ซ่อนรัก บทที่ 28 : แฟนเก่าปารีส

ซ่อนรัก บทที่ 28 : แฟนเก่าปารีส

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

อุเทนกลืนน้ำลายยากเย็น

เห็นเธอเลิกคิ้ว และไม่แปลกใจนัก เพราะรู้ว่าถ้ามาที่นี่ก็อาจจะพบ แต่พยายามหลีกเลี่ยงแล้ว ถ้าหลีกเลี่ยงไม่สำเร็จก็ต้องพบล่ะ

กลัวหรือ?

ไม่กลัว รู้ว่าอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้า แม้ว่าจะใจเต้นแรง จะรู้สึกว่ามือเย็นเฉียบ และใจบอกว่าจะต้องผ่านไปให้ได้ พบกันครั้งแรกหลังจากเขาแต่งงานอาจจะยากหน่อย ยากอย่างไรก็คือความจริง

ใบหน้าหญิงสาวเย็นชา

อุเทนตอนแรกก็ชะงักไปชั่วขณะ แต่ความที่เป็นชาย และปรับตัวเก่งเป็นทุน เขายิ้มร่ามาทันที

“ดีใจจังที่เจอ…ปา…ดีใจมาก”

ปารีสสูดลมหายใจลึกๆ

“เรอะ…แต่ปาไม่ดีใจที่เจอคุณ!”

รู้สึกได้ถึงความเย็นชาจริงๆ

“ปา…ปาโกรธเรอะ?”

อุเทนเป็นรุ่นพี่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย อุเทนตามจีบปารีส กว่าจะสำเร็จก็ตอนปารีสอยู่ปีสี่แล้ว และกำลังจะออกมาทำงาน

ปารีสทำงานกับคุณรัศมีทันทีที่เรียนจบ ไม่ควรเลยที่ปีก่อนชักชวนให้อุเทนมาทำงานด้วยกัน และอย่างรวดเร็วที่อุเทนแปลเปลี่ยนไปรักกับสาวใหญ่ แต่งงานกันทันที โดยปารีสไม่ทันตั้งตัว

“คุณได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว”

เมื่อก่อนอาจเคยเรียก ‘พี่’ เรียก ‘น้อง’ กันบ้าง แต่วันนี้มีแต่ ‘คุณ’ ไม่สนิทสนมกันเหมือนเก่า

“ปา…ผมมีความจำเป็นจริงๆ จำเป็นในการเลือก…เลือกที่ยากมาก”

“หรือคะ ไม่ยากหรอก คุณรัศมีออกจะร่ำรวยขนาดนั้น”

“แต่ผม…”

“อย่าพูดเลยค่ะ ปาไม่อยากได้ยินอะไร เพราะเรื่องมันผ่านไปแล้ว”

“แต่ผมอยากพูด อยากบอก”

“บอกต่อหน้าคุณรัศมีดีไหมคะ?”

“ไม่ครับ เราต้องคุยกันสองคน”

“หรือคะ การแต่งงานของคุณ ก็ไม่บอกปาเลย จะมาพูดอะไรตอนนี้”

“วันแต่งงานผมกลัวปาเสียใจ”

“กลัวปปาเสียใจแค่วันเดียว?”

“วันนั้นผม…”

“อย่างน้อยปาก็ยังได้ไปร่วมงานของคุณ ได้เห็นกับตาตัวเอง ได้รู้ว่าคนรักกันเขาสามารถทำร้ายจิตใจได้รุนแรงแค่ไหน โชคดีที่ปายังผ่านได้ เพราะปามีคนที่เข้าใจปลาอยู่รอบตัว ขอบคุณนะคะ…พี่อุเทน…พี่…ที่เคยเป็นที่รัก…แต่พี่อุเทนคนนั้นไม่อยู่ในหัวใจของปาแล้ว มีแต่คุณอุเทน สามีของคุณรัศมี”

อุเทนยกมือทาบหัวใจ

“ปาทำให้ผมเจ็บหัวใจได้เลย กับแค่คำพูดแบบนี้”

“ปาไม่มีอิทธิพลขนาดนั้น”

“เราควรคุยกันให้เข้าใจ”

หญิงสาวเลิกคิ้ว

“แค่นี้ก็เข้าใจดีแล้วค่ะ ไม่ต้องการเข้าใจมากไปกว่านี้แล้ว พอค่ะ พอจริงๆ”

“แต่ว่า…?”

“ถ้าพูดต่อหน้าคุณรัศมีก็โอเคค่ะ” แล้วมองผ่านเลยไปด้านหลังของอุเทน “สวัสดีค่ะ คุณรัศมี”

อุเทนรีบหันควบ พึมพำเบาๆ

“คุณรัศมี…”

คุณรัศมีก็คือคุณรัศมีที่วางตัวเรียกว่าแทบจะปกติ ไม่มีอึดอัดหรือเลิกลั่่กเพราะแย่งคนรัก แต่เป็นคุณรัศมีที่มั่นใจตัวเองเสมอ

“อ้าว…ปารีส อยู่นี่เรอะ ไม่เจอกันนานเลยนะ” พูดอย่างยิ้มแย้ม แจ่มใส

“ไม่นานนะคะ แค่เดือนเดียวเอง สำหรับปาไม่นานเลยค่ะ”

“คิดถึง ไปเมืองนอกมานี่ เที่ยวสนุกไหม”

“สนุกสิคะ ได้อยู่กับตัวเอง ได้มองภาพอดีตชัดเจน ได้เรียนรู้ชีวิตของตัวเองและผู้อื่น การได้เที่ยวเงียบๆ ได้ข้อสรุปว่า คนเรามีนิสัยธาตุแท้ดีเลวแค่ไหน แค่รู้นิสัยดีเลว ก็คุ้มกับการไปพักผ่อนสมองแล้วค่ะ”

รัศมีนึกในใจ ถามแค่นั้น ตอบซะยาว มันเกี่ยวอะไรกับนิสัยดีเลวด้วย

เธอช่างเข้าใจพูด ตั้งใจกระทบตนอย่างแรง กระทบทั้งตนและอุเทน ทำไมจะไม่รู้ แต่แกล้งไม่รู้

“คนเรามันต้องเรียนรู้นะ และรู้จักทำใจด้วย เรื่องของอนาคตเราไม่อาจรู้ล่วงหน้า ดีใจกับเธอด้วย…ปาที่ไปเมืองนอกไม่เสียเที่ยวเปล่าๆ ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม” รัศมียังพูดอย่างราบเรียบ

ปารีสใจเต้นแรง แต่พยายามระงับความรู้สึก การอยู่ต่อหน้าคู่นี้คือบทเรียนต้องผ่านให้ได้

“ต้องขอบคุณทั้งคุณรัศมีและอุเทน ที่ให้บทเรียนราคาแพงค่ะ แพงตั้งสิบล้าน…สิบล้านนี้ช่วยได้มากเลยนะคะ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น”

รัศมีหัวเราะเบาๆ

“แหม…สิบล้านคุ้มสิท่า งั้นก็ต้องดีใจกับเธอนะ…ปารีสที่เธอว่าคุ้มค่า”

“คุ้มสิคะ จะขายอะไรให้ได้กำไรครั้งเดียวสิบล้าน จนวันนี้ปาก็ยังนึกไม่ออกเลย ขายได้ราคาดีขนาดนี้”

พูดกันสองสาวต่างวัย เน้นคำอย่างตั้งใจ แต่คนกลางอย่างอุเทนเจ็บจี๊ด ตนกลายเป็นสินค้าในสายตาสาวสองวัย จริงอย่างที่พูดกัน ตนยากจะยอมรับ ถึงมันจริงก็เถอะ

รัศมีพยักหน้ากับอุเทน

“เราไปกันเถอะ” โดยยกมือคล้องแขนฝ่ายชาย

ปารีสพูดก่อนจะไป

“ยินดีกับคุณอุเทนด้วยนะคะ กับร้านใหม่”

“ขอบใจ…ปามาก แวะไปเที่ยวร้านใหม่ได้นะครับ”

รัศมีคล้องแขนอุเทน และเดินผลักไปทันที

ปารีสถอนใจยาว รู้สึกเกือบหมดแรง การเผชิญหน้ากับหญิงชายคู่นี้ครั้งแรก ต้องใช้พลังมากเชียวหรือ…มากมาก…

พ่อหันหลังก็พบวิศว์

วิศว์เข้ามายืนอยู่ข้างๆ พูดเบาๆ

“ผมเป็นกำลังใจคุณเสมอครับ”

วิศว์…คุณ…เพราะมีคุณ…มีคุณจริงๆ ในยามที่ตนอ่อนแอก็มีแต่เขา

หญิงสาวพยักหน้า

“ย้ายเข้าไปอยู่คอนโดชั้นได้เลยนะคะ ฉันต้องการกำลังใจจริงๆ ค่ะ”

“ผมรอจะเข้าไปอยู่กับคุณ รอจะสร้างครอบครัวกับคุณ และรอ…รอ…” รอให้เธอเปิดใจแบบสุดๆ แบบรักเขาสุดหัวใจ รักเขาแบบไร้เงื่อนไขใดๆ ปราศจากอดีตที่เจ็บปวด

 

คุณอนันต์เตรียมตัวจะเข้านอน โดยมีภรรยาที่ก้าวขึ้นบนเตีย งและกล่าวว่า

“อาทิตย์หน้าต้องเตรียมตัวไปงานมอบรางวัลประกวดอัญมณีใต้ทะเลของลูกกรนะคะ”

สามีหัวเราะเบาๆ

“คุณพูดเกือบทุกคืนเลยนะ งานของลูกชายคนเล็ก คุณตื่นเต้นเสมอ”

“แหม…ก็กรรับผิดชอบงานครั้งแรก นาถก็อยากให้ออกมาดี ส่งเสริมความสามารถลูกชายเรา”

“ไอ้กรยังสู้ดุสิตไม่ได้เลย”

“อย่าเปรียบเทียบบ่อยๆ สิคะ ลูกจะน้อยใจ”

“ไอ้กรมันยอมรับของมัน และยกพี่ชายเป็นไอดอล ถ้าเก่งแค่ครึ่งของสิต เราคงสบายใจกว่านี้”

“เรื่องเกี่ยวกับอัญมณีพวกนี้ ต้องมีพรสวรรค์ด้วยนะคะ สิตมีพรสวรรค์ แต่กรต้องพยายามเรียนรู้ จะให้เก่งเท่ากันย่อมเป็นไปไม่ได้ นิสัยสองคนก็ต่างกัน คนเล็กไม่ชอบสังคม ไม่เจ้าชู้ แต่คนโตเหมือนคุณ เจ้าชู้”

คุณอนันต์เลิกคิ้ว

“พูดกระทบอะไรผมหรือเปล่า?”

“เดือดร้อนกับคำว่า…เจ้าชู้หรือคะ?” ภรรยาย้อนถาม

“กว่ายี่สิบปีแล้ว ผมก็เลิกเที่ยว เลิกสนใจผู้หญิงอื่นแล้ว แทบจะอยู่กับคุณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”

“แต่อดีตคุณก็เอาเรื่องอยู่นะคะ”

“อดีตก็เป็นอดีต”

“ตอนนั้นฉันเหนื่อยมากค่ะ”

เหนื่อย…กว่าจะคุมสามีอยู่หมัด แม้ปัจจุบันคุณอนันต์จะถอดเขี้ยวเล็บ แต่อดีตยังตามหลอกหลอนความรู้สึกของภรรยาอยู่

“พูดอะไรอย่างนั้น นอนเถอะ ผมง่วงแล้ว” สามีตัดบท เริ่มต้นเรื่องลูกแต่ลงที่เขา

บางครั้ง…อดีต…ก็อยากลืม ลืม…แต่ไม่ลืม

เช่นเดียวกับคุณนาถ…ใช่สิ ยากจะลืม แต่ไม่อาจลืมแน่ในชั่วชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถือว่าตัวเองเป็นเมียหลวงนะ แต่…ครั้งหนึ่งเกือบเป็นเมียน้อยไปเสียอย่างนั้น

ยากจะลืม กับความเจ็บปวด เสียใจ

จน…ตายก็คงไม่ลืม

 

ห้องในคอนโดให้แม่บ้านมาทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

ปารีสมองไปรอบๆ อีกครั้ง ในขณะที่เพื่อนสองคนจ้องมองปารีสด้วยรอยยิ้ม

“แหม…แหม…คนมีความสุขหน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง” กุลวดีพูดขึ้น และหฤทัยก็พูดเสริมว่า

“คนโชคดีสองต่อเลย ทั้งสมหวังในความรัก และชนะเลิศการประกวดออกแบบอัญมณี”

ปารีสพยักหน้ายอมรับว่า

“อืมม์…รู้สึกโล่งใจนะ ยิ่งได้เจออุเทนด้วย รู้สึกว่าการลืมคนหลายใจ ไม่ยากอย่างที่คิด”

“เวลาจะรักษาบาดแผลหัวใจ นี่…นี่…เจอคุณรัศมีด้วย รายนั้นว่าอย่างไรบ้าง ละอายบ้างไหม”

“คุณรัศมีเป็นคนเยือกเย็นมากนะ เรียบเฉยมาก เหมือนปกติทุกอย่าง”

“หน้าด้าน!”

“อย่าไปตำหนิผู้หญิงเลย เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก”

“รู้ธาตุแท้ของผู้ชายก่อนก็ดี ไม่ถลำลึกแต่งงานด้วย แกก็ได้แต่งกับคุณวิศว์แล้ว หล่อมาก ท่าทางดีมาก แกต้องลืมคุณอุเทนจนหมดใจเหลือนิดนึงก็ไม่ได้นะ หัวใจแกล่ะ”

มอบหัวใจ…ทั้งใจ…ทั้งหัวใจทั้งมวล

อย่างไงก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ เพิ่มพูนความรัก ความรู้สึก

กุลวดีโบกมือ

“อย่าเพิ่งพูดเรื่องความรักเลย ชีวิตรักของอุเทนกับคุณรัศมีเป็นเรื่องของพวกเขา พูดเรื่องเราดีกว่า ฉันยังตื่นเต้นกับแกนะ ปารีส…กับรางวัลใหญ่ของแก เตรียมเรื่องชุดก่อน วันอาทิตย์หน้าจะจัดงานมอบรางวัลแล้ว แกต้องสวยที่สุดนะ”

ปารีสหัวเราะ

“รางวัลประกวดอัญมณีนะ ไม่ใช่ประกวดนางงาม”

“แกสวยอยู่แล้ว สวยให้เด่น มันจะดูดี”

“จะให้ฉันเป็นนางงามเรอะ?”

“เอาน่า ก็ฉันชอบให้แกสวยนี่นา ฉันไม่สวยก็อยากให้แกสวย” แต่คนพูดถูกปารีสจับคางเชยและพูดว่า

“วดี…แกสวยในแบบฉบับของแก ผู้หญิงสวยทุกคน ขึ้นอยู่ว่า สวยแบบไหน”

 

“ป้าก็แค่ตรวจตามหมอนัดทุกสามสี่เดือน ไม่เห็นต้องให้แกมารับเลย” ป้าโสภาบ่นตลอดทาง “นงมันขับรถได้ ให้นงขับรถมาโรงพยาบาลก็ได้”

“เลิกบ่นเถอะค่ะ พี่โสภา ถึงโรงพยาบาลแล้ว” นงพูดขึ้น

วิศว์ขำโคลงศีรษะ

“บ่นจนถึงโรงพยาบาลแล้วครับ ผมก็อยากทำหน้าที่หลานกตัญญูบ้าง อยากมารับป้ามาโรงพยาบาล ตรวจเสร็จก็รับป้ากลับ”

“พูดอย่างกะแกว่างงานนัก”

“ไม่ว่างหรอกครับ แต่เรื่องนี้ผมอยากทำ และทิ้งงานได้” คนพูดจอดรถหน้าตึกรักษา “น้านงพาป้าลงไปห้องเจาะเลือดเลยครับ ผมจอดรถเสร็จจะตามไปครับ”

ชายหนุ่มจัดการจอดรถแล้วจึงไปพบป้าที่แผนกเจาะเลือด หลังเจาะเลือด วิศว์พาป้าโสภาไปรอที่แผนกตรวจ รอผลเลือด

“นั่งรถเข็นไหมครับป้า?”

“ไม่ล่ะ ป้ายังเดินไหว ยังแข็งแรงอยู่นะจ๊ะ”

“ผมพยุงป้านะ”

“ก็ได้…ก็ได้ อยากเป็นหลานกตัญญูก็เชิญ” ป้าโสภาพูดยิ้มๆ มองนงก็ยิ้มกว้าง พูดพึมพำ “ป้าหลาน น่ารักทั้งคู่”

วิศว์ประคองป้าโสภาเดิน คนสูงวัยแอบดีใจอยู่ลึกๆ ปากว่าไม่ต้องพามาตรวจหรอก ตัวเองมาเองได้ แต่ใจก็ดีใจมากที่มีชายหนุ่มอยู่เคียงข้าง

ทั้งสามเดินผ่านคนที่มาตรวจมานั่งรอ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเอกชนราคาแพง คนไข้ยังมากหน้าหลายตา

ใครคนนึงก็อยู่รอที่นั่นด้วย มาตรวจเพราะรู้สึกปวดท้อง

จิรานุช…มาเพียงลำพังคนเดียว ปกติแล้วไปไหนจิรารนุชจะบอกเลขารินทร์ และรินทร์มักขอไปเป็นเพื่อน แต่วันนี้จิรานุชมาคนเดียว

มอง…เห็น…โสภากับหลานชาย

ตอนแรกสะดุดตากับผู้ชายหนุ่มหล่อสูงขาวก่อน เพราะจำได้ว่าชื่อวิศว์ เป็นคนเก็บเพชรร่วงได้และคืนให้นิกร กลายเป็นฮีโร่ของนิกรเลย

จะทักดีไหม?

ทางด้านโน้นไม่ได้มองตน แล้วก็เลยมองผ่านไปทางผู้หญิงอีกคนที่วิศว์ประคองอย่างอ่อนโยน แล้วจิรานุชก็ต้องเบิกตากว้าง

เธอเรอะ…เป็นเธอหรือ?

 



Don`t copy text!