บ่วงเวรา บทที่ 41 : สำเร็จโทษ

บ่วงเวรา บทที่ 41 : สำเร็จโทษ

โดย : สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ

บ่วงเวรา นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศ โครงการอ่านเอาก้าวแรก ๓  โดย สัมพันธ์ สุวรรณเลิศ กับเรื่องราวของวังวนความรักและความแค้น ความมุ่งมั่นที่จะตอบแทน ทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามให้สาสม แล้วความรักจะเยียวยาใจแก้ไขความแค้นได้จริงหรือ…อ่านเอาขอเชิญทุกท่านร่วมเพลิดเพลินไปกับนวนิยายพีเรียดสุดเข้มข้นเรื่องนี้ที่ anowl.co

คืนนั้นซานเป่าโกลาหลอย่างที่สุด หลังจากพยาบาลรักษามาศจนพ้นขีดอันตรายแล้ว ก็มาพยาบาลอาการตกเลือดของเอื้อง ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้า หลังจากที่เอื้องพบกับการถูกปองร้ายทำให้สุขภาพกายและสุขภาพใจไม่สมบูรณ์มาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อต้องประสบเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเช่นวันนี้ เอื้องก็ตระหนกเสียขวัญจนตกเลือด และไม่อาจรักษาเด็กในครรภ์ไว้ได้

พระเยาวราชเสียพระทัยมาก เมื่อได้ทรงทราบข่าวจากซานเป่า เมื่อระงับอารมณ์เรื่องการสูญเสียบุตรในครรภ์ของเอื้องได้แล้ว จึงทรงถามเรื่องอาการของมาศ

“พิษนี้ร้ายแรงนักพระเจ้าข้า หม่อมฉันเกือบรักษาชีวิตพี่มาศไว้ไม่ได้” ซานเป่าทูล

“พิษอันใด เหตุใดจึงร้ายแรงเช่นนี้”

“จากอาการสำแดงพิษของพี่มาศและพระชายา หม่อมฉันคิดว่าน่าจะถูกพิษจงโคร่งไฟพระเจ้าข้า” ซานเป่าสาธยายต่อว่า พิษชนิดนี้เป็นของหายากเพราะตัวยาพิษต้องสกัดจากคางคกภูเขาพิษซึ่งมีตัวใหญ่และสีแดงดุจเปลวไฟ ท่านจางวางเล่าว่าพิษชนิดนี้สามารถเสาะหาได้จากดินแดนชนเผ่าที่อาศัยบนยอดภูละแวกหยุนหนาน จึงเป็นของหายากในอโยธยานี้

“แล้วนางฉายไปได้มาจากที่ใดกัน” พระเยาวราชทรงสงสัย

“ท่านจางวางมียาพิษชนิดนี้อยู่ขวดหนึ่งพระเจ้าข้า และมันหายไปพร้อมกับหีบที่รักษาจดหมายลับเกี่ยวกับการลักลอบค้าข้าวสารกับพวกโจรสลัดทะเลตะวันออก…” ซานเป่านิ่งคิดก่อนพูดต่อว่า “การที่นางฉายมียาพิษชนิดนี้ เป็นไปได้หรือไม่พระเจ้าข้า ว่าโจรที่มาสังหารท่านจางวางคือออกญายมราชบิดาของนาง เพื่อที่จะมาชิงเอาหลักฐานความผิดของตัวไป ส่วนนางฉายก็ได้ยาพิษขวดนี้มาจากพ่อของมันอีกที” ซานเป่าทูลแสดงความเห็น

“ไม่ได้การแล้ว ซานเป่าเจ้าจงไประดมทหารในสังกัดเอาที่ฝีมือดี เราจะไปค้นเรือนอ้ายเชื้อ ปะเหมาะเราจะได้จัดการมันให้สิ้นซากไปเลยทีเดียว”

 

ที่ผ่านมาออกญายมราชคิดว่าพระเยาวราชนั้นอ่อนแอไม่เฉียบขาด มาบัดนี้เขารู้ตัวแล้วว่าเขาคิดผิดอย่างถนัด เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลกพระเยาวราชก็สามารถควบคุมไพร่พลของพระองค์ให้ปลดอาวุธทหารในสังกัดของออกญายมราชได้จนสิ้น และจัดการจุกช่องล้อมวงบ้านของออกญายมราชอย่างแน่นหนา

บัดนี้พระเยาวราชประทับอยู่ที่หอนั่งกลางเรือน ทหารสองคนคุมตัวออกญายมราชไว้ บรรดาบ่าวไพร่และอนุภรรยาที่ตกค้างบนเรือนใหญ่ถูกกันตัวไปคุมตัวไว้อีกห้องหนึ่ง ทหารส่วนที่เหลือและซานเป่าต่างช่วยกันค้นหาของสำคัญ นั่นก็คือหีบหลักฐานที่หายไป

“พระเยาวราชลูกเขยข้า… คิดดีแล้วหรือทำเช่นนี้ ทรงลืมไปแล้วหรือว่าเพราะอำนาจและบารมีของพ่อตาคนนี้ ที่ช่วยค้ำชูให้พระองค์มีที่ยืนในราชสำนัก” ออกญายมราชกล่าวข่มขู่และทวงบุญคุณไปในที

“อ้ายเชื้อ…ขอบน้ำใจที่เตือนข้า ข้าไม่มีทางลืม…” พระเยาวราชเอ่ยวาจาไร้เยื่อใย “…ข้าไม่อาจลืมได้เลยว่าที่ผ่านมาเอ็งและลูกข่มขู่ข่มเหงข้าเพียงไร และข้าก็ไม่ลืมว่าเอ็งใช้ฐานะของข้าไปแอบอ้างทำเรื่องชั่วช้าอะไรไว้บ้าง วันนี้ละข้าจะสะสางเสียทีเดียว” พระเยาวราชตรัสตอบเสียงเย็น

“ทรงมั่นพระทัยเพียงนั้นเทียวหรือพระเจ้าข้า ทรงอย่าลืมนะว่าหม่อมฉันเป็นเสนาบดีผู้ใหญ่ของพ่ออยู่หัว พระองค์ไม่มีสิทธิ์ที่จะลงโทษตามอำเภอใจ”

“ไว้รอดูกันอ้ายเชื้อ…”

ไม่นานซานเป่าก็ออกมาจากเรือนนอนของออกญายมราชพร้อมหีบใบหนึ่ง หีบใบนั้นซานเป่าจำได้ดีว่าเป็นหีบของท่านจางวางอู๋ ซึ่งบัดนี้หูเกี่ยวแม่กุญแจถูกตีจนขาดแล้ว หีบใบนี้ที่ท่านจางวางอู๋ใช้ชีวิตของตนเองเป็นใบเบิกทางให้มันมาอยู่ในเรือนของออกญายมราช ให้มันมาทำหน้าที่เครื่องประหารที่จะพรากชีวิตของอ้ายเชื้อ

“หีบใบนี้น่าสงสัยนักพระเจ้าข้า” ซานเป่าถวายให้พระเยาวราชทอดพระเนตร

“ก็แค่กล่องใส่เงินก้อนและไข่มุก จะเอาผิดอะไรหม่อมฉันได้พระเจ้าข้า…พระลูกเขยของหม่อมฉัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ออกญายมราชกล่าวเยาะ

ซานเป่ายิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะแกล้งพลิกซ้ายพลิกขวาหาพิรุธต่างๆ จนพลิกก้นหีบกลับขึ้นมา เขาแสร้งทำเป็นสังเกตเห็นรูเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่อย่างบังเอิญ จึงเอาเข็มทิ่มลงไปอย่างที่ท่านจางวางเคยสอน

พลันสลักช่องลับที่แอบซ่อนอยู่ก็เปิดขึ้น ภายในเป็นกระดาษปึกหนึ่ง ซานเป่ารีบหยิบกระดาษปึกที่ซ่อนอยู่ในช่องนั้นให้พระเยาวราชทอดพระเนตร ส่วนออกญายมราชครั้นได้เห็นว่าหีบนั้นมีช่องลับซ่อนอยู่ก็ตกใจจนตาลีตาลาน

พระเยาวราชทอดพระเนตรกระดาษปึกนั้น ที่มีทั้งตั๋วแลกเงินจากร้านแลกเงินขนาดใหญ่ที่มีสาขาทั่วไปในเขตหัวเมืองทางใต้ชายฝั่งของแผ่นดินต้าฉิง และเลาๆ ว่าร้านแลกเงินนี้ก็มีสาขาที่ย่านตลาดนายไก่ด้วยเช่นกัน อีกส่วนคือจดหมายลับนัดแนะติดต่อวันส่งสินค้า ซึ่งกำหนดนัดอยู่ในระหว่างที่ทางราชสำนักอโยธยากำหนดส่งเรือสำเภาคุมเครื่องบรรณาการไปถวายอาณาจักรต้าฉิง

“กระดาษพวกนั้นคืออะไร” ออกญายมราชถามด้วยความตื่นตระหนกในความไม่ชอบมาพากล

พระเยาวราชแย้มโอษฐ์อย่างเหี้ยมเกรียม แล้วตรัสอย่างสาพระทัยว่า “ก็ใบเบิกทางส่งเอ็งและลูกสาวไปนรกยังไงล่ะ…”

 

ก่อนหน้านี้พระเยาวราชเคยนำข่าวที่ได้จากบรรดาพ่อค้าชาวจีน ที่ลอบส่งมาเตือนว่าทางราชสำนักต้าฉิงกำลังจับตาดูสำเภาคุมเครื่องบรรณาการจากชาติใดที่แอบค้าขายลับๆ กับพวกโจรสลัดทะเลตะวันออก ที่กำลังสั่นคลอนความมั่นคงภายในราชอาณาจักรต้าฉิงอยู่ แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวสารและหลักฐานบ่งชี้ไปว่าออกญายมราชน่าจะอยู่เบื้องหลังการค้าบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของอาณาจักรทั้งสองนี้ แต่ก็ยังมีหลักฐานไม่แน่ชัด

บัดนี้หลักฐานที่ซ่อนอยู่นั้นชัดแจ้งแล้วว่าอ้ายเชื้อคือตัวการสำคัญ พระเยาวราชจึงให้ทหารคนสนิทรีบนำของทั้งหมดที่ค้นพบ รีบไปเข้าเฝ้าสมเด็จหน่อพระพุทธเจ้า พระมหาอุปราชที่วังหน้า ด้วยพ่ออยู่หัวทรงประทับยังเมืองพระพิษณุโลกเป็นปกติ จึงทรงโปรดให้พระมหาอุปราชอันเป็นหน่อพระพุทธเจ้านั้นดูแล อโยธยาต่างประเนตรพระกรรณ ด้วยเหตุนี้พระเยาวราชจึงทรงต้องอาศัยให้พระมหาอุปราชผู้สำเร็จราชการทรงวินิจฉัยว่าจะจัดการอย่างไรดี

“มิ่งจงทูลสมเด็จพระมหาอุปราชในทางลับว่า เรื่องนี้รู้น้อยคนยิ่งดี เพราะหากแพร่งพรายไปถึงราชสำนักต้าฉิง ข้าเกรงว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทูลอีกว่าขอให้ทรงตัดสินพระทัยให้เด็ดขาดโดยเร็วที่สุด”

ทหารคนสนิทเร่งเดินทางไปยังวังหน้า ทิ้งให้พระเยาวราชอยู่เผชิญหน้ากับออกญายมราช

บุรุษหนุ่มที่เพิ่งสูญเสียลูกที่เป็นความหวังในชีวิต จึงมีความเคียดแค้นและชิงชัง ซึ่งความเคียดแค้นครั้งนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ อ้ายเชื้อผู้นี้ต้องรับผิดชอบในความเลวร้าย ถ้ามันไม่ใช้ชีวิตของเจ้ามาศบีบบังคับให้รับอีฉายลูกสาวมันมาเป็นเมียของเขาอีกคน ชีวิตของเขาก็คงไม่สับสนวุ่นวาย อีกทั้งมันยังเป็นคนที่ทำลายและพรากผลาญคนที่เป็นญาติ มิตร คนที่เขารักให้ตายตกไปอีกหลายต่อหลายคน น้าแม้น แม่นายเภา ท่านจางวาง พระชายา และลูกที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลกของเขา

เขาอยากจะฉีกเนื้อมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ระบายความแค้นที่สะสมในใจมาช้านาน

“หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรผิด พระเยาวราชโปรดเมตตาช่วยหม่อมฉัน” อ้ายเชื้อเปลี่ยนท่าทีและน้ำเสียง จากการข่มขู่คุกคามเป็นอ้อนวอน

อ้ายเชื้อรู้ดีว่าตนเองทำผิดที่ลอบค้าสำเภาเถื่อนกับพวกโจรสลัดทะเลตะวันออกจริง แต่ก็มั่นใจว่าตนเองไม่เคยทิ้งหลักฐานใดที่จะสามารถมาพัวพันตัวเองได้อย่างชัดแจ้งเช่นนี้ คงมีใครที่วางแผนจัดฉากสร้างหลักฐานเท็จมาเอาผิดตน…เสร็จละ เขาพลาดเสียทีอ้ายจางวางเฒ่าผู้นั้นเสียแล้ว

บัดนี้เขาตระหนักแล้วว่า ที่เข้าใจมาตลอดว่าตนนั้นมีอำนาจและอิทธิพล สามารถล้วงมือเข้าไปจัดการศัตรูได้ถึงในวังของพระเยาวราชนั้น แท้จริงคือการจัดฉากเชื้อเชิญให้เขามาเอาหลักฐานที่จะทำลายล้างชีวิตของตนเองมาไว้ในเรือนของตน รอวันที่มัจจุราชจะมาพบแล้วเด็ดชีวิตเขา

อ้ายขันทีเฒ่า เอ็งมันอำมหิตนัก อำมหิตแม้กระทั่งเอาชีวิตตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อเพื่อกำจัดกู

“สมเด็จพระเยาวราชโปรดเวทนาหม่อมฉัน หากไม่เห็นแก่หม่อมฉันก็เห็นแก่แม่ฉายเถิดพระเจ้าข้า”

พระเยาวราชหันขวับด้วยความกริ้ว ทรงลุกจากพระแท่นเดินเข้ามาถีบที่ยอดอกของอ้ายเชื้อเข้าหนึ่งโครม “เห็นแก่อีฉายรึ มึงรู้ไหมว่าอีฉายลูกสาวมึงเพิ่งคิดจะฆ่าแม่เอื้องกับลูกในท้อง มึงรู้ไหมอีระยำฉายมันพรากชีวิตลูกกูไป”

ออกญายมราชยิ่งตัวสั่นเทา เหมือนชีวิตของตนจะเข้าสู่ทางตันเสียแล้ว การลอบค้าของเถื่อนโดยเฉพาะข้าวกับพวกโจรสลัดทะเลตะวันออกที่ราชสำนักต้าฉิงกำลังเพ่งเล็งอยู่ แถมหลักฐานยังพร้อมมูลเช่นนี้ อย่างไรพระมหาอุปราชก็ไม่เก็บเขาเอาไว้แน่…

 

เพียงชั่วยามเดียวมิ่งทหารคนสนิทของพระเยาวราชก็กลับมาพร้อมกับพระราชสารลับจากพระมหาอุปราชว่า รามณรงค์น้องพี่ เจ้าจงจัดการตามสมควร พี่ขอแต่จงอย่าให้เรื่องนี้อื้อฉาวและบานปลายออกไป ส่วนทางพ่ออยู่หัวนั้น พี่จะหาทางกราบทูลให้ทรงทราบเอง เจ้าอย่าได้เป็นกังวล

พระเยาวราชทรงกะเกณฑ์การจัดการไว้ในใจแล้ว รอเพียงคำอนุญาตจากพระมหาอุปราชผู้สำเร็จราชการเท่านั้น

“ขวดนั้นใช่หรือไม่ซานเป่า” พระเยาวราชชี้ไปที่ขวดยาซึ่งทำจากแก้วเจียระไนสีแดงเนื้อดีซึ่งหมกตัวอยู่ในหีบใบนั้น

ซานเป่าหยิบมาพิจารณาเพียงครู่ก็ทูลตอบว่า “ใช่พระเจ้าค่ะ เป็นพิษตัวเดียวกับที่นางฉายคิดจะใช้ทำร้ายหม่อมเอื้อง”

ซานเป่าหยิบขวดยาพิษนั้นส่งให้พระเยาวราช ทรงรับและพิจารณาน้ำมัจจุราชใสในขวด…จงลิ้มรสความเจ็บปวดที่เจ้ามอบไว้ให้แก่ทุกคนที่ข้ารัก น้าแม้น แม่นายเภา ท่านจางวาง และลูกของข้าที่ไม่มีแม้โอกาสจะออกมาดูโลก

ยาพิษใสถูกกรอกใส่ปากออกญายมราช พระเยาวราชรู้ดีว่ายาพิษชนิดนี้ร้ายแรงนักจึงจงใจที่จะกรอกยาพิษไปเพียงบางส่วน ก่อนจะปิดฝาแล้วส่งคืนให้ซานเป่าเก็บไว้ พระองค์ไม่อยากให้อ้ายเชื้อมันตายง่ายดายไปนัก แม้มันจะดิ้นรนเพียงใดก็ไม่อาจต้านทานพิษร้ายที่ล่วงลงสู่ลำคอ ยาพิษเพียงเล็กน้อยไม่นานก็ออกฤทธิ์ร้าย ออกญาใจโฉดก็ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด ปริมาณพิษที่ไม่มากพอจะทำให้เขาตายลงในทันที มันค่อยๆ ทำร้ายอวัยวะภายใน โมงยามแห่งความเจ็บปวดช่างยาวนานเหลือเกิน มันยาวนานให้พอที่เขาจะเห็นภาพของผู้คนที่ตายลงด้วยน้ำมือของเขา ทยอยเคลื่อนผ่านไปในความทรงจำอย่างเชื่องช้า เขากระอักเลือดคำโตออกมา ก่อนเลือดอีกจำนวนมากก็ทะลักออกมาจากทวารทั้งเจ็ด จบชีวิตผู้กระหายอำนาจที่ยอมทำร้ายทุกคนเพื่ออำนาจและความต้องการของตนเอง

พระเยาวราชมองร่างที่ดิ้นทุรนทุรายค่อยๆ สงบลงและขาดใจตายไปอย่างทรมาน ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกที่ทรงรู้สึกสะใจกับการตายของใครคนหนึ่ง เป็นครั้งแรกจริงๆ

 



Don`t copy text!