
บ่วงเวรา บทที่ 22 : จารจดคุณไว้ในดวงจิต
โดย : สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ
บ่วงเวรา นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศ โครงการอ่านเอาก้าวแรก ๓ โดย สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ กับเรื่องราวของวังวนความรักและความแค้น ความมุ่งมั่นที่จะตอบแทน ทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามให้สาสม แล้วความรักจะเยียวยาใจแก้ไขความแค้นได้จริงหรือ…อ่านเอาขอเชิญทุกท่านร่วมเพลิดเพลินไปกับนวนิยายพีเรียดสุดเข้มข้นเรื่องนี้ที่ anowl.co
ฟังคำถามเอื้องหน้าชาเห่อ นึกน้อยใจขึ้นมาครันๆ ชั่วอึดใจสาวเจ้านิ่งถามตนเองว่า ที่ช่วยมาศนั้น เหตุเพราะหวังดีอยากผูกมิตร อยากช่วยเหลือ มิได้ทำไปเพื่อผลประโยชน์จริงหรือไม่ แม้ตนเองจะเป็นบุตรสาวที่มาจากครอบครัวที่เก่งกาจเรื่องการค้าขาย รู้จักการผูกน้ำใจคนไว้ช่วงใช้ รู้จักการต่อรองเพื่อผลประโยชน์ แต่สำหรับเรื่องของมาศนั้นเอื้องสามารถตอบตนเองได้อย่างเต็มปากและเต็มใจว่าทำไปเพราะอยากเป็นเพื่อน อยากตอบแทนน้ำใจครั้งเก่า
“ทำไมถึงถามข้าเช่นนั้น” เอื้องถามกลับ
มาศผู้เก็บงำความรู้สึกและความคิดของตนมาโดยตลอด เพราะท่านจางวางเตือนเสมอว่าการแพร่งพรายความรู้สึกนึกคิดของตนต่อทุกคน คือการเปิดหนทางให้ผู้ที่ประสงค์ร้ายหาช่องทางมาเล่นงานได้ภายหลัง ดังนั้นตนคิดอ่านหรือรู้สึกอย่างไร มาศก็ไม่เคยเปิดเผยให้ใครทราบทั้งสิ้น มาคราวนี้มาศบอกตนเองว่าเพื่อตอบแทนน้ำใจที่เอื้องนำข่าวสารของย่ามาส่งให้ ตนจะแถลงเล่าความรู้สึกแท้จริงของตนเองอย่างไม่ปิดบัง
“เพราะฉันรู้ว่าเธอเข้ามาในวังนี้อย่างมีความประสงค์แอบแฝง…ดังนั้นความช่วยเหลือครั้งนี้ย่อมต้องมีค่าตอบแทน”
เอื้องตกใจวับจนหน้าซีดเผือด ‘มาศดูออก เขาดูเจตนาของเราออก’ ความรู้สึกละอายแล่นขึ้นมาจับที่หัวใจ เอื้องไม่อาจปฏิเสธความจริงข้อนี้ แม้ตลอดมาเธอเป็นคนที่ซื่อตรงและเปิดเผย คงมีแต่การเข้าวังนี้ละกระมังที่เต็มไปด้วยแผนการอันล้ำลึกแยบยล แต่มาศก็ยังดูออก
“ฉันยอมรับว่าการที่ฉันเข้าวังมา มีสิ่งต้องการแอบแฝง แต่เธอรู้ได้อย่างไร”
เอื้องไม่คิดที่จะปกปิดหรือโต้เถียง หญิงสาวยอมรับโดยดุษณี “คุณเตี่ยอยากให้ฉันถวายตัว เพื่อที่จะได้มีเส้นสายเครือข่ายในการค้าสำเภากับต้าหมิง” เธอสารภาพมาอย่างทื่อๆ ไม่ปกปิดบิดความ ความจริงแล้วมาศและท่านจางวางต่างก็พอเดาถึงวัตถุประสงค์ของออกหลวงโชฎึกได้ แต่ก็ยังไม่มั่นใจนักว่านอกจากผลประโยชน์ทางการค้าแล้ว ยังมีเรื่องอื่นแอบแฝงอีกหรือไม่ เมื่อหญิงสาวตรงหน้าสารภาพมาตรงๆ กำแพงที่ยกสูงของมาศก็เลื่อนลดลง
หญิงสาวเล่าต่อว่า บิดาของตนมีเครือข่ายค้าขายกับแผ่นดินต้าหมิงแต่เป็นการค้าทางบก ที่ค้าขายกันบริเวณตอนใต้ของอาณาจักรต้าหมิง ผ่านสิบสองปันนา ล้านนา ลงมาถึงอโยธยา โดยมีเครือข่ายการค้าของตาเป็นผู้สนับสนุน เส้นทางการค้าทางบกของพ่อเธอนั้นจึงเข้มแข็ง แม้ใครๆ ก็รู้ว่าอโยธยาเป็นเมืองท่าสำคัญ แต่สินค้าจากการค้าทางทะเลและทางบกนั้นล้วนต่างกันอย่างสิ้นเชิง มาบัดนี้บิดาของเธอใคร่อยากได้สินค้าที่นิยมค้ากันทางทะเลไปเชื่อมโยงขายกับเส้นทางการค้าทางบก เพื่อเพิ่มพูนกำไรและการกระจายสินค้า ติดอยู่แต่ว่ามีกำลังทรัพย์แต่ไม่มีอำนาจมากพอที่จะเปิดตลาดการค้าทางทะเล เขาจึงใคร่จะอาศัยความสัมพันธ์ฉันเครือญาติกับเจ้านายที่มีอิทธิพลเกี่ยวกับการค้าทางทะเลกับอาณาจักรต้าหมิง ซึ่งก็คือพระเยาวราช
บิดาเธอจึงปรึกษากับคุณหงน้องสาวผู้เป็นข้าหลวงของพระชายา คุณหงเองเมื่อทราบก็ยินดีที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดความสัมพันธ์นี้อย่างเต็มที่ คุณหงเองนั่นแล้วที่เป็นคนบอกว่าพระเยาวราชไม่โปรดรับหม่อมใหม่ๆ และคุณหงเองก็เป็นผู้บอกพระอัธยาศัยของพระเยาวราชว่าโปรดสิ่งใด แผนการแต่งกายอย่างหญิงผู้ดีแห่งต้าหมิงก็เกิดจากความคิดของคุณหงเอง
เอื้องเล่าความลับจนสิ้นไส้ มาศเองก็ยังหาพิรุธจากปากคำนั้นไม่ได้ จึงค่อยคลายความระแวง โดยเฉพาะเรื่องที่กังวลว่า ในวังนี้มีจารบุรุษที่คอยสืบความเกี่ยวกับพระเยาวราช เมื่อคลายกังวลลงมาศจึงเอ่ยปากถามเรื่องสำคัญ
“แล้วเธอเล่าย่อมเป็นหมากให้บิดาใช้ด้วยความเต็มใจหรือ”
เอื้องพยักหน้า “ฉันเต็มใจ ที่เต็มใจมิใช่เพราะอยากเป็นหมากในกระดานของใคร แต่เพราะชีวิตและหัวใจของฉันเป็นของพระเยาวราชไปเสียนานแล้ว…” มาศได้ฟังก็แสดงสีหน้าฉงน เอื้องจึงกล่าวต่อว่า “…เธอจำงานสมโภชพระใหญ่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้หรือไม่…”
เอื้องย้อนความทรงจำไปเมื่อหลายสิบปีก่อน วันนั้นเป็นวันสำคัญพ่ออยู่หัวทรงสถาปนาสร้างพระใหญ่องค์หนึ่งสำเร็จ จึงทรงโปรดให้มีพิธีสมโภชอย่างใหญ่มีมหรสพมากมายเป็นที่สนุกเพลินใจของอาณาประชาราษฎร์ จนกล่าวกันว่าสองตาดูได้ไม่ถ้วนทั่ว งานคราวนั้นเจ้านายก็เสด็จกันมาก ส่วนราชนิกุลและขุนนางต่างก็มาร่วมงานกันไม่น้อย
งานเมื่อคราวนั้นเอื้องเพิ่งตัดจุกได้ไม่นาน ผมที่เพิ่งถูกโกนออกกำลังขึ้นชี้โด่เด่ไม่เป็นทรง ดูเผินๆ คล้ายเด็กชายรุ่นหนุ่ม ด้วยความอยากเที่ยวเล่นให้เพลินใจจึงอาศัยช่วงที่บิดาและมารดากำลังวุ่นวายกับการจัดเตรียมสินค้าที่ต้องส่งไปขายยังเมืองเหนือในช่วงดึกของวันนั้น หนีออกมาเที่ยวกับพี่เลี้ยงเพียงสองคน เอื้องอาศัยที่ผมยังไม่ยาวดี ดูแล้วคล้ายเด็กผู้ชาย จึงไม่ห่มผ้าอย่างสตรีแต่แอบสวมเสื้อนุ่งหยักรั้งทับสนับเพลาดูทะมัดทะแมงคล้ายเด็กหนุ่มรุ่นกระทง
ด้วยเคยอยู่แต่เรือนหรือหากออกข้างนอกก็มีบ่าวไพร่ห้อมล้อมป้องกัน เมื่อแอบหนีมาเพียงสองคนกับบ่าวคนสนิท แล้วพบกับผู้คนจำนวนมากที่เบียดเสียดกันมาเที่ยวดูงานก็เกิดการพลัดหลงกัน ขณะที่เอื้องกำลังตกใจว่าพลัดกับบ่าวคนสนิท ก็ปรากฏมีทนายของขุนนางผู้ใหญ่คนหนึ่งร้องไล่คนเพื่อเปิดทางให้ขบวนขุนนางผู้ใหญ่ท่านนั้นพร้อมกับบรรดาภรรยาทั้งหลวงและน้อยผ่านไป
ขุนนางผู้นี้ขึ้นชื่อนักเรื่องเจ้าชู้มากเมีย แม้จะอยู่ในวัยเฒ่าชราเต็มที ผู้คนกระซิบนินทากันว่าท่านผู้บุญหนักผู้นี้ หากอยากได้ใครก็ต้องได้ ไม่เกี่ยงว่าเป็นลูกเขาเมียใคร มิเกี่ยงว่าหญิงคนนั้นมีชาติกำเนิดอย่างไร อย่างเมียน้อยคนล่าสุดที่ท่านหลงนักหลงหนา จะพาไปไหนก็ให้นั่งแคร่คานหามแทบจะเสมอเอกภรรยานางนี้ ข่าวก็ลือว่ากำพืดเดิมเป็นหญิงในโรงรับชำเราชาย ท่านผู้ใหญ่ต้องตาก็ไปไถถอนมาเลี้ยงเป็นเมีย ส่วนนางเมียน้อยผู้นี้ก็ไม่ลืมสัญชาติเดิม พบหนุ่มเหน้าชายฉกรรจ์ที่ไหนรูปงามก็ส่งสายตาโลมเล้าเป็นสื่อไปยังชายนั้น ท่านผู้ใหญ่แทนที่จะโกรธเกรี้ยวเอากับเมียตนที่ไม่สำรวม กลับไปลงกับชายผู้เคราะห์เหล่านั้น
ความโชคร้ายของเอื้องมาเยือน เมื่อทนายของขุนนางผู้ใหญ่ไล่คนเปิดทางให้ขบวนผ่าน ผู้คนถอยกรูดไปอัดกันข้างทางจนเบียดเสียด เอื้องเองก็ถูกอัดจนเบียดเสียดอยู่แถวนั้นเช่นกัน เพียงแค่แคร่คานหามของขุนนางผู้ใหญ่และภรรยาเอกผ่านหน้าเอื้องไปได้เพียงนิด ผู้คนที่เบียดเสียดกันจนแน่นก็ผลักให้เอื้องถลันออกมาล้มคะมำอยู่ตรงหน้าแคร่เมียน้อยตัวโปรดของท่านผู้ใหญ่ บ่าวของเมียน้อยร้องหวีดขึ้นด้วยตกใจ ทำให้ขุนนางผู้นั้นหันหน้ามาดู เมื่อเห็นเอื้องในชุดผู้ชายก็โกรธนัก คิดว่าเอื้องตั้งใจจะลวนลามเมียน้อยของตัว จึงสั่งให้ทนายลากตัวเอื้องออกมา แล้วให้กระชากเสื้อเพื่อโบยประจานต่อหน้าธารกำนัล
เมื่อถึงคราวคับขันเอื้องดิ้นร้นสู้สุดใจ แต่ก็ไม่อาจสู้แรงคนหนุ่มฉกรรจ์ที่กลุ้มรุมเธออยู่ได้ ขณะที่หนึ่งในนั้นจะกระชากเสื้อของเอื้องออก เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเหนือหัวว่า ‘ใต้เท้าช้าก่อน โปรดกรุณา…เจ้าเด็กนั้นเป็นมหาดเล็กของเรา…เราให้มาดูทางแถวนี้ว่าพอจะสัญจรได้หรือไม่ คงมีเหตุจำเพาะทำให้หม่อมของใต้เท้าตกใจโปรดให้อภัยเถิด’
เสียงสวรรค์มาโปรด เอื้องช้อนตามองดูเจ้าของเสียง ชายหนุ่มผู้นั่งอยู่บนราชยานปิดทองมลังเมลือง ในเวลานั้นหากใครบอกว่านี้คือเทวดาเสด็จลงมาโปรดเอื้องก็เชื่อสนิทใจ
‘หากมันเป็นมหาดเล็กของสมเด็จพระเยาวราช หาใช่คนพาลที่ไหน หม่อมฉันก็จะอดโทษถวายให้พระเจ้าค่ะ’ ขุนนางผู้ใหญ่ท่านนั้นตอบเสียงสะบัด
‘เป็นความกรุณาอย่างที่สุดใต้เท้า…’ เสียงนั้นหันมาพูดกับเอื้อง ‘…เอ็งจะช้าอยู่ไยเล่า กราบขอบพระคุณในความเมตตาของใต้เท้าท่านเสียสิ’
เอื้องกราบลงกับพื้นอย่างว่าง่าย ‘…เจ้ามาศช่วยทีเถิด อ้ายหนุ่มนั้นน่าจะขาแพลงลุกไม่ขึ้นเสียแล้ว พยุงมันขึ้นแล้วพาไปให้ย่าเจ้าใส่ยาเสียเถิด…เราจะต้องรีบไปเฝ้าพ่ออยู่หัว จิ่มจวนเพลาเสด็จเต็มทน เมื่อเสร็จแล้วจงตามเรามาที่พลับพลาตรงโน้นนะ’
เด็กยังไว้จุกที่พระเยาวราชเรียกว่ามาศนั้นนำบริวารอีกสองสามคนพยุงคนที่พระเยาวราชอ้างว่าเป็นมหาดเล็กขึ้น ดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับตน แต่มืดสลัวนักซ้ำหน้าตายังมอมแมมจนเห็นหน้าไม่ชัด มาศกำลังห่วงการละเล่นสมโภชจึงรีบพาคนที่เขาคิดว่าเป็นเด็กหนุ่มผู้นั้นไปส่งให้กับย่า ซึ่งขอนั่งรอที่เรือประทุนบริเวณท่าน้ำ เพราะรู้สึกวิงเวียนกับผู้คนที่เบียดเสียดกันจำนวนมาก เมื่อส่งเขาให้ย่าแล้วก็เท่ากับว่าสิ้นหน้าที่ มาศและบริวารจึงรีบผละกลับไปเฝ้าพระเยาวราชเพื่อดูการเล่นมหรสพสมโภช ปล่อยเด็กหนุ่มผู้นั้นไว้กับย่า
หากเอื้องไม่เท้าความ เขาก็คงลืมเลือนเรื่องนี้ไปเสียแล้ว “เด็กหนุ่มที่เพิ่งโกนจุกคนนั้นคือเธอหรือแม่เอื้อง” มาศถามขึ้น
“เป็นฉันเอง…จากวันนั้นมา ฉันก็กำหนดจดจารไว้ในใจว่าฉันเป็นหนี้ชีวิตต่อสมเด็จท่าน ต่อแม่นายเภา และเธอ ดังนั้นฉันจึงกล้าสาบานว่า ฉันช่วยเธอให้ติดต่อกับท่านย่าของเธอเพราะสำนึกคุณที่ทั้งเธอและย่าได้เมตตาช่วยฉันไว้ในวันนั้น ไม่ได้หวังผลอะไรตอบแทน ส่วนเรื่องสมเด็จฉันเพียงเข็นเรือตามน้ำ เมื่อคุณเตี่ยอยากให้ฉันถวายตัวและตัวฉันเองก็สมัครภักดีต่อองค์พระเยาวราชเท่านั้น ฉันจึงต้องเล่นเล่ห์ตามที่คุณเตี่ยและคุณอาวางไว้”
มาศนิ่งคิดแล้วถามขึ้นมาว่า “การที่เธอเข้ามาเป็นข้าหลวงของพระชายาก็ไม่ได้หมายความว่า สมเด็จพระเยาวราชจะรับเธอเป็นหม่อมของพระองค์ท่าน”
“เรื่องนั้นสุดแต่บุญแต่กรรม” เอื้องตอบ
“เพื่อให้พระเยาวราชรับเธอเป็นหม่อม คุณอาของเธอคงไม่ได้วางแผนไว้เพียงเท่านี้เป็นแน่”
เอื้องแสดงท่าทีร้อนรน หญิงสาวคว้ามือมาศไปกุมไว้ “ฉันคงไม่อาจให้สัญญาว่าจะไม่ใช้เล่ห์กลอุบายต่อพระเยาวราชอีก แต่ฉันขอสาบานว่าหากการใดจะทำให้พระเยาวราชทรงเดือดร้อนหรือเป็นอันตรายให้ตายฉันก็ไม่ขอทำเด็ดขาด”
มาศนิ่งตรึกตรองชั่งใจอย่างหนัก เขาเชื่อโดยสนิทใจว่าเอื้องไม่ได้ทำผิดคิดร้ายต่อพระเยาวราช เธอทำไปเพียงเพราะใจปรารถนาจะได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดพระเยาวราช อีกทั้งที่เอื้องช่วยให้ตนสามารถติดต่อกับย่าได้ก็เพราะต้องการตอบแทนบุญคุณเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มาศจึงคิดจะตอบแทนน้ำใจเอื้องคืน โดยให้เธอได้สมหวังบ้าง จึงหักใจแล้วกล่าวว่า “หากเธอสาบานว่าเธอจะไม่คิดร้ายต่อสมเด็จท่าน ฉันจะเป็นแรงช่วยให้เธอสมหวังเอง แต่หากเมื่อไรเธอทำผิดคิดร้ายต่อพระเยาวราช ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอแน่นอน”
- READ บ่วงเวรา บทที่ 43 : พยาบาทคือเพลิงผลาญใจ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 42 : เก็บกวาด
- READ บ่วงเวรา บทที่ 41 : สำเร็จโทษ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 40 : ยาพิษ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 39 : คนมุ่งร้ายไม่ได้มีผู้เดียว
- READ บ่วงเวรา บทที่ 38 : ข่าวร้าย – ข่าวดี
- READ บ่วงเวรา บทที่ 37 : อุบายล่อเสือออกจากถ้ำ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 36 : จางวางอู๋วางหมาก
- READ บ่วงเวรา บทที่ 35 : ปลูกสิ่งไรย่อมได้ผลนั้น
- READ บ่วงเวรา บทที่ 34 : ไขกลย้อนเกล็ด
- READ บ่วงเวรา บทที่ 33 : ย้อนเกล็ด
- READ บ่วงเวรา บทที่ 32 : เล่ห์หึงสา
- READ บ่วงเวรา บทที่ 31 : ระทดใจ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 30 : หนักหน่วงอก
- READ บ่วงเวรา บทที่ 29 : ลังเลรัก
- READ บ่วงเวรา บทที่ 28 : คืนสู่เจ้าของเดิม
- READ บ่วงเวรา บทที่ 27 : ข่าวจากแดนไกล - ดอกไม้เริ่มผลิบาน
- READ บ่วงเวรา บทที่ 26 : แหวนรอบของมารดา
- READ บ่วงเวรา บทที่ 25 : แก้กล
- READ บ่วงเวรา บทที่ 24 : มิตรจิตมิตรใจ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 23 : อ้ายใบ้หลานยายอุ่ม
- READ บ่วงเวรา บทที่ 22 : จารจดคุณไว้ในดวงจิต
- READ บ่วงเวรา บทที่ 21 : ผูกน้ำใจด้วยไมตรี
- READ บ่วงเวรา บทที่ 20 : ดอกไม้ช่อใหม่ในกุณฑี
- READ บ่วงเวรา บทที่ 19 : พาลใส่ไคล้ – พยานปากเอก
- READ บ่วงเวรา บทที่ 18 : ธิดาออกหลวงโชฎึกฯ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 17 : ไฟสุมขอน
- READ บ่วงเวรา บทที่ 16 : เกิดมาเป็นเจ้าใครเขาก็คิดว่าสุขสบาย
- READ บ่วงเวรา บทที่ 15 : นางฉาย
- READ บ่วงเวรา บทที่ 14 : ปัทมราช
- READ บ่วงเวรา บทที่ 13 : วันเวลาผันผ่าน
- READ บ่วงเวรา บทที่ 12 : ชัยชนะอันแสนขม
- READ บ่วงเวรา บทที่ 11 : ตัดไม้อย่าไว้หนามหน่อ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 10 : สนองคุณ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 9 : ทางรอดเดียว
- READ บ่วงเวรา บทที่ 8 : ต่อรองผ่อนหนัก
- READ บ่วงเวรา บทที่ 7 : ทางรอดที่ริบหรี่
- READ บ่วงเวรา บทที่ 6 : แก้ต่าง
- READ บ่วงเวรา บทที่ 5 : อุบายหมายประทุษ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 4 : เค้าลางหายนะ
- READ บ่วงเวรา บทที่ 3 : พระเยาวราช
- READ บ่วงเวรา บทที่ 2 : ผูกบ่วงเวรา
- READ บ่วงเวรา บทที่ 1 : เรือนราชนิกูลแห่งกัมพุช