
ซ่อน…กลิ่นราตรี
โดย :
นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน
*************************
ที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งนี้ผมเคยมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนเรียนจบมหาวิทยาลัยใหม่ๆ แล้วกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ก็ได้ข่าวว่าเพื่อนที่เรียนสมัยมัธยมด้วยกันมันเกิดอุบัติเหตุและต้องมาผ่าตัดที่นี่ ในโรงพยาบาลแห่งนี้เรามีเพื่อนผู้หญิงสมัยเรียนด้วยกันเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่หลายคน ทำให้งานป่วยของไอ้เพื่อนคนนี้ในคราวนั้นกลายเป็นงานเลี้ยงพบปะย่อยย่อยในหมู่เพื่อนฝูง หลังจากที่พวกเราไม่ได้เจอกันนาน …และราตรี เธอก็เป็นเพื่อนหญิงคนหนึ่งในกลุ่มสาวพยาบาลเหล่านั้น
ราตรี หญิงสาวร่างเล็กไว้ผมยาวหน้าม้า ดวงตากลมโตแบบตุ๊กตาญี่ปุ่น เพื่อนพยาบาลสาวสวยคนนี้ในสมัยอดีตที่เราเรียนมัธยมด้วยกัน เรามักจะถูกเพื่อนล้อให้เป็นแฟนกันออกบ่อยเพราะชื่อของเราสองคนนั้นคล้ายคลึงกัน ผมมีชื่อว่าชาตรี ชื่อราตรีกับชาตรีเมื่อถูกล้อนานเข้าก็ทำให้เราได้เป็นแฟนกันจริงขึ้นมา
ราตรีเป็นคนต่างอำเภอที่ต้องเดินทางไกลมาโรงเรียนเกือบ 20 กิโลเมตรด้วยการนั่งมอเตอร์ไซค์มากับเพื่อนห้องเดียวกันอีกคนชื่อสมศักดิ์ ลูกชายกำนันที่อยู่บ้านติดกันกับเธอ สมศักดิ์ตามจีบและอาสาตามส่งราตรีอยู่หลายปี แต่ราตรีเธอกลับไม่ชอบสมศักดิ์ เธอบอกว่าเห็นสมศักดิ์เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กเล็ก แก้ผ้าว่ายน้ำและเล่นมาด้วยกัน แล้วจะมารักชอบกันได้อย่างไร?
ความรักของผมกับราตรีก็เหมือนกับทุกความรักทั่วไปในวัยเรียนที่ยังหาบทสรุปจริงจังกันได้ยาก เพราะเราต่างก็ไม่รู้เลยว่าเราจะไปสอบติดมหาวิทยาลัยกันที่ไหน จนมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องจากกันเร็วกว่ากำหนด เพราะผมสอบเทียบ ม.ศ. 5 ได้ก่อน จึงลาออกจากโรงเรียนเข้ามาเรียนกวดวิชาที่กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็สอบเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ห่างไกลกันมากขนาดนั้นจึงทำให้เราไม่ได้เจอกันอีกเลย …ทิ้งไว้แต่ความรักที่ค้างคาไว้อย่างนั้น
เพื่อนที่ประสบอุบัติเหตุในครั้งนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือเจ้าสมศักดิ์นั่นเอง มันขับมอเตอร์ไซค์ชนกับรถกระบะ กระดูกซี่โครงหักต้องนอนรักษาที่โรงพยาบาลอยู่เป็นเดือนๆ มันก็เลยกลับมาตามจีบราตรีต่อ จนสุดท้ายยายราตรีใจอ่อนและยอมแต่งงานกับมันจนได้
ผมได้รับการ์ดเชิญจากราตรีเธออยากให้ผมมางานแต่งงานเธอให้ได้ แต่น่าเสียดายที่วันแต่งงานของเธอ ผมประสบอุบัติเหตุรถคว่ำตอนทำงานอยู่ที่ลำปาง และนั่นคือเรื่องราวในอดีตระหว่างผมกับเธอ
วันนี้กว่าผมจะมาถึงโรงพยาบาลก็จวนจะบ่าย 3 แล้ว หมอนัดรักษาตาข้างขวาด้วยการยิงเลเซอร์ตอน 4 โมงเย็น กลุ่มเพื่อนพยาบาลกลุ่มเดิมไม่รู้หายไปไหนกันหมด มียายหมอก้อยที่เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมากินตำแหน่งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอยู่ที่นี่เมื่อตอนต้นปี ผมเลยได้อาศัยบารมีของเพื่อนมานอนที่ห้องรับรองผู้ป่วย (แขกพิเศษ) เพราะห้องพิเศษธรรมดาเต็ม ส่วนยายหมอก้อยติดประชุมที่กระทรวงกว่าจะกลับมาก็อาทิตย์หน้านั่นแหละ
หลังจากผมโดนยิงเลเซอร์รักษาตาข้างขวาจนเสร็จ ตาผมเจ็บระบมมาก กว่าจะรักษาเสร็จเสร็จก็จวนมืดมากแล้ว ผมมาฟื้นสะลึมสะลือที่ห้องรับรองผู้ป่วยที่อยู่ชั้นล่างของตึกโสตอันเก่าแก่ของโรงพยาบาล และเมื่อลืมตาขึ้นมาผมก็เจอราตรีเธอยืนส่งรอยยิ้มอยู่ที่ปลายเตียง
“ วันนี้โชคดีจัง ฟื้นขึ้นมาก็เจอหน้าแฟนเก่าเอาเลย สบายดีไหมครับราตรี”
“ นี่ชาตรี ขอบใจที่ยังจำกันได้ ยังไม่ทิ้งนิสัยสายตาเจ้าชู้เหมือนเดิมนะ” ราตรีเธอดูยังสาวและสวยพริ้งอยู่เลย แม้ว่าเราจะไม่ได้เจอกันนับสิบปี กาลเวลาทำอะไรเธอไม่ได้จริงๆ
“แล้วพวกเพื่อนพยาบาลเราหายไปไหนกันหมดล่ะจ๊ะ”
“ อาชีพพยาบาลพอทำไปนานๆ สักพักก็จะเบื่อ และด้วยงานที่ค่อนข้างหนักจึงทำให้เพื่อนๆ พากันลาออกไปทำอาชีพอื่นกันหมด เหลือแต่เราที่ไม่มีทางไปอยู่คนเดียว” พูดจบเธอก็ทำหน้าเศร้า ทิ้งสายตาออกไปทางหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย
ผมได้ข่าวว่าราตรีเลิกกับสมศักดิ์มานานแล้ว ทั้งสองไม่มีลูกด้วยกัน ราตรีเธอป่วยจนต้องตัดมดลูกทิ้งหลังจากแต่งงานกับสมศักดิ์ได้ไม่กี่ปี ชีวิตครอบครัวที่ไม่มีลูกคอยเป็นโซ่คล้องใจทำให้ความรักดูจะไม่สมบูรณ์นักแม้สมศักดิ์จะรักเธอมากเพียงใด
จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่ราตรีจับได้ว่าสมศักดิ์แอบไปมีลูกกับเมียน้อย ทั้งสองก็ได้หย่าขาดกัน สมศักดิ์ทิ้งเธอไว้กับอาชีพพยาบาลที่เธอบอกว่าไม่มีทางไป
“อย่าคิดมากนะ อาชีพรับราชการจะลำบากในช่วงแรก แต่พอเกษียณก็ได้กินบำนาญ อยู่บ้านเฉยๆ ให้หลวงเลี้ยงสบายจนตาย” ผมพูดตลกปลอบใจเธอ เห็นเธอยิ้มกลับมาทำให้บรรยากาศการพูดคุยดูดีขึ้น
“เราก็ได้ข่าวเธอมาเปิดบริษัทที่หัวหินหลายปีแล้วนะ เคยคิดจะไปเยี่ยมเหมือนกันแต่งานโรงพยาบาลนับวันคนไข้จะมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐด้วยแล้ว แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย”
เราคุยกันได้สักพักใหญ่ ข้างนอกห้องดูจะมืดมากแล้วราตรีจึงขอตัวกลับ เธอบอกว่าเธอพักอยู่บ้านพักพยาบาลของโรงพยาบาลที่อยู่ด้านหลังของห้องรับรองผู้ป่วยที่ผมอยู่ เธอชี้ให้ดูบ้านพักทางช่องหน้าต่างที่ห้อง ผมเห็นไฟในโรงรถเปิดอยู่ไกลลิบตา ห่างไปประมาณ 150 เมตรได้
“พรุ่งนี้เลิกงานคลินิกพิเศษประมาณ 2 ทุ่ม เราจะแวะมาเยี่ยมเธอใหม่นะ”
“2 ทุ่มเขาไม่ให้เยี่ยมแล้วครับ คุณพยาบาล”
“อย่าลืมว่าคุยกับคุณพยาบาลเจ้าถิ่นอยู่นะ”
พูดจบราตรีเธอก็ยิ้มให้แบบมีเลศนัย ทำเอาหัวใจของผมรู้สึกหวั่นไหวตาม ก่อนที่เธอจะเปิดประตูหลังห้องกลับบ้านพักที่อยู่ใกล้กันทางด้านหลังห้อง โดยไม่ต้องเดินผ่านเคาน์เตอร์พยาบาลเวรที่อยู่หน้าห้องผม
วันรุ่งขึ้นหมอให้ผมนอนหลับตาทั้งวันเพื่อไม่ให้ตาโดนแสงสว่างเพราะจะทำให้ตาอักเสบ กว่าจะรู้ว่ามืดค่ำก็เมื่อเห็นราตรีเธอเดินเข้ามาเยี่ยมตอน 2 ทุ่มตรงตามเวลาที่นัดไว้ คุยกันได้นิดหน่อยก็ปาไป 3 ทุ่มครึ่ง เธอก็ขอตัวกลับ ตอนนี้เธอมาหาผมด้วยการเข้าออกประตูด้านหลังของห้องรับรองทำให้ไม่มีใครรู้แม้แต่พยาบาลเวรหน้าห้อง จนเราเริ่มสนิทกันใหม่อีกครั้ง อย่างนี้หรือเปล่านะที่เขาว่า ‘ถ่านไฟเก่าคุกรุ่น’
วันนี้เป็นวันที่ผมต้องเข้าห้องผ่าตัดเพื่อรักษาตาข้างซ้าย คุณหมอเริ่มผ่าตัดตั้งแต่บ่ายสองกว่าเสร็จก็เกือบเย็น ผมถูกเวรเปลเข็นกลับมานอนที่ห้องรับรองเหมือนเคย และเมื่อมาถึงห้องผมเจ็บแผลบริเวณที่ผ่าตัดมากเพราะฤทธิ์ยาชาที่เริ่มหมดลง ผมจึงกินยาแก้ปวดแล้วก็นอนหลับไป
ผมมาตื่นตอน 2 ทุ่มกว่า ลืมตาขึ้นมาก็เห็นแจกันข้างเตียงนอนถูกปักด้วยดอกไม้ช่อใหญ่สีขาว กลิ่นที่หอมแรงของมันทำเอาผมสะดุ้งตื่น แลเห็นราตรีเธอนั่งอยู่ข้างเตียงใกล้ๆ ผม เธอมานานเมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
“ดอกซ่อนกลิ่นค่ะ คนโบราณเรียกว่าดอกซ่อนชู้ เขาพูดเปรียบเปรยผู้หญิงที่มีใจรักต่อผู้ชายแต่กลับเก็บซ่อนความรู้สึกตัวเองไว้ไม่กล้าบอก” เมื่อราตรีเธอพูดจบ หน้าเธอก็แดงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าไฟในห้องจะค่อนข้างมืดเพราะมีแค่ไฟหัวเตียงเปิดอยู่ดวงเดียวก็ตาม
ผมเห็นดอกซ่อนกลิ่นในแจกันมันทำให้ผมคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ในวันที่พวกเรานัดมาเยี่ยมสมศักดิ์ที่เกิดอุบัติเหตุจนมีงานเลี้ยงย่อยย่อยกันต่อในโรงพยาบาลคราวนั้น และในงานเลี้ยงค่ำคืนนั้น
ราตรีเธอดีใจมากที่ได้เจอผมอีก เราได้นั่งคุยความหลังด้วยกันเพียงลำพังสองคนเกือบทั้งคืน
รุ่งเช้าผมแวะมาบอกลาเพื่อนที่โรงพยาบาลก่อนจะกลับไปทำงานที่ลำปาง เจอราตรีอยู่คนเดียว เธอส่งช่อดอกไม้เจ้าซ่อนกลิ่นนี้ให้ผมช่อใหญ่และบอกว่ามันเป็นดอกไม้จากเพื่อนเพื่อรำลึกถึงกัน ตอนนั้นผมไม่ฉุกคิดเพราะไม่เข้าใจในความหมายของมันเลย และถ้าเธอไม่บอกผมในวันนี้ผมก็คงยังไม่รู้ความในในเธอไปอีกนานแสนนาน แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ปล่อยให้ความรักของเราต้องอาภัพอีกครั้งเหมือนกับความอาภัพของดอกซ่อนกลิ่นที่มีช่อดอกทั้งสวยงามและมีกลิ่นหอมมากแต่กลับเป็นไปได้แค่ดอกไม้จัดประดับในงานวาระสุดท้ายของชีวิต
สายตาของเราสอดประสานต่อกันอยู่นานโดยไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา และเราก็ยังคงปล่อยให้แววตาในสายตาได้พรรณนาถึงความรักในใจที่อัดอั้นกันต่อ จนหัวใจผมทนไม่ไหวมันสั่งให้ผมคว้าเธอเข้ามากอด เธอซบหน้าลงในอกด้านซ้ายของผม และแล้วมือของผมก็สัมผัสเอาความรักมาลูบไล้เส้นผมอันยาวสะรวยของเธอ เราฟังเสียงหัวใจของเราทั้งสองกระซิบพูดคุยต่อกันอยู่นาน จนกระทั่งน้ำตาของราตรีเธอไหลรินออกมารดหัวใจของผมจนผมรู้สึกได้ และก่อนที่หัวใจผมจะสั่งให้ผมทำอะไรลงไป โทรศัพท์บนโต๊ะรับแขกก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
พอรู้ว่าเป็นโทรศัพท์จากพยาบาลหน้าห้องจะเข้ามาตรวจดูแผลผ่าตัด ราตรีก็เดินไปยังประตูห้องด้านหลัง เธอมองกลับมาที่ผมอีกครั้งด้วยสายตาที่ทำเอาผมไม่เข้าใจ แต่ยังแลเห็นคราบน้ำตาเต็มทั้งสองแก้มก่อนที่เธอจะเอามือปาดน้ำตาที่ไหลแล้วหันหลังเดินลับหายไปยังบ้านพักของเธอที่แลเห็นอยู่ไกลๆ
“ขออนุญาตตรวจแผลผ่าตัดหน่อยนะคะ” เสียงจากโทรศัพท์ของพยาบาลหน้าห้อง
สักพักพยาบาลก็เข้ามาตรวจแผล ผมอยากให้พวกเธอรีบตรวจผมให้เสร็จโดยเร็วไวเพราะใจผมตอนนี้มันร้อนรนจะตามราตรีเธอไปจนทนจะไม่ไหวแล้ว และเมื่อพยาบาลตรวจเสร็จ ผมก็รีบเปิดประตูหลังห้องและตามออกไปทันที ในใจคิดอยากจะไปหาเธอที่บ้านพัก ตลอดทางไปบ้านพักผมแลเห็นว่ามันมีเจ้าต้นซ่อนกลิ่นขึ้นเต็มสองข้างทางไปหมด ราตรีเธอคงปลูกมันไว้ด้วยความคิดถึงผมและคงรอวันที่ผมกลับมารับรู้ความในใจของเธออีกครั้ง ด้วยความรักที่เข้าใจและชื่นชมพวกมันไปด้วยกัน มิน่าล่ะเมื่อผมนอนอยู่ในห้องจึงได้กลิ่นหอมของมันโชยเข้ามาในห้องทุกค่ำคืน
บรรยากาศระหว่างทางไปบ้านพักของราตรีดูมืดมาก ด้วยดวงตาที่เพิ่งผ่าตัดเสร็จทำให้ผมแทบมองไม่เห็นทางเดินไปข้างหน้าเอาเสียเลย ผมจึงหันหลังกลับเข้ามานอนที่ห้องพัก ตาผมหลับแต่ใจผมกลับตื่นคิดถึงเธอตลอดทั้งคืนกว่าจะหลับตาลงได้ก็เกือบจะรุ่งสาง
เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาก็สายมากแล้ว ทานข้าวเช้าเสร็จก็ได้แต่นอนเซ็งอยู่บนเตียงทั้งวัน เพื่อรอเจอราตรีอีกครั้งตอน 2 ทุ่ม ผมเตรียมเรื่องที่จะพูดกับเธอไว้มากมายจนมันล้นออกมาจากหัวใจ ใจมันร้อนรนจนคิดอยากจะโทร.ไปหาเธอที่ทำงานในตอนนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าราตรีเธออยู่สายงานไหนในโรงพยาบาล เมื่อถามหาพยาบาลที่ตึกก็ไม่มีใครรู้จักเธอเลย คงจะเป็นเพราะที่โรงพยาบาลแห่งนี้มีพยาบาลอยู่นับร้อยคนในหลายสายงาน ผมนอนกระสับกระส่ายและลุกเดินไปเดินมาในห้องทั้งวันเพื่อรอจนดวงอาทิตย์ตกดิน
สองทุ่มตรง ถึงเวลาที่เธอต้องมาแล้ว ผมจ้องมองไปที่บานประตูด้านหลังและภาวนาให้มันถูกเปิดออกโดยเร็วไว ผมรออยู่นานก็ไม่เห็นมีวี่แววของเธอเลย สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้นมา มันคงเป็นโทรศัพท์ที่เธอโทร.หาเพราะเธออาจติดธุระจึงมาสาย แต่เมื่อผมรับสายก็ไม่มีเสียงจากต้นสายพูดออกมาเลย เป็นอย่างนี้ถึง 3 ครั้งมันทำให้ผมหงุดหงิด จนกระทั่งโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมา
“ฮัลโหล ราตรีหรือครับ”
“หมอก้อยจ้ะชาตรี เป็นไงบ้าง ผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยดีไหม?”
“อ๋อ หมอก้อยรึ ขอบคุณที่อุตส่าห์เป็นห่วงนะ กว่าจะโทรมาหากันได้ก็เอาจนวันสุดท้ายที่เราจะออกจากโรงพยาบาลนี่นะ”
“ที่กระทรวงมีประชุมทั้งวัน หลวงเขาใช้งานเราคุ้มจริงๆ เอ๊ะ… เมื่อตะกี้เราได้ยินเธอพูดถึงชื่อราตรีเมื่อตอนรับสาย ราตรีนี่ใครกัน คงเป็นแฟนใหม่อีกล่ะซี โรคเจ้าชู้นี่มันรักษาไม่หายจริงๆ นะ”
“เอ้า ก็ราตรีเพื่อนเราที่เรียนด้วยกันตอนมัธยมและเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่ไง นี่ท่าน ผอ. ท่าจะงานยุ่งมากจนลืมลูกน้องตัวเอง”
“นี่พ่อชาตรี ราตรีที่เธอว่าน่ะ เขาตายไปได้ 2 ปีแล้วนะ สงสัยคุณหมอจะวางยาสลบตอนผ่าตัดเธอมากเกินไปหรือเปล่าถึงได้เมายาจนมีอาการเพี้ยน ราตรีเธอน่าสงสารมากนะก่อนที่ราตรีเธอจะจากไป เธอเลิกกับสมศักดิ์และต้องทนอยู่อย่างเดียวดายคนเดียวจนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอยู่หลายปี วันทั้งวันเธอไม่ทำอะไรเอาแต่ปลูกเจ้าต้นซ่อนกลิ่นไปทั่วพื้นที่ด้านหลังของโรงพยาบาลเต็มไปหมด จนถึงวาระสุดท้ายที่เธอตัดสินใจกินยาฆ่าตัวตายเพื่อจบชีวิตอันแสนเศร้าที่บ้านพักของเธอในโรงพยาบาล
เราคิดว่าจิตใต้สำนึกของเธอยังคงสงสารและคิดถึงเธอที่เคยเป็นแฟนเก่ากันอยู่ เธอจึงละเมอออกมาเป็นตุเป็นตะตอนเมายาสลบ ไม่เอาน่า พักผ่อนให้มากเดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปเยี่ยม”
และเมื่อยายหมอก้อยวางสายโทรศัพท์ลง ผมมีความรู้สึกเหมือนถูกปล่อยให้โดดเดี่ยวอยู่ตามลำพังในห้องอันกว้างใหญ่ ใจมันสับสนและมึนงงไปกับเหตุการณ์ในหลายหลายคืนที่ผ่านมา จะว่าผมเกิดอาการเมายาสลบอย่างที่หมอก้อยพูดก็ไม่น่าจะเป็นไปได้
ลมพัดเอากลิ่นของดอกซ่อนกลิ่นโชยมา กลิ่นนั้นมันมาจากเจ้าดอกซ่อนกลิ่นในแจกันเมื่อวานที่ราตรีเธอจัดไว้ให้ผมมันยังคงวางอยู่ที่เดิม และนี่คงเป็นหลักฐานที่แสดงว่าราตรีเธอมาหาผมจริงจริง และเมื่อผมมองผ่านแจกันไปยังหน้าต่างบานเกล็ดลอดไปยังบ้านพักพยาบาลหลังที่ราตรีเคยชี้ให้ผมดู
ผมก็มองเห็นไฟในโรงรถข้างบ้านพักของเธอ มันยังคงถูกเปิดไฟส่องแสงสว่างไสวเหมือนทุกวัน
แต่สักพักเจ้าดวงไฟมันกลับกะพริบอยู่ 3 ครั้ง แล้วไฟในโรงรถก็ดับสนิทลง หลังจากนั้นภาพทั้งหมดที่เป็นเงาสลัวและแลเห็นทางหน้าต่างก็อันตรธานหายไปหมด ราวกับว่าที่แห่งนั้นมันไม่เคยมีบ้านพักสร้างไว้อยู่ตรงนั้นมาก่อนเลย!
– นิราตรี –
- READ คนละระดับ
- READ รุ้งกินน้ำ
- READ บุรุษเสี่ยงธูป
- READ นกแสกแห่งปี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
- READ บ้านฝั่งธน
- READ โลกสองใบของคนแปลกหน้า
- READ พร้าว
- READ อัสสุนีบาป
- READ ทองเผือกสีจุมออน
- READ ราวด์วอร์ด
- READ ชายร้อยคน
- READ เรือลำใหญ่ที่ไม่สิ้นฝัน
- READ ข้อความถึงความว่างเปล่า
- READ ม่านนาคราช
- READ เพื่อนแปลกหน้าห้อง 808
- READ ซี่กรงเหล็กดัดกับกล้องส่องทางไกล
- READ กอดรัก
- READ สูงเสียดฟ้าภูผาแห่งใจ
- READ ลิขิตรักข้ามภพ
- READ ไดอารี่พลิกล็อก
- READ ทำนองในความทรงจำ
- READ หลังไอรินจากไป
- READ คำมั่น ผูกพัน สัญญา
- READ นานกว่าเคย
- READ ในคืนที่ฉันไม่มีเธอ
- READ เสียงเรียกจากแดนไกล
- READ นักเวทย์คนต่อไป
- READ หน้ากากคน
- READ คนลืมกับคนจำ
- READ คนหัวกลับ
- READ เรือลำใหญ่ที่ไร้ฝั่งฝัน
- READ ภิกษุฆาต
- READ กามเทพ…ร้าย
- READ กลิ่นสาป
- READ ฟั่นเฟือน...เพื่อนรัก
- READ ผู้แทนตัวจริง
- READ มนตร์ (วิเศษ) เพียงหนึ่งคำ
- READ ไม่มีโอกาสสำหรับวันพรุ่งนี้
- READ บอกลาครั้งสุดท้าย
- READ Final destiny สถานีสุดท้าย คงใช่รัก
- READ เริ่มต้นที่อำเภอ ลงท้ายที่อำเภอ
- READ ใจอันว่างเปล่าที่รอเขามาเติมเต็ม
- READ เธอฤดูหนาว ผมฤดูฝน
- READ น้ำฝน กะ อาทิตย์
- READ เราจะเจอกันอีกครั้ง
- READ แอบรัก
- READ ถนนสายสุดท้าย... ที่ดาวตก
- READ นี่นะหรือ…เช้าวันจันทร์
- READ ภาพถ่ายสีดำที่เก็บไว้
- READ Card
- READ หรือว่ามันช้าไป?
- READ เนินนิรันดร์
- READ อนธการ
- READ บนทางที่พร่าเลือน
- READ รอยร้าว
- READ กระจกเงา
- READ อยากรู้จักรัก
- READ ยินดี
- READ รักนะ... ในความทรงจำ
- READ กลางแดดหนาว
- READ รักนำพา
- READ รักบันดาล
- READ รักลิขิต
- READ สายน้ำที่ไม่หวนคืน
- READ คุยกันวันรถติด
- READ สูงเนินสถานีที่รัก
- READ ทางสัญจร
- READ ลางกระดิ่งลม
- READ หมอฟันนางฟ้า
- READ สยามเมืองยิ้ม
- READ ลูกหลง
- READ งานแต่งงาน
- READ TH85
- READ เฟื่องฟ้าและบึงใหญ่
- READ กลับบ้าน
- READ With love…ด้วยรัก
- READ Thinking of เพราะคิด (ถึง)
- READ ให้เจ็บจนเจียนตาย
- READ ประกายเล็กๆ ของแก้วชามินต์
- READ ลูกที่ถูกทิ้ง
- READ แด่อัลมอนด์ในสายลมอุ่น
- READ บ้านสีขาวกับใบไม้เปลี่ยนสี
- READ รักโดยบังเอิญ
- READ Dreamcatcher ฝันหลอน
- READ ซ่อน...กลิ่นราตรี
- READ เมื่อฟ้าพร่างฝน
- READ พี่ชายที่แสนดี
- READ กลับบ้าน
- READ ฝันที่เปลี่ยน
- READ กราบสุดท้าย
- READ นิศาชล
- READ เสียงเพรียก....จากถ้ำผีแมน