นเพื่อนมาเยี่ยมควรจะยิ้มแย้มยินดีสิ เหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับเห็นใบหน้าที่ห่อเหี่ยว ไหล่งองุ้ม ท่าทางซังกะตาย

“เป็นอะไร ทาฮิร่า?” จ้องมองหน้าอยู่นานกว่าจะถาม

“หมดแรง” คนตอบก็ใช้เวลากว่าจะตอบ

“เป็นอะไรล่ะ?”

“ตะเกียวแก้วหาย”

“หา!” ยายบาบาร่าตะโกนตกใจ

ในขณะที่ชิกเก้นกำลังทักทายกับไทเกอร์ สองแมวกำลังใช้ขนที่แก้มปุกปุยถูกันอยู่ และชิกเก้นถามไทเกอร์ว่า

“เป็นอย่างไร เพื่อนไทเกอร์?”

เจ้าแมวไทเกอร์มีท่าทางร่าเริง

“สนุกมาก เพราะได้ไปเที่ยวกับยายบาบาร่า ได้นั่งไม้กวาดออกท่องโลก โดยเฉพาะเมืองมนุษย์สนุกที่สุด เจอมนุษย์ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง เป็นประเภทที่มีอารมณ์แปรปรวนที่สุดเลย”

“โชคดีจังได้เที่ยว ไม่เหมือนยายทาฮิร่าที่…”

ยังไม่ทันจะกล่าวถึงเจ้านายตัวเอง เพราะเสียงตกใจของยายบาบาร่าที่ทำให้แมวเปอร์เซียสองตัวต้องสะดุ้ง และหันมาทางเจ้าของเสียงทันที

“เรื่องแบบนี้พูดเล่นไม่ได้นะ ตะเกียงแก้วของเจ้าเป็นตะเกียงวิเศษที่สุดแห่งเมืองเวทมนตร์แล้ว” บาบาร่าสงสัย “ใครจะกล้าแตะต้อง”

“นั่นแน่ะสิ” ทาฮิร่าห่อเหี่ยว “ตะเกียงแก้วคู่บารมีของข้า เป็นที่สถิตอาศัยของเหล่าพ่อมดแม่มดที่มีบุญบารมีกันมาหลายชั่วชีวิต ตอนนี้ถูกขโมยไปแล้ว”

“จับขโมยเลย ใช้เวทมนตร์”

“ใช้แล้ว แต่มืดมิด”

“ใครมันจะมีคาถาอาคมขนาดนี้ได้?”

“ข้าไม่รู้…”

“มา…มาช่วยกัน สองแรง…เจ้ากับข้า สองแรงร่ายคาถาเลย ให้มันรู้แจ้งไปว่า ตะเกียงแก้วไปอยู่ที่ใด”

นั่นสิ…สองแรงรวมพลัง แววตาทาฮิร่าเริ่มมีความหวัง

แล้วสองแม่มดอาวุโสก็ร่ายคาถา โดยหันหน้าเข้าหากันแขนยื่นออกมาประกบฝ่ามือทั้งซ้ายขวา หลับตาสงบนิ่ง

ริมฝีปากพึมพำคาถาคู่

เจ้าชิกเก้นกับเจ้าไทเกอร์มองอยู่ใกล้ๆ อย่างให้กำลังใจ เพราะเรื่องตะเกียงแก้วหายเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ ขอเพียงเห็นว่าอยู่ที่ใด ทั้งสองแม่มดพร้อมจะไปรับคืนทันที

ไม่ว่าสถานที่นั้นจะเป็นที่ใด หรือใครก็ตามที่บังอาจก่อเรื่อง จะต้องได้รับโทษตามความผิด

ร่ายคาถาช้าๆ เรื่อยๆ สองแรงแข็งขันแล้ว จนเห็นเม็ดเหงื่อผุดบริเวณหน้าผากของสองแม่มด

เวลาผ่านไปนานพอสมควร จนทั้งสองหยุดยอมแพ้ ตอนมือประกบและลืมตา จ้องมองกันอย่างงงๆ นิ่งงัน เหน็ดเหนื่อย

เจ้าไทเกอร์จึงถามขึ้นอย่างสงสัย

“เห็นอะไรบ้าง…ยาย ตะเกียงแก้วอยู่ที่ไหน?”

ยายบาบาร่าตอบอย่างหวั่นๆ ว่า

“เหมือนมีมนต์ดำมาปิดกั้น น่ากลัว ไม่เห็น เมื่ออดีตข้าก็ยอมรับว่าไม่ใช่แม่มดที่ดีนัก เกือบเดินทางผิดพลาด แต่ข้ายังกลับตัวกลับใจได้ทัน ข้ายังรู้สึกกลัวๆ ความมืดมิดนั้นเลย มันมืดมิดอย่างประหลาด…ประหลาดจริงๆ”

“โอ้โฮ! ขนาดสองยายรวมพลังแล้วนะ ยังไม่เห็น”

“บอกแล้วว่าครั้งนี้แปลก” ยายทาฮิร่าพูดขึ้น “เราควรจะเห็น ณ ตะเกียงแก้วตั้งอยู่ แต่กลับไม่เห็นเลย”

เจ้าชิกเก้นเสนอว่า

“คงต้องไปที่สภาของเมืองเวทมนตร์ ให้สภาปกครองเมืองช่วยแล้วมัง ยาย”

“คงเป็นขั้นตอนสุดท้าย ยังไม่อยากรบกวนสภาเมืองเวทมนตร์ ที่นั่นล้วนแต่อาวุโส ไม่อยากให้ท่านปวดหัวกับพวกเราด้วย เพราะตะเกียงแก้วเป็นสมบัติส่วนตัวของข้า”

“งั้นยายจะทำอย่างไร?”

“หรือความชราจะทำให้ข้าหมดแรง อาจต้องใช้เวลา ตะเกียงแก้วอาจอยู่โลกมนุษย์ ต้องมีตัวช่วยข้าตามหา”

“ยายจะให้ใครช่วย ลูกหลานทุกรุ่นของยายต่างก็มีชีวิตเป็นของตัวเองไปหมดแล้ว”

“แม่มดอย่างข้า คงไม่โดดเดี่ยวเดียวดายหรอก” แล้วก็ตีหน้าเศร้า “หรือจะเดียวดายจริงๆ หว่า”

“ชิกเก้นอยู่เป็นเพื่อนยายเอง”

ในขณะนั้นลูกแก้ววิเศษที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็เปล่งประกายเป็นแสงสว่างจ้า แม่มดทาฮิร่ารีบรุดมาดู จ้องลูกกลมใส แล้วโพล่ง

“มีข่าวจากสภาเมืองเวทมนตร์”

พ่อมดอาวุโสในสภาปรากฏในลูกแก้วและพูดกับทาฮิร่าว่า

“สภาได้รับแจ้งเหตุจากผู้คุมว่า แม่มดอีเวอลีนได้หลบหนีจากที่กักขังถ้ำคาร์ และทำร้ายผู้คุมจนร่างแตกสลายไปจำนวนมาก เจ้าเป็นคนจับแม่มดอีเวอลีนเมื่ออดีต ทางสภาจึงขอมอบให้เจ้าจับกุมตัวแม่มดร้ายอีเวอลีนกลับมาให้จงได้”

“ข้าจะทำจนสุดความสามารถ”

และทุกคนก็ได้ยินกันหมด

แม่มดบาบาร่าพูดขึ้น หลังจากแสงสว่างในลูกแก้วดับแสงลง

“ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ตะเกียงแก้วหายยังไม่ทันพบ มาเจอกับเรื่องยายแม่มดตัวร้ายอีเวอลีนหลบหนีจากที่กักขังอีก”

เจ้าชิกเก้นทำท่าขนลุกจนขนยาวๆ ตั้งขึ้น

“ยายอีเวอลีนมันเล่นมนต์ดำ ตอนนั้นกว่ายายทาฮิร่าจะจับไปลงโทษได้ก็เล่นเอาย่ำแย่ปางตายเลยนะ”

ย้อนไปยี่สิบกว่าปีที่แล้ว

อีเวอลีนก็ใช่ใครอื่นไกล แม่มดรุ่นน้องรุ่นลูกที่คลั่งวิชา เกิดไปศึกษามนต์ดำจนขาดสติลองวิชากับบรรดาพ่อมดแม่มดและฆ่าไปจำนวนมากอย่างบ้าคลั่ง ทาฮิร่าทุ่มเทพลังวิเศษปราบจนสำเร็จ และจับไปขังตามความผิดมหันต์ในถ้ำคาร์ สำหรับความผิดที่ไม่อาจปลดปล่อยออกมาได้ชั่วชีวิต

ถ้ำที่ลงเวทมนตร์อย่างแน่นหนา ไม่มีวันจะออกมาได้

อีเวอลีนหนีออกมาอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งเป็นไปไม่ได้

เป็นไปแล้ว

เพราะอะไร?

ตอนจับขัง ทาฮิร่าได้ร่ายคาถาคำสาป

“เจ้าจงสถิตอยู่ที่กักขังถ้ำนี้ตราบชั่วชีวิตของเจ้า!”

ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของแม่มดอีเวอลีน

“ข้าไม่ยอม ไม่ยอมแพ้ ไม่ยอมแพ้แก่เจ้า…ยายทาฮิร่า ข้าต้องออกไป ออกไปแก้แค้นเจ้า!”

และยังอีกหลายประโยคที่พรั่งพรูด้วยความเคียดแค้น ชิงชัง โกรธเคือง

เพราะมนต์ดำที่ทำให้อีเวอลีนทำร้ายพวกเดียวกัน ทาฮิร่าผู้ยุติธรรมจำต้องหยุดทั้งที่เวทนาสงสารผู้อ่อนเยาว์กว่า

หากขณะนี้ แม่มดทาฮิร่าไม่มีเวลาคิดแล้ว

“ข้าต้องรีบตามหาอีเวอลีน”

แต่จะเริ่มต้นที่ไหนล่ะ ในยามที่สับสน และวิตกกังวลหลายเรื่อง

บาบาร่ามิตรที่ดีจึงกล่าวขึ้น

“อีเวอลีนหนีไปได้ ต้องไปหาญาติสนิทคนใกล้ตัว ตอนถูกเจ้าจับอีเวอลีนมีลูกสาววัยรุ่น ตอนนั้นลูกสาวก็หายสาบสูญไป เหลือแต่น้องชายชื่อพ่อมดฮูโก อีเวอลีนต้องไปหาน้องชายแน่ๆ”

“ข้าจะไปพบฮูโก”

“ข้าพาไปเอง ข้ารู้จักที่อยู่ของพ่อมดฮูโก”

แม่มดทาฮิร่าเนรมิตไม้กวาดวิเศษ และขึ้นขี่เป็นพาหนะ โดยเจ้าชิกเก้นกระโดดตามขึ้นมา

“ชิกเก้นไปด้วย”

บาบาร่าก็ขี่ไม้กวาดของตนไปกับเจ้าไทเกอร์ นำทางไปยังจุดมุ่งหมาย

 

* * *

 

ซื้อหนังสือที่ www.naiin.com ไม่ว่าเล่มใดก็ตาม

ทุกยอดการสั่งซื้อจะมีส่วนแบ่งกลับมาเพื่อสนับสนุนเว็บไซต์อ่านเอา

ชุมชนแห่งการอ่านของพวกเรา : )

 

 

ณ อาณาจักรพ่อมดฮูโก ที่พักของพ่อมดม่าย

พ่อมดฮูโกมีบุตรสองคน คนโตพ่อมดไรอัน และแม่มดน้อยแสนสวย นาม เซลิน่า

ที่สนามคฤหาสน์ ไรอันกับเซลิน่าต่างกำลังฝึกเวทมนตร์กันคนละมุม

ไรอันร่ายคาถาแปลกประหลาดอยู่กับแมวเปอร์เซียของตนชื่อ เคทเทอร์

ริมฝีปากขมุบขมิบร่ายใส่แมวเคทเทอร์ ในตอนแรกเจ้าแมวน้อยที่แสนน่ารัก อ้วน ขนปุกปุย ยังเยื้องย่างไปมาอย่างมีความสุข แต่เมื่อเจอเจ้านายหนุ่มร่ายคาถาใส่ เจ้าเคทเทอร์รู้สึกกายร้อนผ่าว ร้อนจนร่างจะลุกไหม้ ดวงตาถลึงโตและเจ็บปวด

เจ็บปวดทรมาน ปากแสยะเห็นเขี้ยว อยากจะกัด อยากจะทำร้ายใครก็ได้เพื่อให้ความเจ็บปวดทรมานลดน้อยลง เพราะขืนไม่ระบายอารมณ์ออก กลัวว่าตัวเองร่างจะแตกจะระเบิดเนื่องจากความร้อนที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ

ตรงนั้นที่ใกล้สุดคือ เซลิน่า

เจ้าแมวเคทเทอร์กระโจนออกไปมุ่งที่เซลิน่า แยกเขี้ยวหวังกัดอย่างแรง

พลัน…

มีคาถาอีกบทที่ร่ายออกมา หยุดยั้งความโหดร้ายของเจ้าแมวที่ขาดสติ

เกือบกระโจนถึงตัวแล้ว อีกเพียงไม่กี่นิ้ว แม่มดสาวเซลิน่ากำลังตกใจ คาดคิดไม่ถึงว่าเจ้าแมวที่สนิทกับตนจะกระโจนมาทำร้าย จนลืมร่ายคาถาปกป้องตนเอง

โชคดีที่มีผู้มาช่วย

เจ้าแมวชะงักนิ่งกลางอากาศในท่าจะขย้ำเหยื่อ นิ่งกลางอากาศแข็งราวหิน

เซลิน่าหันไปทางเจ้าของคาถาช่วยอย่างดีใจ

“วิล!”

พ่อมดรูปงามแห่งเมืองเวทมนตร์

วิลมาพร้อมเพื่อนรัก…พ่อมดเปเลส

ทั้งวิล เปเลส เซลิน่า และไรอัน ต่างเป็นนักเรียนโรงเรียนเวทมนตร์ด้วยกัน รุ่นเดียวกัน

วิล และเปเลส เป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ถูกแม่มดอีเวอลีนใช้มนต์ดำเล่นงานจนตาย ในตอนนั้นอีเวอลีนเรียนมนต์ดำและร้อนวิชาจึงลองวิชากับพ่อมดแม่มดอ่อนหัดเรื่องคาถา และตั้งใจทำร้ายอย่างอำมหิต

เรื่องเวทมนตร์ ใช่ว่าใครจะเก่งกาจ เก่งวิชาได้ ต้องมีพรสวรรค์เท่านั้น

วิลโดดเด่นที่สุดในรุ่น เขาสูญเสียพ่อแม่เพราะมนต์ดำที่ร้ายกาจ จึงตั้งใจศึกษาเวทมนตร์ขั้นสูงเพื่อจะสู้กับมนต์ดำ

เขาตั้งใจใช้ความดีชนะความชั่ว ไม่เคยคิดแก้แค้น เพราะอีเวอลีนก็ถูกจองจำชั่วชีวิตแล้ว

แม่มดเซลิน่าวิ่งมากอดวิลอย่างดีใจ

“ขอบใจเจ้ามาก วิล ขอบใจที่ช่วยข้า” เซลิน่าชื่นชอบวิลเป็นพิเศษ

เปเลสแอบชอบเซลิน่า เห็นแม่มดแสนสวยกอดวิล จึงแกล้งพูดดังๆ

“ข้าก็มาด้วยนะ ข้าจะช่วยพอดี แต่วิลมันดันเร็วกว่า นี่ถ้าข้าช่วย ข้าจะได้รับกอดจากเจ้ามั้ยหนอ”

“ชักช้า เฉื่อยชาเช่นเจ้าแบบนี้ กว่าจะช่วยข้าได้ ข้าคงถูกเจ้าเคทเทอร์ขย้ำคอแล้ว”

 

***

 



Don`t copy text!