ซ่อนรัก บทที่ 50 : เปิดหน้าแข่งรัก

ซ่อนรัก บทที่ 50 : เปิดหน้าแข่งรัก

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

ปารีสยังมึนงงกับพฤติกรรมและคำพูดของดุสิต

ตลอดเวลาทานอาหารแทบไม่รับรู้รสชาติ พยายามจะพูดปฏิเสธแล้ว แต่เขายังยืนยัน

“ผมจะทำให้คุณรักผม!”

“แต่ว่า…เป็นไปไม่ได้ค่ะ”

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”

“คุณจะทำให้ฉันอึดอัดนะ จนไม่อาจร่วมงานกัน”

“ผมไม่ปล่อยคุณหรอก”

“ถ้าฉันลาออก”

“คุณจะต้องทำงานกับผมต่อไป ตอนมาทำงาน คุณเซ็นต์สัญญางานกับบริษัทแล้ว ถ้าอ่านสัญญาคุณจะไม่ลาออกหรอกครับ หลังจากนี้ต่อไปผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นความจริงใจ จนคุณไม่อาจปฏิเสธผมเลย”

หญิงสาวมึนๆ งงๆ จนเขาขับรถมาส่งถึงหน้าคอนโด

“ให้ผมขึ้นไปส่งคุณไหม”

“ไม่ต้องค่ะ ดึกแล้ว”

“ดึกแล้ว แบบนี้ยิ่งต้องส่งครับ แค่เห็นหน้าห้องก็พอใจแล้ว ให้โอกาสผมนะครับ ผมต้องเร่งทำคะแนน” แล้วก็คว้ากระเป๋าถือของหญิงสาวมาถือไว้ ลงจากรถเปิดประตูให้

ขึ้นมาส่งถึงบนชั้นที่พัก

“คุณนอนไหน ห้องเก่าหรือห้องใหม่ครับ”

“ห้องเก่าค่ะ คุณกลับไปได้แล้วค่ะ”

“ครับผม” และอย่างรวดเร็ว เขาก้มหน้าจูบแก้มเธอแบบไม่ทันให้ตั้งตัว “หลับฝันดีนะครับ” แล้วจึงหันหลังเดินไปที่ลิฟท์

ปารีสตาโต จนได้…เป็นเรื่อง เพราะกุลวดีเปิดประตูออกมาเห็นกับหฤทัย

“จูบแก้มด้วย” กุลวดีร้อง

“จูบที่อื่นอีกหรือเปล่า?” หฤทัยถามอย่างสนใจ

“บ้า!” ปารีสไม่ยอมตอบ

“เข้ามาไหม?”

“ง่วง…เหนื่อย อยากพัก จะกลับห้องเลย”

แต่ถูกหฤทัยจากแขน

“ยัยปา…ถึงขั้นจูบกันแล้วนี่ อันตรายนะกับชีวิตคู่ของแกกับคุณวิศว์”

ปารีสโบกไม้โบกมือ

“ฉันเหนื่อย” ว่าแล้วก็ออกมา แต่เสียงเพื่อนไล่หลัง

“เออ…คนรวยเสน่ห์ก็แบบนี้ล่ะ อยากเกิดเป็นยัยปาจัง จะจับปลาสองมือไม่ให้ปล่อยเลย”

“แกเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ” กุลวดีตำหนิหฤทัย “อย่าพูดให้ยัยปาไม่สบายใจสิ”

แต่ปารีสไม่ได้ยินแล้ว เพราะเดินค่ะห่างออกมาไกล จนมาถึงหน้าห้องวิศว์เปิดประตูรออยู่ ทำให้หญิงสาวต้องเลิกคิ้ว

เขา…รอ…รอนานแค่ไหนแล้ว

ประตูเปิด…เห็นอะไรหรือเปล่า?

แต่ลักษณะท่าทาง เขายังสงบนิ่ง

“เหนื่อยหรือครับ ไปอาบน้ำอาบท่าสิครับ”

เขาไม่น่าจะได้ยินที่เธอพูดกับเพื่อนว่าเหนื่อยแน่นอน ห้องอยู่ชั้นเดียวกันก็จริง แต่ห่างกันจนไม่ได้ยินหรอก

“ขอโทษนะคะ กลับดึก ทำให้คุณต้องรอ ทำให้ไม่ได้ทานอาหารเย็นกับคุณ ทั้งที่นัดคุณไว้แล้ว และฉันก็ลืมโทรบอกว่าเจ้านายนัดกะทันหัน

“ไม่เป็นไรครับ ผมกินง่ายๆ ส่วนของคุณยังเก็บในตู้เย็น แต่ผมว่าคุณกินไม่ลงแน่”

“คุณสิตพาไปกินโรงแรม อาหารเป็นชุด อร่อยนะคะ ฉันกินเก่ง หมดเกือบทุกจาน”

วิศว์ยิ้มกว้าง

“คุณเจริญอาหารดีครับ คุณยังถือว่าผอมเมื่อเทียบกับสาวๆ”

“ฉันไม่อยากเป็นไม้เสียบผีหรอกค่ะ”

“ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเถอะครับ”

“ค่ะ…ไม่รู้เป็นอะไรเหนื่อยจังค่ะ”

“นอนดึกทุกคืนไม่ดีหรอกครับ” เขาแตะด่าเธอเบาๆ และดันหลังให้ไปอาบน้ำ

มองร่างหญิงที่โยนกระเป๋าถือไว้บนเก้าอี้โซฟา เดินผละไป

วิศว์โคลงศีรษะ ก็ไม่รู้ว่ารู้สึกอย่างไร

เห็นแน่นอนว่า ตอนเปิดประตูห้อง ก็ไม่รู้อีกทำไมเป็นจังหวะเช่นนั้น

ความสนิทสนมระหว่างดุสิตและปารีส

ฝ่ายชายก้มลงจูบแก้มฝ่ายหญิง เขาควรจะเห็นหรือไม่ เขากับเธอเพิ่งจะปรับความเข้าใจกัน เริ่มต้นใหม่ด้วยความรัก แต่เมื่อมีคนที่สามเข้ามา แถมยังเป็นเจ้านายของเธอ ใกล้ชิดกันที่ทำงาน เขาคงบอกให้หญิงสาวลาออกไม่ได้

คงต้องทำใจ…บางอย่าง บางเรื่อง บางกรณี อย่างมีเหตุผล

เหมือนกับที่เขาจูบกับเทวีแบบ…ไม่ตั้งใจ ใครเห็นอาจจะดูภาพแรง แต่มีเขากับเธอที่ต้องเข้าใจกันและกัน

 

บริษัทเพชรอนันต์

ยังคงเป็นวันทำงานตามปกติ ปารีสอาจรู้สึกผิดต่อวิศว์บ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะมาคิดมาก  ความสำคัญอยู่ที่ ‘ใจ’ ของตัวเอง

เธอเดินไปหากาแฟดื่มที่ห้องครัวของบริษัท

วันนี้วิศว์ก็มาทำงาน แต่อยู่ที่ห้องประชุม งานของวิศว์จะอยู่ที่นั่นกับคนงานอีกสองสามคน

อยู่ๆเ ธอก็หยิบพวงกุญแจดาวขึ้นมา และกำแน่น…เหมือนจะตอกย้ำกับตัวเองว่า เธอมีความรักความหลังกับวิศว์ และต้องมั่นคงตลอดไป

พอหันหลังก็ชนกับดุสิต

มือหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีกมือกำพวงกุญแจไว้

“อุ้ย” กาแฟกระฉอก และพวงกุญแจหล่น

“ขอโทษครับ” ดุสิตก้มลงเก็บพวงกุญแจ “สวยนะ”

“ค่ะ สวยมาก จากยุโรปค่ะ”

“สำคัญมากสิครับ” โดยเฉพาะจากยุโรป

“เอ้อ…ค่ะ”

“ใครให้ครับ”

“รู้หรือคะ ว่ามีคนให้?”

“ผมเห็นคุณจ้องอยู่ตอนชงกาแฟ” คนพูดรู้สึกอะไรบางอย่าง รู้สึกเลยว่าต้องเป็นผู้ชายให้ เกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างยากจะอธิบาย

ด้วยนิสัย…ดุสิต เป็นหนึ่งเสมอ ไม่มีสอง หนึ่งมาตลอด ชนะมาตลอด เขาจะไม่ยอมเป็นสองรองใครแน่ ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว

โดดเด่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร สำเร็จในทุกเรื่อง แน่นอนว่าต้องไม่ยอมผิดหวังหรือพ่ายแพ้ในทุกเรื่อง

“คุณวิศว์เป็นคนให้ค่ะ”

วิศว์…อีกแล้ว ไม่แปลกใจ เพราะค่าจอแต่แรก พยายามข่มน้ำเสียงพูดราบเรียบ

“พวกคุณมีความหลังกันตั้งแต่เด็ก ผมเข้าใจครับ มันคงมีความหมายกับพวกคุณมาก”

“ตอนเด็กฉันชอบติดกิ๊บค่ะ คุณวิศว์ว่ามันเป็นรูปดาว มีคริสตัลประดับระยิบระยับ ตอนเจอกันที่ยุโรป เขาซื้อให้ฉันเป็นที่ระลึก”

“โอ้โห…คุณวิศว์เป็นคนละเอียดขนาดนั้น เป็นผู้ชายที่น่าสนนะครับ เขาจดจำรายละเอียดทุกอย่างของคุณ”

“มีความหมายค่ะ เพราะเขาตอนนั้น…ถ้าไม่มีเขา ไม่มีเด็กผู้ชายที่ปกป้องฉัน…ในป่านั้นน่ากลัวมาก ฉันคงตายไปแล้ว หรือจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้”

“ผมชักอยากเป็นเด็กคนนั้นจัง”

“เวลาหลงทางไม่สนุกหรอกนะคะ”

“ผมเข้าใจ”

“ฉันกลัวมากจริงๆ จากแสงสว่าง…ค่อยๆ สลัว…สลัว…แล้วเกือบมืดมิด จนมืด…จนแทบไม่เห็นอะไร ฉันก่อนพี่ชายคนนั้นแน่นเพราะความกลัว”

“ผมว่าเขาเห็นดาวระยิบระยับจากกิ๊บบนผมคุณ”

“เป็นภาพจำมั้งคะ”

“พวงกุญแจสวยมากจริงๆ ครับ”

“เขาเลือกจากร้านมีชื่อ และงานปราณีต ละเอียด คริสตัลก็เป็นแบรนด์ดังค่ะ”

“ดูใกล้ๆ เหมือนทองแท้เพชรแท้ เป็นอัญมณีที่สวยครับ” กัดฟันพูด “คุณคงชอบมาก”

ชอบหรือ…ตอนแรก เธอทิ้งด้วยซ้ำ เพราะคล้ายกับของชำร่วยงานแต่งงานของอุเทน โยนทิ้งจนคริสตัลหล่นหายไปหนึ่งเม็ด ทว่าเป็นเม็ดเล็กๆ และถ้าไม่สังเกตก็อาจไม่เห็น ไม่รู้สึกเพราะคริสตัลประดับดาวแฉกเต็มไปหมดทุกแฉก

“จากคนที่เคยช่วยชีวิตฉัน มันมีคุณค่าค่ะ” เธอพูดจริงส่วนหนึ่ งอีกส่วนคือจากสามีนั่นเอง

“อือม์…เป็นผม ผมก็คงต้องเก็บรักษาอย่างดีล่ะครับ ของมีค่าทางจิตใจในวัยเยาว์”

พอผละจากปารีส ดุสิตก็เดินไปห้องประชุมที่กำลังรีโนเวท เป้าหมายคือวิศว์

วิศว์…เขากำลังสั่งช่าง กำลังตั้งใจและมุ่งมั่นกับงาน

เฝ้ามองชายตรงหน้า…อือม์…รูปหล่อ มีความสามารถ สาวๆ หลงไม่ยากหรอก เมื่อก่อนไม่รู้ เพิ่งรู้ว่าวิศว์เป็นฮีโร่ของปารีส

เขาอาจเจอคู่แข่งที่น่ากลัว

หล่อ สุขุม ทำงานเก่ง และรวยด้วย

เขาล่ะ…ก็ไม่แพ้วิศว์ หล่อ เก่ง รวย ตระกูลดี

แต่ปารีสมีเพียงคนเดียว ใครจะคว้าหัวใจเธอมาครอง

ดุสิตต้องไม่แพ้…เสียงฝีเท้าเดินทำให้วิศว์หันมา

“ผมมากวนการทำงานของคุณหรือเปล่า?” ดุสิตถาม

“ไม่ครับ”

“บางคนอาจไม่ชอบเวลานายจ้างมาตรวจงาน หรือมาเฝ้าการทำงาน เหมือนกลัวนายจ้างจับผิด ทำให้อึดอัด”

ดุสิตจงใจเน้น ‘นายจ้าง’ ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่าเป็น ‘นาย’ กับ ‘ลูกจ้าง’ ให้รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่า

วิศว์ยังคงเหมือนเดิม ตามท่าทางบุคลิกของเขา

“เวลาผมทำงาน ผมไม่คิดว่าทำงานเท่าไหร่ครับ เหมือนกับเป็นเจ้าของเอง ทำให้เหมือนปรับปรุงบ้านตัวเองบ ริษัทตัวเอง ไม่แบ่งแยกว่าเป็นลูกค้า ผมมักจะโชคดีที่ผู้ว่าจ้างไว้ใจ ให้อิสระ เพราะถ้าไม่ไว้ใจ ไม่ให้อิสระ ผิดข้อตกลง ผมจะเลิกทำทันที”

ดุสิตเลิกคิ้ว

“โอ้โห…คุณเด็ดขาดนะ แล้วเคยเจอปัญหาไหม”

“บอกว่าผมโชคดี เขาไว้ใจเรา เราไว้ใจเขา ทุกอย่างก็ราบรื่นและจบด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่าย”

“แหม…คุณพูดแบบหยิ่งๆ ด้วย ผมชอบคนมั่นใจแบบนี้ล่ะครับ อีกอย่างเพราะมีฝีมือ ลูกค้าจึงชอบ ไม่รู้อานุชของผมกินยาอะไรเข้าไป หายใจเข้าออกเป็นคุณ”

“ต้องขอบคุณคุณนุชที่ไว้ใจผม”

“เพราะคุณน่าเชื่อถือ มีคนไว้มีคนไว้ใจคุณมากนะ อย่างคุณปาเธอ ก็ชื่นชมพี่ชายแสนดีอย่างคุณมาก”

“คุณปา?”

“เธอว่าคุณเป็นพี่ชายแสนดี เคยช่วยชีวิตเธอเคยช่วยเธอตอนเด็ก หลงทางในป่าตอนเธอไปเที่ยว เธอเล่าให้ผมฟัง น่าประทับใจ เด็กผู้ชายคนหนึ่งปกป้องเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง”

“เธอเล่าหรือครับ?”

“ครับ คุณปลาไม่มีอะไรปิดบังผมหรอก ยังบอกว่าเจอคุณที่ยุโรปด้วย เหตุการณ์ตอนเด็กทำให้เธอประทับใจคุณ ชื่นชมคุณ จนผมยังอิจฉาเลยครับ เพราะผมอยากเป็นคนที่เธอประทับใจเสียเอง”

“หรือครับ”

“ไม่รู้สินะ ไม่รู้เพราะเราเป็นผู้ชาย…มองตาก็รู้ ผมรู้สึกว่าคุณชื่นชมคุณปา ดูจากสายตา ผมอ่านออก…”

“ใครเจอคุณปาต้องชื่นชมล่ะครับ เธอเก่ง คล่อง มั่นใจและสดใส”

“บอกตามตรงผมชอบคุณปา”

วิศว์ชะงัก

“ผมก็ดูออก”

“ผมไม่ชอบมีคู่แข่งเลย”

“ผมไม่ใช่คู่แข่งคุณนะ” วิศว์กล่าว

ดุสิตโบกมือ

“ผมกลับรู้สึกว่าใช่ นอกจากคุณจะบอกว่า คุณไม่ชอบคุณปาเลย” รอคำตอบจากเขา

วิศว์กลับนิ่ง เท่ากับยอมรับ อีกฝ่ายหัวเราะ

“ผมมีคู่แข่งจริงๆ”

“ผมว่าถามคุณปาก่อนดีกว่า”

“ไม่ต้องถามเลย ผมจะทำให้คุณปารักผม ผมต้องชนะใจคุณปาก่อนคุณ ถึงผมมาทีหลัง ผมไม่แคร์ ผมชอบคุณปามากจริงๆ ผมจะทำทุกอย่างให้เธอรักผม ถึงเราเป็นคู่แข่ง ผมก็ไม่กลัว”

วิศว์ถอนจะยาว รู้สึกอย่างนั้นหรือ?

กับตัวเอง ก็หนักใจ

กับปารีส เธอจะทำอย่างไร

ไม่ใช่แบบนี้หรอก ไม่ควรเป็นแบบนี้ ปารีสเป็นภรรยาตน มีคนชื่นชมก็น่ายินดี หากดุสิตดูจะจริงจังมั่นใจ อาจเกินเลย จนสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น ถ้ายังไม่ชัดเจนต่อไปเช่นนี้

 



Don`t copy text!