ซ่อนรัก บทที่ 57 : ผลการตัดสิน

ซ่อนรัก บทที่ 57 : ผลการตัดสิน

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

จิรานุชนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นิ่งนาน เหม่อลอย เพราะอยู่ในช่วงคิด…ครุ่นคิด และตัดสินใจบางอย่าง

หล่อนต้องตัดสินใจก่อนส่ง ‘งานสุดท้าย’ ออกไป

รินทร์ก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเจ้านายสาว และเห็นอาการที่ผิดปกติของอีกฝ่าย

“คุณนุช ไม่เป็นไรนะฮะ”

“ไม่เป็นไร”

“ส่งภาพไปแล้วใช่ไหมฮะ รินทร์เอาใจช่วยนะฮะ” พูดขึ้นเหมือนรู้ใจอีกฝ่าย ทั้งที่ยังไม่ได้กดส่ง

“ยังเลย”

“อ้าว…สิบวันแล้วนะฮะ”

“เพราะ…ยังตัดสินใจอะไรไม่ลงตัว”

“กำลังสรุปสุดท้าย”

“รินทร์จัดการให้ไหมฮะ”

“ไม่ต้อง”

“ดูคุณนุชไม่สบายใจเลยฮะ โอ๊ย…งานง่ายๆ แบบนี้ เราได้เปรียบคุณสิตอยู่แล้ว อย่าเคร่งเครียดเลยฮะ”

“ใช่…ไม่ต้องเครียด เพราะอย่างไรถือว่าเรื่องเล็ก อย่างไรก็คนในครอบครัวเดียวกัน และและแข่งขันสนุกๆ แค่นั้น”

คำพูดคุณนุชดูแปลกๆ แหะ

“รินทร์ไม่อยากเห็นคุณนุชเครียด เอาจริงเอาจังจนมีสภาพแบบนี้ ให้รินทร์ช่วยนวดคลายเครียดไหมฮะ”

เจ้าของห้องโบกมือ

“ไม่ต้อง ออกไปก่อน ฉันตัดสินใจได้แล้ว!”

 

คุณอนันต์จ้องมองคอมพิวเตอร์ในห้องทำงาน ซึ่งระยะหลัง ปกติแล้วท่านไม่ค่อยเข้าบริษัทนัก หลายวันจะเข้าสักครั้ง เพราะตั้งใจจะวางมือให้ลูกกับน้องสาวทำงานกันเอง

ถึงจะขัดแย้งกันบ้าง แต่ยังไงก็เป็นญาติสนิท

การขัดแย้งไม่รุนแรง เป็นการแข่งขันการทำงาน กลับจะเป็นผลดีจะได้ช่วยกันผลักดันงานให้ดีขึ้นในเรื่อยๆ อย่างการแข่งขันภายในที่อยู่ๆ ท่านก็ต้องมาเป็นกรรมการตัดสิน มันก็ดีนะ ได้งานด้วย ได้พัฒนาด้วย

การออกแบบสร้อยพร้อมจี้ ไม่รู้ภาพในจอคอมพิวเตอร์ภาพไหนเป็นของใคร ยุติธรรมที่สุด

ภาพทั้งสอง แสดงถึงฝีมือที่มีความสามารถ

ใช่สิ การตัดสินครั้งนี้ไม่มีผลต่อบริษัทนัก ก็แค่สองแผนกอยากเอาชนะกันเท่านั้น และไม่ใช่ครั้งแรกด้วย

ทัดเทียม งดงาม และน่าสนับสนุนต่อยอด ทำออกขายได้เลย หากก็ต้องเลือก ต้องมีหนึ่งมีสอง

ด้วยการพิจารณาอย่างรอบคอบ และยุติธรรม ท่านเลือกได้แล้ว จึงกดเลือกภาพส่งไปให้ดุสิตและจิรานุช

ในเวลาต่อมา…ดุสิตนั่งอยู่หน้าจอ และบอกกับตัวเองว่าตนพ่ายแพ้

ใช่…การตัดสินโดยคุณพ่อคนเดียว เจ้าของบริษัทตัวจริง เลยไม่ถือว่าสำคัญอะไรนัก แต่ดุสิตก็รู้สึกเสียหน้า

คนแพ้ไม่เป็น เสียหน้าและเสียความรู้สึก จึงมาพบบิดาทันทีที่ห้องท่าน

“ว่าแล้วแกต้องไม่ยอม” ท่านเอ่ยปาก เห็นหน้าลูกชายก็รู้ว่าภาพไหนเป็นของใคร ดุสิตอยู่ต่อหน้าบิดา เขาไม่กล้าใช้อารมณ์ ครอบครัวเพชรอนันต์ คุณอนันต์ยังมีอำนาจสูงสุดเสมอ

“เอ้อ…ครับ ผมข้องใจครับ”

ท่านหัวเราะเบาๆ

“หัดแพ้ให้เป็นบ้างสิ ในเมื่อแกตั้งใจจะให้พ่อตัดสิน ให้พ่อเลือก พ่อก็เลือกตามสมควร ตามความเห็นของพ่อ”

“ผมแพ้ตรงไหนครับ?”

“อีกแล้ว แพ้ไม่เป็น”

“ผมอยากรู้”

“งานออกแบบ ไม่ใช่แพ้ชนะหรอก สวยคนละแบบ ขึ้นอยู่กับคนเลือกจะเลือกอะไร ถ้าพ่อไม่ใช่คนตัดสิน ถ้าเป็นคนอื่น ก็อาจเลือกผลงานของแก แต่นี่พวกแกให้สิทธิ์พ่อ พ่อเลือกตามใจพ่อ”

“คุณพ่อรู้มั้ยครับว่า การออกแบบของใครก่อนหน้านี้” ชักสงสัย

“ไม่เลย ไม่รู้ แต่พอแกเดินเข้ามาหน้าตาไม่พอใจ พ่อก็จะเอาได้ทันทีว่าของใคร”

“ผมอ่านง่ายขนาดนี้เชียว”

“แกไม่ค่อยเก็บความรู้สึก”

“ผมพยายามแล้ว”

“อย่าซีเรียสเลย ทำไมแพ้แผนกของอานุช แกจะเป็นจะตายหรือไง จะตายหรือเปล่า แกก็ยังเป็นแก เป็นลูกชายคนโตของพ่อเหมือนเดิม”

เขาพยักหน้า สูดลมหายใจลึกๆ บิดากำลังเตือนสติเขา จึงค่อยๆ ปรับอารมณ์ลง

“ครับ”

และ จิรานุชก็เคาประตูและเข้ามาอีกคน ใบหน้ายังเรียบเฉย ไม่ยินดียินร้าย ทั้งที่ส่วนลึกมีความตื่นเต้นซ่อนอยู่

เพราะอะไรหรือ?

ตื่นเต้นแทนใคร?

ดุสิตแสดงความเป็นลูกผู้ชาย กล่าวกับจิรานุชว่า

“ผมยินดีด้วยครับ อานุชชนะครับ”

“สิต…แพ้ชนะสำหรับอาเป็นเรื่องเฉยๆ เสียแล้ว เพราะชีวิตคนเรามีอะไรมากกว่าเรื่องงาน”

“ครับ ผมว่างั้นล่ะ”

“เลือกจะมีความสุขดีกว่า และทำให้ถูกต้อง ยุติธรรม ชีวิตยังอีกยาวไกล อนาคตยังต้องเจอกับอะไรที่แปลกใหม่ ท้าทาย และปรับตัวให้ยอมรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไป”

“ผมจะเก็บคำพูดของอานุชไปคิดครับ”

“แกก็เก่งมากนะ”

“ใครออกแบบครับ งานของอานุช?”

อานุชพยักหน้าช้าๆ

“แกต้องคิดไม่ถึงแน่ ไม่มีทางคิดถึง เพราะเป็นเรื่องบังเอิญ เขาเป็นคนนอก เขาวาดภาพเล่นๆ แต่เข้าตาอา เอามาปรับปรุงเล็กน้อยก็เป็นอย่างที่แกเห็น”

“คนนอกหรือครับ” ดุสิตขมวดคิ้ว “คนในวงการหรือเปล่าครับ”

“ไม่ใช่เลย คนละอาชีพเลย”

“แต่ออกแบบได้ขนาดนี้เลย อานุชคงสั่งให้ทำสิครับ”

“บอกแล้ว อาไม่เคยสั่ง เขาแค่ว่าเล่นๆ แล้วจะฉีกทิ้งด้วยซ้ำ แต่อาเห็นพรสวรรค์ของเขา อาเสียดาย”

“อานุชพูดแบบนี้ ผมยิ่งเท่ากับแพ้ยับเยิน แพ้ให้กับคนโนเนม แถมไม่ใช่มืออาชีพอีก”

“มันเป็นเรื่องบังเอิญแน่ะ เขาแค่วาดเล่นๆ ” ย้ำแล้วย้ำอีก

“โอ๊ย…ยิ่งพูดน่าสงสัย…เขา…แสดงว่าเป็นผู้ชาย”

“จ้ะ…ผู้ชาย”

“ใครครับ?”

“ยังไงก็ต้องเปิดเผยนะ แต่ขอเป็นพรุ่งนี้นะ ขอให้อาบอกเจ้าของผลงานก่อน ต้องให้เกียรติเขาก่อน เพราะอานำงานของเขาส่งโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าด้วยซ้ำ”

“ใครกันครับเนี่ย?” ดุสิตสงสัย

 

ทางด้านรินทร์ กำลังถูกสงสัยจากทรัพย์ ที่พูดกับญาติผู้น้องในเวลาต่อมาเมื่อทราบผล

“อะไรกันวะไอ้รินทร์ เร่งให้พี่กับคนในแผนกออกแบบ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ส่งภาพให้ท่านของแกตัดสิน กลายเป็นผลงานของใครไม่รู้ ถามคนทั้งแผนกแล้ว ไม่มีใครยอมรับว่าเป็นงานของตัวเองเลย”

รินทร์ทำหน้าสับสน

“รินทร์ก็กำลังงงอยู่เนี่ยล่ะ คุณนุชเข้าไปคุยกับท่านในห้องตั้งนานแล้วยังไม่ออกมาเลย สงสัยว่าทำไมคุณนุชส่งงานคนนี้แทนพวกเรา”

“มันงานของใครวะ?”

“ของ…ของ…” รู้แต่ยังพูดไม่ออก

“แกเป็นเลขาคนสนิท ต้องดูสินะ อย่างอ้ำอึ้ง หรือเจ้านายแกออกแบบเองเลย”

“คุณนุชไม่ทำหรอก ถึงคุณนุชจะเก่งขนาดไหน ก็จะให้ลูกน้องทำงานและให้คำแนะนำ ปรับเปลี่ยนเล็กน้อย”

“เปลืองสมองว่ะ แต่ยังดีนะที่ชนะ ไม่งั้นจะเสียชื่อมาถึงพวกเรา” ทรัพย์คุยใหญ่โต “ฝีมือพี่ พี่ว่ายังไงก็ชนะว่ะ และต้องทำเงินให้บริษัทได้ด้วย ไม่ให้แกผิดหวังหรอก”

“พอ…พอ…อย่าอวดเก่ง เดี๋ยวคุณนุชออกมาจะรีบไปพบคุณนุชเลย” ตัดบทไม่คุยด้วย

และเมื่อมีโอกาสอยู่กันสองต่อสองที่ห้องทำงานจิรานุชแล้ว ยังไม่ต้องพูด เจ้าของห้องก็เอ่ยปาก

“ไม่ต้องถามว่าเป็นฝีมือใคร เธอรู้อยู่แล้ว แต่ขอให้เงียบไว้ก่อน เพราะเจ้าของที่ออกแบบ ยังไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าถูกเอาผลงานไปใช้ ขอให้ฉันได้แจ้งเขาก่อน”

เขา…เขา…แจ้ง…เขาก่อน…เขา…เขาคนสำคัญตามเดิม!

“ผู้ชายคนนี้สำคัญต่อคุณนุชมากอีกแล้ว!” เน้นอย่างไม่พอใจ

“จะผู้หญิงหรือผู้ชาย ถือว่ามีพรสวรรค์”

“ทำไมคุณนุชไม่ปรึกษารินทร์ก่อน ปล่อยให้รินทร์ทำงานเก้อ”

“ฉันพิจารณาตามความเหมาะสม บอกตามตรงว่าชอบผลงานเขามากกว่า มากกว่าจริงๆ โดยไม่อคติ ไม่ลำเอียง”

“โอเค…ดูแล้วแค่พอใช้ แต่ยังไม่ใช่ ไม่ถึงขั้น รินทร์เคยพูดแล้วฝีมือก็งั้นๆ นายคนนั้นไม่ได้ตั้งใจออกแบบเลย แค่ตวัดวาดเล่นๆ สนุกๆ คุณนุชกลับเห็นความสำคัญ”

“ฉันชอบมีปัญหาเรอะ?”

ชอบ…ชอบผลงานหรือชอบตัวตน

“แต่รินทร์รู้สึกนะฮะ รู้สึกคุณนุชลำเอียง เกี่ยวกับนายวิศว์คนนี้อะไรๆ มันดีไปหมด แบบไม่มีเหตุผล”

จิรานุชเอนตัวพิงพนักเก้าอี้

“มีสิ มีเหตุผลทุกอย่าง และมีเหตุผลทุกเรื่อง”

“ตอนนี้มันมีความสำคัญมากกว่ารินทร์แล้วสิฮะ”

ดวงตาจิรานุชวาวโรจน์ ไม่พอใจ

“อย่าเรียก…มัน!”

“เอ้อ…” ชะงักงานกับเสียงเข้มของเจ้านาย

“สักวัน เขาอาจมาเป็นเจ้านายของเธอก็ได้!”

นาย…มันชัดยิ่งกว่าชัดว่าคุณนุชพอใจผู้ชายคนนี้ คนอย่างรินทร์ยอมได้หรือ ถ้าเจ้านายสาวจะชอบพอกับชายหนุ่มรูปงาม ตนแพ้ชายแท้ๆ แ

“รินทร์…รินทร์หมดความสำคัญแล้วจริงๆ หรือฮะ”

“เธอยังเป็นเลขาส่วนตัวของฉัน”

“แล้วมัน…เอ้อ…คุณวิศว์”

“อนาคตจะเป็นอย่างไร ยังคาดเดาไม่ได้ แต่คุณวิศว์ต้องได้ดีแน่ๆ สมควรที่เขาควรได้รับและพึมพำเบาๆ “สมควรจะต้องชดเชยให้เขา”

“อย่าเห็นเขาสำคัญกว่ารินทร์นะฮะ”

“คนละคนกันนะ รู้สึกเธอจะเดือดร้อนเพราะเรื่องคุณวิศว์มากเลย ฟังและจำ ทำดีกับคุณวิศว์เยอะๆ แล้วเธอจะได้ดีเอง”

ไม่มีทาง…ไม่มีวัน!

 

“คุณสิตไม่เป็นไรนะคะ” ปารีสเห็นเขานั่งในห้องทำงาน แต่นั่งบนโซฟา ใช้สมองครุ่นคิดอยู่ ในขณะที่หญิงสาวก้าวเข้ามาและเห็นถึงความผิดปกติ

“คุณปา…ผมต้องการกำลังใจ” เขาเอื้อมมือคว้ามือหล่อนที่ยืนและดึงให้มานั่งใกล้ตัว โดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกดึงให้มานั่งข้างๆ แล้ว แถมยังถูกกอดแน่น

“คุณสิต…” เธอตกใจ พยายามจะผลัก ผลักห่างได้เล็กน้อย

“ขอผมกอดแป๊บนะครับ”

“แต่ว่า…”

“คุณเป็นกำลังใจของผม ผมขอ…” แล้วสักครู่เดียว เขาก็ปล่อย “ขอบคุณกำลังใจ คุณพ่อเลือกงานของแผนกอานุชแทนจะเลือกของเรา”

“ก็ไม่เป็นไรนี่คะ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน”

“ผมไม่ชอบแพ้”

“คุณนุชก็เป็นอาแท้ๆ ของคุณ การตัดสินเป็นเรื่องความพอใจส่วนตัวของท่าน”

“แต่คุณอุตส่าห์ออกแบบเต็มที่”

“ฉันอยากทำงานแบบอิสระ ไม่ต้องถูกกดดัน ฉันเคยชนะที่หนึ่งแล้จะแพ้บ้างก็ปกติ”

“พ่อจะเห็นความสำคัญของอานุชมากกว่าผมน่ะสิ แถมไอ้โม่งคนไหนออกแบบยังไม่รู้ อานุชยังไม่เปิดเผย เพราะอานุชว่าเป็นคนนอกที่ออกแบบอย่างไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าอานุชเลือกด้วยซ้ำ อานุชมีสายตาเฉียบคม ดูสิครับ เป็นไอ้หนุ่มปริศนาที่ไหนไม่รู้”

“เขาคงมีพรสวรรค์นะคะ”

“คุณไม่เสียใจหรือ?”

“ขอเพียงฉันตั้งไจทำงาน ทำให้ดีที่สุดในแต่ละงานที่รับผิดชอบ ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ทำให้ดีสมกับเป็นพนักงานกินเงินเดือน”

“ใครว่าคุณเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน สักวันคุณจะมาเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เคียงข้างผม เป็นนายหญิงของที่นี่” พูดไม่พูดเปล่า โอบกอดอีกครั้ง

จะไปกันใหญ่แล้วนะ ผลการตัดสินออกมาแล้ว อย่างไรก็ต้องบอกความจริงกับดุสิตเสียที

“คุณสิตคะ เป็นไปไม่ได้นะคะ ฉัน…ฉันมีเรื่องจะบอกคุณค่ะ ก่อนจะเข้าใจผิด ฉัน…” ฉัน…ที่จะพูดคือ ฉันมีคนรักแล้ว แต่ถูกเขายกมือปิดปาก

“อย่าพูดอะไรครับ ให้รู้แต่ว่าผมรักคุณก็พอ”



Don`t copy text!