
รุ้งกินน้ำ
โดย :
นอกเหนือจากนวนิยายและบทความที่ผ่านการเลือกสรรและผ่านกระบวนการบรรณาธิการพิจารณาเป็นอย่างดี ทีมงานอ่านเอายังริเริ่มโปรเจ็กต์ “Anowl Showcase” พื้นที่ใหม่สำหรับคนชอบเขียนขึ้น เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ที่จะให้เว็บ www.anowl.co ของพวกเราเป็นชุมชนสำหรับคนรักการอ่านและการเขียนทุกคน
*************************

เสียงคนพูดจากลำโพงดังก้องและแตกพร่า เหมือนเสียงตีนขยี้หญ้าแห้งกรังในฤดูร้อน น้ำเสียงเกรี้ยวกราดราวกับคนพูดกำลังโกรธแค้นใครสักคนหรืออะไรสักอย่าง ต่อให้เสียงนั้นชัดใส เขาก็ฟังคำพูดเหล่านั้นไม่เข้าใจเป็นส่วนใหญ่ สถิตคุณเคยบอกเขาว่ามันเป็นภาษาชั้นสูง คงจะจริง เพราะสถิตคุณไม่เคยโกหกเขา อีกประการเขาก็ไม่ค่อยได้ยินศัพท์แสงแบบนั้นมาก่อน แต่มันคงดีแน่ เพราะผู้ฟังปรบมือกราว บางคนแกว่งของเล่นพลาสติกรูปมือประกบกันเป็นเสียงตบเปาะแปะ
เขามาจากพม่าเมื่อเก้าปีก่อน เขาพูดไทยได้ดีเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ที่มา ‘ขุดทอง’ ในเมืองไทย เพราะทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวรังสิตมานานสี่ปี หลังจากที่เจ้าของร้านคนเก่าขายกิจการ คนใหม่ก็ไล่เขาออก บอกว่าไม่ชอบพม่า เพราะมีข่าวคนใช้พม่าฆ่าเจ้าของบ้านตายทั้งบ้านเพื่อชิงทรัพย์ หลังจากนั้นเขาก็ติดตามเพื่อนพม่าคนหนึ่งไปทำไร่ที่นครนายกพักใหญ่ ต่อมาก็ไปขายแรงงานที่ดอนเมือง หลังจากนั้นเขาก็พบคนรัก หล่อนมาจากเมืองเดียวกับเขาที่พม่า หน้าตาสวย รูปร่างอวบอัด เขาตามหล่อนไปขายเสื้อผ้าที่ปากเกร็ด ตามหล่อนไปได้เพียงครึ่งปีหล่อนก็หนีตามไอ้หนุ่มที่หน้าตาดีกว่าและมีเงินมากกว่าเขา ทิ้งเขาไว้กับเสื้อผ้ากองโตกับหนี้สินที่หยิบยืมเจ้าหนี้ ในที่สุดก็ปลดหนี้ทั้งหมด
เจ้าหนี้เห็นแววมุ่งมั่นของเขา จึงขายรถเข็นคันหนึ่งในราคาถูก มันถูกยึดจากลูกหนี้อีกรายหนึ่ง สภาพของมันเก่า โครงเหล็กเป็นสนิมทั้งคัน เจ้าหนี้ขายให้เขาในราคาเพียงสามร้อยบาท เขาใช้เวลาสี่วันขูดสนิมออกหมด แล้วก็นำมาเข็นขายของไปเรื่อยๆ จนตั้งหลักที่สถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ลูกค้าของเขาคือคนงานก่อสร้าง เขาทดลองขายทุกอย่าง ตั้งแต่ของใช้ส่วนตัวไปจนถึงขนม ปลาหมึกย่าง ลูกชิ้นปิ้ง ที่นั่นเองเขาพบกับเพื่อนใหม่ สถิตคุณ หนุ่มจากโคราชผู้นี้ขายเครื่องดื่ม ไม่นานทั้งสองก็เช่าห้องอยู่ที่เดียวกันเพื่อลดค่าใช้จ่าย ในที่สุดก็ตามสถิตคุณมาขายของที่นี่
ที่นี่มีคนมาชุมนุมมากกว่าทุกที่ที่เขาเคยขายของรวมกัน พ่อค้าแม่ค้าแห่มาจากทุกที่ แต่ลูกค้าก็มืดฟ้ามัวดินเช่นกัน เขาไม่รู้แน่ว่าคนเหล่านี้มาทำอะไรอยู่ที่นี่ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า คนเหล่านี้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพง บางคนผูกเนกไท
พ่อค้าแม่ค้าแต่ละรายขายอาหารและของใช้สอย บางคนขับรถกระบะ ท้ายรถวางข้าวของขาย สบู่ ยาสีฟัน ยากันยุง บุหรี่ ไปจนถึงมือตบพลาสติก
เขาขายเครื่องดื่มโซดา น้ำเปล่า ชาเขียว กาแฟกระป๋อง กระดาษชำระ เสื่อรองนั่ง หมวกกันแดด ยากันยุง ไม่นานก็มีพ่อค้านำสินค้ามาเสนอให้เขาขาย เป็นเสื้อยืดสีเหลืองและสติกเกอร์พิมพ์ข้อความเกี่ยวกับการเมือง ธงสีเหลืองและธงชาติไทย เขาได้กำไรวันละหกเจ็ดร้อย บางวันถึงพันบาท
เขารักแผ่นดินนี้…
คนบนเวทีประกาศว่าพวกเราต้องไม่เดินตามรอย พ.ศ. 2310 เมื่อคนไทยบางคนทรยศชาติ เปิดทางให้ทัพพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก เขาเคยเรียนประวัติศาสตร์ในชั้นประถม แต่ก็ออกจากโรงเรียนก่อน จึงไม่รู้ประวัติศาสตร์ท่อนนี้ เขาไม่เคยรู้ว่าบรรพบุรุษของเขาเคยบุกมาถึงที่นี่ โชคดีไม่มีใครที่นี่รู้ว่าเขาเป็นคนพม่า
เพื่อนพ่อค้าหลายคนชอบคุยเรื่องการเมืองและเหตุผลที่คนมากมายมาชุมนุมกัน เขาได้แต่ยิ้ม พยักหน้ารับเป็นระยะเพื่อไม่ให้เสียมารยาท เขาเห็นด้วยกับคำพูดของพ่อค้าคนหนึ่งที่ว่า “เข้าร่วมชุมนุมไม่ได้เงิน ขายของดีกว่า พลิกวิกฤตเป็นโอกาสโว้ย!” หากที่นี่ทำกำไรให้เขาวันละเกือบพันบาท ใครจะชุมนุมเพื่อเหตุผลอะไรก็ได้ ยิ่งนานก็ยิ่งดี เขาคงสามารถเก็บเงินมากพอส่งกลับไปให้แม่ เขาสวมเสื้อสีเหลืองทุกวัน
คนสวมเสื้อสีเหลืองที่เขาพบมีอัธยาศัยดี ซื้อของโดยไม่ต่อราคาและมักไม่รับเศษเงินทอน พวกเขาชอบกินจุบจิบทำให้ขนมที่เขานำมาขายหมดทุกวัน
วันหนึ่งคนชุมนุมคนหนึ่งเปรยกับเพื่อนว่า “ถ้าได้กาแฟสดก็ดี เบื่อกาแฟกระป๋องจืดๆ”
อีกคนหนึ่งว่า “จริง น่าเสียดายที่ไม่มีใครขาย”
กินเวลาเขาหลายวันกว่าเขาจะทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างกาแฟสดกับกาแฟสำเร็จรูป และความแตกต่างของราคาก็เช่นกัน เขาไม่มีทุนซื้อเครื่องทำกาแฟสด ในที่สุดก็ไปกู้เงินมาซื้อเครื่องทำกาแฟสดขนาดเล็ก เป็นเครื่องมือสอง กำไรของเขาเพิ่มขึ้นเป็นวันละสามพันบาท แต่เรื่องดีๆ มักอยู่ไม่นาน เขาขายกาแฟสดได้สองอาทิตย์เศษ การชุมนุมก็ยุติลง
หลังจากคนเสื้อเหลืองเลิกชุมนุม รายได้ของเขาก็ลดลงทันที เขาจ่ายเงินเก็บทั้งหมดใช้หนี้เครื่องทำกาแฟสด แต่ผ่านไปไม่นาน สถิตคุณก็บอกเขาว่ามีการชุมนุมอีก ทั้งสองตามไปขายของเช่นเดิม คราวนี้คนชุมนุมเปลี่ยนไปสวมเสื้อสีแดง ไม่นานก็รู้ว่าเป็นคนละกลุ่มกัน คนกลุ่มนี้ซื้อของน้อยกว่าคนกลุ่มแรก พ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารบ่นว่าขายไม่ดี เพราะคนสวมเสื้อแดงส่วนมากเอาอาหารมาเอง แน่ละ ไม่มีใครไม่รับเศษเงินทอน สินค้าที่คนชุมนุมกลุ่มใหม่นิยมก็คือบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ ยากันยุง พลาสติกรูปตีนตบ
เขายังเหลือธงสีเหลืองอยู่หลายสิบชิ้น เขาซื้อสีแดงมาย้อม โชคดีที่สีแดงทับสีเหลืองได้ เขาขายธงแดงหมดภายในไม่กี่วัน
เขาไม่รู้แน่ว่าคนเหล่านี้มาทำอะไรอยู่ที่นี่ วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า แต่เขารู้ว่าส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด บางคนมาไกลจากเชียงใหม่ หลายคนบอกว่าชอบสามสิบบาทรักษาทุกโรค บางคนมาจากยโสธร นครราชสีมา อุบลราชธานี
คนบนเวทีก็พูดเรื่องพม่าตีเมืองไทยแตกในปี พ.ศ. 2310 เช่นกัน คราวนี้บอกว่าเกิดจากการแบ่งชนชั้นระหว่างอำมาตย์กับไพร่ และมีเพียงคนคนเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้ เช่นเดิม เขาฟังภาษาสูงเหล่านั้นไม่เข้าใจ เขานึกอิจฉาที่ชาวบ้านประเทศนี้มีความรู้ เพราะไม่ว่าคนบนเวทีพูดศัพท์ยากเพียงไร คนชุมนุมก็ปรบมือหรือใช้ตีนพลาสติกตบเสียงดังตลอดเวลา
เขารับเสื้อยืดมาขายเช่นเคย คราวนี้ทั้งหมดเป็นสีแดง พิมพ์ลายและข้อความต่างๆ เช่น แดงตัวพ่อ, แดงตัวแม่, แดงตัวลูก, ฯลฯ เขาไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านี้ แต่ไม่สำคัญ เขารู้ว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณคนทำเสื้อเหล่านี้ เขาสวมเสื้อสีแดงทุกวัน เขาเพียงหวังว่าคนที่มาชุมนุมจะไม่เปลี่ยนสีเสื้อบ่อยๆ จะได้ขายของเดิมได้หมด เขาเพียงแต่นึกในใจว่าถึงแม้พวกเขาจะเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จนครบสีรุ้ง ก็ไม่เป็นไร
เขาเดินเข้าไปในห้องแถวเก่า คูหาสุดท้ายในซอย ชายจีนในร้านถามเขา “จะส่งเท่าไหร่”
เขายื่นเงินปึกหนึ่งให้ผู้ถาม ชายจีนนับเงินอย่างคล่องแคล่ว
“หกพันบาท อืม! งวดนี้ส่งเยอะนี่”
ชายจีนยื่นใบรับเงินให้เขา เงินก้อนนี้จะเดินทางตรงไปที่เชียงใหม่ ภายในไม่กี่ชั่วโมงมันจะเดินทางข้ามไปพม่าโดยไม่ต้องผ่านด่านและพรมแดน ไม่เกินสามสิบชั่วโมง แม่จะได้รับเงินก้อนนี้รวดเร็วราวเนรมิต
เขาหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ถ้าไม่ขี้เกียจ เขาก็จะสามารถทำมาหากินอย่างสุจริตได้เรื่อยๆ ส่งเงินให้แม่ใช้สบาย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คงจะอยู่ประเทศนี้ไปเรื่อยๆ
เขารักแผ่นดินนี้…
– ภาสกร ศรีศุข –
- READ คนละระดับ
- READ รุ้งกินน้ำ
- READ บุรุษเสี่ยงธูป
- READ นกแสกแห่งปี ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
- READ บ้านฝั่งธน
- READ โลกสองใบของคนแปลกหน้า
- READ พร้าว
- READ อัสสุนีบาป
- READ ทองเผือกสีจุมออน
- READ ราวด์วอร์ด
- READ ชายร้อยคน
- READ เรือลำใหญ่ที่ไม่สิ้นฝัน
- READ ข้อความถึงความว่างเปล่า
- READ ม่านนาคราช
- READ เพื่อนแปลกหน้าห้อง 808
- READ ซี่กรงเหล็กดัดกับกล้องส่องทางไกล
- READ กอดรัก
- READ สูงเสียดฟ้าภูผาแห่งใจ
- READ ลิขิตรักข้ามภพ
- READ ไดอารี่พลิกล็อก
- READ ทำนองในความทรงจำ
- READ หลังไอรินจากไป
- READ คำมั่น ผูกพัน สัญญา
- READ นานกว่าเคย
- READ ในคืนที่ฉันไม่มีเธอ
- READ เสียงเรียกจากแดนไกล
- READ นักเวทย์คนต่อไป
- READ หน้ากากคน
- READ คนลืมกับคนจำ
- READ คนหัวกลับ
- READ เรือลำใหญ่ที่ไร้ฝั่งฝัน
- READ ภิกษุฆาต
- READ กามเทพ…ร้าย
- READ กลิ่นสาป
- READ ฟั่นเฟือน...เพื่อนรัก
- READ ผู้แทนตัวจริง
- READ มนตร์ (วิเศษ) เพียงหนึ่งคำ
- READ ไม่มีโอกาสสำหรับวันพรุ่งนี้
- READ บอกลาครั้งสุดท้าย
- READ Final destiny สถานีสุดท้าย คงใช่รัก
- READ เริ่มต้นที่อำเภอ ลงท้ายที่อำเภอ
- READ ใจอันว่างเปล่าที่รอเขามาเติมเต็ม
- READ เธอฤดูหนาว ผมฤดูฝน
- READ น้ำฝน กะ อาทิตย์
- READ เราจะเจอกันอีกครั้ง
- READ แอบรัก
- READ ถนนสายสุดท้าย... ที่ดาวตก
- READ นี่นะหรือ…เช้าวันจันทร์
- READ ภาพถ่ายสีดำที่เก็บไว้
- READ Card
- READ หรือว่ามันช้าไป?
- READ เนินนิรันดร์
- READ อนธการ
- READ บนทางที่พร่าเลือน
- READ รอยร้าว
- READ กระจกเงา
- READ อยากรู้จักรัก
- READ ยินดี
- READ รักนะ... ในความทรงจำ
- READ กลางแดดหนาว
- READ รักนำพา
- READ รักบันดาล
- READ รักลิขิต
- READ สายน้ำที่ไม่หวนคืน
- READ คุยกันวันรถติด
- READ สูงเนินสถานีที่รัก
- READ ทางสัญจร
- READ ลางกระดิ่งลม
- READ หมอฟันนางฟ้า
- READ สยามเมืองยิ้ม
- READ ลูกหลง
- READ งานแต่งงาน
- READ TH85
- READ เฟื่องฟ้าและบึงใหญ่
- READ กลับบ้าน
- READ With love…ด้วยรัก
- READ Thinking of เพราะคิด (ถึง)
- READ ให้เจ็บจนเจียนตาย
- READ ประกายเล็กๆ ของแก้วชามินต์
- READ ลูกที่ถูกทิ้ง
- READ แด่อัลมอนด์ในสายลมอุ่น
- READ บ้านสีขาวกับใบไม้เปลี่ยนสี
- READ รักโดยบังเอิญ
- READ Dreamcatcher ฝันหลอน
- READ ซ่อน...กลิ่นราตรี
- READ เมื่อฟ้าพร่างฝน
- READ พี่ชายที่แสนดี
- READ กลับบ้าน
- READ ฝันที่เปลี่ยน
- READ กราบสุดท้าย
- READ นิศาชล
- READ เสียงเพรียก....จากถ้ำผีแมน