ซ่อนรัก บทที่ 10 : พบอดีตคนรักภรรยา

ซ่อนรัก บทที่ 10 : พบอดีตคนรักภรรยา

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

ปารีสลำบากใจ อยู่ต่อหน้าวิศว์ และมารดาก็พูดถึง ‘อุเทน’ และย้ำว่า

“แปลกนะ อุเทนดูจะห่วงใยแกมาก ฝากให้แม่ดูแลแกเป็นพิเศษ วันก่อนก็พูดให้ดูแลแก วันนี้ก็ให้ดูแลอีก ถึงพวกแกจะทะเลาะกัน เขาก็ห่วงแกไม่เปลี่ยนแปลง”

“ค่ะ…ค่ะ…ค่ะ…พอเถอะค่ะ” น้ำเสียงของปารีสทำให้มารดาต้องเงียบ

คุณวรวิทย์หันมาพูดกับวิศว์ว่า

“คุณจะกลับเมืองไทยแล้วเรอะ ไม่อยู่เที่ยวต่อล่ะ”

“ผมกลับพรุ่งนี้ครับ”

“น่าจะอยู่ต่อ ทางน้าจะพาเที่ยวเอง ไปที่นักท่องเที่ยวไม่ไป สวยมากนะ วิวธรรมชาติจริงๆ”

“ไว้โอกาสหน้านะครับ พอดีผมมีงานด่วนที่กรุงเทพ หุ้นส่วนผมรับงานไว้ ทำให้ผมต้องเปลี่ยนโปรแกรมกลับเลยครับ”

“เออ…คนหนุ่มนะ งานต้องมาก่อน เก่งจริง กับเพื่อนสองคนเปิดบริษัท งานไปด้วยดีสินะ”

“บรมเพื่อนผมมันเก่งครับ หาลูกค้าเก่งมาก ขยันหาลูกค้าครับ”

“ก็ต้องมีผลงานละ ไม่ดีจริง ลูกค้าที่ไหนจะจ้างล่ะ”

“ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกอย่าง อาหารเย็นอร่อยมากครับ”

เมื่อเขาลากกลับ ปารีสเดินออกมาส่งที่รถที่วิศว์เช่าขับ

“พรุ่งนี้…” หล่อนพูดช้าๆ “ฉันคงไม่ได้ไปส่งที่สนามบินนะคะ”

“ไม่ต้องครับ ผมยุ่งธุระหลายอย่าง ต้องเอาของไปส่งขนส่งแบบด่วน แวะซื้อของฝากและส่งรถคืน”

“คุณวิศว์คะ”

“ครับ” เขาอยากโอบกอด อยากบอกลา…แต่รู้ว่าอาจมีสายตาจากคนในบ้านที่มองอยู่

อึดอัดแต่ไม่เป็นไรนะ  รอ…ต้องรอวันจะเปิดเผยความรัก ต้องมีวันนั้น

“ขอโทษนะคะ ฉัน…อาจเป็นตัวปัญหา…ปัญหา”

“ผมเข้าใจคุณ และรอ…จนกว่าคุณจะสบายใจและเปิดเผย”

“ค่ะ…ค่ะ”

วิศว์โน้มตัวกระซิบข้างหูเบาๆ ว่า

“รอคุณกลับเมืองไทย และเราจะใช้ชีวิตด้วยกัน ชีวิตคู่…”

ปารีสพยักหน้าแทนคำตอบ

 

ทันทีที่ถึงเมืองไทย บรมมารับ และยกกระเป๋าเดินทางของวิศว์ใส่หลังรถ

วิศว์ยังเหนื่อยๆ กับการเดินทาง แต่ก็เห็นว่ารถไม่ได้ขับไปบ้านจึงถาม

“อ้าว! ไม่กลับคอนโดก่อนเรอะ”

“มีนัดด่วนว่ะ…เพื่อน”

“ไหนว่ามีเวลากลับคอนโด ได้อาบน้ำสักสองสามชั่วโมง”

“ลูกค้าเลื่อนนัดเร็วขึ้น บอกจะไปรอที่ร้านเลย คุณเธออยากเปิดร้านสาขาใหม่เร็วๆ”

“ให้เวลากันตกแต่งสองเดือนไม่ใช่เรอะ”

“ใช่…ใช่ เเต่ถ้าเร็วขึ้น ลูกค้าจะยินดีมาก”

“แกก็รู้ว่ากันไม่ชอบงานเร่งนะ”

“เงินดีว่ะ”

“กันชอบแบบนี้คุณภาพ คนงานของเราต้องเร่งงาน กลัวออกมาจะไม่ดีพอ”

“คนงานของเรามันเก่งว่ะ กันคุมคนงานได้ สิ้นปีก็จ่ายโบนัสไปเยอะ คนที่บริษัทเราแต่ละคนยิ้มจนปากฉีก เริ่มต้นปีใหม่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง อะไรวะ บ่นเก่งจริง ว่าแต่แกกับคุณปารีสเป็นไงบ้าง รักแรกพบ แลกแหวนแต่งงานที่เวนิส โอ้โห…หวานขนาดไหน”

วิศว์หัวเราะแห้งๆ

“แกก็รู้ปัญหาของเรา”

“ก็จริงนะ พวกแกแต่งงานแบบรู้กันเองสองคน แบบไทยๆ พวกเรายังรับกันไม่ได้ ผู้ใหญ่ไม่มีใครรู้เลย รวมทั้งป้าแกด้วย”

“อืม…ป้าหัวโบราณสุดๆ บอกไปคงช็อก” คนพูดยังหัวเราะอีก

พูดถึง ‘ป้า’ โทรศัพท์มือถือก็ดัง

วิศว์บอกเพื่อน

“ป้าโทรมา…”

“ป้าแกกะเวลาถูกเลยว่า แกน่าจะถึงเมืองไทยแล้ว”

วิศว์รับสายป้าโสภา ลากเสียงหวาน

“สวัสดีครับ ป้าคนสวย”

เสียงทางนั้นกลับดูขุ่นๆ

“ไม่ต้องมาหวัดดง หวัดดีเลย หายไปยุโรปตั้งนาน นี่วันนี้จะกลับบ้านไหม ป้าจะได้เตรียมอาหารเย็นไว้ให้”

“วันนี้มีงานครับ ผมนอนคอนโด”

“งาน…เพิ่งกลับมานะเนี่ย”

“ครับ ก็ต้องด่าไอ้บรมมัน มันรับงานด่วนไว้ จะด่ามันไหมครับ ผมจะส่งสายให้คุย แต่มันขับรถอยู่”

“ไม่ต้อง…ไม่…ขับรถอย่าคุย แล้วแกจะกลับบ้านเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้ครับ เตรียมอาหารเย็นไว้เลย ขอส้มตำเผ็ดๆ นะครับ อยากกินหลายวันแล้ว เลี่ยนกับอาหารฝรั่งนาน”

“ได้เลย น้านงว่าจะทำอาหารอร่อยรอแก”

“บอกน้านงเลยครับ ผมมีของฝากให้น้าด้วย”

“จ้ะ…น้านงรอของฝากจนตัวเต้นแล้ว”

วิศว์หัวเราะ เห็นภาพ ‘ป้า’ กับ ‘น้า’ เด่นชัด

ป้าโสภาที่เลี้ยงดูมาเสมือนแม่ ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นหน้าป้าโสภาเป็นคนแรก

น้านงก็แม่บ้าน คนสนิทกับป้าโสภา อยู่ตั้งแต่เขาเด็กๆ ช่วยเลี้ยงดูตนจนไม่ใช่แม่บ้านรับใช้ กลายเป็นเสมือนญาติคนหนึ่ง ที่วิศว์ผูกพันและรักมาก

พอวางสาย เก็บโทรศัพท์มือถือ บรมก็พูดขึ้น

“ชีวิตแก ถึงไม่มีพ่อแม่ก็อบอุ่นนะ”

เพื่อนกลับเงียบกริบ แอบถอนใจยาว

ไม่มีพ่อแม่…

ชีวิตของเขาช่างแปลกและลึกลับ พ่อแม่ล่ะเป็นใคร ป้าโสภาไม่เคยปริปากบอก เขาเคยถามและจะเห็นความลำบากใจในการพูดตอบของป้าโสภา และแววตาบางอย่างที่เจ็บปวด ทำให้เขาไม่กล้าปริปากถามอีก

ถ้าต้องทำให้คนตอบต้องเจ็บปวด เขาไม่ทำแน่

คนตอบเป็นคนที่วิศว์รักที่สุดในโลก

ไม่จำเป็นเลย…พ่อแม่ เพราะเขาไม่ขาดความอบอุ่น เหมือนกับที่บรมพูดถูก ครอบครัวอบอุ่น แค่มีกันและกัน ไม่กี่คน

“แกก็เป็นอินทีเรียดีไซเนอร์ ทำไมแกไม่ออกแบบร้านเพชรร้านนี้เลยวะ” วิศว์ถามเพื่อน

“ก็แกมาแย่งงานนี้นี่หว่า” บรมพูดติดตลก

“กันชอบและถนัดออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือโลโก้มากกว่านะ”

“ใครใช้ให้แกออกแบบร้านเค้กที่สุขุมวิทออกมาเด่นสะดุดตาล่ะ”

“นั่นมันร้านเพื่อนที่ให้ช่วย และหลายปีแล้วทำสนุกๆ”

“นั่นละ…จุดเริ่มต้นทำให้ลูกค้าติดใจ และบอกต่อๆ แกเลยต้องทำงานนี้เพิ่ม” บรมพูดกลั้วหัวเราะ “ในฐานะหุ้นส่วนบริษัท กันพอใจกับจำนวนเงินกำไรที่เพิ่มขึ้นทุกปี…”

วิศว์พยักหน้า

“ไปพักผ่อนยุโรปคราวนี้ กันซื้อของตกแต่งกลับมาเยอะ ส่วนหนึ่งส่งทางเรือ และส่วนหนึ่งมาทางเครื่อง”

“เออ…เออ…เอาบิลไปให้แผนกบัญชี เบิกเต็มที่ บริษัทเราจ่ายทุกอย่าง รวมที่พักเรือนหอชั่วคราวของแกที่ยุโรปด้วย” บรมพูดกลั้วหัวเราะแซวเพื่อน

วิศว์ยักไหล่

“ไม่ค่อยตลกว่ะ”

“เอ้อ…ว่าแต่ว่าพอคุณปารีสกลับกรุงเทพ พวกแกจะพักกันที่ไหน”

“คุณปาเธอมีคอนโด ว่าจะไปอยู่ด้วยกันก่อน”

“บ้านป้าแกก็มีห้องว่าง”

“บอกแล้วไงว่ายังเป็นความลับ”

“ลืมว่ะ”

“แต่ต่อไปกันว่าจะหาซื้อบ้านไว้อยู่กับเธอ”

“แกจริงจังมากเลยนะ”

“กันมั่นใจ กันอยากอยู่กับเธอชั่วชีวิต”

“รวดเร็วเหลือเกิน ความรักของพวกแก”

“คุณปาก็พูดอย่างแกว่า แต่ถ้านับว่ารู้จักเธอตั้งแต่เด็กแล้ว ก็ถือว่ายาวนาน”

“เฮ้ย! ไม่นับสิวะ มันผ่านมานาน ใช่ว่าพวกแกติดต่อกันตลอดถึงจะถือว่านาน”

“แกไม่เข้าใจความรู้สึกหรอก รู้สึกที่บอกว่า…ใช่…เพราะแกยังไม่เจอความรัก แกมันคนบ้างาน”

บรมพยักหน้า

“ยอมรับว่าบ้างาน บ้าเงิน งานเยอะ ก็เงินเขามาเยอะ ในฐานะเจ้าของบริษัทร่วมกับแก แกมันไม่ค่อยคิดถึงรายได้เท่าไหร่ กันต้องดูแลพนักงานทั้งหมดนะโว้ย มีเงินจ่ายพนักงาน มีโบนัสให้ดีกว่าไม่มีโว้ย”

“บริษัทเราจะรอดได้เพราะแกละ”

“ไม่กล้ารับความชอบไว้คนเดียว แกก็ด้วย งานของแกมันดีว่ะ ลูกค้าเลยชื่นชอบ”

“พอ…พอ…อย่ามาชมกันเอง บริษัทรอดก็ดีแล้ว”

“รู้ไหมงานนี้ ลูกค้าไม่อั้นงบนะโว้ย เอาแบบแพงๆ ไว้ก่อน ลูกค้าใจกว้างและเงินถึงมาก”

“เจ้าของร้านเพชรก็คงรวยมาก มีทุนมาก ใกล้ถึงหรือยัง”

“ไม่เกินสิบห้านาที”

“งั้นกันงีบสักสิบนาที”

“ได้เลยเพื่อน ตามสบาย ถ้ารถติดก็อาจเกินยี่สิบนาที”

วิศว์หลับตาพักผ่อน เหมือนมีนาฬิกาปลุกในตัว ผ่านไปราวสิบนาทีเขาขยับตัวลืมตา เขาเป็นประเภทหลับง่าย สมองไม่คิดอะไรรุงรังมากและไม่ใช่คนคิดมากด้วย

ไม่นานนัก รถก็จอดในศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง บรมพาวิศว์ไปที่ร้านหนึ่งเป็นร้านเปล่า ค่อนข้างกว้าง รอบบริเวณนั้นมีร้านขายทองขายเพชรอยู่หลายร้าน โซนนี้เป็นโซนเกี่ยวกับอัญมณี

เจ้าของเก่าย้ายออกไปเพราะหมดสัญญา และเจ้าของใหม่เช่าต่อด้วยราคาสูงเพราะอยู่ในทำเลทอง

เจ้าของใหม่มารอที่ร้านแล้ว ร้านที่ว่างเปล่า ลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า บรมเดินเข้าไปทักทายยกมือไหว้

“สวัสดีครับ”

เจ้าของร้านเป็นชายกับหญิง หันมารับไหว้

“สวัสดีค่ะ” ผู้หญิงดูอายุมากกว่า แต่ยังแต่งตัวแพงหรูและใบหน้าก็ดูสวย ภูมิฐาน ทำให้เสมือนอ่อนกว่าวัย

ผู้ชายอายุน้อยกว่า การเเต่งกายก็แบรนด์เนมไม่แพ้ฝ่ายหญิง

“มารอนานไหมครับ”

“ไม่นานค่ะ เราไปหาอะไรกินกัน ระหว่างที่รอคุณ”

“ผมรับคุณวิศว์ที่สนามบิน แล้วรีบมาเลยครับ”

“ไม่เป็นไร ในศูนย์การค้านี้มีที่เดินเล่น ฉันรอได้ค่ะ”

บรมจึงแนะนำว่า

“คุณวิศว์ครับ ที่จะมาออกแบบร้านนี้ให้คุณ” และบอกกับวิศว์ว่า “นี่คุณรัศมี เจ้าของร้านเพชรรัศมี กับสามีเธอ คุณอุเทน”

คนฟังสะดุดกับชื่อ…

รัศมี…กับ…อุเทน

หลายวันมานี้ เขาคุ้นชินกับชื่อนี้เสมอ คนหนึ่งเจ้านายของปารีส อีกคนก็อดีตคนรัก ดูแล้วไม่แตกต่างหรือมีช่องว่างระหว่างวัยสำหรับคนทั้งสอง แม้จะห่างกันราวยี่สิบปี หากรู้แล้วว่าฝ่ายหญิงเป็นช้างเท้าหน้าแน่ๆ เสียงดังฟังชัด อีกคนยังเงียบ แม้จะยืนเคียงข้างเธอ ก็ดูเกรงอกเกรงใจและอ่อนน้อมสุภาพ

โลกกลมจริงๆ เหมือนเรากับปารีสที่วนเวียนมาเจอกัน

โลกถึงกว้างใหญ่ไพศาล แต่การพบกัน รู้จักกัน คือชะตาลิขิต ฟ้ากำหนดมาแล้ว

วิศว์นิ่งงัน

ไม่ได้ยินว่าคุณรัศมีพูดอะไรบ้าง ทั้งที่เธอพูดว่า

“ได้ยินชื่อเสียงคุณวิศว์มานาน เพื่อนแนะนำบริษัทคุณ และฉันได้เห็นผลงานแล้ว จึงอยากให้คุณมาช่วยออกแบบร้านเพชรที่นี่”

เงียบ…บรมใช้ข้อศอกสะกิดเพื่อน

“เฮ้ย…วิศว์”

“อือ…ครับ…ครับ”

“ช่วยเร่งงานหน่อยนะคะ จะให้คุณอุเทนมาคุมงานและดูแลโดยเฉพาะ อยากให้สวยที่สุด หรูที่สุด ดีที่สุดค่ะ”

คนพูดส่งสายตาหวานให้สามีหนุ่ม หล่อนหันไปพูดกับสามี

“ร้านนี้เป็นของขวัญให้คุณโดยเฉพาะนะคะ ในฐานะที่คุณเป็นคนน่ารักมาก ของขวัญแต่งงานที่แพงที่สุด”

“ขอบคุณครับ”

“นี่…สาขาแรกให้คุณ ถ้าคุณน่ารักแบบนี้ตลอดไป จะมีสาขาต่อๆ ไปอีก”

“ผมยังไงก็ได้ครับ” ตอบเหมือนไม่โลภ

“เสมอต้นเสมอปลายนะคะ คุณจะมีต่อไปไม่มีสิ้นสุด” เธอเน้น

“ผมเต็มที่กับงานอยู่แล้ว ผมชอบทำงาน คุณก็รู้”

“คุณจะได้เป็นเจ้าของเต็มตัวเลยนะคะ” เน้นแล้วเน้นอีก

“ผมไม่ได้คาดหวังจะเป็นเจ้าของ ขอให้ทำงานก็พอครับ งานที่ผมรักและตั้งใจ”

“อุเทน…น่ารักเสมอเลยนะ” สาวใหญ่เผลอยกมือลูบแก้มเขาต่อหน้าคนอื่น…

แสดงความรัก และ เอ็นดู!

 

 



Don`t copy text!