ซ่อนรัก บทที่ 34 : ชวนปารีสมาทำงานด้วย

ซ่อนรัก บทที่ 34 : ชวนปารีสมาทำงานด้วย

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

วันนี้ปารีสขอตามรถของวิศว์มาที่ศูนย์การค้าที่วิศว์ทำงานตกแต่งร้านของอุเทน

“คุณจะมาทำไม?” เขาถาม “รอผมทำงานหรือครับ?”

ปารีสหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าถือ กลิ่นหอมของน้ำหอมโชยขึ้น เมื่อวานเขาเห็นเธอบรรจงรีดอย่างเชื่องช้าและตั้งใจ ตอนนั้นเขาไม่ได้สงสัย ทั้งที่เป็นผ้าเช็ดหน้าของผู้ชาย

คาดหวังกับคำตอบจะเป็นอย่างที่เขาอยากให้เป็น

รอเขาทำงาน…หากคำตอบคือ

“จะเอาผ้าเช็ดหน้ามาคืนคุณดุสิต” เธอตอบพูดไปเรื่อยๆ โดยตายังจับจองผ้าเช็ดหน้าตลอด “ฉันกับคุณดุสิตเคยช่วยคนถูกรถชน มือฉันเปื้อนเลือด คุณดุสิตให้ยืมผ้าเช็ดหน้าเช็ด ฉันยังไม่มีเวลาคืน เก็บจนยับต้องรีดใหม่”

วิศว์เลิกคิ้ว บอกกับตัวเองว่าต้องมีเหตุผล อย่าคิดมาก

“ช่วยคนเป็นเรื่องดีครับ”

“คุณดุสิตเป็นคนดีนะคะ”

“รู้สึกพวกคุณเจอกันบ่อย”

“บังเอิญน่ะค่ะ ก็หลายครั้ง”

“ท่าทางเขาอยากเจอคุณบ่อย และบังเอิญบ่อยด้วย”

ปารีสเลิกคิ้ว หันมามองคนขับรถหนุ่มที่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะขับรถไปด้วย

“ไม่หรอกค่ะ เขาเป็นแบบนี้ เป็นสุภาพบุรุษ ใส่ใจดูแลคนรอบข้าง”

“เหมือนคุณจะรู้จักเขาดี”

“หลายครั้งที่พบ ฉันประทับใจค่ะ”

“คุณมีเพื่อนดีๆ ผมก็ดีใจด้วยฎ

หญิงสาวพยักหน้า

“ฉันควรพบกับคนดีๆ เสียทีค่ะ ฉันไม่อยากเจอคนที่รักเงินมากกว่าอะไรในโลก!”

“ผ้าเช็ดหน้าหอมมาก”

“ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมพิเศษค่ะ”

“พิเศษนะ”

“ค่ะ สำหรับคนดีมีน้ำใจค่ะ”

“ครับ…ดีและยังมีน้ำใจมาก…ก….” วิศว์ลากเสียง

อีกฝ่ายยังไม่ทันจับน้ำเสียงผิดปกติของฝ่ายชาย วิศว์กำลังอดทนกับความรู้สึกของตัวเอง

เมียชื่นชมชายอื่น…อืมม์…อืม…หึงและหวงนะ แต่ก็ต้องยอมรับให้ได้

เจ้าหล่อนยังไม่รู้ตัวอีก

“ผู้ชายอย่างคุณดุสิตหายากนะคะ ผู้หญิงที่แต่งงานด้วยต้องโชคดีมาก”

วิศว์แอบถอนหายใจยาว โดยที่เธอกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง

เขาเลิกคุยดีกว่า เพราะ ไม่อยากเป็นผู้ชายขี้หวง ซึ่งปกติเขาไม่ควรเป็นอยู่แล้ว

เมื่อมาถึงตึกศูนย์การค้า ปารีสแยกไปทันที

“ขอบคุณค่ะ ที่มาส่ง”

เธอลงจากรถและลิ่วไปยังตึกสำนักงานที่ตั้งบริษัทเพชรอนันต์

วิศว์เลิกคิ้ว งงๆ แล้วก็ต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

เออ…เธอขอบคุณค่ะด้วย ทำเหมือนเป็นคนนอก เป็นสามีภรรยากันแท้ๆ และเขาก็ต้องมาทำงานอยู่ดี เธอแค่ติดรถมา

วิศว์มาที่ร้านของรัศมี เจออุเทนมาดักรอแต่เช้า

“คุณวิศว์ มาก็ดีแล้ว จะเสร็จเมื่อไหร่ครับ?” อุเทนถามอย่างร้อนใจ

“ก็ตามสัญญาครับ สัญญายังเหลือเป็นเดือน”

“เร่งเร็วขึ้นได้ไหมครับ”

“งานตกแต่งลงรายละเอียดทุกจุด เร่งไม่ได้”

อุเทนโคลงศีรษะ

“ผมร้อนใจ อยากเปิดร้านเร็วๆ” แล้วพูดพึมพำเบาๆ แต่ก็พอได้ยิน “คุณรัศมีหมู่นี้จะเอาผมตาย หาว่าไม่มีผลงานอะไร สู้ปารีสก็ไม่ได้”

“ว่าอะไรครับ?” วิศว์ย้ำถาม เพราะมีชื่อ…ปารีสในตอนท้าย

อุเทนโบกมือ

“เปล่า…เปล่าครับ ผมเป็นพ่อค้าก็อยากปิดร้านเร็วๆ อยากขายของน่ะครับ”

“อย่าเร่งงานผม จะออกมาไม่สมบูรณ์”

“ผมก็รู้นะ แล้วเสหัวเราะ “ผมถูกเมียเร่งมาอีกที เมียผมเป็นพวกบ้างาน”

“คุณรัศมีประสบความสำเร็จในชีวิต เธอจึงมีความสุขความคาดหวังสูงเป็นธรรมดา”

อุเทนพยักหน้าช้าๆ

“ใช่ครับ คาดหวังสูง…สูงมาก ผมกลัวจะทำให้เธอผิดหวัง”

“ไม่มั้ง ผมมองคุณก็ตั้งใจมากเป็นพิเศษ ขนาดละทิ้งความรักได้ เลือกงานและเงิน”

“ผมหนักใจครับ แต่งงานกับคนเก่ง ผมต้องเก่งให้ได้ ผมต้องทำได้”

“จะมีร้านเป็นของตัวเอง อยู่ในทำเลดีและแบรนด์ดีมีชื่อเสียง พื้นฐานแน่นอยู่แล้ว”

“บางครั้งต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาด้วย”

“โชคชะตากับสองมือเรา เราสร้างด้วยมือเราได้”

“ก้อ…ใช่ล่ะครับ สร้างด้วยมือเราและตัวเรา!”

“อนาคตยังไม่แน่นอน คุณก็พูดเหมือนท้อแท้”

อุเทนแค่นหัวเราะ

อีกฝ่ายไม่รู้หรอกว่า เขาถูกกดดันหนักหน่วงแค่ไหน

“ชีวิตก็แบบนี้ล่ะ” อุเทนสลัดศีรษะแรงๆ “ผมอิจฉาคุณนะ ทำงานเก่ง มีความสามารถ โสด อิสระ อยากทำอะไรก็ทำได้อย่างอิสระ” เขาเน้น ‘อิสระ’ ถึงสองครั้ง

“เพราะผมเลือกชีวิตผมเอง ผมเลือกความสุขด้านจิตใจ มากกว่าความสุขด้านวัตถุ”

อุเทนโคลงศรีษะ เถียงอีกฝ่ายว่า

“เพราะคุณเกิดมาอุดมสมบูรณ์ คุณถึงเลือกความสุขด้านใจ ด้านวัตถุคุณไม่เคยขาดเลย ผมเกิดมาในครอบครัวยากจน กำพร้า ตัวคนเดียว ถ้าผมไม่ขวนขวาย ขยัน ผมคงไม่มีที่ยืนในสังคมแบบนี้”

แล้วมีเสียงของรัศมีดังขึ้น เธอเพิ่งมาถึงและแอบได้ยินในตอนท้ายๆ จึงโพล่ง

“คนโชคดีอย่างคุณอุเทนมีน้อย ตอนนี้ต้องการอะไรล่ะ มีทุกอย่างเพียบพร้อมแล้ว เป็นเจ้าของร้านเพชรร้านใหม่ สวยงามขนาดนี้”

อุเทนหันขวับ และยิ้มแห้งๆ

“ครับ ครับ ผมจะเป็นเจ้าของร้านเพชรแล้ว” ลึกลึกรู้ว่าตนเป็นเจ้าของแต่เพียงในนามเท่านั้นล่ะ ยังไงรัศมีต้องควบคุมทุกอย่างในตอนท้าย เขาอยู่ในกำมือผู้หญิงคนนี้

รัศมีหันมาพูดกับวิศว์ว่า

“การออกแบบตกแต่งของคุณสวยงาม หรูหรามาก ตรงกับความต้องการของฉันมาก คุณช่างรู้ใจฉันจริงๆ”

“ผมศึกษาจากร้านเดิมของคุณรัศมีมาครับ จึงพอรู้รสนิยม”

“คุณก็ต้องเก่งด้วย ทั้งเก่งทั้งรูปหล่อ” รัศมีชื่นชมเกือบออกนอกหน้า

อุเทนว่าหล่อแล้ว วิศว์หน้าตาดีกว่าอุเทนอีกขั้นอีก

อุเทนดูสุภาพอ่อนน้อม เชื่อฟัง แต่วิศว์ดูร่าเริง อิสระ เป็นตัวของตัวเอง มั่นใจ เปิดเผย

ภาพรวมๆ วิศว์เหนือกว่า

ตอนแรกก็คิดว่าอุเทนง่าย อยู่ในโอวาท เชื่อฟัง ตรงกับความต้องการของตน แต่ผู้หญิงล่ะนะ ก็อยากได้ผู้นำบ้าง

“ขอบคุณที่ชมครับ

“ผู้หญิงที่ได้เป็นภรรยาคุณในอนาคต เธอต้องโชคดีฎ

ทำไมเห็นวิศว์อยู่กับอุเทนทีไร ตนอดนึกเปรียบเทียบไม่ได้เลย ระหว่างสองหนุ่ม จนต้องแอบถอนใจยาว

เพราะสายตาของรัศมีที่มองวิศว์อย่างมีความหมายแปลกๆ ทำให้อุเทนต้องสะกิดเตือน เพราะรู้สึกอาย

“คุณรัศมีครับ เราเข้าไปดูรายละเอียดในร้านกันเถอะครับ”

ผลคือถูกรัศมีตวาดอย่างไม่ไว้หน้า

“เอ๊ะ! กำลังคุยกับคุณวิศว์ อย่ายุ่ง!”

เสียหน้า อับอายมากขึ้น ภรรยาร่ำรวยไม่เคยให้เกียรติเขาสักครั้ง ต่อหน้าวิศว์เสียด้วย

วิศว์เข้าใจความรู้สึกของอุเทน จึงทำเป็นเมินไปทางอื่น

อุเทนทนไม่ได้ รีบเดินเข้าไปในร้านคนเดียว

วิศว์จึงเดินตาม เป็นการตัดบทรัศมีในทางอ้อม ไม่วายที่รัศมียังตามติดมาคุยด้วย

 

ปารีสเข้ามานั่งรอดุสิตที่ห้องรับแขกของบริษัทเพชรอนันต์ โดยมีหฤทัยเป็นคนนำเข้ามาและพูดเบาๆ

“นัดพบคุณสิตเสียด้วย เพื่อนเรา”

“ฉันเอาของมาคืนคุณดุสิต”

“แหม…แหม…ฟังจากยัยเลขาคุณสิตว่า คุณสิตก็อยากพบแก”

“ตอนฉันโทรนัดพบ ไม่เห็นเขาพูดอะไร”

“ก็ไม่รู้นะ จะกินน้ำอะไร”

“ไม่ต้อง แค่พบและคืนผ้าเช็ดหน้าก็จะรีบกลับ”

“ไม่ได้ เดี๋ยวโดนคุณสิตดุ”

“บอกว่าไม่ต้อง”

แล้วกุลวดีก็ก้าวเข้ามา พลางพูดว่า

“ได้ยินว่าแกมา เลยมาหา”

ปารีสยิ้มกว้าง

“ฉันกลายเป็นคนสำคัญเลยนะ แกสองคนไม่ต้องตื่นเต้น เรากันเองแท้ๆ”

ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ ดุสิตก็เข้ามาแล้ว

“ขอโทษที่ให้รอครับ”

กุลวดีกับหฤทัยจะออกจากห้องรับแขก ดุสิตรีบพูดว่า

“ผมรู้ว่าพวกคุณเป็นเพื่อนรักกัน อยู่ด้วยกัน ไม่เป็นไรนะ”

หฤทัยปากไวพูดว่า

“ยัยปาแยกไปอยู่อีกห้องใกล้ๆ กันแล้วค่ะ กับ…”

กับ…แฟน!

บ้าสิ…หยุดทัน ในเมื่อการแต่งงานของปารีสกับวิศว์เป็นความลับนี่นา พูดได้อย่างไร

กุลวดีฉุดแขนหฤทัยออกจากห้องทันที

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว”

พอสองสาวออกจากห้อง ดุสิตทรุดกายนั่งถามปารีส

“อ้าว…พวกคุณไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วหรือครับ?”

“เอ้อ…เราอยู่ใกล้ๆ กันค่ะ ชั้นเดียวกัน ฉันซื้อแยกต่างหาก เตรียมเผื่อให้พ่อกับแม่เวลากลับจากฝรั่งเศสมาพักค่ะ ปกติพ่อกับแม่ชอบพักโรงแรม”

“ผมว่าพักโรงแรมก็สะดวก ผมเคยถามคุณหฤทัย เธอว่าคุณไม่ยอมไปอยู่ฝรั่งเศสกับพ่อแม่ เพราะรักเมืองไทยมาก”

“ที่นี่ฉันมีงานทำมั่นคงกว่า ได้ทำงานในสิ่งที่ตนรัก”

“คุณเคยทำงานกับคุณรัศมี แต่ลาออกแล้ว”

“ค่ะ…เพื่อไปพักผ่อนนานๆ เลยลาออกค่ะ”

เขาอยากรู้เรื่องราวของปารีสมากขึ้น ซึ่งต้องค่อยๆ รับรู้ เพราะสนใจเธออย่างจริงจัง

“ตอนนี้คุณว่างงาน?”

“ค่ะ อยู่ในช่วงพักร้อนค่ะ อ้อ…ฉักนำผ้าเช็ดหน้ามาคืนคุณ เดี๋ยวคุยไปคุยมาจะลืม เจอคุณหลายครั้งก็ลืมทั้งที่ติดในกระเป๋าตลอด”

ดุสิตยิ้มกว้าง พอใจกับประโยคว่า ติดในกระเป๋าตลอด

พอหยิบออกมา กลิ่นน้ำหอมก็โชยหอม เขารับมาและดมทำหน้าชื่นใจ

“คุณใช้อะไรซัก ทำไมหอมมากครับ”

“น้ำยาซักผ้ายี่ห้อที่โฆษณาว่าหอมติดทนค่ะ”

“ผมคงต้องแนะนำแม่บ้านที่บ้านใช้บ้างครับ”

“ถ้าไม่มีอะไร ฉันต้องกลับแล้วค่ะ”

“เดี๋ยวสิครับ ผมมีธุระจะคุยกับคุณ ถ้าคุณไม่นัดคืนผ้าเช็ดหน้า ผมก็กำลังให้เลขานัดคุณ”

“คะ?”

“ผมอยากเสนอให้คุณมาทำงานกับเรา ฝีมือการออกแบบคุณผมพอใจมาก

หญิงสาวเลิกคิ้ว

“คุณเสนองานกับคนชนะทั้งสามคนหรือคะ?”

“ไม่ครับ คุณคนเดียว”

“ฉันคนเดียว?”

“ครับ…ผมเสนอเป็นพิเศษ”

“เพราะผลงานของฉันใช่ไหมคะ?” เหมือนกับเธอยังลังเลอะไรบางอย่าง

“ผมขอพูดตรงๆ เลย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย โอเคว่าเพราะฝีมือคุณก็ส่วนนึง และเพราะผมชื่นชมคุณส่วนตัวก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง แต่คุณไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็แค่เสนองาน ในเมื่อคุณก็ยังว่าง ลองมาทำกับบริษัทเรา”

“ฉันอาจทำให้คุณผิดหวัง”

“เราอยู่ในรูปบริษัทครับ มีคนคอยประเมินผลงานอยู่แล้ว” แต่ในใจ ดุสิตคิดว่า หล่อนมี ‘เส้นใหญ่’ พิเศษ เ-าอยู่เบื้องหลังใครจะกล้าประเมินผลงานของหล่อนต่ำล่ะ

“ฉัน…”

“คุณเริ่มงานได้ตลอดเวลาครับ ทุกวัน ผมหวังว่าคุณจะยอมมาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัทเรา”

 



Don`t copy text!