
คุณหลวงเจ้าขา…ข้ากลัวผี บทที่ 10 : สนธิสัญญาผีกับคน
โดย : พงศกร
คุณหลวงเจ้าขา…ข้ากลัวผี นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้จากอ่านเอา โดย พงศกร เมื่อวิญญาณของแพทย์หญิงยุคปัจจุบันเข้าไปอยู่ในร่างแม่หญิงแห่งกรุงศรีผู้บอบบางที่มีคนหมั่นไส้ทั้งเมือง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติชีวิตของแม่หญิงคนนี้ให้แข็งแกร่ง ไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายคนไหน โดยเฉพาะคุณหลวงกำแหงฤทธิรณ หนุ่มหล่อ…อยุธยาคิ้วต์บอยคนนั้น!
คำถามของแม่หญิงดารา ทำให้ออกหลวงหนุ่มตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่อีกนาน แม้เมื่อเดินทางกลับมาถึงเรือนแล้ว หัวคิ้วของอยุธยาคิ้วต์บอยยังคงขมวดมุ่น ตอนเดินขึ้นเรือนมาก็เหม่อลอยจนเดินผิดทิศ
“เดี๋ยวนะ…ห้องนอนคุณพี่อยู่ทางโน้นไม่ใช่หรือเจ้าคะ” ดาราเรศรีบบอก เมื่อเห็นสามีกำลังจะเดินตามหล่อนเข้ามาที่หอนอน
“เอ้อ…นั่นสิ จริงอย่างที่หล่อนว่า” ออกหลวงหนุ่มทำท่าเหมือนเพิ่งนึกได้ “ฉันมัวแต่คิดอะไรเพลินไป”
พูดจบเขาก็รีบหันหลังกลับรวดเร็ว เดินกลับไปทางหอนั่งที่ยึดเอาเป็นห้องนอนมาตั้งแต่คืนแต่งงาน ปล่อยให้นังแหวนที่มานั่งรอรับเจ้านายได้แต่บ่นพึมพำด้วยความเสียดาย
“แม่หญิงอะ” นังแหวนเดินตามเข้ามาช่วยแหม่หญิงดาราผลัดผ้าเตรียมเข้านอน “ไม่น่าเล้ย”
“ไม่น่าอะไร” ดาราเรศเอียงศีรษะ
“คุณหลวงกำลังจะตามมาเข้าหอด้วยแท้ๆ แม่หญิงไปไล่ท่านเสียทำไมล่ะเจ้าคะ” แหวนทำท่าฮึดฮัด
“คุณหลวงไม่ได้จะมาเข้าหอกับฉันสักหน่อย” ดาราเรศว่า “เขาแค่เดินเหม่อลอยเพราะกำลังคิดอะไรอยู่ต่างหาก”
“เหม่อลอยอะไรล่ะเจ้าคะ” แหวนถอนใจ “แหวนว่าคุณหลวงแกล้งมากกว่า คุณหลวงน่ะท่ามากจะตายไป จะให้ออกปากขอตามแม่หญิงมาตรงๆก็คงจะอาย เลยแกล้งทำเดินเนียนๆมากับแม่หญิงมากกว่า แม่หญิงน่ะไม่รู้อะไรบ้างเล้ย”
“เพ้อเจ้อแล้วหล่อน” ดาราเรศแกล้งว่า หากอกใจเริ่มเต้นโครมคราม…หรืออีตาคุณหลวงจะแกล้งตีเนียนอย่างที่นังแหวนว่า
บ้า บ้า บ้า…ดวงหน้าของดาราเรศแดงก่ำ ช่วยด้วย..ในหัวของหล่อนในเวลานี้มีแต่แผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของออกหลวงเข้ม
…ไม่เอา ไม่คิด หยุดเลยนะดาราเรศ…หล่อนสั่งตัวเอง…คุณหลวงเขาคงไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นหรอก นังแหวนมโนไปเองมากกว่า ถ้าจะให้เดา ตอนนี้เขาคงจะคิดกังวลอยู่แต่เรื่องศพที่ถูกผีปอบกินตับไตไส้พุงนั่นละ เพราะดูยังไงๆ ศพพวกนั้นก็เป็นฝีมือคนชัดๆ
ผลัดผ้าเตรียมเข้านอนเรียบร้อย นังแหวนก็กลับไปนอนที่เรือนสาวใช้ ขณะที่ในหัวของดาราเรศยังสลัดดวงหน้าหล่อๆของอยุธยาคิ้วต์บอยไปไม่ได้ สองสามวันมานี้มีเหตุให้หล่อนต้องใกล้ชิดกับเขาหลายครั้งหลายหน จะว่าไปดาราเรศก็เริ่มจะหวั่นไหวเหมือนกัน
“ไม่” หล่อนส่ายหน้า “ฉันจะไม่สนใจคุณ”
ท่องเอาไว้นะแม่หญิงดารา คุณหลวงเกลียดหล่อน คุณหลวงไม่ได้รักหล่อนสักหน่อย และคุณหลวงก็อาจจะเป็นคนร้ายที่วางแผนฆ่าหล่อนด้วยซ้ำ
จนถึงวันนี้ หล่อนยิ่งแน่ใจว่าแม่หญิงผู้น่าสงสารไม่ได้เป็นลมตายธรรมดา แต่จะต้องถูกวางยา และการวางยานี้ไม่ใช่เพิ่งจะวาง แต่ทำมานานแล้ว พิษที่ทำให้แม่หญิงตายค่อยๆออกฤทธิ์ และเป็นพิษที่ผสมกันหลายอย่าง พิษจากกำยานที่จุดรมอยู่ภายในห้องนอนนั่นก็หนึ่งละ ขอให้จัดการเรื่องค้าขายให้ลงตัวเรียบร้อยก่อนเถอะ เธอจะต้องสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนวางแผนฆ่าแม่หญิงดารา
เหลือบมองไปทางด้านหน้าเรือน เห็นแสงไฟจากหอนั่งยังสว่างวอมแวม บอกให้รู้ว่าสามีของเธอยังไม่เข้านอน ดาราเรศอ้าปากหาว กำลังเอื้อมมือจะไปดับตะเกียง แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นดวงหน้ากลมๆ ขาวซีดของใครคนหนึ่งนั่งพับเพียบอยู่ที่ข้างตั่ง
“จ๊ะเอ๋”
“ผะ ผะ ผะ ผี” ดาราเรศเตรียมร้องกรี๊ด หากเด็กผมจุกรีบยกมือขึ้นจุ๊ปากเสียก่อน
“อย่าร้องสิจ๊ะน้าจ๋า หนูมาดีไม่ได้มาร้าย”
“แต่หนูเป็นผี” ดาราเรศปากสั่น
“หนูก็ไม่ได้อยากเป็นผีสักหน่อย” เด็กชายทำหน้าเศร้า “อยู่ๆก็มาตายไปซะยังงั้น”
“เดี๋ยวก่อน” ดาราเรศเริ่มเอะใจ เธอชะโงกหน้าไปมองเด็กผมจุกจนใกล้ “แล้วเข้ามาในเรือนได้ยังไง”
ปกติแล้วทุกครัวเรือนจะมีเจ้าที่เจ้าทางคอยคุ้มครอง แล้วผีเด็กผมจุกนี่มาได้ยังไง
“ฉันไม่ได้อนุญาตให้เข้ามานะ” เสียงเยือกเย็นของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น และดาราเรศก็รู้สึกว่าขุมขนบนเรือนกายของเธอลุกเกรียว “ไอ้จุกนี่มันวิ่งฝ่าเข้ามาในเรือนเอง ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง”
กรุ่นหอมเหมือนน้ำอบไทยลอยไปทั่งบริเวณ หญิงสาวพยายามกวาดตามองหาที่มาก็เห็นเงาของใครอีกคนตะคุ่มอยู่ที่มุมห้อง เป็นสตรีผมยาว ห่มสไบสีกลีบบัว
“จะ จะ เจ้าบ้านเจ้าเรือนหรือเจ้าคะ” ดาราเรศยกมือไหว้เงาเลือนรางนั้น
“ใช่ ฉันเป็นแม่ศรีผีเรือน รักษาคุ้มครองบ้านของแม่ยังไงเล่าจ๊ะ” เสียงสตรีคนดังกล่าวตอบเยือกเย็นเหมือนเดิม “ว่าแต่ว่า…แม่จะเอายังไง…จะให้ไล่เด็กนี่ออกไปไหม แต่จะว่าไปก็น่าสงสารมันอยู่นา”
“เอิ่ม…” ดาราเรศเริ่มลังเล
“ให้หนูอยู่ด้วยนะจ๊ะ” เด็กชายทำเสียงอ้อน “หนูไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน หนูไม่อยากร่อนเร่…เป็นผีก็แย่พอแล้ว ให้ร่อนเร่ไปมา หนูจะทำยังไง”
“เอ้อ…” ดาราเรศคิดหนัก
“ให้อยู่ไปก่อนก็แล้วกัน” แม่ศรีผีเรือนท่านว่า
“เอางั้นหรือเจ้าคะ” ดาราเรศกะพริบตาปริบๆ
“เอางี้แหล่ะ ฉันไม่อยากใจร้ายกับเด็ก” แม่ศรีผีเรือนว่า แล้วก็หายวับไป ปล่อบให้ดาราเรศกับผีเด็กนั่งจ้องหน้ากันตามลำพัง
“เดี๋ยว…” ดาราเรศเพ่งมองดวงหน้ากลมๆของหนูผมจุก “นั่นหนูยอดใช่ไหม”
“แน่ะ น้าจำหนูได้แล้ว” เด็กชายยอดหัวเราะชอบใจ
“จำได้สิ” ดาราเรศพยักหน้า เพราะไปตรวจศพเด็กชายน่ะเอง ผีเลยตามหล่อนกลับมาด้วย “ว่าแต่มาได้ยังไง”
“ก็น้าไปดูศพหนูไม่ใช่หรอ” หนูยอดถามและดาราเรศก็พยักหน้า “นั่นไง…หนูเลยตามน้ามานี่ละ”
“เวรกรรม” ดาราเรศถอนใจ “แล้วทำไมไม่กลับบ้านไปหาพ่อหาแม่”
“หนูกลับไม่ได้” เด็กชายหน้าเศร้า “เข้าใกล้บ้านทีไร หนูกระเด็นมาหาน้าทุกทีเลย”
“อะไรนะ ทำไมเป็นอย่างนั้นไปได้”
“หนูก็ไม่รู้” เด็กชายส่ายหน้า
“ถ้างั้นเรามาช่วยกันคิด” ดาราเรศนึกสงสัยว่าอยู่ๆตัวเองกลายมาเป็นคนเห็นผีได้ยังไง แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถามเสียเลยว่า “อย่างแรกเลย…ใครฆ่าหนูยอด…จำได้ไหม”
“จำไม่ได้” เด็กชายสั่นหน้า “มันมืด หนูเล่นซ่อนหากับเพื่อน หนูไปแอบในพุ่มไม้ แล้วจู่ๆก็มีคนแหวกพุ่มไม้เข้ามา พอหนูหันไปมองว่าเป็นใคร มันก็เอาผ้าคลุมหน้าหนู เอามีดแทงท้องหนู แล้วจากนั้นหนูก็หมดสติไป มารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเรือกับน้าแล้ว”
“โถ” ดาราเรศอุทานด้วยความสงสาร “หนูแน่ใจนะว่าคนร้ายไม่ใช่ผีปอบ”
“ผีปอบไม่น่ามีมีดนะน้า” เด็กชายวิเคราะห์
“นั่นสิ” ดาราเรศพยักหน้า อย่างน้อยเรื่องที่หนูยอดเล่าก็ช่วยพิสูจน์ทฤษฎีของเธอ “ตกลงคนร้ายเป็นใคร ตัวเล็กตัวใหญ่ ผู้ชาย ผู้หญิง พอจะเดาๆได้ไหม”
“หนูก็ไม่รู้” เด็กชายผมจุกส่ายหน้า “น้าให้หนูอยู่ด้วยนะ”
“ได้ยังไง คนก็อยู่ส่วนคน ผีก็อยู่ส่วนผีสิ มาอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก” ดาราเรศว่า อยู่ดีๆจะได้กุมารทองมาเลี้ยงแล้วไหมล่ะเนี่ย
“ถ้าน้าไม่ให้หนูอยู่ด้วย หนูจะหลอกน้าทุกวันเลย” เด็กชายขู่
“หลอกอะไร ไม่กลัวหรอก” ดาราเรศหัวเราะ
“ไม่กลัวใช่ไหม…ไม่กลัวหรอ” เด็กชายทำหน้าไม่พอใจ และทำตาถลนออกมาจากเบ้าให้เห็นกันจะๆไปเลย “นี่แน่ะ…แบบนี้ล่ะ กลัวไหม”
ลูกตาของหนูกุมารหล่นลงมาบนพื้นกระดาน กลิ้งหลุนๆมาหาดาราเรศ
“กรี๊ด” คราวนี้ต่อให้จิตแข็งแค่ไหน เจอแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ดาราเรศยกมือขึ้นปิดหน้าร้องกรี๊ดดังลั่น อึดใจต่อมา เธอก็ได้ยินเสียงโครมครามที่หน้าห้อง คราวนี้ไม่รู้แล้วว่าเสียงอะไร ไม่กล้าลืมตาขึ้นมองเพราะกลัวเด็กผีจะแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกเอาอีก
“ออกไป…ไม่เอาแล้ว มาหลอกแบบนี้ไม่ให้อยู่ด้วยหรอกนะ”
“แม่ดารา แม่ดารา อย่าทุบ อย่าหยิก นี่พี่เอง”
เสียงทุ้มๆและอุ้งมือแข็งแรงที่จับไหล่เธอเขย่าทำให้ดาราเรศได้สติ
“อุ๊ย คุณหลวง” อยุธยาคิ้วต์บอยนั่นเอง เขาเข้ามาได้อย่างไร
แต่จะเข้ามาอย่างไรดาราเรศไม่สนใจแล้ว เพราะทางด้านหลังของเขาเด็กผีตาโบ๋ กำลังก้มเก็บลูกตาที่หล่นบนพื้นมาใส่ให้เข้าที่
“คุณหลวงเจ้าขา…ข้ากลัวผี” ดาราเรศโผเข้ากอดออกหลวงหนุ่มไว้แน่น เนื้อตัวสั่นเทาเพราะกลัวผีเด็กผมจุกจริงๆ
“อีกแล้ว ผีเผอที่ไหนกัน” ออกหลวงหนุ่มทำเสียงเข้ม “ตั้งสติ…ลืมตามองดูสิ ไม่มีผีสักหน่อย”
“มี” ดาราเรศรีบกลับตา ชี้มือชี้ไม้ไปข้างหลัง “อยู่ข้างหลังคุณหลวงนั่นไง ผีเด็กผมจุก”
“ไหน” ออกหลงงหนุ่มหันมองไปรอบๆห้อง “ไม่มีผีสักตัวเดียว…แม่ดาราลองลืมตาดูสิ ฉันอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัว”
ดาราเรศค่อยลืมตาขึ้น กวาดมองไปรอบๆ ไม่เห็นเด็กผมจุกแล้วในตอนนั้น
“อุ๊ย…หายไปแล้ว”
“ไม่เข้าท่าแล้วละ แม่ดาราเห็นผีสองครั้งแล้วนะวันนี้” ออกหลวงว่า สายตาที่มองเมียดูเป็นห่วง “ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม”
“อุ๊ย…จะดีเหรอเจ้าคะ” ดาราเรศกะพริบตาปริบๆ นึกอะไรไม่ออกในตอนนั้น
“ไม่เห็นจะเป็นไรเลย เราเป็นผัวเมียกัน เว้นเสียแต่แม่ดาราจะ…” ออกหลวงหนุ่มกำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกมา หากเสียงของใครบางคนดังขึ้นเสียก่อน
“ดัดจริต อ้อนผัว”
คุณหญิงแป้นนั่นเอง ทางด้านหลังของเธอยังมีแม่หญิงบัวยืนอยู่ด้วย ทั้งสองได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่หญิงดาราเลยพากันวิ่งมาดูว่าเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้น หากสิ่งที่เห็นก็คือแม่หญิงดารากำลังกอดคุณหลวงเข้มเสียแน่น
คุณหลวงปล่อยเมียรวดเร็ว และแม่หญิงดาราก็รีบถอยหลังกลับไปนั่งบนเตียง ขณะที่นังแหวนวิ่งกระหืดกระหอบขึ้นมา
“แม่ดาราเห็นผีขอรับ” ออกหลวงกำแหงฤทธิรณรีบบอกมารดาเลี้ยง “กระผมได้ยินเธอร้อง เลยรีบวิ่งมาดู”
“ผีเผอที่ไหนกัน เรือนของเราไม่เคยมีผี” คุณหญิงแป้นไม่เชื่อ ขณะที่แม่หญิงบัวเริ่มเหลียวซ้ายแลขวาด้วยท่าทางหวั่นหวาด “มารยาออดอ้อนละสิไม่ว่า”
“แล้วเมียจะอ้อนผัวมันผิดตรงไหนล่ะเจ้าคะ” ดาราเรศอดไม่ได้ ตอนแรกว่าจะอธิบายว่าเธอเห็นผีจริงๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ อธิบายให้ปากฉีกก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะคนอื่นไม่น่าจะมีใครเห็นผีหัวจุกเหมือนกับเธอ “หรือคุณหญิงแม่ไม่พอใจที่ผัวเมียเขาจะรักกัน”
“รักกันก็ดี” คุณหญิงแป้นเหมือนเพิ่งจะนึกได้ ถึงอย่างไรลูกสะใภ้คนนี้ก็คือขุมเงินขุมทองของเธอ เกลียดขี้หน้าอย่างไรก็ต้องอดทนเข้าไว้ “ขอให้รักกันนานๆล่ะ”
“พี่ดาราเจอผีแบบนี้ น้องคิดว่าเราควรนิมนต์หลวงพี่วัดขนุนมาสวดมนตร์ปัดรังควานที่เรือนเราสักที ดีไหมเจ้าคะคุณพี่เข้ม” แม่หญิงบัวได้จังหวะรีบเสนอความคิด เธอเหลือบมองไปทางมารดา คุณหญิงแป้นก็รีบสนับสนุนลูกสาวทันที
“นั่นสิ แม่ก็ว่าดี”
“ก็ดีนะขอรับ แต่ทำไมเราไม่นิมนต์หลวงลุงวัดค้างคาวล่ะขอรับ” ออกหลวงหนุ่มนิ่วหน้า “ปกติเรือนเรามีกิจนิมนต์อะไร ก็มักจะเป็นหลวงลุงวัดค้างคาวทุกครั้ง”
“หลวงพี่เทียนวัดขนุนเก่งอาคมกว่าหลวงลุงเจ้าค่ะ” แม่บัวรีบอธิบาย “ใครๆเขาก็รู้กันทั่วทั้งพระนคร ถ้าเรือนเรามีผีมาแฝงอยู่ละก็ เจอน้ำมันหลวงพี่เทียนไปรับรองกระเจิดกระเจิงแน่นอน”
แม่หญิงบัวพูดพร้อมกับปรายหางตามาทางแม่หญิงดารา ท่าทางหมายมั่นปั้นมือว่าหล่อนเสร็จฉันแน่คราวนี้นังผีร้าย
“เอาเถอะ” ออกหลวงหนุ่มพยักหน้า “จะจัดการอย่างไรก็ตามแต่คุณแม่และแม่บัวจะเห็นสมควรก็แล้วกัน”
“ดี” คุณหญิงแป้นถอนใจเบาๆ “งั้นก็เอาตามที่แม่บัวว่า…ตอนนี้แยกย้ายกันกลับไปนอนได้แล้ว”
“แม่ดาราอยู่คนเดียวได้แน่นะ” คุณหลวงไม่วายเป็นห่วง
“อยู่ได้เจ้าค่ะ” ดาราเรศรีบตอบ ไม่รู้เพราะกลัวว่าคุณหลวงจะเปลี่ยนใจ หรือกลัวตัวเองจะเปลี่ยนใจกันแน่
“ให้นังแหวนขึ้นมานอนเป็นเพื่อนไหม” เขาถาม
“ไม่ต้องเจ้าค่ะ” เธอยืนยัน “น้องอยู่ได้”
“ก็ดี” คุณหญิงแป้นตัดบท “แล้วอย่าลุกขึ้นมากรี๊ดอีกล่ะ เกรงใจคนอื่นบ้าง”
ดาราเรศรอจนกระทั่งทุกคนแยกย้ายกันกลับไปยังห้อของตัวเองแล้ว เธอค่อยๆหันไปทางลับแลที่ตั้งอยู่ทางด้านหลัง กั้นเตียงนอนกับบริเวณนั่งเล่นแยกกันเป็นสัดส่วน แล้วตั้งสติก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“อ้ะ…ออกมาได้แล้ว ฉันเห็นนะว่าหนูอยู่ตรงนั้น”
สิ้นเสียงของดาราเรศ ร่างจางๆของเด็กชายผมจุกก็ค่อยๆเคลื่อนออกมาจากลับแลไม้ หนูยอดส่งยิ้มพร้อมกับหัวเราะชอบใจ
“ตกลงจะให้หนูอยู่ด้วยไหม ไม่งั้นหนูจะหลอกแบบเมื่อกี้อีก เอาให้เรือนแตกกันไปเลย”
“พอแล้ว ไม่ต้องหลอกแล้ว ฉันเหนื่อย…อยากจะอยู่ด้วยก็ได้” ดาราเรศถอนใจ “แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน ถ้ายอมตกลง ฉันจะให้อยู่ด้วย”
“ว่ามา” เด็กผมจุกยักคิ้ว
“ข้อแรก ห้ามปรากฏตัวแบบน่าเกลียดน่ากลัวอีก จะมาให้เห็น ต้องมาเป็นเด็กผมจุกหน้าตาน่ารักแบบนี้เท่านั้น” ดาราเรศบอก
“แต่ถ้าหนูออกมาแบบน่ากลัว ทำให้น้าก็ร้องกรี๊ด แล้วทีนี้น้าคุณหลวงก็จะรีบมาช่วยน้าดาราแบบเมื่อตะกี้ไง ไม่ดีหรอ” เด็กชายโคลงศีรษะ
“ไม่เอา” ดาราเรศทำเสียงเอ็ด
“หนูว่าดีออก” เด็กชายหัวเราะอย่างแก่แดด “น้าคุณหลวงจะได้กอดน้าดาราอีก กอดแน่นเลยด้วย”
“แก่แดด เรื่องของผู้ใหญ่ ห้ามยุ่ง” ดาราเรศว่า “ว่ายังไง จะตกลงไหม ห้ามมาแบบน่าเกลียดน่ากลัว ถ้าไม่ตกลงฉันก็ไม่ให้อยู่ด้วย”
“ก็ได้” เด็กชายพยักหน้า
“ข้อสอง” ดาราเรศยิ้มเจ้าเล่ห์
“มีหลายข้อจัง” เด็กชายเกาศีรษะ
“ข้อสอง มาอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์” ดาราเรศบอก
“ยังไง” ผีเด็กนึกไม่ออก
“ช่วยฉันสืบหาคนร้ายที่ทำผีปอบหลอกคนอยุธยา” ดาราเรศว่า
“สืบยังไง หนูทำไม่เป็น” เด็กชายงงกว่าเก่า
“เอาเถอะ คอยทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน” ดาราเรศยิ้ม “ส่วนข้อสาม”
“หา” เด็กชายตาเหลือก “ยังไม่หมดอีกเหรอน้า จะใช้งานผีมากเกินไปหรือเปล่า”
“ตกลงจะอยู่ด้วยกันไหม” ดาราเรศเป็นต่อ
“ก็ได้” เด็กชายหน้างอ “ให้หนูทำอะไรอีก”
“ต้องช่วยฉันทำมาหากินด้วย” ดาราเรศบอกเงื่อนไข “ฉันกำลังจะเปิดร้านขายของที่ป่าผ้า หนูต้องช่วยพาคนให้มาเข้าร้านฉันเยอะๆ…จะกระซิบ จะจูงมา วิธีไหนก็ได้…เข้าใจไหม”
“มีส่วนแบ่งไหม” ผีเด็กต่อรอง
“ร้ายนะยะ” ดาราเรศหัวเราะ “จะเอาส่วนแบ่งอะไร”
“เลี้ยงดูหนูให้อิ่มหนำสำราญ ทุกวันพระต้องมีน้ำแดงให้กิน มีขนมต้มด้วย ไม่เอาขนมต้มแดงนะ หนูชอบแต่ขนมต้มขาว” ผีเด็กจาระไน
“โอเค” ดาราเรศตอบตกลง
“หา” ผีเด็กไม่รู้จัก “น้าว่าอะไรนะ”
“ฉันว่า…ตกลง” ดาราเรศเกาศีรษะบ้าง ถึงจะเป็นผี ก็เป็นผีอยุธยา จะรู้จักคำในยุคของหล่อนได้อย่างไรกัน…
“ดี” ผีเด็กหัวเราะชอบใจ “งั้นหนูก็ตกลงตามนั้น ห้ามเบี้ยวเด็ดขาด”
“คำไหนคำนั้น” ดาราเรศให้สัญญา !
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 30 : ขึ้นพระบาทกันไหมจ๊ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 29 : จ็อกๆ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 28 : รมณ์เสีย !
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 27 : ฤทธิ์รักไก่แช่เหล้า
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 26 : ผีผมจุกแย่แล้ว
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 25 : น้ำมนต์ของแม่หญิงดารา
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 24 : สะใภ้สารพัดพิษ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 23 : ฟาดมาฟาดกลับ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 22 : ความวัวยังไม่ทันจะหาย ความควายมาอีกแล้วเจ้าค่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 21 : บุกบ้านญี่ปุ่น
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 20 : แม่หญิงผู้มีศัตรูทั่วพระนคร
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 19 : เด็กดื้อต้องโดนอะไรนะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 18 : ทุกอย่างในโลกใบนี้ไม่มีบังเอิญ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 17 : เมียข้าอยู่ไหน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 16 : ลอบทำร้าย
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 15 : คนนั้นก็น่าจะใช่ คนนี้ก็อาจจะใช่ แล้วใครกันล่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 14 : น้ำปรุงขวดพิเศษ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 13 : แม่หญิงนาตาชา
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 12 : เมียข้าใครอย่าแตะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 11 : ออกญาโชดึกราชเศรษฐี
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 10 : สนธิสัญญาผีกับคน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 9 : จ๊ะเอ๋
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 8 : คุณหลวงเจ้าขา...ฉันกลัวเจ้าค่ะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 7 : เดบิ้วต์แล้วก็ต้องไปต่อให้สุดสิเจ้าคะ
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 6 : ไม่เคยกินละสิ ของอร่อยแบบนี้ !
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 5 : ปะทะคุณหญิงแม่
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 4 : ได้เวลาเดบิ้วต์
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 3 : เมียในเงามืด
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 2 : แม่หญิงผู้นี้ มีศึกรอบด้าน
- READ คุณหลวงเจ้าขา...ข้ากลัวผี บทที่ 1 : ย้อนเวลา...มันไม่ได้มีแต่ในนิยายเหรอ