
ก่อนฟ้าสาง บทที่ 16 : เมืองมืด
โดย : ม.มธุการี
ก่อนฟ้าสาง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวโดย ม.มธุการี เมื่อ ‘เจียง’ เลือกพาครอบครัวหนีความเดือดร้อนมาพักพิงยังแผ่นดินไทย แต่แผ่นดินแห่งนี้จะเป็นที่พักพิงที่ปลอดภัยให้กับเขาได้จริงๆ หรือ เจียงยังจะต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากมาย อาจจะมีเพียง ‘ใกล้รุ่ง’ หญิงสาวผู้อ่อนโยนคนนั้นที่เป็นความหวังของเขา
ประชาขับรถออกจากโรงพยาบาลและแวะไปนั่งคุยกับลิลิตที่บ้าน วันนี้มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องที่เขาเคยสงสัยเรื่อยมา แท้จริงแล้วนายวิทยาหรือเจียงก็คือ พระวัดเส้าหลินที่หลบหนีข้ามแดนมาและเสี่ยกิจเองก็รู้ดี ถึงขนาดให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด…
เล่าให้ลิลิตฟังทั้งหมด เสริมท้ายว่า
“แกหลุดปากออกมาวันนี้ เรื่องที่นายเจียงอะไรนั่นเคยบวชเป็นพระที่เมืองจีน ผมว่ามันชัดแล้วที่เราเคยสงสัยกัน“
“ผมบอกคุณแล้วว่าบัตรประชาชนมันซื้อกันได้ เสี่ยคงช่วยจัดการให้ทั้งหมด เป็นพยานให้เสร็จสรรพจะได้ไม่ถูกควบคุมตัว ไม่งั้นคงพังแน่ ดีมั้ยดีถูกส่งกลับไปแผ่นดินใหญ่ ถึงตายเลยนะถ้านายนี่ถูกส่งกลับไป“
“นี่ผมยังกังวลว่าผู้การจะสืบรู้หรือไม่ เรื่องแบบนี้มันต้องมีรายงานถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง เหตุนี้รึเปล่าถึงห้ามนายคนนี้ออกนอกพื้นที่ อาจจะยังจ้องอยู่“
“เป็นไปได้ เพราะนายคนนี้มันมีค่าหัวสูง ผมว่าให้อีกไม่นานความต้องแตก“
นั่งดื่มเหล้าคุยกันเครียด ประชาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันกลายมาเป็นปัญหาของเขาไปได้อย่างไรกันนั่น ห่วงก็แต่ว่านายนั่นจะถูกเจ้าหน้าที่จับได้…
“คนดีอยู่ยากขึ้นทุกวันในชุมชนของเรา นักเลงเต็มบ้านเต็มเมือง“ ประชาถอนใจ
“นี่วันนี้ผมก็เพิ่งไปคุยกับเจ๊สมจิต เรื่องไอ้แก๊งมาเรียกค่าคุ้มครองในตลาด ลูกผมก็ไปขายของที่นั่นทุกวัน ก็ยังห่วงอยู่นี่ พลก็ต้องกักกันไม่ให้ออกนอกบ้านหลังจากโดนรุม“
“คุณก็ต้องระวังตัว ผมบอกแล้วว่าไอ้แก๊งนี้ที่มันกร่างอยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะไอ้ลูกผู้การมันหนุนอยู่ คนขับรถเสี่ยถ้าไม่ได้เสี่ยช่วยเอาไว้ป่านนี้คงเข้าไปอยู่ในคุกแล้ว แต่อย่าคิดว่าผู้การจะไม่จ้องอยู่ สมัยนี้มันเก็บกันเป็นว่าเล่น ไม่รอให้ไปขึ้นโรงขึ้นศาลให้มันเสียเวลาหรอก เขาแค่รอจังหวะอยู่เท่านั้นเอง“
แล้วจังหวะนั้นมันจะมาถึงเมื่อไหร่ มันเงียบอย่างน่าแปลก ทางฝ่ายผู้การฯ รึว่ามันอาจจะเป็นความสงบก่อนมรสุมร้ายอย่างที่ว่ากันเอาไว้ก็ได้…
เกรียงลงมืองัดเซฟตอนดึก วางแผนไว้หมดแล้วในสมองว่าจะซัดทอดใครได้บ้าง
แน่ใจว่าเตี่ยต้องซุกเงินเอาไว้หลายล้านและเขาก็จะสุขสบายไปอีกนาน แถมยังกำจัดไอ้เจียงคนโปรดของเตี่ยออกไปพ้นเส้นทางได้อีก รอบนี้มันจะต้องหนีตะรางไปไม่พ้นแน่…
งัดตู้เสร็จอย่างช่ำชอง แต่ก็ต้องตะลึงงันเมื่อพบแต่ความว่างเปล่าในนั้น มันหมายความว่าอย่างไรกัน… เท่ากับว่าเตี่ยขนเงินในนั้นไปจนหมดก่อนเข้าโรงพยาบาลอย่างนั้นหรือ เหมือนเตี่ยเองก็รู้ล่วงหน้าว่าไม่รอดพ้นมือเขาไปได้…
โมโหเตี่ยเสียจนต้องคว้าเหล้าฝรั่งที่เตี่ยสะสมไว้มานั่งซดตรงนั้นเอง และนี่ก็คือ ชีวิตเขาที่ถูกเตี่ยกดหัวมาตลอด ไม่แปลกใจทำไมสมัยนี้ถึงมีการฆ่าพ่อแม่เพื่อหวังมรดกกันเป็นว่าเล่น ทุกสิ่งมันควรจะเป็นของเขาและเตี่ยควรจะไปได้แล้ว จะไปไหนก็แล้วแต่ แต่เตี่ยจะต้องไป…
เจียงไปทำงานตอนสายก็พบลูกชายคนโตของเถ้าแก่เดินหัวหูยุ่งออกมาจากห้องทำงานของฝ่ายนั้น ท่าทางจะเมาได้ที่มาจากเมื่อคืนและเมาหลับอยู่ในนั้นนั่นเอง แค่เห็นสายตาของเกรียงที่มองมาเขาก็สัมผัสได้ถึงความขุ่นเคืองชิงชังที่ฝ่ายนั้นมีให้เขา
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิดกับการทำงานอยู่ที่นี่…
เสียงรถมอเตอร์ไซค์วิ่งเวียนวนไปมารอบตลาด เสียงเบิ้ลเครื่องดังจนแสบแก้วหู
จากหน้าร้านเขาเห็นฝูงรถเครื่องแล่นผ่านไปมาเหมือนกองทัพ ทั้งฝุ่นและกลิ่นน้ำมัน เครื่องอบอวลไปทั่วบริเวณ…
เป็นนานกว่าทุกสิ่งจะกลับมาสงบเงียบเหมือนเดิม เขาเห็นรถเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยวิ่งมาจอดในเวลาต่อมา มีการลำเลียงคนเจ็บออกจากตลาดสด เจียงร้อนใจจนต้องเข้าไปดู จึงได้รู้ว่า รปภ.สามสี่คนถูกรุมทำร้ายจนต้องหามเข้าโรงพยาบาล แต่ละคนบาด เจ็บสาหัส…
ปิดตลาดกันแต่วันและใกล้รุ่งก็รีบกลับบ้าน เกิดเหตุแก๊งมอเตอร์ไซค์บุกเข้ามาตีพนักงานรักษาความปลอดภัยจนกระเจิงไปทั้งตลาด มันสงบได้แค่วันเดียวจริงๆ ก่อนที่นักเลงพวกนั้นจะกลับมาเรียกพื้นที่คืน…
แม่รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างตกอกตกใจ สั่งห้ามขาดไม่ให้หล่อนกลับไปอีก
“แบบนี้มันไม่ไหวแล้วลูก ขนาดเจ้าหน้าที่ยังรับมือพวกมันไม่ได้เลย นี่ถ้าพ่อรู้เข้า แล้วจับพวกแก๊งได้มั่งรึเปล่า“
“รุ่งไม่เห็นว่าเขาจะจับใคร เพราะมันมากันเหมือนกองทัพ แล้วมันก็ไป ได้แต่เอาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล“
ไม่มีวันที่ใกล้รุ่งจะลืมภาพโกลาหลของตลาดเมื่อเช้าตอนที่แก๊งหลายสิบบุกเข้ามาทำลายแผงขายของในตลาดและตีกันกับ รปภ. ยามนั้นทุกคนทิ้งของและหนีเอาตัวรอด โชคดีที่หล่อนกับเพื่อนไม่เป็นอะไร ในขณะที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนต่างหัวร้างข้างแตกไปตามๆ กัน ตลาดอาจจะต้องปิดไปชั่วระยะหนึ่งหรือไม่ก็ปิดถาวร หล่อนห่วงก็แต่พ่อ พวกมันอาจจะรู้แล้วก็ได้ว่าพ่อเป็นตัวตั้งตัวตีรายงานพวกมันกับเจ้าของตลาดจนเกิดเรื่องขึ้นมา…
ประชารู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากเจ้าของตลาดที่เป็นฝ่ายโทรมาเตือนเขา
“ครูต้องระวังตัวเพราะพวกมันเอาเรื่องแน่ นี่เราว่าจะเลิกกิจการไปเลยเพราะไม่เอาแล้วเรื่องแบบนี้ ทรชนมันครองเมืองไปแล้วนะครู“
ตลาดเงียบแทบไม่มีคนเดินเมื่อเขาไปสังเกตการณ์ตอนบ่ายจัด อาจจะแดดที่ร้อนเปรี้ยงนั่นก็ได้ ที่ทำให้ไม่มีใครออกมาเดิน นอกเหนือไปจากเหตุตีกันที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ รถเบนซ์สีดำของเสี่ยยังจอดที่เดิมเช่นเดียวกับกระบะสีน้ำเงินเก่าๆ คันนั้น…
ตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านขายสิ่งก่อสร้างก็พบร่างสูงขาวของเจียงอยู่กับคนงานสองสามคน พอเห็นเขาก็เดินมาหา
“มาซื้อของหรือครับ“
ประชาบุ้ยปากไปข้างนอก
“มีเรื่องอะไรกัน…”
“อ๋อ…ตีกันที่ตลาดสดเมื่อเช้า“
เดินคุยกันออกมาข้างนอก ตลาดทั้งตลาดเงียบกริบไม่ต่างอะไรกับตลาดร้าง
“แล้วแม่กับน้องสบายดี“ ประชาถามต่อ
“ครับ ผมพาไปส่งบ้านแล้ว“
“เธอเองก็ต้องระวังตัว“ ประชาเสียงเข้มขึ้นมานิด
ใบหน้าขาวหันขวับมองเขา ตาเข้มคมบอกแววพิศวง
“ฉันหมายถึงเราทุกคนก็ต้องระวังตัว มันร้ายกาจมากไอ้แก๊งนี้“ ประชาเปลี่ยนโทนเสียง รีบถามต่อ
“แล้วเสี่ยเมื่อไหร่จะออกจากโรงพยาบาล“
“เสี่ยดีขึ้นเยอะแล้วครับ คงอีกไม่กี่วัน“ เป็นคำตอบสั้น
“ก็ดี ยังเป็นห่วงอยู่ คิดว่าจะแย่เสียอีกทีแรก ปกติเสี่ยไม่เคยเข้าโรงพยาบาล“
“ครับ“
จบการสนทนาเพียงแค่นั้นก่อนที่ประชาจะผละจากไป เจียงมองตามร่างผู้สูงวัยกว่าที่เปิดประตูก้าวขึ้นรถกระบะคันนั้น คำเตือนยังแว่วในหู คำเตือนแปลกๆ ที่ประกาศว่าฝ่ายนั้นน่าจะล่วงรู้อะไรไม่มากก็น้อยเกี่ยวกับตัวเขา หรือว่าที่มาที่ไปของเขามันอาจจะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปแล้วก็ได้ พระเส้าหลินมีค่าหัวที่หนีกระเจิดกระเจิงเข้ามาฝั่งไทยคงเป็น ความลับไปได้ไม่นาน…
ประชาขับรถออกจากตลาดมาตามเส้นทางสายเดิม สังเกตว่ามีรถมอเตอร์ไซค์แล่นตามมาห่างๆ หลายคัน ไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันโผล่มาจากทิศทางไหน แต่แน่ใจว่ามัน จ้องจะตามเขาแน่
เอื้อมมือไปเปิดช่องเก็บสิ่งของและควานมือหยิบปืนกระบอกนั้นมาวางที่เบาะใกล้ตัว อาจจะถึงคราวที่เขาต้องใช้มันไม่วันใดก็วันหนึ่ง มองจากกระจกก็เห็นพวกมันกำลังเร่งเครื่องตามอย่างไม่ลดละ ประชาเหยียบคันเร่งสูงจนฝุ่นกระจาย ทิ้งระยะห่างพอสมควร ก่อนที่เขาจะเลี้ยวรถเข้าบ้าน ยังนั่งในรถขณะที่พวกมันเบิ้ลเครื่องผ่านไป รถเครื่องร่วมสิบคันทิ้งฝุ่นและกลิ่นน้ำมันเครื่องเอาไว้เบื้องหลัง…
กุมปืนจนเหงื่อชื้น รีบพกปืนเข้าเอวก่อนที่จะลงจากรถ ปืนเล็กๆ กระบอกเดียว จะไปสู้อะไรมันได้ถ้ามันบุกเข้ามาจริงๆ เป็นไปได้ที่พวกมันจะเดือดแค้นเขาเรื่องตลาดและการหาหน่วยรักษาความปลอดภัยมาดูแล ขนาด รปภ.ยังโดนรุมกระทืบไปเรียบร้อยแล้ว…
เรียกบุตรสาวมาคุยด้วย สั่งห้ามขาดเรื่องออกนอกบ้านและการไปขายของที่ตลาด
“พ่อเพิ่งแวะไปตลาดมา สงสัยจะปิดถาวร ไม่เห็นมีการกวาดล้างอะไร นักเลงยังกร่างไปทั่ว รุ่งอย่าพยายามออกไปไหนคนเดียว“
“แม่บอกรุ่งว่าอยากย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว“
ประชาอึ้ง นั่นคือสิ่งที่เขาเองก็เคยคิดอยู่ตลอดเวลา แต่เขาจะย้ายไปไหน นี่คือถิ่นที่เกิด เขาอยู่มานานก่อนหน้าที่ไอ้พวกเดนนรกนั่นจะเกิดเสียอีก คนที่ควรจะไปคือพวกมันไม่ใช่เขา…
เสี่ยกิจออกจากโรงพยาบาลอาทิตย์นั้น พอเข้าห้องทำงานส่วนตัวก็พบว่าตู้เซฟถูกงัดระเนระนาด เหล้าฝรั่งหลายขวดกองอยู่ในถังขยะ ไม่ใช่ฝีมือใครนอกเสียจากเจ้าลูก ชายคนโตของเขานั่นเอง
โกรธเสียจนความดันขึ้น เรียกตัวมันมาพบด่วนและชี้ไปที่ตู้เซฟ
“ลื้อใช่ไหม“
“เตี่ยพูดไร ไม่ใช่ฉัน“ ปฏิเสธเสียงแข็ง
“ไม่ใช่ลื้อแล้วจะใคร มีใครที่นี่มั่งนอกจากลื้อ“ เสี่ยเสียงแข็ง
“ก็จะใคร ไอ้เจียงไง เห็นไว้ใจมันนักหนา แล้วเป็นไง“
“อย่ามาโทษคนซี้ซั้ว ลื้อหวังจะเอาเงินในนั้นไปอีก เงินเก่าก็ยังไม่ใช้คืน ชั่วชิบหาย มีลูกระยำอย่างนี้อย่ามีมันดีกว่า ไสหัวไปเลยแล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก จะไปอยู่กับเพื่อนเดนนรกที่ไหนก็ไสหัวไป แล้วไม่ต้องมาเรียกกูว่าเตี่ย“
เกรียงกระแทกเท้าโครมครามจากไป เข้ารถได้ก็สตาร์ทเครื่องยนต์กระแทกกระทั้น ก่อนที่รถส่วนตัวจะวิ่งฝุ่นตลบไปทั้งตลาด นี่ดูจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้งที่รุนแรงที่สุด ถึงขนาดเตี่ยตัดขาดแถมยังไล่เขาออกจากงาน
โกรธเสียจนหัวหมุน แหล่งระบายแห่งเดียวคือบ้านทะนง พอฝ่ายนั้นรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ว่า
“เตี่ยมึงรวยเป็นร้อยล้านพันล้าน ทำไมถึงได้ขี้เหนียวขนาดนี้วะ เงินเตี่ยก็คือ เงินมึง กูเห็นมึงทำงานช่วยเตี่ยตัวเป็นเกลียว หนักกว่าพี่น้องทุกคนด้วย แต่ละคนกูเห็นไปเรียนนอกกันสบาย ยกเว้นมึง“
เกรียงเงียบ ปมด้อยที่ทะนงขยันจี้จุด ทะนงพ่นควันกัญชามองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง
ในวัยเดียวกันเกรียงยังไม่กร้านเท่าเขา ยังไม่เคยฆ่าใครตายและที่สำคัญยังต้องเกาะเตี่ยกิน…
“บริษัทนั่นน่ะ จะว่าเป็นของมึงก็ได้“ พูดต่อไปเรื่อยๆ ใจเย็นกว่าเดิมจากฤทธิ์กัญชา “คนงานทั้งหมดก็ขึ้นกับมึง ลูกน้องมึงทุกคนว่างั้นเหอะ รายได้ทั้งหมดก็น่าจะ เป็นของมึงด้วย ไม่ใช่ของเตี่ยมึงคนเดียว“
“แล้วมึงจะให้กูทำไง…”
“เรื่องของมึงแล้ว ถ้ากูเป็นมึงนะกูจะไม่ยอมอยู่อย่างนี้หรอก แต่ถ้าจะให้กูช่วยนะ ก็ขอให้บอกมาคำเดียว“
“มึงจะทำอะไร“
“จะให้ช่วยมั้ยล่ะ รับรองถ้ากูช่วยมึงจะเป็นมหาเศรษฐีแทนเตี่ยมึงในชั่วพริบตา“
สบตากันนิ่งท่ามกลางควันกัญชามัวมน เหมือนจะมีทางออกที่มืดสนิทรอคอยอยู่
สำหรับเกรียงมันเป็นทางออกที่เลวร้ายแต่ก็ช่างหวานหอมสำหรับเขาในเวลานี้ ความแค้นที่เตี่ยไล่เขาออกผสมผสานกับความขุ่นเคืองอันยาวนานที่กัดกร่อนกินหัวใจ…ยิ่งเพื่อนมาให้ความหวังของความเป็นไปได้ เขาจะได้เป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างถ้าไม่มีเตี่ยเสียคน…
วางแผนกันเครียด…
“จะทำอะไรก็แล้วแต่ มึงอย่าให้กูถูกจับได้…” เกรียงเดินพล่าน “ถ้ากูถูกจับได้ โทษประหารเลยนะมึง“
“เออน่า กูสั่งลูกน้องกูคำเดียวรับรองเตี่ยมึงกับไอ้คนขับรถเป็นศพแน่ กูเองก็แค้น ไอ้นั่นมานานแล้วเหมือนกัน“
“ทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าให้มาเดือดร้อนถึงกู”
“เหอะน่า ขอให้เชื่อมือ“
มันง่ายดายขนาดนี้เอง แค่ที่ว่ามีเพื่อนเป็นนักเลงใหญ่ที่มีพ่อถือหางอยู่ ทะนงสั่งฆ่าคนเป็นว่าเล่นชนิดที่จับมือใครดมไม่ได้ด้วย คดีฆ่าเผายกครัวลูกหนี้ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ตำรวจยังมาถึงทางตัน และนี่ก็คือโอกาสเดียวที่เขาจะได้ครอบครองธุรกิจพันล้าน
ของเตี่ย…
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 42 : หลักฐานชิ้นสำคัญ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 41 : พายุฝน
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 40 : พันธนาการ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 39 : อิทธิพลยังคงอยู่
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 38 : ไล่ล่าคนร้าย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 37 : ฟ้าวันใหม่
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 36 : กรรมติดจรวด
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 35 : ชายชรา
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 34 : วิบากกรรม
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 33 : ความผูกพัน
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 32 : ฝันร้าย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 31 : ถ้าผมไม่กลับไป...
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 30 : แบทแมน
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 29 : อิทธิพลมืด
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 28 : ไล่ล่า
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 27 : แสงสว่างในความมืด
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 26 : แค่ลมหายใจ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 25 : ศาลเตี้ย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 24 : ก่อนพายุจะมา
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 23 : เผาโหด
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 22 : ที่พักพิง
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 21 : ที่ยืนของคนดี...มีไหม
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 20 : จุดตาย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 19 : ผู้บงการ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 18 : ลูกงูเห่า
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 17 : ลอบทำร้าย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 16 : เมืองมืด
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 15 : ความไว้ใจ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 14 : ชีวิตบนเส้นด้าย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 13 : มิตรภาพ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 12 : เมืองเถื่อน
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 11 : ผืนดินที่อาศัย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 10 : ระวังตัวให้ดี
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 9 : เจ้าลัทธิ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 8 : คนรถคนใหม่
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 7 : บนเส้นด้าย
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 6 : ความช่วยเหลือ
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 5 : แก๊งอันธพาล
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 4 : บุรุษปริศนา
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 3 : อาจจะถึงเวลาเริ่มต้น
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 2 : ถนนสายนักเลง
- READ ก่อนฟ้าสาง บทที่ 1 : แผ่นดินของเรา