ซ่อนรัก บทที่ 30 : งานมอบรางวัล

ซ่อนรัก บทที่ 30 : งานมอบรางวัล

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

งานมอบรางวัลของเพชรอนันจัดในโรงแรม แม้ว่าจะจัดเล็กๆ แต่ก็มีแขกมามากเกินคาดคิด รวมทั้งสื่อมวลชนที่มาทำข่าว

พนักงานบริษัทเพชรอนันต์ทำหน้าที่ต้อนรับแขก ในขณะที่พนักงานโรงแรมก็เดินเสิร์ฟเครื่องดื่มไปทั่วงาน

มีมุมอาหารจัดไว้มุมห้องสำหรับแขกที่ต้องการทาน ส่วนใหญ่เป็นอาหารแบบเบาๆ ทานง่ายๆ เช่นพายต่างๆ พอดีคำ ของทอดเป็นชิ้นเล็กๆ อาหารญี่ปุ่นคือซูชิที่น่าทานมาก และขนมเค้กขนมไทยเรียงรายเต็มโต๊ะ

แขกส่วนใหญ่สนใจแบบอัญมณีที่ชนะการประกวด และเพชรอนันก็สามารถจัดทำเป็นอัญมณีออกมาโชว์ในตู้กระจก

สามผู้ชนะ…สามแบบที่โดดเด่น

และที่ขาดไม่ได้ก็ยังมี ตู้อัญมณีแบรนด์เพชรอนันต์มาจำหน่ายด้วย และส่วนใหญ่ก็ถูกแขกพิเศษจับจองกัน รวมทั้งจองอัญมณีที่ชนะเลิศไว้ล่วงหน้า

ปารีสมากับวิศว์ แต่ก็เพียงส่งหน้าประตูโรงแรม โดยที่วิศว์สวมหมวกและส่งหญิงสาวลง ยังให้ใครเห็นไม่ได้ นี่ล่ะชีวิตของคนที่เก็บซ่อนความลับชีวิตคู่

ก่อนจะลงจากรถ วิศว์พูดว่า

“วันนี้เป็นวันของคุณ ผมภูมิใจมาก”

หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ

“ต้องขอบใจยัยวดีที่ส่งแทน ไม่งั้นก็ไม่มีวันนี้ค่ะ”

“คนเราต้องมีจังหวะชีวิตครับ คุณมีฝีมือ ยังไงก็ต้องโชว์”

ก่อนหญิงสาวจะลงจากรถ ยังมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครรู้จักจึงก้าวลง เพราะเธอระมัดระวังขนาดนี้ รู้ทั้งรู้ต้องระวัง แต่วิศว์ก็แปลกๆ ไม่ค่อยสบายใจนัก

เธอ…เป็นคนตั้งเงื่อนไข จำต้องยอมรับเพื่อ…เธอ ก็ต้องพยายามเข้าใจนะว่า ผู้หญิงยังไม่มั่นใจในตัวเขา จึงต้องใช้เวลา

ทางด้านปารีสได้รับการต้อนรับเป็นพิเศษ เมื่อก้าวเข้าห้องจัดงาน

ปารีสที่หนึ่ง ทรัพย์เป็นที่สอง และสมบัติเป็นที่สาม

ในจำนวนสามคน ปารีสอายุน้อยสุด ยี่สิบกว่า…ส่วนทรัพย์เกินสี่สิบแน่ๆ และสมบัติก็อายุใกล้ทรัพย์ปลายสามสิบต้นสี่สิบ

ปารีสได้รับการต้อนรับพิเศษ จากครอบครัวเพชรอนันต์ เพราะดุสิตที่แอบชื่นชอบเธอเป็นพิเศษส่วนตัว

ทั้งครอบครัวเข้ามาทักทายปารีส เพื่อดุสิต

ปารีสยกมือไหว้คุณอนันต์และคุณนาถ รวมทั้งจิรานุชที่อาวุโส ทั้งสามรับไหว้ ดุสิตพูดขึ้น

“ดีใจที่เป็นคุณจริงๆ ผมยินดีด้วยครับ”

“ขอบคุณค่ะ ไม่คิดว่าจะชนะนะคะ”

จิรานุชพูดเล่นๆ ว่า

“ใช้เส้นหรือเปล่า”

ปารีสทำตาโต ยังไม่ทันแก้ตัว เลขารีนที่ยืนอยู่ข้างๆ เจ้านายจิรานุชก็โพล่ง

“ใช้เส้นแน่ๆ ฮะ เพราะสนิทกับคุณดุสิตนี่ฮะ” ทำน้ำเสียงเหมือนกับเป็นการพูดเล่นๆ พูดไปยิ้มไป แต่แววตาสิ จริงจังเกินไปแล้ว

ปารีสดูจะอึดอัดนะ ที่โดนแบบนี้ นิกรรีบแย้งทันที

“เราตัดสินจากภาพและไม่เคยดูชื่อเลย รวมทั้งงานนี้เป็นการตัดสินใจของผมเอง คุณปารีสชนะอย่างยุติธรรมครับ”

หญิงสาวโล่งอก

ดุสิตมองรินด้วยสายตาดุๆ และสงสัย

รินทร์กลัวเสียเมื่อไรล่ะ ในเมื่อเป็นคนของจิรานุช และยืนอยู่คนละฝ่ายกับดุสิตเสมอมา

ดุสิตกับจิรานุชมักมีเหตุผลขัดแย้งกันเรื่องงานเสมอ เพราะต่างคนต่างมีเหตุผล และเก่งทั้งคู่

รินทร์ยักไหล่ พูดกับตัวเอง

“ยุติธรรมก็ยุติธรรมสิ”

จิรานุชหันมาทางเลขาคู่ใจ พลางกล่าวว่า

“ฉันหิวน้ำแล้ว ไปหาอะไรมาให้ฉันดื่มหน่อย”

เป้าหมายแท้จริงคือจะให้รินเดินห่างๆ ไปเสียก่อน รินทร์รับคำและผละไปอย่างจำยอมแต่ไม่พอใจ

“รินทร์โผงผาง แต่ไม่มีอะไรหรอก คุณปาคงไม่ถือสานะคะ” จิรานุชพูดกับปารีส

หญิงสาวยังออกอาการงงๆ บ้าง การส่งประกวดครั้งนี้เพราะเพื่อนแท้ๆ การรับรางวัลก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดหมาย

“อ๋อ…ค่ะ…ค่ะ ไม่ถือหรอกค่ะ”

คุณอนันต์พูดขึ้น

“จะรางวัลไหนก็ขึ้นอยู่กับยอดขายยอดจองวันนี้ด้วยนะ ว่าลูกค้าชอบแบบของใคร” นักธุรกิจเรื่องเงินย่อมสำคัญ

“ใช่ค่ะ” คุณนาถสนับสนุนคำพูดสามี “รางวัลไม่ได้การันตียอดขายทุกครั้งหรอก บางทียอดจองรางวัลที่ สองสามอาจสูงกว่าที่หนึ่งนะคะ”

ปารีสรีบพูดว่า

“เห็นด้วยค่ะ ฉันก็เคยอยู่วงการนี้มาก่อน”

“อยู่ในวงการก็ถือว่าได้เปรียบนะ” คุณนาถพูดยิ้มๆ

“คือ…” ปารีสจะอธิบาย แต่ดุสิตชิงว่า

“การส่งประกวดไม่มีเงื่อนไขว่าคนในวงการอัญมณีจะส่งประกวดไม่ได้นี่ครับ ห้ามคนในบริษัทเราเท่านั้นครับ”

คุณนาถอมยิ้มเมื่อเห็นลูกชายคนโตออกนอกหน้าแทนฝ่ายหญิง

ดูออกว่าลูกชายสนใจเธอมากเป็นพิเศษ

แล้วทุกคนก็ชะงัก เมื่อวิศว์ปรากฏตัวในงาน

วิศว์…คนพิเศษของนิกร

“คุณวิศว์” วิศว์พาบรมเป็นเพื่อนด้วย นัดเจอกันหน้างาน หลังจากวิศว์ส่งปารีสที่บริเวณด้านหน้าโรงแรมแล้ว

วิศว์กับบรมเข้ามาทำความเคารพคุณอนันต์กับคุณนาถ

“สวัสดีครับ”

นิกรตื่นเต้นที่เจอวิศว์มากกว่าเจอปารีสที่ชนะการประกวดเสียอีก ทั้งที่งานนี้เป็นงานมอบรางวัล และปารีสต้องถือว่าเป็นนางเอกของงานทีเดียว

ผู้มีบุญคุณ…ของนิกร

“ขอบคุณที่รับเชิญจากผมมางานครับ” นิกรพูดกับวิศว์

“ผมสิต้องขอบคุณที่ให้เกียรติเชิญผมมา”

“งานเล็กๆ ครับ”

“แบบนี้ที่เห็นไม่เล็กแล้วนะครับ คนเยอะพอควร”

“นี่ครับ…คุณปารีส เธอได้รับรางวัลชนะเลิศ พวกคุณจะได้รู้จักกัน” และบอกกับปารีสว่า “คุณวิศว์กับคุณบรม คุณวิศว์เป็นคนมีบุญคุณกับผม ไว้จะเล่าให้ฟังทีหลังครับ ถ้ามีโอกาส”

วิศว์ยื่นมือให้ปารีส

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

สัมผัสมือกันและสบตากัน เก็บความรู้สึก

“เช่นกันค่ะ”

ทั้งสองคิดอะไรอยู่นะ บรมสงสัย เป็นสามีภรรยากันแท้ๆ แต่ต้องทำเหมือนแปลกหน้า

แต่ดูแล้วทั้งสอง ก็พยายามจะวางตัวธรรมชาติ สงบและไม่น่าสงสัย

อีกคนที่ดูแปลกอย่างชัดเจน เพียงแต่ไม่มีใครสังเกตเท่านั้นคือ จิรานุช

จิรานุชฟ้าเฝ้าแต่จ้องมองวิศว์เป็นตาเดียว

เมื่อก่อนพบวิศว์ก็มองธรรมดา…จนกระทั่งไปเจอที่โรงพยาบาลเพราะเห็นวิศว์กับหญิงวัยกลางคนที่ชื่อ…โสภา

โสภา…ชื่อที่มีความหมายต่อคนครอบครัวเพชรอนันต์

โสภา…ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจรายงานต่อพี่ชายกับพี่สะใภ้ โดยเฉพาะพี่สะใภ้ ที่ต้องโกรธแน่ๆ ถ้ารู้ว่าตนเห็น..ผู้หญิงคนนั้น

ผู้หญิงคนนั้นที่เคยทำคุณน่าเจ็บปวด

ผู้หญิงคนนั้นที่เกือบทำให้ครอบครัวคุณนาถกับคุณอนันต์สั่นคลอนความสัมพันธ์

วิศว์เป็นใคร?

วิศว์เป็นลูกโสภา!

วิศว์ก็คือ…

จิรานุเฝ้ามอง เฝ้าสงสัย เฝ้ากังวล

วิศว์ต้องเป็นคนมาเปลี่ยนแปลง ครอบครัวเพชรอนันต์แน่ๆ ในฐานะ…ฐานะ…ฐานะ…

รินทร์ยกน้ำมาแล้วมาให้เจ้านายสาวของตน เห็นเจ้านายสาวเฝ้าจ้อง…วิศว์

“มีอะไรฮะ?”

“เปล่า”

“คุณวิศว์คนนี้รูปหล่อมากนะฮะ”

จิรานุชส่งสายตาดุให้ลูกน้องคนสนิท

“แล้วไงล่ะ คิดว่าฉันจะสนใจหนุ่มรุ่นน้องรุ่นหลานเรอะ?”

เงียบกริบ

เสียงนิกรพูดกับวิศว์ว่า

“ตามสบายนะครับ รับประทานอาหารว่างก่อนครับ มีเครื่องดื่มหลายอย่าง”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเดินหาอะไรกินได้”

“ตามสบาย…คุณวิศว์ คุณเคยช่วยนิกร เอาของมาคืน ฉันจะระลึกถึงความดี และความซื่อสัตย์ของคุณเสมอ” คุณนาถพูดกับวิศว์อย่างยิ้มแย้ม การช่วยเหลือนิกร ลูกรักในครั้งนั้น คุณนาถซาบซึ้งและดีใจอย่างมาก

เจอกันกี่ครั้งคุณนาถก็จะพูดชื่นชมวิศว์เสมอ ในขณะที่คุณอนันต์ได้แต่มองชายหนุ่มอย่างเรียบเฉย

ในความเรียบเฉยนั้น มีบางอย่างที่สะดุดตาท่าน

วิศว์รูปงาม บุคลิกดี ด้วยท่าทางสบายๆ เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็น่าสนใจไม่น้อย

ท่านนี้ค่อยพูดอะไรมาก ปล่อยให้เมีย ลูก กับน้องสาวพูดกันไป

แล้วก็ต่างก็ต้องแยกย้าย เพราะคณะของคุณอนันต์ต้องไปรับรองแขก

ทางด้านรินทร์ยังสงสัยในสายตาเจ้านายสาว เมื่อผละออกมาก็ยังเฝ้าถาม

“ดูเหมือนคุณวิศว์จะเด่น สะดุดตาไม่น้อยนะฮะ ขนาดคุณอนันต์ ท่านยังจ้องมองคุณวิศว์ ไม่ละสายตาเลยฮะ”

จิรานุชสุดลมหายใจลึกๆ ก็สมควรล่ะนะ ที่พี่ชายต้องสนใจวิศว์

บางอย่างมีแรงดึงดูดเข้าหากัน แรงดึงดูดที่สำคัญ แม้ห่างกันนานแสนนาน ก็ยังมาพบกันจนได้

“แล้วทำไมล่ะ?” จิรานุชถามเสียงเย็นๆ

“เอ้อ…อย่างไงรินทร์ก็ต้องบอกว่า คุณวิศว์โดดเด่นฮะ”

“น้อยๆ หน่อย หรือรินทร์สนใจ?”

“ไม่ฮะ รินทร์ไม่ชอบผู้ชาย!”

“งั้นก็ไม่ต้องพูดมาก”

“แต่คุณนุชก็ดูสนใจเขา”

“มันเรื่องของฉัน!” พูดจบจิรานุชก็ผละไป

รินทร์ดูหงุดหงิดทันที หงุดหงิดตัวเองที่ทำให้เจ้านายสาวไม่พอใจ สำหรับรินทร์แล้ว  คุณจิรานุชเป็นหนึ่ง เดียวในหัวใจตน

รินทรน์มองไปทางผู้ชนะทั้งสาม สนใจแค่คนที่หนึ่งปารีส กับคนที่สองทรัพย์

ทรัพย์ญาติห่างๆ ของตนที่ได้รางวัลรองอย่างน่าเสียดาย

ทรัพย์กำลังคุยอย่างสนิทสนมกับศิรินภา

ศิรินภาที่เป็นผู้ช่วยของรินทร์

คุยกันสนิทสนม แถมยังหัวเราะต่อกระซิก รู้ๆ ว่าพี่ทรัพย์เป็นคนเจ้าชู้ มีหัวด้านออกแบบ แต่ไม่ค่อยชอบทำงานทำการ รักสบาย ตอนเป็นวัยรุ่นก็เกเรเคยติดคุก ถ้าไม่เพราะพี่ทรัพย์เคยช่วยเหลือตนตอนเป็นเด็ก รินทร์ก็คงไม่สนับสนุนให้ส่งงานประกวด

เสียดายเงินล้านรางวัลที่หนึ่งหลุดมือ

แต่ท่าทางพี่ทรัพย์จะไม่รู้สึกเสียดายหรือเสียใจ เพราะสนใจศิรินภามากกว่า

ศิรินภามองเห็นหัวหน้าโดยตรงของตนก็ทำท่าตกใจ

“พี่รินทร์ มาเงียบๆ ตกใจค่ะ”

“เธอทำอะไร?”

“ก็หน้าที่ของนภาคือดูแลผู้ชนะทั้งสามค่ะ”

“คนที่ได้ที่หนึ่งกับสามไม่เห็นเธอดูแล ดูแลแต่พี่ทรัพย์คนเดียว”

ศิรินภาหน้าแดง

“ก็พี่ทรัพย์น่ารักนี่คะ”

“พอเถอะ…เธอไปดูแลแทคแคร์คนอื่นเถอะ”

ศิรินภาพูดกับทรัพย์ก่อนผละไปว่า

“แล้วโทรมานะคะ”

รินทร์หันมามองญาติห่างๆ

“ถึงขนาดให้เบอร์กันแล้วหรือ พี่ทรัพย์มารับรางวัลนะ น่าจะไปเชียร์แขกจองจี้เพชรงานของพี่มากๆ กลับมาจีบลูกน้องของรินทร์”

ทรัพย์หัวเราะเบาๆ ด้วยท่าทีเจ้าชู้

“ผู้ช่วยเธอสวยนะ เราคุยกันถูกคอมาก พี่ขอจีบเถอะ”

รินทร์โคลงศีรษะ

“เอางานเอาการก่อนดีมั้ย รินทร์อุตส่าห์เดือดร้อนแทนพี่ทรัพย์ที่ชวดรางวัลที่หนึ่ง เกือบมีเรื่องกับพวกเจ้านาย”

“รางวัลที่สองก็ดีแล้ว มีเงินใช้ตั้งห้าแสน ใช้ก่อนค่อยว่ากัน”

รินทร์โคลงศีรษะ ผละพระออกมาก็เจอกับดุสิตและนิกร

ดุสิตพูดขึ้นเรียบๆ

“คุณทรัพย์คนนี้เป็นญาติห่างๆ ของคุณ คุณถึงไม่ยอมรับผลงานของคุณปารีส”

รินทร์สูดลมหายใจลึกๆ

“รินทร์มีสิทธิ์จะสงสัยในความยุติธรรม เหมือนที่คุณสงสัยรินทร์กับพี่ทรัพย์ แต่พี่ทรัพย์ไม่ได้ทำผิดกติกา เราก็แค่ญาติห่างๆ

“คุณปาส่งประกวด ผมก็ไม่รู้ กรเป็นคนตัดสินนิกร”

พูดขึ้นอย่างประณีประนอมตามนิสัย

“คุณรินทร์ ผลตัดสินถือว่าเด็ดขาดแล้ว เราทำงานด้วยกัน อย่าระแวงเคลือบแคลงอะไรกันเลย”

 



Don`t copy text!