
เรือลำใหญ่ที่ไม่สิ้นฝัน
โดย :
นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน
*************************

ทันทีที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลังจากดูชื่อที่ขึ้นหราบอกชัดเจนว่าเป็นใคร สินีก็รีบรับสายทันที
“สวัสดีค่ะ อาไหมว่าไงคะ”
สินีฟังการบรรยายถึงธุระของเจ้าของสายอยู่พักหนึ่งจึงได้ตอบกลับไปว่า
“เหรอคะ ไม่มีทางอื่นแล้วใช่มั้ยคะ นี่สินีต้องไปอยู่ที่นั่นอย่างเดียวเลยใช่มั้ยคะ”
สินีฟังปลายสายพูดอยู่ครู่หนึ่ง จึงวางสายลงพร้อมกับเปิดประตูระเบียงของคอนโดฯ ออกไปรับลมชมบรรยากาศยามกลางคืนของเมืองกรุง ที่เธอใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมาตลอดในระยะเวลาเกือบสิบปีที่ได้ใช้ชีวิตตามลำพังในเมืองใหญ่แห่งนี้ นับตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยและทำงานต่ออีกสี่ปี จนเธอเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับการเป็นสาวชาวกรุงที่เธอเกือบจะลุ่มหลงเสน่ห์ของความเป็นเดิมๆ การใช้ชีวิตเดิมๆ งานเดิมๆ สิ่งแวดล้อมเดิมๆ เพื่อนร่วมงานเดิมๆ หรือเธออาจจะโชคดีที่การใช้ชีวิตในที่ทำงานและเพื่อนร่วมงานที่ปกติสุขดีไม่มีปัญหาอะไร ทำให้การที่ต้องรู้ตัวว่าเธอมีเวลาอีกหนึ่งเดือนที่จะต้องเตรียมตัวลาออกจากที่ทำงานเพื่อไปทำภารกิจสำคัญที่เพิ่งได้รับการขอร้องจากอาไหมของเธอ ความจริงจะเรียกว่าเป็นการขอร้องก็ไม่เชิงเสียทีเดียว ควรจะเรียกว่าเป็นการบอกกล่าวให้รับรู้และเตรียมตัวไว้ต่างหาก ทำยังไงได้ล่ะ อาไหมกับอาเดียวของเธออยากไม่มีลูกกันทำไมล่ะ ภาระต่างๆ ก็เลยตกมาอยู่ที่เธอไงล่ะยัยสินีเอ๊ย ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นความโชคดีหรือไม่กันแน่นะ แล้วที่สำคัญจะบอกเหตุผลการลาออกกับที่ทำงานว่าอย่างไรนี่สิ คือเรื่องที่ควรหนักใจมากกว่า
“อะไรนะ เธอต้องไปดูแลกิจการรีสอร์ตที่เกาะสมุยของอาไหมเพราะแม่ของอาเดียวชราภาพและทั้งอาไหมและอาเดียวก็ต้องไปดูแลท่านน่ะเหรอ”
จอยเพื่อนสมัยเรียนและเพื่อนร่วมงานของสินีพูดอย่างตกใจเมื่อได้รับฟังการบอกเล่าของเพื่อน
“อืม”
สินีรับคำแค่สั้นๆ เท่านั้นเอง และหันไปให้ความสนใจกับงานที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
“หูย แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ”
เพื่อนของสินีทำท่าเหมือนเซ็งกะตายขึ้นมาทันที
“ทำยังไง เธอก็ทำงานของเธอไปสิ ฉันเป็นคนต้องไปอยู่ที่นู่น ไม่ใช่เธอ”
สินีรู้อยู่แล้วว่าจอยต้องตั้งแง่และแย้งกับการที่เธอต้องไปจากที่นี่ เพราะเท่ากับเป็นการทิ้งให้ จอยต้องอยู่คนเดียว ถึงแม้ว่าจอยเองจะมีแฟนไปแล้วก็ตาม แต่ความผูกพัน ความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเธอสองคนนั้นผูกพันกันมาก ยิ่งเป็นจอยด้วยแล้วทั้งรักและติดสินีมาก เพราะสินีในความรู้สึกของจอยเป็นยิ่งกว่าเพื่อนรัก ตลอดระยะเวลาจอยต้องอาศัยความเป็นผู้ใหญ่และภาวะการเป็นผู้นำของสินีในทุกด้าน เพราะจะว่าไปแล้วถ้าไม่นับเรื่องอายุที่เท่ากันของคนทั้งคู่ ดูเหมือนสินีจะโตเป็นผู้ใหญ่กว่าจอยมากในด้านความคิดและการตัดสินใจ
“ก็รู้ แต่หมายถึงฉันก็เหงาแย่สิ และใครจะช่วยฉันเรื่องงานล่ะ เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้เก่งเหมือนเธออะ แล้วนี่เธอจะบอกกับหัวหน้าว่ายังไงเหรอ”
สินีหยุดนิ่ง และหันมาทางเพื่อนแล้วถอนหายใจเบาๆ พลางเอนตัวไปพิงเหยียดยาวกับเก้าอี้ทำงานโดยไม่มีคำตอบให้กับเพื่อนรัก
สินีเดินลากกระเป๋าขึ้นไปบนเรือลำใหญ่ที่บรรจุคนได้เกือบครึ่งพันคน พร้อมด้วยรถราอีกเกือบครึ่งร้อยคัน เห็นความใหญ่โตของเรือแล้วทำให้เธออดคิดถึงชีวิตสาวออฟฟิศขึ้นมาไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการที่อาเดียวของเธอไม่ใช่ลูกคนเดียวและต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกในบั้นปลายชีวิตสุดท้ายของแม่ของอาเดียวด้วยแล้ว เธอเองคงไม่ต้องทิ้งชีวิตที่กำลังสนุกกับการทำงาน และหน้าที่การงานก็กำลังจะไปได้สวยแบบนี้หรอก จะว่าไปแล้วสินีเองก็นับถือและชื่นชมการที่อาเดียวตัดสินใจกลับไปทำหน้าที่ของลูกที่ดีและพึงกระทำ แทนที่จะใช้เงินจ้างพยาบาลหรือคนดูแลมาดูแลปรนนิบัติแม่ของเขากี่คนก็ได้ เพราะด้วยฐานะของเขา แต่อาเดียวเลือกที่จะทำให้แม่ของเขารู้สึกอบอุ่นที่สุดในชีวิตสุดท้ายของบั้นปลาย และในฐานะคู่ชีวิตอย่างอาไหมก็ต้องตามสามีไปอยู่ดูแลด้วยเป็นสิ่งที่ควรทำแล้ว
ทันทีที่ถึงที่หมายทำให้สินีเริ่มรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ สถานที่ที่เธอจากไปเป็นระยะเวลาถึงสี่ปีเต็ม รีสอร์ตของอาเดียวพัฒนาและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวขึ้นมากทั้งคนไทยเองและคนต่างชาติ
“ขอต้อนรับเจ้าของคนใหม่ของปะไหมสินีรีสอร์ตจ้า คนสวย”
เสียงหวานๆ ของอาไหมของเธอที่กล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการทันทีที่เรือถึงอีกฝั่ง ทำให้สินีรีบวิ่งเข้าไปกอดอาสาวด้วยความคิดถึง พร้อมด้วยอาเขยที่เอามือมาเขย่าศีรษะเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“ไม่ได้อยากเป็นซะหน่อย ถูกมัดมือชกต่างหาก”
สินีพูดออกไปด้วยความรู้สึกในส่วนลึกที่แท้จริง
“อ้าว เดี๋ยวก็มอบให้เป็นสาธารณประโยชน์ซะเลย ถ้าไม่มีใครอยากได้”
อาไหมทำท่าเอาจริง
“ดีเลยค่ะ ไม่เสียดายจริงๆ เลยค่ะ สาบาน”
สินีก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ก่อนที่จะมีกรรมการอย่างอาเดียวมาห้ามทัพและชวนกันขึ้นรถเพื่อไปยังที่พัก
ทั้งอาไหมและอาเดียวอยู่สอนงานและแนะแนวทางให้ไม่ถึงสัปดาห์ก็ไปกันทันที โดยทั้งคู่บอกย้ำว่าหน้าที่และบทบาทของสินีไม่ใช่เป็นเด็กฝึกงานเหมือนเมื่อครั้งก่อน แต่เธอมาอยู่ในฐานะเจ้าของคนใหม่ เพราะการที่ทั้งคู่ตัดสินใจทิ้งกิจการนี้เพื่อไปดูแลแม่ของอาเดียวที่แก่ชรานี้ ไม่มีกำหนดว่าจะถึงเมื่อไหร่ และดีไม่ดีเมื่อหมดหน้าที่ของความเป็นลูกแล้ว ถึงเวลานั้นพวกเขาอาจเบื่อที่จะกลับมาบริหารจัดการเสียแล้วก็ได้
สินีใช้ชีวิตในการเรียนรู้การบริหารรีสอร์ตอย่างจริงจังและเริ่มรู้สึกสนุกกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้เสียแล้วจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กอายุ 26 อย่างเธอจะกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจอย่างเต็มตัวเสียแล้วในวัยแค่นี้ ในระหว่างที่สินีกำลังออกเดินเล่นเที่ยวชมชายหาดในยามอาทิตย์อัสดงที่ให้บรรยากาศแห่งการพักผ่อนอย่างที่ซื้อหาไม่ได้ แล้วพลันก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาเธออย่างคนคุ้นเคย
“สินี สินีใช่มั้ยนี่”
สินียิ้มให้และกำลังใช้ความคิดว่าบุคคลที่มาทักเธออยู่นี่เป็นเพื่อนสมัยไหน แต่เหมือนจะติดอยู่ที่ปลายปากเพียงแต่ยังนึกไม่ออกในทันที
“จำเราไม่ได้เหรอ เราไก่ไง”
หญิงสาววัยรุ่นราวคราวเดียวกับเธอแนะนำชื่อตัวเอง เพื่อให้เพื่อนสาวได้นึกออก
“อ๋อไก่ นี่เราจำไม่ได้เลย ไก่ดูดีขึ้นมากเลยอะ ขอโทษด้วยเราจำแทบไม่ได้”
สินีลืมเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้นไปเสียสนิท ไก่เพื่อนของเธอคนนี้ย้ายตามพ่อซึ่งเป็นข้าราชการที่ต้องมาอยู่ที่ต่างจังหวัด ไก่เป็นเพื่อนที่ย้ายมาเรียนกลางเทอมและสนิทกับสินีมากที่สุด เพราะสินีเป็นหัวหน้าห้องและเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนๆ ทุกคน
“บังเอิญจริงๆ ที่เราได้เจอกันอีกครั้ง เราดีใจมากเลยรู้ไหม ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอสินีที่นี่ แล้วนี่มาเที่ยวเหรอ เราก็มาเที่ยว พาหลานมาเที่ยว แกสุขภาพไม่ค่อยดีน่ะ หมอแนะนำให้พามาสูดอากาศดีๆ บรรยากาศดีๆ”
ไก่ถามสินีและพูดเป็นต่อยหอย เพราะปกติเพื่อนของสินีคนนี้ก็เป็นคนช่างพูดอยู่แล้วตั้งแต่สมัยเด็กๆ
“อ๋อ เรามาทำงานน่ะ แล้วนี่พักที่ไหนล่ะ”
สินีไม่รู้จะบอกเพื่อนออกไปยังไงดี ซึ่งความจริงแล้วสินีก็มาทำงานจริงๆ นั่นแหละ
“อ๋อ พี่เขยเราเขามีบ้านพักอยู่ที่นี่น่ะ ไปๆ เที่ยวบ้านเรานะ”
แล้วไก่ก็ลากสินีไปเที่ยวบ้านที่มาพักผ่อนกับครอบครัว เมื่อไปถึงไก่ก็แนะนำให้รู้จักกับแม่ของเธอ สินีก็ทำความเคารพผู้ใหญ่ ไก่ถามถึงหลานกับแม่ของเธอ แม่ของไก่เลยบอกว่าพ่อของแกพาไปเดินเล่นแถวๆ นี้แหละ สักพักก็มีสายโทร.เข้า สินีรับสายจึงทราบว่าที่รีสอร์ตมีปัญหานิดหน่อย คงอยู่คุยนานด้วยไม่ได้ ไก่จึงถามว่าสินีทำงานที่ไหน สินีตอบเพื่อนไปว่าเธอทำงานอยู่ที่ ‘ปะไหมสินีรีสอร์ต’ ไก่นัดว่ามะรืนนี้จะพาครอบครัวไปทานมื้อค่ำที่นั่น จะได้นั่งโม้ต่อกันให้หายคิดถึง แล้วทั้งคู่ก็แลกเบอร์โทร.เพื่อติดต่อกัน
หลังจากวันนั้นอีกสองวันต่อมาไก่โทร.มานัดว่าเย็นนี้จะมาทานข้าวเย็นที่รีสอร์ตของสินี บอกว่าจะพาหลานที่น่ารักมาอวดด้วย ตกตอนเย็นสินีรอต้อนรับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนาน พอถึงเวลานัดไก่กับแม่ก็เดินกันมาสองคน พร้อมบอกว่าหลานกับพี่เขยจะตามมาอีกสักพัก ในระหว่างที่ทั้งสามคุยกันอย่างออกรส สินีสังเกตว่ามีผู้ชายลักษณะท่าทางคุ้นตาเหลือเกินเดินอุ้มเด็กหญิงตุ้ยนุ้ยมาทางนี้ สินีอารามตกใจเป็นอย่างมากเมื่อแน่ใจว่า ผู้ชายที่ว่านั้นคือ ‘อามาร์ค’ นั่นเอง
“อ้าวนั่นไงสินี หลานของเรามาแล้ว น่ารักมั้ย นี่น้องมิ้นท์กับพี่มาร์ค หลานกับพี่เขยเราเอง”
สินีทำหน้าไม่ถูก ไม่คิดว่าจะมาเจอกับโจทก์เก่าที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจไปจากที่นี่เมื่อ 4 ปีก่อน สินียิ้มให้เด็กน้อยที่แสนน่ารักจอมตุ้ยนุ้ยน่าฟัดน่ากอดจริงๆ
“เป็นไงบ้าง มาอยู่นานแล้วเหรอ พี่เดียวบอกแล้วว่าหาทางเกษียณก่อนกำหนดได้แล้ว เพราะมีคนเสียสละมาทำงานแทนให้”
เขาพูดเหมือนรู้เรื่องดีทุกอย่าง จริงสินะสินีลืมไปเสียสนิทว่าเขาเป็นหุ้นส่วนคนนึงของที่นี่นี่นา
“อ้าว รู้จักกันมาก่อนหรือคะนี่”
ไก่ถามเพราะสงสัยที่เห็นพี่เขยทักทายเพื่อนเก่าอย่างคนรู้จักกันมาก่อน
“เพื่อนของไก่เค้าเป็นหลานของเพื่อนรุ่นพี่พี่เอง แล้วตอนนี้เพื่อนของไก่คนนี้เป็นถึงเจ้าของรีสอร์ตนี้นะ ไม่ใช่พนักงานธรรมดา”
“อ้าว ไม่บอกกันเลย งั้นก็ใช้อภิสิทธิ์เพื่อนเจ้าของรีสอร์ตกินฟรีได้สิเนี่ย”
ไก่ได้ทีแกล้งอำเพื่อน จนถูกคุณแม่แอบหยิกให้ เพราะปรามลูกสาวที่เล่นจนเสียมารยาท สินีได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรดี มันช่างบังเอิญเสียจริงๆ ที่ภรรยาของอามาร์คจะเป็นพี่สาวของเพื่อนเก่าของเธอนี่เอง
ใช่สิ สินีลืมไปเสียสนิทว่าอามาร์คเป็นหุ้นส่วนคนนึงของอาเดียว แล้วนี่แสดงว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องมาอยู่ที่นี่ สินีสับสนไปหมด เริ่มรู้สึกว่าที่นี่ไม่ค่อยน่าอยู่น่ารื่นเริงเสียแล้ว
ในระหว่างที่นั่งสนทนากันระหว่างทานมื้อค่ำ สินีสังเกตว่าไม่เห็นภรรยาของเขาหรือพี่สาวของเพื่อนเก่าอย่างไก่เลย แปลกแฮะ ตั้งแต่ที่บ้านพักแล้ว หรือว่าพี่สาวของไก่อาจจะติดงานไม่ได้มาด้วยก็อาจเป็นไปได้
หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารกันในค่ำนั้น สินีกับไก่ก็ได้โทร.คุยติดต่อกันเรื่อยๆ จนรู้ว่าพี่สาวของไก่ได้เสียชีวิตไปหลังจากที่คลอดน้องมิ้นท์ได้ไม่ถึงปี ทำให้ไก่กับแม่ของเธอต้องช่วยพี่เขยของเธอเลี้ยงน้องมิ้นท์ และสินีเพิ่งรู้มาอีกว่าอามาร์คถอนหุ้นออกไปจากรีสอร์ตแห่งนี้ตั้งหลายปีแล้ว หลังจากที่ได้แต่งงานไปโดยใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ และไม่ค่อยได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกเลย จนกระทั่งในช่วงนี้ก่อนที่เธอจะมาอยู่ที่นี่ไม่ถึงเดือน
คิดแล้วชีวิตของอามาร์คนี่ก็น่าสงสารเหมือนกัน ต้องมาสูญเสียคู่ชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม สินีลองถามตัวเองว่าเธอยังรู้สึกยังไงกับเขาอยู่อีก ก็ได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนเท่าไรว่าเธอคงรู้สึกเฉยๆ กับเขาแล้วมั้ง ก็มันผ่านมานานแล้วนี่นา จะยังคงรู้สึกเหมือนเดิมอยู่อีกได้อย่างไร แต่ก็ช่างเถอะ ยังไงเขาก็กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ ของเขาแล้ว และเธอเองก็คงยุ่งกับปัญหาของรีสอร์ตนี่จนไม่มีเวลาใช้หัวใจคิดอะไรอยู่แล้ว นอกจากต้องใช้สมองคิดแก้ปัญหาเรื่องงานอย่างเดียว
ไก่ได้เล่าให้สินีฟังอีกว่าหลังจากที่พี่สาวของเธอเสียชีวิตไปไม่ถึงเดือน พี่เขยของเธอก็มีสาวๆ มาเสนอตัวมากมายหลายคน แต่พี่เขยของเธอก็ไม่สนใจใครเลย ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้เวลากับน้องมิ้นท์ ดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ทั้งๆ ที่พี่เขยของเธอเองก็ยังหนุ่ม แถมยังเป็นหนุ่มที่หน้าตาดีบุคลิกดีอีกต่างหาก สินีฟังไก่พูดถึงพี่เขยอย่างเทิดทูนบูชาแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ไก่เองอาจจะแอบชอบพี่เขยของตัวเองให้แล้ว แต่ก็ช่างเถอะ ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของเธออยู่แล้ว
แล้วทั้งหมดก็พากันกลับกรุงเทพฯ ไป ก่อนกลับไก่มาลาสินีที่รีสอร์ต สินีทำความเคารพทั้งอามาร์คและคุณแม่ของไก่ หลังจากที่พวกเขากลับกันไปแล้วสินีเองก็รู้สึกเหงาๆ ไปเหมือนกัน เพราะหลายวันมานี่ที่ได้เจอเพื่อนเก่าอย่างไก่ก็ทำให้เธอหายเหงาลงไปได้เยอะเลย เพราะความคิดถึงงานเก่า เพื่อนร่วมงานเก่า โดยเฉพาะจอยเพื่อนสนิทของเธอ เมื่อนึกถึงจอย สินีก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่านานแล้วนะที่ไม่ได้อัพเดตชีวิตการเริ่มงานใหม่ให้เพื่อนรักของเธอฟังเลย คิดได้ดังนั้นก็โทร.ไปเล่าให้จอยฟังถึงการที่เธอได้เจอกับเพื่อนเก่าอย่างไก่เพื่อนสมัยเรียน ม.ต้น และยังบังเอิญได้เจอกับอามาร์คคนที่เธอแอบรักสมัยเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ที่เคยเล่าให้จอยฟัง เพราะสินีกับจอยต่างไม่มีความลับแก่กัน และที่สำคัญที่บังเอิญไปกว่านั้นคืออามาร์คเป็นพี่เขยของไก่เพื่อนเก่าของเธอเอง และตอนนี้เขาได้กลายเป็นพ่อม่ายลูกหนึ่งที่ทรงเสน่ห์เพราะภรรยาของเขาได้เสียชีวิตไปเมื่อเกือบสองปีก่อน
“ว้าว หรือนี่จะเป็นพรหมลิขิต ที่นางเอกได้กลับมาพบกับพระเอกซึ่งเป็นรักแรกของนางเอกอีกครั้ง ตอนที่พระเอกกลายเป็นพ่อม่ายทรงเสน่ห์ไร้ซึ่งพันธะใดๆ”
จอยแกล้งกระเซ้าเพื่อนตามประสาสาวๆ ที่เมาท์มอยกัน
“บ้า ฉันไม่ได้คิดอะไรกับอามาร์คแล้วย่ะ”
สินีปฏิเสธกลับไป
“จริงดิ ต่อให้เขาเป็นฝ่ายคิดมาก่อนก็ไม่คิดจริงดิ”
จอยยังคงแหย่เพื่อนต่อ
“เออจริง ฉันเองก็มีศักดิ์ศรีของฉันเหมือนกันนะ”
สินีไม่แน่ใจว่าเธอย้ำบอกกับจอยหรือย้ำบอกกับตัวเองกันแน่
“ว้าวๆๆๆ ฉันชักอยากจะเห็นอามาร์คของเธอแล้วสิว่าจะหล่อและดูดีขนาดไหน ถึงทำให้เพื่อนรักคนสวยของฉันตกหลุมรักได้ และไม่คิดที่จะรับรักหนุ่มคนไหนอีกเลย”
สักพักสินีได้ยินเสียงเหมือนตีแขนดังเพียะแล้วตามด้วยการทำเสียงจุ๊ๆ เบาๆ สินีเองก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะสินีรู้ดีว่าจอยไม่ได้อยู่คนเดียว
“เออแค่นี้แหละ ตามสบายไม่กวนแล้ว เดี๋ยวนายแมนแฟนแกจะแอบด่าฉันในใจที่ชวนแกคุยอยู่ได้ไม่ยอมวางเสียที”
แล้วสินีก็วางสายไป
และอีกไม่ถึงเดือนต่อมาอามาร์คก็กลับมายังเกาะแห่งนี้อีก แต่คราวนี้เขามากันแค่สองคนพ่อลูกไม่มีไก่กับคุณแม่ของไก่มาด้วย สินีเองก็แปลกใจแต่ก็ไม่กล้าถามเขา ได้แต่คิดว่าเขาคงรู้สึกอึดอัดกับการที่มีน้องภรรยากับแม่ภรรยามาคอยควบคุมมั้ง หากเขาคิดที่จะมาหาความสุขตามประสาชายโสดบ้างก็คงจะไม่แปลกอะไร แล้วไก่ก็ได้โทร.มาหาสินีแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขาดๆ เหมือนไม่พอใจอะไรเธอหรือเปล่า ถามประมาณว่าพี่เขยของเธอได้ไปพักที่บ้านของเขาหรือที่รีสอร์ตของสินี ซึ่งสินีก็ตอบกลับไปว่าน่าจะที่บ้านพักเขามั้ง เพราะเขาไม่ได้มาพักที่รีสอร์ต สินีถามว่าไก่ถามทำไมเหรอ แต่ไก่เองก็เหมือนไม่อยากตอบ สินีก็ได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เริ่มชักจะแปลกๆ กับคำถามและน้ำเสียงของไก่แล้วสิ แล้วเธอไปเกี่ยวอะไรด้วย สินีเองไม่อยากคิดให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มมาอีกจึงปล่อยวางไม่สนใจกับเรื่องไร้สาระนี้
แต่หลังจากนั้นสินีเองก็เริ่มสังเกตว่าอามาร์คเริ่มมาที่นี่บ่อยขึ้นจนเกือบจะทุกวัน จนสุดท้ายแล้วสินีก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวถามเขาไปตรงๆ ว่า คิดอะไรกับเธอหรือเปล่า แต่เขาเองก็แกล้งทำเป็นตอบกลับไปว่า เขากำลังตกงานและอยากจะมาของานทำ ไม่ทราบว่าจะยินดีรับพ่อม่ายแถมลูกติดไว้พิจารณาสักตำแหน่งหรือเปล่า
เอาแล้วสิ สินีเอ๊ยยยยย
แล้วนี่จะตอบกลับไปว่ายังไงดีล่ะ…
จบฝันในวันเก่า จึงมาเล่าในวันนี้
คอยฝันในวันที่ หวังจะมีสิ่งที่คอย
เกาะน้อยที่คอยฝัน เพียงผ่านผันวันเรียงร้อย
รอรักเฝ้ารอคอย ใจดวงน้อยคอยดวงจันทร์
วัยฝันที่ผันไป อาจสดใจหรือโศกศัลย์
โศกเศร้าเคล้าคลึงกัน ล่วงเลยวันที่ฝันใฝ่
ไม่มีใครล่วงรู้ สิ่งที่อยู่ซ่อนในใจ
หลบเร้นซ่อนภายใน หากเขาไม่คายออกมา
ต้องเอ่ยเผยความบอก จึงไม่ชอกช้ำอุรา
เปิดเผยเอ่ยวาจา จึงรู้ว่าเรือลำใหญ่…ไม่เคยสิ้นฝัน
– กอหญ้า –
- READ คนละระดับ
- READ รุ้งกินน้ำ
- READ บุรุษเสี่ยงธูป
- READ นกแสกแห่งปี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
- READ บ้านฝั่งธน
- READ โลกสองใบของคนแปลกหน้า
- READ พร้าว
- READ อัสสุนีบาป
- READ ทองเผือกสีจุมออน
- READ ราวด์วอร์ด
- READ ชายร้อยคน
- READ เรือลำใหญ่ที่ไม่สิ้นฝัน
- READ ข้อความถึงความว่างเปล่า
- READ ม่านนาคราช
- READ เพื่อนแปลกหน้าห้อง 808
- READ ซี่กรงเหล็กดัดกับกล้องส่องทางไกล
- READ กอดรัก
- READ สูงเสียดฟ้าภูผาแห่งใจ
- READ ลิขิตรักข้ามภพ
- READ ไดอารี่พลิกล็อก
- READ ทำนองในความทรงจำ
- READ หลังไอรินจากไป
- READ คำมั่น ผูกพัน สัญญา
- READ นานกว่าเคย
- READ ในคืนที่ฉันไม่มีเธอ
- READ เสียงเรียกจากแดนไกล
- READ นักเวทย์คนต่อไป
- READ หน้ากากคน
- READ คนลืมกับคนจำ
- READ คนหัวกลับ
- READ เรือลำใหญ่ที่ไร้ฝั่งฝัน
- READ ภิกษุฆาต
- READ กามเทพ…ร้าย
- READ กลิ่นสาป
- READ ฟั่นเฟือน...เพื่อนรัก
- READ ผู้แทนตัวจริง
- READ มนตร์ (วิเศษ) เพียงหนึ่งคำ
- READ ไม่มีโอกาสสำหรับวันพรุ่งนี้
- READ บอกลาครั้งสุดท้าย
- READ Final destiny สถานีสุดท้าย คงใช่รัก
- READ เริ่มต้นที่อำเภอ ลงท้ายที่อำเภอ
- READ ใจอันว่างเปล่าที่รอเขามาเติมเต็ม
- READ เธอฤดูหนาว ผมฤดูฝน
- READ น้ำฝน กะ อาทิตย์
- READ เราจะเจอกันอีกครั้ง
- READ แอบรัก
- READ ถนนสายสุดท้าย... ที่ดาวตก
- READ นี่นะหรือ…เช้าวันจันทร์
- READ ภาพถ่ายสีดำที่เก็บไว้
- READ Card
- READ หรือว่ามันช้าไป?
- READ เนินนิรันดร์
- READ อนธการ
- READ บนทางที่พร่าเลือน
- READ รอยร้าว
- READ กระจกเงา
- READ อยากรู้จักรัก
- READ ยินดี
- READ รักนะ... ในความทรงจำ
- READ กลางแดดหนาว
- READ รักนำพา
- READ รักบันดาล
- READ รักลิขิต
- READ สายน้ำที่ไม่หวนคืน
- READ คุยกันวันรถติด
- READ สูงเนินสถานีที่รัก
- READ ทางสัญจร
- READ ลางกระดิ่งลม
- READ หมอฟันนางฟ้า
- READ สยามเมืองยิ้ม
- READ ลูกหลง
- READ งานแต่งงาน
- READ TH85
- READ เฟื่องฟ้าและบึงใหญ่
- READ กลับบ้าน
- READ With love…ด้วยรัก
- READ Thinking of เพราะคิด (ถึง)
- READ ให้เจ็บจนเจียนตาย
- READ ประกายเล็กๆ ของแก้วชามินต์
- READ ลูกที่ถูกทิ้ง
- READ แด่อัลมอนด์ในสายลมอุ่น
- READ บ้านสีขาวกับใบไม้เปลี่ยนสี
- READ รักโดยบังเอิญ
- READ Dreamcatcher ฝันหลอน
- READ ซ่อน...กลิ่นราตรี
- READ เมื่อฟ้าพร่างฝน
- READ พี่ชายที่แสนดี
- READ กลับบ้าน
- READ ฝันที่เปลี่ยน
- READ กราบสุดท้าย
- READ นิศาชล
- READ เสียงเพรียก....จากถ้ำผีแมน