ซ่อนรัก บทที่ 45 : ถ่านไฟเก่า

ซ่อนรัก บทที่ 45 : ถ่านไฟเก่า

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

 

บรมขอร้องให้วิศว์รับงานตกแต่งห้องโรงแรมให้เทวี ในที่สุดวิศว์ก็ตอบตกลง

เขากลับมาที่โรงแรมหรูของเทวี…อีกครั้ง หลังจากไม่ได้มาเกือบปี…ตอนรักกันเป็นแฟนกัน เขาแวะเวียนมาหาคนรักบ่อยมาก

หลังจากเลิก วิศว์ก็พยายามหลีกเลี่ยง เคยมาใช้บริการห้องอาหาร เพราะมีนัดหมาย แต่ไม่พบกับเจ้าของโรงแรม

วันนี้จำเป็นต้องมาเพราะเรื่องงาน

สำหรับเขา…กับเทวีจบแล้ว ชีวิตเขาตอนนี้มีแต่ปารีส ซึ่งถือว่าเป็นภรรยา คนอย่างเขาจะไม่มีวันนอกใจภรรยาเด็ดขาด

เทวีออกมาต้อนรับ ถึงบริเวณใกล้ล็อบบี้

“วิศว์คะ…”

“ไปดูห้องที่จะปรับปรุงเลยครับ”

หญิงสาวเลิกคิ้ว

“อะไรกันคะ เจอกันประโยคแรก ก็พูดเรื่องงาน จะไม่ถามสารทุกข์สุขดิบกันก่อนหรือไงคะ”

“ผมเห็นหน้าคุณก็รู้แล้วว่า คุณมีความสุขแค่ไหน”

เพราะเทวียิ้มแย้มแจ่มใส แถมยังเข้ามากอดแขนเขาอีกอย่างสนิทสนม ซึ่งตอนแรกเธออยากเข้ามากอดทักทายด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาเบี่ยงตัวเล็กน้อยแทนการปฏิเสธ ซึ่งเทวีก็ยังอมยิ้ม เปลี่ยนจากกอดทั้งตัวเป็นกอดแขน

“บางที วีก็รู้ว่าความสุขของวีอยู่ไหน บอกตามตรง ภาพที่วิศว์เห็น อาจเป็นเพียงภาพลวงตา”

“คุณสุขในสังคมของคุณ ออกงานสังคมของคุณ ภาพออกมาดูดีครับ”

“ดีใจจังที่คุณยังติดตามข่าวของวีเสมอ”

“ผมต้องติดตามข่าวสารทุกเรื่อง”

“โดยเฉพาะวีใช่ไหมคะ”

“ทุกเรื่องครับ”

“วิศว์คะ…วีเชื่อว่าเรายังมีอะไรอะไรในใจกันอยู่”

“ความรู้สึกดีๆ ในอดีต ผมไม่ลบเลือนออกแน่ๆ”

“วิศว์คะ วีดีใจนะคะ ความรู้สึกดีๆ วีก็ไม่เคยลืม และนึกเสียใจว่าทำไมยอมเลิกกับคุณในตอนนั้น”

“ช่างเถอะครับ ผ่านไปแล้ว”

“เราเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน เราไม่น่าเลิกกันเลย”

“พูดไปก็ไม่มีประโยชน์”

ดูเหมือนพูดไป จะกอดแขนเขาแนบแน่นขึ้น เบียดตัวเข้าใกล้ จริงๆ แล้วอยู่ในมุมที่คนเดินผ่านน้อยก็จริง แต่ยังเป็นมุมที่สามารถมองเห็นได้

“เรากลับมาคบกันเหมือนเดิมเถอะค่ะ”

ตอนนี้ฝ่ายหญิงเป็นคนรุกหนัก เชื่อว่าใจของเขายังมีตนในหัวใจ ดึงตัวเข้ามาใกล้ โน้มคอ น่าจะจบได้อย่างงดงาม ใครจะทนแรงรักเก่าได้ล่ะ

เพราะทุกอย่างรวดเร็ว จนเขาตั้งตัวไม่ทัน

ปากประกบปาก แต่แค่สัมผัสเบาๆ วิศว์ก็ผละออก

“อย่าทำแบบนั้น”

เทวีหัวเราะเบาๆ เกือบแล้วเชียว แต่ผู้ชายจะทนได้แค่ไหนกันกับถ่านไฟเก่า

“ตามใจตัวเองหน่อยสิคะ”

“ไม่ใช่อย่างงั้น”

“เรายังโสดทั้งคู่ จะกลัวอะไรคะ”

“โสด คำว่า ‘โสด’ ใช้กับชายหนุ่มไม่ได้แล้ว แต่ว่าแต่งงานก็ยังพูดไม่เต็มปาก ยังติดที่รับปากกับปารีสไว้

“ค่ะ…โสด…เรายังเริ่มต้น….เรายังรักกันได้เหมือนเดิม”

เขาโบกมือ

“ผมมาเพราะเรื่อง…งาน”

“งานกับส่วนตัว สำหรับวี ไปด้วยกันได้ค่ะ”

“ผมขอเรื่องงานไว้ก่อนครับ”

หญิงสาวยังหัวเราะ

“วิศว์เนี่ยนะ…น่ารัก…ยังทำใจกับอดีตไม่ได้หรือคะ ยังปล่อยวางและเริ่มต้นใหม่ไม่ได้หรือคะ วีให้เวลากับวิศว์เสมอค่ะ เรายังมีเวลาด้วยกันมากๆได้”

“คุยงานดีกว่าครับ ต้องการห้องแบบไหน ผมต้องรู้ความต้องการกว้างของลูกค้าก่อน”

ลูกค้า เขาใช้แต่ละคำที่ทำให้เทวีอมยิ้ม

“ค่ะ…ค่ะ…งานมาก่อน วีเป็นลูกค้าไม่จู้จี้เรื่องมากหรอก โดยเฉพาะกับวิศว์ ง่ายๆเสมอค่ะ”

“แบบ?”

“อยากได้สไตล์คลาสสิก แบบห้องสำหรับคู่ฮันนีมูน เห็นห้องแล้วร้องว้าวสวย วอลเปเปอร์แบบมีลวดลายหวานๆ พูดไปพูดมาให้วิศว์ออกแบบให้เลย อิสระเต็มที่ โรงแรมของวีก็เหมือนโรงแรมของวิศว์่ละค่ะ”

คนเรา…บทจะเป็นจังหวะก็เป็นจังหวะ

ซวยก็ว่าซวย สำหรับฝ่ายชายที่บังเอิญหฤทัยเห็นและยังถ่ายรูปไว้ได้

“จังหวะนรกจริงๆ เลย” หฤทัยพึมพำกับตัวเอง “ทำไมต้องมาให้ตูเห็นวะ”

และเห็นภาพสุดท้ายคือ สองหนุ่มสาวเดินไปขึ้นลิฟท์ไปด้วยกัน

“จบ…ขึ้นห้องอีกต่างหาก” พึมพำต่ออย่างหงุดหงิดแทนเพื่อน และต้องรีบส่งภาพไปให้กุลวดีดู อัดอั้นต้องมีคนร่วมรับรู้ด้วย แต่ไม่กล้าส่งให้ปารีส

ในเวลาต่อมา เมื่อหาฤทัยกลับเข้ามาในบริษัทก็รี่เข้ามาปรึกษากุลวดีก่อนเป็นคนแรก ถามทันที

“ไง…ไงล่ะ…เห็นภาพแล้วใช่ไหม?”

“เห็นแล้ว”

“ส่งให้ยัยปาดีไหม?”

“เอ้อ…อย่า…อย่า…”

“เพื่อนกันต้องบอกกันสิ”

“จะทำให้เป็นเรื่องหรือเปล่า?”

“เรื่องมั้ยก็ต้องบอก”

“แกอยากให้มีเรื่องเรอะ?”

“ถ้าไม่บอกจะยิ่งเลวร้าย เพราะไม่เตือนเพื่อน”

“คุณวิศว์ก็เป็นเพื่อนเขยของเราเหมือนกันนะ และจากที่ดูๆ มาเขาเป็นคนดีและรักยัยปามาก…มาก…ก…”

“ก็ถ่านไฟเก่าไง คุได้ง่ายๆ”

“แต่…แต่…”

เเล้วก็มีเสียงจากด้านหลัง

“ถ่านไฟเก่าอะไร คุณวิศว์อะไร?”

สองสาวสะดุ้งกับเสียงด้านหลัง ทำเอาปารีสยิ่งสงสัย

“เเค่ทักก็ขวัญอ่อน มีอะไรเรอะ ดูอะไรในโทรศัพท์กัน ขอดูบ้างสิ ขอดูหน่อย”

“ทำเป็นคนสอดรู้สอดเห็นไปได้” กุลวดีแกล้งตำหนิ แต่หฤทัยส่งมือถือให้ทันที

“แกดูเอง” แล้วพูดกับกุลวดี “เก็บไม่ได้หรอก อกจะแตกตาย”

คนเปิดเผยอย่างหฤทัยแบบนี้ล่ะ และมองจ้องเพื่อนสาวจะรู้สึกอย่างไร

ปารีสเก็บความรู้สึกนะ

แว่บแรกก็อาจจะใจสั่นบ้าง สามีทั้งคนกับภาพเช่นนั้น ถ้าไม่หวั่นก็คงไม่รักล่ะ ดูจบก็พูดว่า

“ภาพก็ทักทายกันประสาคนรู้จัก จบเมืองนอกเมืองนามา กอดแค่นี้ธรรมดาจะตาย จูบธรรมดา”

หฤทัยผิดคาดกับเพื่อน

” …ไอ้ปา ใจกว้างตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ดูก็รู้ไม่ใช่แค่เพื่อนหรือคนรู้จักหรือคนเมืองนอกเจอกันธรรมดา นั่นมันแฟนเก่า นั่นมันความสนิทและแสดงออกเกินเพื่อน ขยาย…ขยายดูหน้าสิผู้หญิง ดูน่าผู้ชายไม่ปกติทั้งคู่”

“คุณวิศว์บอกฉันล่วงหน้าแล้วว่าจะไปพบคุณเทวี เพราะมีงานปรับปรุงห้องในโรงแรม งานล้วนๆ พวกเธออย่าคิดมาก”

หฤทัยตาโต

“ไอ้อย่าคิดมากต้องเป็นฉันเตือนแก แกกลับเป็นฝ่ายมาเตือนฉัน เออ…เออ…แกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีสิวะ”

กุลวดีถอนใจยาว พูดกับปารีส

“ฉันดีใจนะที่แกสงบสติได้ ไม่ร้อนรนไปกับไอ้ทัยมัน”

“ฉันเชื่อใจคุณวิศว์แน่ะ…”

ประโยคนี้ล่ะ ที่สยบทุกอย่างได้ แต่…แต่…

ในค่ำคืนนั้น เมื่อปารีสอยู่ตามลำพังกับวิศว์ หลังอาหารค่ำ หลังอาบน้ำแต่งตัวจะเข้านอนแล้ว

“เหนื่อยไหมครับ” วิศว์ยืนอยู่เบื้องหลังของฝ่ายหญิงและนวดบริเวณบ่าไหล่ให้เธอ

“คุณล่ะค่ะ เหนื่อยไหม?” แล้วลุกขึ้นยืน ดันตัวฝ่ายชายให้นั่งบนเตียง ตัวเองกระโดดขึ้นไปบนเตียงข้างหลังและนวดไหล่กลับคืน

“ใจดีจัง”

“ไม่ชอบหรือคะ?”

“เมียบริการขนาดนี้ ชอบสิครับ แต่ผมเห็นท่าทางคุณจะเหนื่อยกว่าผม เรามาสลับกันนวดดีกว่า”

“คงไม่ทำอะไร ผิดมานะคะ”

“เอาใจเมีย เมียกับระแวงอีกแน่ะ”

“ผู้หญิงมีสัมผัสพิเศษ ถ้าทำอะไรผิดก็รีบสารภาพมาก่อน…ก่อนจะถูกจับผิด ถึงตอนนั้นฉันจะอารมณ์ไม่ดีค่ะ”

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว

ผู้หญิงมีสัมผัสพิเศษ ผู้ชายก็มีนะรู้สึกแปลกๆ กับท่าทีของเธอ”

อืมม์….ต้องสารภาพเลยเรอะครับ”

“ถ้าทำผิด”

“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”

“คิดให้ดีค่ะ ก่อนพูด”

“โอ้โห น้ำเสียงดุดันจัง”

แรงมือที่กดบีบนวดให้สามีแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว จนวิศง์สะดุ้งร้อง…เจ็บ

“บีบแรงแค่นี้ ฆ่าคนไม่ตายหรอกค่ะ”

วิศว์ทำท่าขนลุก

“นั่นไง…อยู่ๆ คิดฆาตกรรมสามี”

“ไม่คิด…จะฆ่าเลย”

“เดี๋ยว…เดี๋ยวครับ จะฆ่าก็ต้องให้ผมได้พูดก่อน”

“รู้ใช่ไหมคะ ว่าต้องพูดอะไร”

ชายหนุ่มทบทวนวันนี้อย่างรวดเร็ว…วันนี้…ตนไปทำงานที่โรงแรมเทวี

“ผมไปทำงานที่โรงแรมติดต่อกับคุณเทวี อยู่ที่นั่นครึ่งค่อนวัน”

มือที่บีบนวดกดแรงอีกครั้ง แสดงว่าใช่แล้วล่ะ เขามาถูกทางแล้ว

“พูดต่อ…” เสียงเร่งดุๆ

“ก็ทำงานกัน ดูห้องกัน”

“แค่นี้?”

“ก็แค่นี้”

“ถามครั้งสุดท้ายค่ะ แค่นี้จริงๆ?”

“เราจูบกัน!” วิศว์ตอบอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นความจริง เทวีเริ่ม…อย่างที่เขาตั้งตัวไม่ติด

ดูเหมือนหญิงสาวจะถอนหายใจยาว…ยาวมาก…โล่งอกก็เป็นเหตุผลหนึ่งล่ะ แต่ลึกๆ ยังหนักหน่วงนะ

“ถ่านไฟเก่า?”

วิศว์โคลงศีรษะ

“สำหรับผม…ไม่…”

“แต่ก็จูบ…”

“ผมเป็นผู้ชาย ผมจะไม่โทษฝ่ายหญิง เพราะเราเคยสนิทกันจริงๆ ผู้หญิงอาจตัดใจได้ยากกว่าผู้ชาย ผมเข้าใจ แต่ผมยืนยันได้ว่าเราไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบแล้วก็จบ ตบมือข้างเดียว ไม่มีทางดัง ผมจะไม่ตบมือกับสาวคนไหนแน่นอน ไม่อยากมีปัญหาชีวิตคู่”

หญิงสาวแอบอมยิ้ม

ยืนยันหนักแน่นเช่นนี้…ชอบนะ…ชอบจริงๆ ความซื่อสัตย์ในชีวิตคู่

“แน่นะคะว่า คุณจะไม่หวั่นไหว?” ผู้หญิงยังเป็นผู้หญิงวันยังค่ำ ต้องย้ำถาม

“ครับผม”

“เธอยังโสดเหมือนรอคุณ”

“เธอเข้าใจว่าผมโสด ถ้ายังลังเล เราก็เปิดเผยเลยสิว่าเราแต่งงานกันแล้ว ผมอยากเปิดเผยจะตาย”

“ยังค่ะ…ยัง…”

อะไรกันนี่…ฝ่ายหญิงเป็นไรของเธอ ไม่เปิดเผย ก็อึดอัดตาย

“ผมว่าถึงเวลาแล้ว”

“ไหนคุณเคยบอกว่าจะไม่บังคับฉันไงค่ะ จะให้เวลาฉันไงค่ะ”

“มีแต่ฝ่ายหญิงอยากให้โลกรับรู้การแต่งงานของเธอ แต่คุณกลับ…กลับตาลปัตร”

“ง่วงแล่วค่ะ ขอนอนก่อนนะคะ” ตัดบทอย่างรวดเร็ว

ล้มตัวลงนอน หันหลังให้เขาด้วย

ค่ำคืนนี้ วิศว์ไม่ได้รบกวนการนอนของเจ้าหล่อนเลย ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุม

สำหรับวิศว์แล้ว เขาไม่ต้องการมีอะไรให้ค้างคาในใจ ผู้ชายต้องใจกว้าง ก็ต้องรอ…รอต่อไปนะ…

รอถึงเมื่อไรล่ะ?

 



Don`t copy text!