ซ่อนรัก บทที่ 47 : สัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน

ซ่อนรัก บทที่ 47 : สัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน

โดย : โสภี พรรณราย

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

วิศว์จับแขนปารีส!

ภาพสำหรับดุสิตจึงไม่ค่อยพอใจนัก รีบถามหญิงสาว

“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?”

“อ๋อ…อ๋อ…เปล่าค่ะ เผอิญสะดุด คุณวิศว์ช่วยทันค่ะ” เธอโกหกออกไปได้อย่างไร

วิศว์ผิดหวัง…จนขั้นนี้แล้ว เธอไม่คิดจะบอกความจริง เขาแค่ยิ้มเซ็งๆ แล้วผละไปทันที ได้ยินดุสิตพูดว่า

“รองเท้ามีปัญหาหรือเปล่าครับ ไปหาซื้อคู่ใหม่กัน วันนี้ผมว่าง ผมพร้อมบริการ”

วิศว์ได้แต่โคลงศีรษะ และเดินออกห่างจนไม่ได้ยินว่าปารีตตอบอย่างไร

รู้อยู่อย่างเดียวว่า ความรู้สึกของเขา…เจ็บปวด…เพราะ…อะไร

เพราะรัก…รักมากเกินไป

ผล…จากหล่อน…รู้สึกเช่นเดียวกับเขาไหม

จะว่าเธอจับปลาสองมือ…ไม่ได้

เพราะ…เธอยังไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำ ใช่ไหม

ในเวลาต่อมา ดุสิตก็เรียกเลขาของเขา…สายชล

“คุณชล คุณเป็นเลขาผม คงสนิทกับคุณวดี เลขาของน้องผม ผมอยากรู้ว่า คุณวิศว์สนิทกับคุณปารีสแค่ไหน ช่วยสอบถามที อย่าบอกว่าผมให้ถามล่ะ พวกคุณสาวๆ คุยกันเอง”

ดุสิตสงสัย เพราะเมื่อครู่ไม่ใช่การสะดุดล้มอะไร เขาเห็นแววตาของวิศว์ ไม่ใช่คนเพิ่งรู้จักกันแน่ๆ

สายชลรับคำ ตอบตกลงกับเจ้านาย ในส่วนลึก เลขาสาวไม่อยากพูดมาก และพูดตรงๆ ว่าตนไม่สนิทกับเลขาของนิกรเลย เพราะไม่ถูกชะตา กุลวดีที่มีลักษณะเหมือนคนเรียบร้อย และนิกรก็ดูแลเอาใจใส่ด้วยความเป็นคนอ่อนโยน ทำให้สายชลอิจฉา เปรียบเทียบกับเจ้านายตน ดูกระด้างกว่า แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ

กุลวดีได้เป็นเลขานิกร เจ้านายแสนดี และมีท่าทางจะเมตตาลูกน้องเป็นพิเศษ เห็นได้จากตอนเหตุการณ์เจอนักเลง คนอ่อนแออย่างนิกรยังยอมสละชีวิตเข้าช่วยเหลือ ทำให้สาวๆ ในบริษัทต่างอิจฉากุลวดี

ตนล่ะ…ตนก็อยากเป็นคนพิเศษของดุสิตบ้าง อุตส่าห์ได้เป็นเลขาของหนุ่มที่จัดว่ามีอนาคตที่สุดในบริษัท สืบทอดอาณาจักรเพชรอนันต์

ตนจะมีวาสนาเคียงข้างเขาหรือ?

ไม่มี…ไม่มีเลย ตอนนี้มี ‘ปารีส’ เข้ามาแทรก และดูจะสำคัญต่อดุสิตมากเป็นพิเศษ

ดุสิตเคยคบสาวๆ ผ่านมากี่คน สายชลเห็นตลอดและไม่เคยกังวลเลย เพราะทุกสาวผ่านมาและจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ปารีสพิเศษ…พิเศษอย่างไรหรื อพิเศษตรงที่ว่าดุสิตเอ่ยปากให้มาทำงานในบริษัท แม้จะไม่มีตำแหน่งอะไรเป็นทางการ แต่ปารีสมีฝีมือออกแบบอัญมณีและได้ชื่อว่าเป็นผู้ช่วยขึ้นตรงต่อเจ้านายคนเดียว เรียกว่าตำแหน่งพิเศษล่ะ ซึ่งใครก็แตะต้องไม่ได้

สายชล…ไม่ใช่คู่แข่งของผู้หญิงคนนี้ ต้อง ‘ยอม’ นะ…แต่ให้ ‘ยอมรับ’ หรือ…’ไม่มีทาง’

 

“เป็นอะไรวะ…ทำไมเงียบจัง?” บรมเอ่ยถามเพื่อนที่มานั่งดื่มผ่อนคลายในยามเย็นที่ร้านประจำของสองหนุ่มในโรงแรมของเทวี

วิศว์ยกแก้วดื่ม…และโคลงศีรษะ ก่อนตอบว่า

“ไม่รู้สิ”

“เป็นอะไร ยังไม่รู้อีก”

“กัน…ชักสับสนและไม่แน่ใจ”

“เรื่องความรักแน่…แบบนี้…กับคุณปารีสเรอะ…”

“ปา…ปา…กันชักไม่เข้าใจผู้หญิงมากขึ้น กันคิดว่ากันมีเหตุผลที่สุดแล้ว จะใช้เหตุผลมากที่สุดกับเธอ…แต่…แต่…”

“แกบอกจะให้เวลากับเธอ”

“ให้แน่ เพราะกันรักเธอ”

“ผู้หญิงนะ เคยเจ็บปวดมาก่อน”

“เธอลืมอุเทนได้แล้ว ไม่เคยพูดถึง”

“แล้วไงล่ะ?”

“คุณดุสิต…ดูเหมือนจะมีอิทธิพลต่อเธอ”

บรมหัวเราะออกมา

“เรื่องของเรื่องแกหวงแกหึงนี่หว่า”

“กันมีเหตุผลเสมอ และกันก็เข้าใจ กันพยายามจะทำความเข้าใจ ผู้ชายคนอื่น”

“ใช่…ใช่…ใครจะทนไหวนะ เมียทั้งคน กับมีผู้ชายอีกคนแทรกเข้ามา”

“กันนิ่งเฉย และบอกกับตนเอง บอกกับเธอว่ากันให้เวลาเธอสำหรับการเริ่มต้นใหม่ แต่การแต่งงานมันน่าอับอายนักหรือ น่ารังเกียจนักหรือ จนเปิดเผยความจริงไม่ได้”

“นั่นไง…นั่นไง แกก็พูดออกมาแล้ว ใจแกคิดว่าใจแกกว้าง เฮ้ย…ในที่สุดแกก็รับไม่ได้”

วิศว์โบกมือพัลวัน

“หลายเดือนที่ผ่านมา กันพิสูจน์แล้วว่ากันทำได้ ไม่เปิดเผยเรื่องตอนแต่งงานก็ได้ แต่มันต้องมีวันสิ้นสุด ไม่ใช่ผ่านไปวันๆ ผ่านไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้ว่าจุดจบเป็นอย่างไร วันไหน งั้นเราจะแต่งงานกันทำไม กันแต่งงานที่เวนิสอย่างเชื่อมั่น ทั้งเธอและกัน กันมั่นใจแต่เธอกลับไม่…ไม่…มั่นใจ”

บรมหัวเราะ ไม่อยากให้บรรยากาศเคร่งเครียดเกินไป เพราะเห็นสภาพเพื่อนตายคนนี้แล้ว ไม่ปกติแน่นอน

“อะไรวะแก บอกกับกันเสมอ แกรักผู้หญิงคนนี้ แกให้เวลากับเธอได้ แค่ไม่กี่เดือน แกก็มาบ่นงอแงแบบเด็กๆ เป็นผู้ใหญ่หน่อยสิวะ ต้องอดทนว่ะเพื่อคนรัก”

ดูเหมือนบรมจะเข้าข้างปารีส บรมพยายามวางตัวเป็นกลางที่สุด เพราะเห็นใจเพื่อนและไม่ต้องการเห็นเพื่อนจิตตกขนาดนี้กับภรรยา รู้ว่ามันต้องมีบ้างล่ะ ผู้ชายอยากเผยความจริง ผู้หญิงอยากปิด เห็นใจฝ่ายชายแน่ๆ

“กันก็แค่…สับสน…บ้าง”

“กันเข้าใจว่ะ เป็นกันคงแย่กว่านี้”

“แย่นะ…รู้สึกแย่”

“ผู้หญิงมีอดีตเจ็บปวด แกพูดเองจะให้เวลาเธอ”

“อดีต…อดีตเรอะ…” วิศว์พยักหน้าช้าๆ แววตาเก็บกด “ใช่สิ…อดีต…ทุกคนมีอดีต กันก็มี มีกับผู้หญิงที่เกิดแต่งงานกันด้วย…คุณเทวี…เราจะแต่งงานกันแต่สุดท้ายก็เลิก…”

“เลิก เพราะความขี้หึงของเทวี ติดตามเขาทุก…เกือบทุกฝีก้าว รักมาก หวงมาก หึงมาก จนเขาไม่สามารถทำงานทำการ จนไม่มีอิสระ มาเจอ…ปารีส…อิสระเกินไป แล้วตรงกลางอยู่ตรงไหนล่ะ

วิศว์พูดต่อ…

“อดีต…ไม่เป็นไร ทุกคนมี…ไม่เป็นไร แต่ปัจจุบันสิ กับผู้ชายอีกคนสิ ใครอีกคน”

บรมยังหัวเราะแต่แปร่งๆ

“เธอสนิทกับเจ้านายเธอ แกไม่พอใจ”

“กัน…”

“ไม่ไว้ใจเธอเรอะ?” ถามแบบนี้ทำให้วิศว์ชะงัก

“ไว้ใจ” แต่แผ่วเบา

“เมียแกทั้งคนนะ”

“ถ้าไม่ไว้ใจ คงไม่แต่งงาน…กันผูกพันกับเธอมาตั้งแต่เด็ก พอเจอเธออีกครั้งจึงรู้สึกพิเศษแปลกๆ”

“แกก็กลัว?”

“เธอไม่บอกความจริง เท่ากับเธออาจทำร้ายผู้ชายอีกคนที่กำลังก้าวเข้ามาในชีวิตเธอ”

“แกหวงคุณปาหรือแกห่วงคุณดุสิตกันแน่?”

วิศว์โคลงศีรษะ

พูดตามเหตุผลถ้าไม่ใช้อารมณ์ เขายังตอบไม่ถูก

“อย่าลืมว่าแกเป็นคนให้โอกาสคุณปาเองนะ”

วิศว์พยักหน้าอีกครั้ง

เมื่อ ‘ให้’ โอกาส ก็ต้องให้จนสุดทาง…สุด…สุดเลย แต่สุดท้ายจริงๆ คืออะไร

อะไรที่บอกกับวิศว์ลึกๆ ว่าอาจจะ…อาจจะ…จบไม่สวย…อย่างที่คาดหวัง

 

เงียบเหลือเกิน

เงียบเกินไปแล้ว บรรยากาศในห้องนอน ที่เคยสดใส อบอวลด้วยรอยยิ้มและความรัก

ทำไม…ทำไม เงียบ…และต่างคนต่างทำธุระส่วนตัว

ปารีสอาบน้ำก่อน และนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งเพื่อบำรุงผิวหน้าและผิวพรรณขาแขน ลูบไล้ด้วยโลชั่นเนื้อเนียนนุ่มกลิ่นหอมอ่อนๆ

วิศว์อาบน้ำเสร็จก็กระโดดขึ้นเตียงนอนเลย ซึ่งปกติเขาควรไปคลอเคีย โอบกอดภรรยา สูดดมความหอมจากเรือนร่างอย่างดูดดื่ม เร้าใจและต้องการมากขึ้น…มากขึ้น

ปารีสเดินมาที่เตียง ทรุดตัวนั่ง เขาก็ยังเงียบและหลับตานิ่งๆ จนเธออดทนไม่ไหว

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

คำถามทำให้ต้องลืมตา ไม่มีทางโกหกว่าหลับสนิท

“ไม่เป็นไรครับ”

“ว่ากันว่าถ้าผู้หญิงบอกว่าไม่เป็นไร แสดงว่าเป็น เพราะฉันเป็นผู้หญิง ฉันรู้ ผู้ชายบอกไม่เป็นไร แต่สีหน้าคุณ…พิรุธค่ะ ผู้ชายไม่ต่างจากผู้หญิงหรอก”

“ผมอาจเหนื่อยเกินไป”

“ช่วงนี้คุณรับงานตลอดเลย”

“ไอ้บรมมันไม่ยอมให้ผมพัก”

“แต่ไม่เหนื่อยเกินกำลังและพลังของคุณนะคะ”

“หรือครับ”

“ฉันรู้ค่ะ”

“อ๋อ…ครับ”

เหนื่อยกายไม่เท่ากับเหนื่อยใจ วิศว์ไม่เคยรู้สึกแบบนี้นะ จนต้องถามตัวเองว่า แท้จริงแล้วเขาใจแคบใช่ไหม ไม่ได้ใจกว้างอย่างที่ปากพูดเลย

“มีอะไรก็พูดกันตรงๆ นะคะ”

“ตอนนี้ยังไม่มี” บางครั้งเขาต้องให้เวลากับตัวเองด้วย เฝ้าถามตัวเองบ่อยๆ จนกว่าคำตอบจะตกผลึก

“พูดมาเถอะค่ะ”

“ตอนนี้ยังไม่มีจริงๆ” เขาย้ำ “ผมง่วงแล้วล่ะ จะนอนแล้วครับ”

ใช่ล่ะ…เขานอน…นอนจริงๆ ไม่ได้นอนคลอเคลีย กอดเธอเหมือนเคยทำทุกคืน

ปารีสเงียบงัน ใจหาย

เกิดอะไรขึ้น?

หญิงสาวปรารถนาสิ่งใดกันแน่?

เหมือนรู้สึก ‘ขาด’ อะไรบางอย่าง ความสนิทเสน่หาหายไปไหน เหมือนเขาจะเย็นชาเสียแล้ว ต้องการวิศว์คนเดิมกลับมามากกว่า คิดแล้วก็สะดุด…

เธอเรียกร้องจากเขามากเกินไปใช่หรือไม่?

 

หฤทัยเดินเข้าไปชงกาแฟในห้องอาหารเล็กๆ บริเวณด้านหลังสำนักงานใหญ่ และพบว่ากุลวดีก็กำลังชงกาแฟจะไปให้เจ้านาย จึงถาม

“วันนี้คุณกรณ์กี่แก้วแล้วล่ะ?”

“สองเอง”

“แกล่ะ?”

“โอ๊ย…ยัง…คุณกรต้องมาก่อน ฉันไม่สำคัญหรอก”

หฤทัยค้อน

“เออ…ให้ได้แบบนี้สิ หายใจเข้าออกเป็นคุณกร อาการหนักขึ้น”

“ตั้งแต่ถูกโจรลวนลาม และคุณกรช่วยฉัน ฉันก็ซาบซึ้งจน…จน…พูดไม่ถูก”

“ถวายชีวิตเลยนะ”

“พูดมากจริง”

“ว่าแต่ว่าเย็นนี้กินอะไร จะได้ซื้อก่อนกลับ สุกี้ไหม ชวนยัยปลากับคุณวิศว์มากินด้วยกันที่ห้องเรา ฉันอาสาซื้อกุ้งปลาผักเอง ส่วนแกต้องทำน้ำจิ้ม ฝีมือแกยอดเยี่ยม”

“ยัยปากับคุณวิศว์จะว่างหรือเปล่า?”

“เออน่า…ต้องว่างสิ”

“หมู่นี้เห็นทั้งสองคนงานยุ่ง”

“ยุ่งแค่ไหน เลิกงานต้องกลับบ้าน”

“คุณสิตชอบชวนยัยปาไปต่อ…ไปงานเลี้ยงบ้าง ไปธุระบ้าง”

“ก็ไม่ได้ทุกวันหรอก ยัยปามันรู้ มันต้องมีขอบเขต และต้องมีเวลาให้คุณวิศว์ด้วย…” แล้วลดเสียงเบาแสนเบา…”ผัวทั้งคน ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง จะหาที่ไหน”

ตอนท้ายเบาแสนเบาจริงๆ จนหญิงอีกคนที่กำลังตั้งใจแอบฟังก็ไม่ได้ยินเสียงอย่างงั้น

สายชล…นั่นเอง

และแล้วก็มีข้อมูลมารายงานเจ้านายหนุ่มในทันทีทันใด

“พวกเขาคงจะสนิทกันมากเป็นพิเศษเลยค่ะ ถึงขนาดจะนัดกันทั้งคุณปากับคุณวิศว์ไปกินข้าวกัน ทำสุกี้กินกันที่คอนโดของพวกเขาเลยค่ะ”

“ขอบใจมากคุณชล”

สายชลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถ้าเปลี่ยนคำขอบใจเป็นคำอื่นได้คงจะดีไม่น้อย แต่ก็ไม่มีอะไรเพิ่มเติม

“คุณออกไปได้แล้ว”

ออกจากห้องเจ้านายอย่างผิดหวัง ผ่านโต๊ะทำงานของปารีส โต๊ะทำงานใหม่กว่ากั้นเป็นสัดเป็นส่วนกว่าของตนที่ทำงานมาก่อน สบตากลับปารีส รอยยิ้มของสายชลแปลกๆ หากคนมาใหม่ก็ยิ้มตอบทุกครั้ง

 



Don`t copy text!