รักในรอยน้ำตา บทที่ 19 : หย่า
โดย : ปิ่นฟ้า
รักในรอยน้ำตา นวนิยายโดย ปิ่นฟ้า เมื่อรักที่ต้องการมาทั้งชีวิต กลับต้องแลกมาด้วยน้ำตาจากผู้ชายที่เธอรักจนหมดหัวใจ แต่เขากลับทำร้ายเธออย่างเลือดเย็น…เรื่องราวสุดเข้มข้นจากการคัดสรรโดยอ่านเอา มาให้อ่านแล้วทางเว็บไซต์ anowl.co และเพจอ่านเอา anowldotco
เช้าวันรุ่งขึ้น รินรดากับกนกอรเดินทางมายังสำนักงานเขตตามที่นัดหมาย โดยเจตต์อาสาขับรถมาให้ รินรดาเหม่อมองออกไปนอกรถ ก่อนที่เธอจะสะดุ้งเมื่อเสียงของกนกอรดังขึ้น ทันทีที่รถจอดสนิท
“พี่เจตต์ ไม่ต้องเข้าไปหรอกค่ะ รอพวกเราอยู่ในรถดีกว่า แค่นี้อรจัดการได้”
“จะดีเหรอครับ”
“ดีค่ะ”
“งั้นถ้าเสร็จเรื่องแล้ว พี่จะพาน้องๆ ไปเลี้ยงฉลองกันดีไหมครับ”
“ระรินก็อยากไปนะคะพี่ แต่ว่าระรินห่วงลูกน่ะค่ะ ระรินอยากรีบกลับไปดูลูกมากกว่า”
“โธ่แก ไม่เห็นจะยากเลย เราก็ไปหาซื้อของกินอร่อยๆ แล้วก็หอบไปกินกันกับหนูน้ำฟ้ายังไงล่ะดีไหม”
“ฉันกลับคิดว่าพรุ่งนี้น้ำฟ้าก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ทำไมไม่รอให้ลูกออกมาก่อน แล้วเราค่อยไปทำหมูกระทะกินกันที่บ้านดีไหม” รินรดาเสนอความคิด
“ดีเลย งั้นพวกเรามาทำอาหารฉลองกันที่บ้านแกกันดีกว่าเนอะ ฉันจะได้หอบลูกไปกินด้วยกัน ส่วนพี่แดนช่วงนี้คงกำลังยุ่งกับงานปล่อยไปเถอะ”
“จริง กินกันหลายคนสนุกดี เด็กๆ ก็จะได้เล่นกันด้วย ถือเสียว่าเลี้ยงฉลองหนูน้ำฟ้าออกจากโรงพยาบาล แล้วก็ฉลองที่ฉันกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง”
คำว่า ‘โสด’ ที่เธอไม่ได้สัมผัสมานานมาก บางครั้งรินรดาก็ลืมไปแล้วว่าชีวิตโสดเป็นยังไง ลึกๆ ในใจกลับรู้สึกใจหายพิกล
“ถ้าอย่างนั้นพี่เป็นเจ้ามือเองนะครับ อย่าปฏิเสธเลยนะ พี่ไม่ได้เจอน้องๆ นานแล้ว มาเจอหน้ากันทีก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย พี่ยังไม่มีโอกาสได้เลี้ยงข้าวอะไรเลย เพราะฉะนั้นวันพรุ่งนี้ พี่ขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวเองนะครับ”
“ได้สิคะพี่เจตต์”
“แต่ว่า…พวกเรากินจุนะคะพี่เจตต์เลี้ยงไหวเหรอคะ” กนกอรแซว
“ไหวสิครับ กินเท่าไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะน้องระรินด้วยแล้ว กินเยอะเท่าไหร่พี่ก็เลี้ยงไหวครับ” เจตต์บอกยิ้มๆ พลางหันมองหน้ารินรดา ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด
สองสาวเดินเคียงข้างกันไปนั่งรอ กนกอรมองสีหน้าของเพื่อนรักที่ดูดีขึ้นไม่เหมือนคนกำลังอมทุกข์อย่างคนกำลังจะหย่า ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังไม่วายสงสัย
“ระริน ตอนแรกฉันนึกว่า หากแกหย่ากับพี่ต้น ฉันจะต้องมาคอยนั่งปลอบใจแกเสียอีก”
“ตอนแรกฉันก็คิดว่าตัวเองจะร้องไห้เสียใจมากกว่านี้ แต่มาคิดดูอีกที สิ่งที่พี่ต้นทำกับฉันและลูก ฉันก็ไม่รู้จะเสียใจไปทำไม แต่ถ้ามีเรื่องหนึ่งที่ฉันทำผิดคือ ฉันเป็นคนเลือกพี่ต้นเข้ามาในชีวิตเอง แต่ฉันก็ขอบคุณเขานะ เพราะถ้าไม่มีพี่ต้น ฉันคงจะไม่มีลูกน่ารักอย่างน้ำฟ้า เมื่อวานพอฉันไปหาลูก เห็นอาการป่วยของลูกดีขึ้น ยิ้มได้ หัวเราะได้ แค่นี้ฉันก็มีความสุขมากๆ แล้วละ” รินรดาเอ่ยออกมาจากใจ
“อีกอย่างที่ผ่านมาฉันทำงานหาเงินเองมาตลอด ฉันยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เพราะฉะนั้นการหย่าของฉันก็แค่ตัดคนไม่ดีออกจากชีวิต แล้วฉันก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในแบบที่ฉันเลือกเอง”
แม้รินรดาจะพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่กนกอรพอจะมองออกว่า ลึกๆ แล้วภายในใจยังเจ็บปวดร้าวลึก อาจจะกลายเป็นแผลเป็นได้ในอนาคต
“ฉันดีใจนะที่แกคิดได้ หลังจากหย่า แกควรใช้ชีวิตให้มีความสุขกับลูก กับน้าอ้อย แต่ว่า…ฉันก็ไม่อยากให้แกปิดกั้นความรักครั้งใหม่ หากมีคนดีๆ เข้ามาในชีวิต”
“คงจะยาก ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะรักใครได้มากเท่าพี่ต้นไหม ที่ผ่านมาพี่ต้นทำฉันเจ็บมาก จนบางครั้งฉันก็ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นกับใคร”
“มันก็ใช่นะระริน แต่ผู้ชายไม่ได้เลวร้ายเหมือนกันทุกคน ดูอย่างพี่เจตต์สิ เขาก็เป็นคนดีคนหนึ่ง ในเมื่อพี่เขาชอบแก แกก็ควรพิจารณาพี่เขาไว้ก็ไม่ผิดอะไร”
“พูดอะไรน่ะอร!”
“อ้าว! ระริน นี่แกไม่รู้เรื่องหรอกเหรอ ว่าพี่เจตต์ชอบแก”
“เดี๋ยวนะ ฉันรู้ว่าพี่เจตต์เคยจีบฉัน แต่มันก็ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะแก”
“พี่เจตต์เคยจีบแก แต่แกไม่สนใจ พอวันที่แกเลิกกับพี่ต้นจนแท้งครั้งนั้น อย่าลืมสิพี่เจตต์เป็นคนพาแกไปส่งโรงพยาบาล ฉันมองเดี๋ยวเดียว ฉันยังรู้เลยว่าพี่เจตต์ชอบแกมาก ดีไม่ดีอาจจะชอบมากกว่าพี่ต้นด้วยซ้ำ แล้วตอนที่พี่ต้นขอคืนดีกับแก พอแกเลือกพี่ต้น ฉันนี่สงสารพี่เจตต์ชะมัดเลย”
รินรดาถึงกับอึ้ง ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกรู้สา แต่ตอนนั้นเธอยังรักสรวิชญ์จนไม่อาจมองใครได้อีกต่างหาก
“ชีวิตแกมันก็ตลกนะระริน พอวันนี้ พี่เจตต์กลับมาเป็นเพื่อนบ้านแก จังหวะพอดีกับที่แกกำลังมีปัญหากับพี่ต้น ฉันไม่รู้หรอกว่าชีวิตแกจะเป็นยังไง แต่ฉันอยากให้แกลองเปิดใจให้พี่เจตต์ดู ก็ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่เหรอ”
“อร…”
“ฉันรู้ แกไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้ เพราะในสายตาแกมีแต่พี่ต้นคนเดียว แต่แกอย่าลืมสิ ฉันเป็นคนนอก บางครั้งฉันก็มองเห็นได้ชัดเจนกว่าแกนะระริน”
รินรดาไม่คิดว่ากนกอรจะพูดเรื่องเจตต์ขึ้นมา แต่ทุกอย่างที่กนกอรพูดเป็นเรื่องจริง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่เจตต์ที่เธอไม่เคยสนใจ แม้แต่ผู้ชายคนอื่นก็ไม่เคยอยู่ในสายตา ต่อให้ใครทำดีแค่ไหนก็ตาม สำหรับรินรดาแล้ว ทั้งหัวใจของเธอมีเพียงสรวิชญ์คนเดียวเท่านั้น
แต่ห้วงภวังค์ของรินรดาก็ต้องชะงัก เมื่อกนกอรสะกิดเรียกเธอ รินรดามองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก ครั้นเห็นสรวิชญ์เดินโอบบ่ากวินนาถเข้ามาแสดงความเป็นคู่รักหวานชื่นกันออกนอกหน้า ไม่เกรงใจเมียอย่างเธอที่กำลังยืนหัวโด่เลยสักนิด
“นี่ขนาดยังไม่เซ็นใบหย่ายังขนาดนี้ ถ้าเกิดหย่าแล้วจะขนาดไหนวะ” กนกอรกระซิบกับรินรดาด้วยความหมั่นไส้ ทำให้รินรดารีบปราม
“เถอะน่า เดี๋ยวหย่าเสร็จก็ต่างคนต่างไป”
“เฮ้อ”
ทันทีที่ทั้งสองฝ่ายมายืนเผชิญหน้ากัน สรวิชญ์ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้น
“ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปทำให้มันจบเรื่องเหอะ” พูดจบ เขาก็โอบไหล่กวินนาถพลางเดินเชิดหน้าเข้าไปในสำนักงาน โดยมีสายตามองเหยียดของกวินนาถมาที่คนทั้งสองอย่างถือตัว อีกครั้งที่กนกอรเบ้ปากมองตามหลัง ก่อนจะกระซิบกับรินรดาขึ้นมาอีก
“ก็แค่เมียน้อย ทำเป็นเชิด ได้ตัวเงินตัวทองไปยังไม่รู้อีก”
“เหอะน่า” รินรดาตัดบทพร้อมกับเดินตามเข้าไปติดๆ
ระหว่างที่รินรดากับสรวิชญ์กำลังจะทำเรื่องหย่า โดยมีข้อตกลงการหย่าที่ทั้งสองฝ่ายเซ็นรับทราบแนบต่อหน้าเจ้าหน้าที่ หลังจากสรวิชญ์ลงชื่อในเอกสารการหย่าเรียบร้อย ขณะที่รินรดากำลังจะลงชื่อ กนกอรรีบร้องห้ามขึ้นต่อหน้าเจ้าหน้าที่
“ระรินอย่าเพิ่งเซ็น”
“หมายความว่ายังไง อย่าเพิ่งเซ็น นี่จะตุกติกเหรอ” สรวิชญ์เสียงเข้มอย่างไม่สบอารมณ์
“พี่ต้นคะ ฉันไม่ได้คิดจะตุกติกอะไรหรอก แต่เพื่อนฉันจะเซ็นได้ยังไง ในเมื่อเงินสิบล้านบาทที่ตกลงกันยังไม่เข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว”
“งก หน้าเลือด” เสียงแหวของกวินนาถสวนกลับด้วยความขัดใจ
“ไม่ได้หรอกค่ะ ฉันต้องรักษาผลประโยชน์ของเพื่อน ถ้าเกิดเพื่อนฉันเซ็นไปแล้ว คุณเกิดตุกติกไม่โอนเงินให้ เพื่อนฉันก็ชวดเงินสิบล้านสิคะ ใครจะไปรู้ คำพูดคนบิดพลิ้วได้ตลอดแหละค่ะ เพราะฉะนั้น ระรินจะยังไม่ยอมเซ็นจนกว่าเงินจะเข้าบัญชีสิบล้าน”
“นี่ฉันไม่เบี้ยวหรอก เซ็นๆ ให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจัดการโอนเงินให้ทีหลัง”
“ไม่ได้ค่ะ…ยื่นหมูยื่นแมว เงินต้องโอนเข้าบัญชีก่อน ระรินถึงจะยอมเซ็น รบกวนคุณเจ้าหน้าที่ช่วยเป็นพยานด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนฉันไม่ได้เงิน ก็คงต้องฟ้องร้องตามกระบวนการทางกฎหมาย แหม…ชายหญิงสมัยนี้หน้าไม่อายนะคะ ควงเมียน้อยมาเปิดตัวในวันหย่ากับเมียหลวง ดีไม่ดี พอหย่ากับเมียน้อยเสร็จ คงจะจดทะเบียนสมรสต่อเลยละมั้ง คนอะไรหน้าด้านจัง”
เสียงดังของกนกอร ทำให้ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างหันมามองกวินนาถและสรวิชญ์เป็นตาเดียว ทำให้ทั้งสองรู้สึกอับอาย จนสรวิชญ์ต้องหันมากระซิบกับกวินนาถ
“ยี่หวาพี่ว่ารีบโอนให้จบๆ เถอะ จะได้หย่าให้มันเสร็จ เราสองคนจะได้รีบไปให้พ้นจากที่นี่เสียที มีแต่สายตาคนสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน”
“ก็ได้…ไหน เอาเลขบัญชีมาสิ” กวินนาถกระแทกเสียงด้วยความจำใจ
ครั้นรินรดาบอกเลขบัญชีเรียบร้อย กวินนาถก็โอนเงินเข้าบัญชีเธอครบตามจำนวนสิบล้านบาทตามที่ได้ตกลง
รินรดามองยอดเงินที่เด้งขึ้นมาที่หน้าจอมือถือด้วยสายตาว่างเปล่า สุดท้ายความรักของเธอก็กลายเป็นเงินสิบล้านที่แลกมา แต่ก็ยังนับว่าดีกว่าตอนแม่ของเธอเลิกกับพ่อ ตอนนั้นปรางทิพย์ไม่ได้อะไรสักอย่าง แถมยังต้องเสียชีวิตสังเวยให้ผัวไม่รักดีที่นอกใจไปมีเมียน้อยอีกด้วย
หลังจากที่สรวิชญ์และรินรดาทำเรื่องหย่าเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนเดินออกมาจากเขต โดยที่สรวิชญ์กับกวินนาถมีสีหน้าบึ้งตึงอย่างไม่สบอารมณ์ ตรงกันข้ามกับกนกอรที่ยิ้มอย่างมีชัย ขณะที่รินรดามีใบหน้าเรียบเฉยจนยากจะอ่านใจ
“หย่ากันเสร็จแล้ว แต่น้ำฟ้าก็ยังเป็นลูกของพี่ ถ้าวันไหนพี่ต้นอยากเจอ…”
ยังไม่ทันที่รินรดาจะพูดจบ กวินนาถก็พูดแทรกขึ้นมาทันที
“พี่ต้นคงไม่อยากเจอลูกอีกหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวเราก็มีลูกกันใหม่ ในเมื่อเธอรับผิดชอบลูก ต่อไปก็อย่ามายุ่งกับพวกเรา ถ้าจะให้ดีตัดขาดกันไม่ต้องเจอหน้ากันอีกจะดีที่สุด จริงไหมคะที่รัก”
“จริงจ้ะที่รัก”
“แล้วข้าวของเสื้อผ้าของพี่ต้นที่บ้าน จะเอายังไงคะ พี่ต้นจะกลับไปขน หรือว่าจะให้ระรินแพ็กส่งไปให้”
“พี่ต้นไม่ต้องสนเรื่องเสื้อผ้าข้าวของเก่าๆ ให้เป็นเสนียดลูกตาหรอกค่ะ ทิ้งไปไม่ต้องเก็บไว้ เรามีเงินเสียอย่าง เดี๋ยวค่อยไปหาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ที่หรูและดูดีกว่าเดิมมาใส่ก็ได้ค่ะ ไม่เหมือนเสื้อผ้าเก่าๆ นอกจากไม่สวยแล้วยังไร้ประโยชน์ น่าเบื่อ ทั้งเก่าทั้งแก่ แต่มาคิดดูอีกที คงจะไม่ใช่แค่เก่าธรรมดา แต่ว่าเก่ามากจนขึ้นสนิมหมดไปแล้ว”
“หน็อย ปากดีนักนะ ขอตบปากสักทีเถอะ”
กนกอรขยับจะเข้าไปตบปากสักฉาด หากถูกรินรดารั้งตัวไว้ได้ทัน
“อย่าอร อย่าไปสนใจ”
“หรือไม่จริงคะคุณอร ฉันพูดผิดตรงไหน ไม่ใช่แค่เก่าและแก่ แต่ยังหน้าเงิน สงสารลูกจริงๆ เลยที่มีแม่เห็นแก่เงินแบบนี้ ดีไม่ดี อีกไม่นานลูกคงจะได้พ่อเลี้ยงคนใหม่ เพราะแม่คงจะหาพ่อใหม่ที่มีเงินหนามาช่วยจ่ายให้”
จบประโยคใบหน้าของกวินนาถก็หันไปอีกทางโดยมีริ้วฝ่ามือของรินรดาขึ้นที่แก้มแดงๆ
เพียะ!
“เธอจะว่าฉันยังไงฉันยอมได้ แต่เธอจะมายุ่งกับลูกสาวฉันไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็มันจริง อีเด็กเหลือขอ อีลูกที่พ่อไม่รัก กูจะพูด”
ขาดเสียงตวาดของกวินนาถ สองสาวก็โผเข้าตบตีกันอย่างไม่มีใครยอมใคร โดยที่สรวิชญ์หน้าเสียเพราะเขาไม่คิดว่ากวินนาถจะมีวาจาถากถางแบบนี้ ก่อนจะพยายามเข้าห้ามผู้หญิงทั้งสอง ทว่าก็พลาดท่าถูกฝ่ามือของรินรดาเข้าเต็มแก้ม ก่อนที่ทั้งสองจะหันไปตบตีกันต่อเป็นพัลวัน
กนกอรพยายามห้ามปรามเพื่อนของตัวเอง ทว่าเรี่ยวแรงของรินรดาในยามโกรธจัดแม้แต่เธอเองก็ยังโดนผลักออกมา ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ขณะที่กวินนาถขึ้นคร่อมรินรดา และกำลังเงื้อมือจะตบหน้าเธออีกครั้ง ทันใดนั้นร่างของเธอก็ถูกดึงออกมาจนกระเด็นล้มไปอีกทาง ส่วนรินรดาก็ถูกเจตต์ประคองลุกขึ้นมาพร้อมกับโอบรั้งร่างบางไว้แน่นไม่ให้เข้าไปตบตีกันได้อีก ขณะที่ทำให้สรวิชญ์รีบเข้าไปประคองกวินนาถลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ระรินพอแล้ว”
“ไอ้เจตต์!”
“ไอ้ต้น!”
สรวิชญ์มองภาพตรงหน้าด้วยความแปลกใจ เขาเห็นเจตต์กำลังโอบกอดรินรดา เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคนกลับมาติดต่อกันใกล้ชิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่รู้เรื่อง ความใกล้ชิดของคนทั้งสอง ทำให้เขาชะงักไปอึดใจ จู่ๆ ความหึงหวงในอดีตภรรยาก็ปะทุขึ้นมาจนเลือดขึ้นหน้า
“ระรินนี่หมายความว่ายังไง อย่าบอกนะที่รีบหย่าและเรียกเงินตั้งสิบล้าน ไม่ใช่เพราะกูมีเมียน้อยหรอก แต่เพราะมึงมีชู้มากกว่า แล้วไอ้ชู้นี่ก็คือไอ้เจตต์ นี่บอกมานะ มึงสองคนไปแอบเป็นชู้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้หญิงก็ร่าน ผู้ชายก็เลว”
ยังไม่ทันจบประโยคดี เจตต์พุ่งเข้าใส่สรวิชญ์ ก่อนจะซัดกำปั้นหนักๆ ไปที่ใบหน้าของเขาอย่างจัง จนเจ้าตัวเซถลาล้มไปกองที่พื้น มีรอยปริแตกเลือดซึมออกปาก
“ไอ้ต้น มึงอย่าคิดว่าตัวเองมีชู้ ทำอะไรต่ำๆ แล้วคนอื่นเขาจะเป็นเหมือนมึง กูจะบอกให้เอาบุญนะ เพราะเมื่อก่อนน้องระรินเลือกมึง รักมึง กูเลยยอมหลีกทางให้ แล้วกูก็หวังว่ามึงจะดูแลน้องระรินให้ดี เหมือนอย่างที่กูอยากดูแล กูเคยคิดนะว่ามึงอาจจะกลับตัวกลับใจ หยุดที่น้องระรินคนเดียว แต่พอวันนี้…มึงมันก็แค่เศษสวะ ยังเป็นไอ้ต้นคนเดิมที่เจ้าชู้และกะล่อนไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด น้องระรินแค่โชคร้ายที่เพิ่งเห็นสันดานของมึงวันนี้ ส่วนผู้หญิงของมึงก็แค่ตาบอดที่มาหลงรักคนเลวอย่างมึง ไปครับน้องระริน”
“มึงจะไปไหนไอ้เจตต์”
สรวิชญ์อาศัยจังหวะที่เจตต์ไม่ทันระวังตัว เขากระชากไหล่เจตต์หันกลับมา ก่อนที่ตัวเองจะซัดกำปั้นไปที่ใบหน้าของเจตต์ แล้วในเวลาต่อมาบริเวณหน้าเขตก็กลายเป็นสมรภูมิชกต่อยของสองอดีตเพื่อนรัก โดยมีรินรดากับกวินนาถคอยช่วยห้ามปราม ก่อนที่จะมีผู้คนมากมายกรูกันมาดูแล้วจับทั้งสองแยกจากกันและขู่ว่าจะแจ้งตำรวจ ทำให้สรวิชญ์และเจตต์ต้องแยกย้าย
“อีระริน ในเมื่อมึงมีชู้ มึงเอาเงินสิบล้านของกูคืนมา”
สรวิชญ์ยังไม่วายชี้หน้าด่ารินรดาด้วยความแค้นเคือง โดยมีกวินนาถคอยรั้งร่างสูงสุดแรง
“ฉันไม่คืน เพราะเงินสิบล้านนี่แลกกับใบหย่า ในเมื่อตอนนี้เราหย่ากันแล้ว คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงหรืออ้างความเป็นเจ้าของอีก ตอนคุณมีเมียใหม่ ฉันยังไม่ยุ่งเรื่องของคุณเลย เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าฉันจะคบใคร คุณก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่งเรื่องของฉัน ไปค่ะพี่เจตต์ เรากลับกันเถอะค่ะ”
รินรดาช่วยประคองเจตต์ลุกขึ้น ก่อนจะพาเดินไปที่รถ มีกนกอรเดินตามทั้งสองไปติดๆ สรวิชญ์ได้แต่มองตามด้วยความคับแค้นใจที่เสียรู้จนต้องเสียเงินให้อีกฝ่าย แทนที่เงินจะเข้ากระเป๋าเขา
“พี่ต้น!”
เสียงเรียกแสบแก้วหูของกวินนาถ ทำให้เขารู้สึกตัว ก่อนจะถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความหงุดหงิด เมื่ออดีตคนรักกลับไปประคองผู้ชายคนอื่นหน้าตาเฉย แทนที่จะเป็นเขา
“พี่ต้น ตายแล้ว หน้ามีเลือดออกด้วย ไปค่ะ เดี๋ยวยี่หวาพากลับไปทำแผลให้นะคะ ยี่หวาว่าดีแล้วที่พี่ต้นหย่ากับผู้หญิงแบบนั้น แหม…ทำเป็นเรียกเงินสิบล้านเป็นค่าหย่า ทำไปทำมาคงจะเอาเงินไปให้ผัวใหม่มากกว่า ช่างมันเถอะค่ะ เงินแค่สิบล้าน ก็แค่เศษเงิน เราจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ อย่าไปสนใจสวะพวกนั้นเลย เราต้องดีใจกันถึงจะถูกจริงไหมคะ ในที่สุดพี่ต้นก็หย่าเรียบร้อย อย่างนี้เราต้องไปเลี้ยงฉลองกันค่ะ”
กวินนาถโผกอดเขา ขณะที่สรวิชญ์ฝืนยิ้มกลบเกลื่อน ตอนแรกเขาไม่สนใจไยดีรินรดาด้วยซ้ำ แต่พอเขาเห็นผู้ชายคนอื่นมาอยู่ใกล้เธอ เขากลับหึงหวงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟอยากตะบันหน้าไอ้เจตต์อีกสักหลายหมัดให้หายแค้น
แต่พอเขานึกขึ้นมาได้ว่า เขากับรินรดาได้หย่าขาดกันสมบูรณ์แล้ว ชายหนุ่มได้แต่มองใบหย่าในมือ สลับกับใบหน้าโฉบเฉี่ยวของกวินนาถ สรวิชญ์จึงได้แต่บอกตัวเองว่า
นับจากวันนี้ไป กวินนาถคือปัจจุบันและอนาคตของเขา ชีวิตของเขาจะต้องเจริญขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ อนาคตว่าที่ลูกเขยเจ้าของบริษัทอยู่อีกไม่ไกลแล้ว
หลังจากรินรดา กนกอร และเจตต์ขึ้นมาบนรถเรียบร้อยแล้ว อารมณ์คุกรุ่นของรินรดาเมื่อครู่ก็เบาลงเมื่อเห็นใบหน้าของเจตต์ซึ่งมีเลือดออกที่ริมฝีปาก และมีรอยแดงหลายจุดจากการต่อยกันเมื่อสักครู่
“พี่เจตต์ ระรินขอโทษนะคะ เพราะระรินควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ดีพอ จึงได้มีเรื่องกับยี่หวา หากระรินควบคุมตัวเองดีกว่านี้ พี่เจตต์ก็คงไม่ต้องมาเจ็บตัวไปด้วย”
หญิงสาวใช้กระดาษทิชชูที่มีติดกระเป๋าค่อยๆ ซับเลือดมุมปากของชายหนุ่ม ทำให้อีกฝ่ายมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้งแฝงไปด้วยความนัย
“น้องระรินครับ มันไม่ใช่ความผิดของน้องเลย เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากด้านในกำแพง พี่เลยเดินเข้ามาดู ไม่คิดเลยว่าจะเห็นภาพน้องระรินกำลังตบตีกับผู้หญิง” เจตต์พูดยิ้มๆ
“นั่นสิ ตั้งแต่ฉันรู้จักแกมา ฉันก็ไม่เคยเห็นแกโกรธจนมีเรื่องตบตีกับใครได้ แต่อย่างว่านะ ยัยนั่นมันก็ปากไม่ดีก่อน ดันไปลามปามถึงหนูน้ำฟ้า ถ้าฉันเจอคนมาว่าลูกฉันแบบนี้ ฉันก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน”
“ฉันรู้สึกแย่เลย ที่ไปก่อเรื่องในสถานที่ราชการ แต่มันทนไม่ไหวจริงๆ แกก็เห็น”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า เรื่องธรรมดาของคนเป็นแม่ แกไม่ใช่จะตบคนแบบนี้บ่อยๆ เสียหน่อย แต่จะว่าไป ตอนนั้นแกแรงเยอะมากเลยนะ พี่ต้นยังโดนแกตบปากแตก แม้แต่ฉันเข้าไปห้าม ยังโดนผลักออกมาเลย” กนกอรพูดกลั้วหัวเราะ
“จริงเหรอแก ฉันขอโทษนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันหน้ามืดไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ก็ดีเหมือนกันนะ ถือเสียว่าวันนี้แกได้เอาคืนหญิงร้ายชายเลวคู่นั้น ฉันนี่สะใจชะมัดเลย” คำชมของกนกอร ทำให้รินรดามีสีหน้าบรรยายไม่ถูก ก่อนที่เจตต์จะชวนเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้วนี่น้องๆ จะไปไหนครับ เดี๋ยววันนี้พี่เป็นสารถีให้”
“เดี๋ยวพี่เจตต์ไปส่งอรที่สถาบันหน่อยค่ะ อรจะเข้าไปเคลียร์งาน ส่วนแก…วันนี้ก็พักสักวันเถอะ เดี๋ยวฉันหาคนมาสอนแทนตอนเย็น อ้อ…แล้วคืนนี้แกจะต้องไปนอนกับลูกที่โรงพยาบาลหรือเปล่าล่ะ พรุ่งนี้ลูกก็ได้กลับบ้านแล้วนี่”
“คงฝากน้าอ้อยนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลแทน ระรินรบกวนพี่เจตต์ไปส่งที่บ้านหน่อยนะคะ เดี๋ยวระรินเตรียมชุดให้น้าอ้อยแล้วจะไปดูลูกที่โรงพยาบาล แล้วค่อยกลับมาเก็บเสื้อผ้าของพี่ต้นให้เสร็จก่อนน้ำฟ้ากลับมาบ้านน่ะค่ะ ในเมื่อเจ้าของไม่ต้องการ ฉันก็จะเก็บไปบริจาคให้หมด จะทิ้งก็เสียดาย บริจาคยังมีคนได้ประโยชน์”
“ดีแล้วละแก จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่สักที”
‘เริ่มต้นใหม่’ คือสิ่งที่เธอไม่คุ้นชิน แต่อีกไม่นานเธอก็ต้องทำตัวให้ชินกับการที่ไม่มีสรวิชญ์อยู่ในชีวิตอีกต่อไป หน้าที่ภรรยาที่มีต่อสรวิชญ์จบลงแล้ว แต่หน้าที่แม่ของน้ำฟ้ายังอยู่ และเธอจะเป็นแม่ที่ดีต่อไป ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยว
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 20 : เริ่มต้นชีวิตใหม่
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 19 : หย่า
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 18 : เจรจา
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 17 : โรงพยาบาล
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 16 : คนที่เลือก
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 15 : มิตรภาพ
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 14 : กาลเวลาผันผ่าน
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 13 : กลับตัวแต่ไม่กลับใจ
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 12 : โอกาสครั้งที่สอง
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 11 : ลมหายใจที่ปลิดปลิว
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 10 : เรื่องไม่คาดฝัน
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 9 : หอพัก
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 8 : แก้ไขหรือแก้ตัว
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 7 : ความจริง
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 6 : คำเตือน
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 5 : แผนลับ
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 4 : แผนขั้นต่อไป
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 3 : สรวิชญ์
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 2 : ชีวิตใหม่ของรินรดา
- READ รักในรอยน้ำตา บทที่ 1 : งานศพ
- READ รักในรอยน้ำตา : บทนำ