ซ่อนรัก บทที่ 13 : ของหายได้คืน

ซ่อนรัก บทที่ 13 : ของหายได้คืน

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

นิกรพยายามทบทวนว่าหายไปตอนไหน

รับเพชรมาจากอาจิรานุช  น้องสาวของบิดาจากสำนักงานสาขาตั้งแต่เมื่อวานเย็น  รับต่อหน้าบิดามารดาที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกันในขณะนั้นให้ไปส่งสำนักงานใหญ่ในเช้าวันรุ่งขึ้น  บิดา…คุณอนันต์ยังพูดกับเขาว่า

“แกต้องระวังหน่อย  เพชรคัดพิเศษทุกเม็ด  ลูกค้าก็ซื้อเป็นประจำและรอรับเพชรอยู่”

“ครับ”

มารดาก็พูดกับเขาอย่างอ่อนโยน เพราะท่านรักเขาที่สุด  เขาเป็นลูกรักแม่  ส่วนพี่ดุสิตเป็นลูกรักพ่อ

“อย่าแวะไหนล่ะ  พี่ดุสิตรออยู่”  มารดาว่า

อาจิรานุชวัยสี่สิบ  เป็นสาวโสด   และเป็นน้องคนเดียวของบิดา อานุชเป็นคนเก่ง  เก่งมากเพราะเรียนรู้มาตั้งแต่เด็ก  เก่งเรื่องอัญมณีจะรองก็แต่พ่อคนเดียว

พี่ดุสิตมีพรสวรรค์  อายุแค่ยี่สิบห้า  เก่งเกือบเทียมเท่าอานุช  ทำให้อานุชกับพี่ชายมักจะแข่งขันกันกลายๆ เพื่อชิงความเป็นคนเก่งที่หนึ่งในบริษัท

บิดามารดา รวมทั้งเขา ต่างก็รู้ว่าการแข่งขันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในกิจการเป็นเรื่องดี  แต่พี่ดุสิตจะจริงจังกับเรื่องนี้มากกว่าอานุช เพราะความเป็นหนุ่มไฟแรง และต้องการแสดงฝีมือให้บิดามารดายอมรับในความเป็นลูกชายคนโต และความเป็นผู้นำในอนาคตแทนบิดา

อาจิรานุชพูดว่า

“ปกติต้องอาเป็นคนเอาไปแต่ไม่แน่ใจว่าเข้าบริษัททันไหม อาติดธุระ  กรเอาไปแทนล่ะกัน จะฝากดุสิตก็เกิดไม่กลับมานอนบ้านเสียอย่างงั้น”

“ไม่เป็นไรครับ ผมก็วางอยู่ และต้องเข้าสำนักงานใหญ่อยู่แล้วครับ”

มักจะว่างมากกว่าเพื่อน  เป็นอย่างไรล่ะ  แค่งานนำสินค้าจากอานุช เข้าบริษัทตอนเช้า  ไม่ใช่งานยุ่งยากอะไรเลย   เขาทำให้มันยุ่งยากจนได้

เขา…เป็นคนแบบไหน

สมควรจะถูกตำหนิว่า เฉื่อยช้า ไม่ตั้งใจ

ไหนล่ะ อ้างว่าตัวเองรอบคอบนัก รอบคอบหนา  ทำอะไรเชื่องช้าเพราะรอบคอบ  ระมัดระวังไงล่ะ

ระวังประสาอะไร ทำห่อเพชรหล่นหาย

ตอนไหน?

หรือเป็นตอนที่เข้ามาในห้างแล้ว พอดีมีนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่กำลังเดินช็อปปิ้งคุยกัน และมีเด็กสองคนวิ่งไล่กัน นักท่องเที่ยวเดินหนีเด็กเซมาชนเขา เขาเองก็เซจนเกือบล้ม ดีที่จับเสาได้ทัน เด็กอีกคนยังวิ่งมาชนเขาซ้ำ ตอนนั้นเพชรในกระเป๋าเสื้อนอกหล่น

เด็กชน…มือเด็กเกี่ยวกับกระเป๋าเสื้อ

เด็กวิ่งไปแล้ว…แต่ทำไมเขาไม่เอะใจว่า ‘ของ’ หาย

รีบวิ่งไปที่จุดเดิม และมองบนพื้น กวาดสายตาไปทั่ว

ไม่มี…

วิ่งตามทางตั้งแต่ที่จอดรถ และเดินเข้ามา ก็ไม่มี

และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ส่งอัญมณี  ทุกครั้งก็ไม่มีปัญหา จน…ครั้งนี้มีปัญหา

คนเรา…ไม่อยากผิดพลาด  เพราะต้องแสดงฝีมือให้บิดามารดา พี่ชาย อานุชเชื่อมั่น  อย่างน้อยๆ เขาไม่เก่ง แต่เขาก็ยังเป็นทายาทคนรองของตระกูล ‘เพชรอนันต์’

ไม่เก่ง…อยู่เฉยๆ ยังดีกว่า

ครั้งนี้เขาทำให้บริษัทเสียหาย

เขาไปที่แผนกของหายในห้าง ถามว่ามีใครเก็บ ‘ของ’ ได้ไหม ก็ไม่มี  จึงสั่งไว้ว่า ถ้ามีคนเก็บของได้ ให้รีบบอกเขาด่วนที่สุด

นิกรมองนาฬิกาข้อมือ เขานัดพี่ชายไว้ นี่ก็เลยเวลามาเกือบสิบห้านาที

จำเป็นที่ต้องไปพบพี่ชาย และสารภาพความจริง

พี่ชายรักเขามาก อาจไม่ถูกตำหนิ แต่เขาเองก็ไม่สบายใจ

ใบหน้าของนิกรซีดขาว เขาเป็นคนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เป็นคนอ่านง่ายเกินไป เมื่อมาเผชิญหน้ากับดุสิต

ดุสิตเป็นหนุ่มรูปงาม สง่า บุคลิกดีมาก…นักธุรกิจหนุ่มที่ไฟแรง โชคดีที่เกิดในตระกูลร่ำรวย โชคดีที่มีรูปสมบัติและคุณสมบัติ

นิกรหน้าตาดีไม่แพ้พี่ชาย เสียแต่มีบุคลิกที่ไม่ค่อยมั่นใจ ทำให้ดูด้อยอย่างเห็นชัด

“มาสายนะ” พี่ชายทัก

“เอ้อ…ครับ”

“แกเป็นอะไร?” เพิ่งเห็นว่าน้องชายหน้าซีด

“ผม… ผม…”

“แกไม่สบายหรือเปล่า เอาของมาแล้วรีบไปพักก่อน หรือต้องไปหาหมอตรวจ”

น้ำเสียงคือพี่ชายแสนดี เป็นห่วงน้องเสมอ ยิ่งทำให้นิกรกังวลกลัวว่าพี่ชายจะเสียใจ

“ผม… ผม…”

ในจังหวะกำลังจะสารภาพ  กุลวดีก็เคาะประตู  รีบก้าวเข้ามา

กุลวดี… เพื่อนสนิทของปารีส

กุลฤดีกับหฤทัย เพื่อนตาย ต่างก็ทำงานที่นี่ ‘เพชรอนันต์’

กุลวดีเป็นเลขาของนิกร ส่วนหฤทัยที่สวยเด่น คล่อง อยู่แผนกต้อนรับและประชาสัมพันธ์ ต้องต้อนรับลูกค้า และติดต่อกับฝ่ายนักข่าว

เลขาของนิกรพูดกับเจ้านายเบาๆ ว่า

“มีคนมาพบคุณค่ะ ด่วนมาก” และกระซิบอะไรต่อเบาแสนเบา ทำเอานิกรเบิกตากว้าง และพูดกับพี่ชายว่า

“ผมขอเวลาห้านาทีครับ”

แล้วผลุนผลันออกไปกับกุลวดี ไปที่ห้องรับรองแขก พบกับชายคนหนึ่งที่นั่งรออยู่ก่อน

ชายแปลกหน้า?

“ผมนิกร…คุณคือ…”

เขาคนนั้นแนะนำตัวเองว่า

“ผมชื่อวิศว์ครับ ผมเก็บถุงกำมะหยีได้ มีชื่อร้านเพชรอนันต์ ผมจะเอาไปที่แผนกของหายในศูนย์การค้า แต่ทางนั้นระบุว่าคุณนิกรสั่งไว้ถ้ามีคนพบของให้มาหาคุณทันที”

นิกรแทบอยากโผกอดผู้ชายคนนี้ แต่ทั้งสองนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา จึงได้แต่ยื่นมือไปจับวิศว์

“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ ผมกำลังกลัวแทบตาย กลัวทำให้พี่ชายผมผิดหวัง ที่ผมประมาททำของหล่นหาย”

ท่าทางของนิกรดีใจ โล่งใจ พูดจาละล่ำละลักพูดต่อ

“รอผมสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมกลับมา” เขาต้องรีบนำไปให้พี่ชาย เพราะลูกค้ารออยู่ที่ห้องรับรองอีกห้อง

“ไม่ตรวจของก่อนหรือครับ”

นิกรโคลงศีรษะ

“ไม่ครับ ผมมั่นใจ คุณเป็นคนดี”

วิศว์เลิกคิ้ว…เอ่อ…คุณตัดสินใจคนเร็วเกินไปนะ

ดีที่เขารู้จักตัวเองพอ วิศว์เป็นคนแบบไหน พอตอนเก็บได้และรู้ว่าเป็นเพชรในห่อผ้ากำมะหยี่สีแดง เขาแทบจะไม่ดูเลยด้วยซ้ำว่าจะเป็นเพชรจริงหรือปลอม แต่เพราะตรงยี่ห้อบริษัทในถุงกำมะหยี่ระบุ…

เพชรอนันต์…

แบรนด์อัญมณีที่เชื่อถือได้ และรู้ว่าคนทำหล่นหายต้องร้อนใจขนาดไหน

ด้านนิกรรีบนำถุงอัญมณีไปให้พี่ชาย และรีบร้อนกลับมาเพื่อพบคนดีที่ทำให้ตนไม่ต้องวิตกกังวลและไม่ทำให้บริษัทเสียหาย

เมื่อกลับมาพบว่าปราศจาก ‘เขา’ คนนั้นในห้องรับรอง เจอแต่เลขาสาว

“คุณวิศว์ล่ะ?” ถามกุลวดี

กุลวดีตอบว่า

“พอคุณกรออกไป เขาก็ออกไปค่ะ”

“อ้าว! ผมบอกให้เขารอ เนี่ย…ผมเกือบแย่แล้ว ทำเพชรหาย เขาช่วยชีวิตผมไว้เลยนะ คุณไม่น่าปล่อยให้เขาออกไป”

กุลวดีหน้าเสีย

“วดีพยายามรั้งแล้วค่ะ แต่คุณวิศว์ยืนยันว่าจะกลับ”

“ไปนานหรือยัง?”

“เพิ่งออกไปค่ะ”

“รีบไปตามกลับมาเลย จะทันมั๊ยเนี่ย”

“ค่ะ…ค่ะ…”

เห็นแววตาอยากพบ ‘ชายคนนั้น’ แล้วกุลวดีรู้ว่าเจ้านายหนุ่มร้อนใจ หล่อนยิ่งร้อนใจมากกว่าเขาอีก

ความรู้สึกเขาเป็นเช่นไร กุลวดีจะรู้สึกเช่นเดียวกัน

ความรู้สึก…ร่วม…อารมณ์ร่วม

ตั้งแต่เรียนจบก็ทำงานกับเจ้านายหนุ่มคนนี้ โชคว่าโชคดีว่านิกรกำลังหาเลขาคนใหม่และเขาก็เลือกหล่อน

ทำงานผ่านมาสองปีเศษ…กุลวดีถือว่าตัวเองโชคดีเสมอที่ได้เจ้านายดี ใจดี ไม่เคยโดนดุเลยสักครั้ง ผิดพลาดอย่างไรก็จะคุยด้วยอย่างนุ่มนวลตามแบบฉบับนิสัย

เขาจะเป็นคนแบบไหน ซื่อ…ตรง…ทำอะไรเชื่องช้าตามบุคลิก หล่อนก็ชอบ

ชอบ…แอบชอบ…แอบรัก!

กุลวดีรีบวิ่งออกมาด้านหน้าสำนักงาน ซึ่งอยู่ชั้นบนของตึกใหญ่ สำนักงานชั้นสิบหก และพบหฤทัยทำหน้าที่ต้อนรับแขกไปใครมา และกำลังอยู่ที่เคาน์เตอร์หน้า ด่านหน้าในการรับแขก

เพื่อนรัก…หฤทัยถามกุลวดี

“เป็นอะไร ยัยวดี?”

“คุณวิศว์…เขาไปนานหรือยัง?”

“ก็เห็นลงลิฟท์ไป เมื่อกี้เอง”

ลงลิฟท์…กุลวดีลนลาน รอลิฟต์อีกตัวมาพอดี จึงกดลงไปชั้นล่าง หวังว่าจะตามทัน

ลงมาแล้ว…ชั้นล่างสุด

ไม่ทัน… วิ่งออกมานอกอาคารใหญ่ มองไปรอบๆ ทั้งซ้ายและขวา ด้านหน้า ตึกอาคารสำนักงานใหญ่ ติดกับศูนย์การค้าเชื่อมต่อกัน

โอ้ย…ทำไมเร็วจังเลย เขาหายไปแล้ว จำต้องกลับขึ้นมาชั้นสิบหก ระหว่างนั้นก็โทรรายงานนิกรว่า ตามไม่ทัน

กุลวดียืนพิงเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ มีหฤทัยแตะต้นแขนเบาๆ และกล่าวว่า

คุณวดียืนพิงเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับมีหฤทัยแตะต้นแขนเบาๆและกล่าวว่า

“เรื่องสำคัญเรอะ เป็นไรหรือเปล่า?”

กุลวดีพยักหน้าเบ้ปาก

“เจ้านายทำห่อเพชรหาย โชคดีได้คุณวิศว์คนนี้เอามาคืนให้ เจ้านายจึงรอดตัวไป”

หฤทัยยกมือทาบอก

“มิน่า…แกถึงดูตื่นเต้น”

“กลัวแทนเจ้านาย ก็รู้อยู่ว่าคุณกรเป็นคนแบบไหน โดนท่านๆ เพ่งเล็งตลอด ถ้าผิดพลาดจะต้องถูกคุณนุชเล่นหนักแน่ๆ และยังคุณอนันต์อีก”

ใครๆ ในบริษัทเพชรอนันต์ต่างรู้ว่า ใครเป็นใคร

ดุสิตลูกรักพ่อ นิกรลูกรักแม่

จิรานุช…น้องสาวคุณอนันต์ที่ฝีมือเก่งกาจ และดุมาก มักจะหน้าบึ้งเสมอ ใครๆในบริษัทต่างเกรงกลัว

คุณอนันต์ เจ้านายสูงสุด นอกจากรักลูกชายคนโตอย่างดุสิตมาก ยังรักน้องสาวคนเดียวมากด้วย

กุลวดีรู้สึกว่านิกรมักถูกจับผิด ต้องรับผิดชอบงานที่ไม่สำคัญ ยังกับเป็นลูกเมียน้อย

พี่ชายดุสิตที่เก่งการงานมาก ถึงจะมองนิกรไม่ได้ดั่งใจตน แต่นิกรก็เป็นน้องชาย จึงให้โอกาสเรียนรู้

เขาคนเดียว เป็นความหวังของตระกูล เป็นไปไม่ได้เพราะกิจการร้านเพชรอนันต์ต้องขยายและเติบโต จึงต้องมีคนมาช่วยแบ่งเบาภาระ และคนที่ไว้ใจมากที่สุดคือน้องชายคนเดียว

“ตายแล้ว คุณกรเกือบไปแล้ว” หฤทัยพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ใช่สิ มูลค่าของห้าสิบล้านแน่ะ”

“คนเก็บได้นี่ยอดเยี่ยมเลย ยกย่องที่ไม่โลภ เด็ดมาก”

“และยังไม่ยอมอยู่รอฟังคำขอบคุณ หรือรับค่าตอบแทนจากคุณกรเลยก็รีบไปซะแล้ว”

“อย่างไงตอนนี้คุณกรของแกก็รอดวิกฤตครั้งนี้ได้ แกคงโล่งอกสินะ”

กุลวดียิ้มแห้งๆ

“ฉันอยากให้คุณกรเป็นที่ยอมรับในบริษัท คุณกรยังต้องแสดงฝีมืออีกมาก”

หฤทัยยักไหล่

“คนเราจะให้เปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือคือยาก คุณกรเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดีก็พอแล้วนะ”

“คนอื่นมองไม่พอน่ะสิ”

“ก็แน่ละ พี่ชายคุณดุสิตเก่งกว่าขนาดนั้น เลยมีการเปรียบเทียบ”

“ใช่…ใช่” แล้วมองโทรศัพท์ “ยัยปาส่งรูปมาให้ ดูสิ ยัยปาอยู่ฝรั่งเศส ยังไม่กลับ” น้ำเสียงตื่นเต้น เปิดดูรูป

“ถ้าส่งให้แก ก็ต้องส่งให้ชั้นด้วย” กุลวดีจึงเปิดโทรศัพท์ของตัวเอง ดูภาพในโทรศัพท์ที่ปารีสส่งรูปวิว รูปธรรมชาติงดงาม ส่งให้เพื่อนรัก

ดูไปก็พูดคุยกันไปอย่างร่าเริง

“อิจฉายัยปาจัง ได้เที่ยว ได้พักผ่อน” หฤทัยพูดยิ้มๆ

“อย่าลืมว่าพ่อยังปาผ่าตัดหัวใจ ยัยปาจะพักผ่อนสบายใจได้อย่างไงล่ะ แถมผู้ชายที่แลกแหวนแต่งงานกันก็บินกลับมาเมืองไทยแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้ยัยปาจะเป็นอย่างไร”

พูดคุยกันไป โดยไม่ทันสังเกตว่า มีใครคนนึงฟังอยู่ข้างๆ ประตูด้านหน้าแผนกต้อนรับ

และได้รับรู้ความผิดพลาดของนิกร จากปากเลขาของนิกรเอง!



Don`t copy text!