ซ่อนรัก บทที่ 52 : บุกบ้าน

ซ่อนรัก บทที่ 52 : บุกบ้าน

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

โสภารดน้ำต้นไม้ในยามเช้า อากาศกำลังเย็นสบายและรู้สึกเหมือนถูกจับตามอง

จากไหน?

มองออกนอกรั้วบ้านต้นไม้ ผ่านไม้ดอกที่ปลูกไว้ แต่ละบ้านในบริเวณนี้ล้วนแต่เป็นบ้านหลังใหญ่ๆ มีบริเวณกว้างขวางเป็นพิเศษ มีโครงการบ้านจัดสรรมาซื้อที่สร้างเกือบจะล้อมรอบบ้านหลังใหญ่แถวนี้หมด

ถึงรั้วเตี้ย แต่ต้นไม้ปกคลุม รายรอบ จึงมองอะไรไม่ชัดเจน

ก้าวกลับเข้ามาในบ้าน ก็ยังต้องมองผ่านหน้าต่างจนนงสงสัยถามว่า

“พี่โสภามองอะไรแน่ะ?”

“เหมือนมีใครอยู่นอกบ้านนะ”

“คุณวิศว์มาเรอะ”

“ถ้าวิศว์มา มันเสียงดังเอะอะจะตาย ไม่เงียบแบบนี้หรอก”

“อ้าว…แล้วจะเป็นใครได้ล่ะ บ้านนี้ไม่เคยมีแขกสักคนเดียว”

ใช่แล้ว เก็บตัวเงียบมานานเท่าอายุของวิศว์ ตัดการติดต่อจากคนภายนอก และ…ก็เห็นคนที่มาเยี่ยมๆ มองๆ

โสภาสูดลมหายใจลึกๆ เห็นชัดแล้ว…จิรานุช บุกมาถึงบ้านเลย คงสงสัยมากสินะ

“เปิดประตูรับแขกด้วย” โสภาบอกนงค์สั้นๆ “คนในอดีตมาเยี่ยม” อธิบายเพิ่มเติม “คุณจิรานุช”

ดูเหมือนนงจะเข้าใจทันที เบิกตากว้าง

“เราไม่หลบเรอะพี่โสภา”

“หลบไปทำไม ไม่ทันหรอก พี่มีวิธีของพี่”

นงออกไปเปิดประตูรั้ว รับจิรานุชเข้ามาในบ้าน และอีกครั้งที่เผชิญหน้ากัน ตอนแรกอยู่ในความเงียบก่อน ปรับตัวปรับใจตั้งหลักกันก่อน

“เชิญค่ะ คุณนุช” จนเริ่มเอ่ยปาก

“บ้านน่าอยู่นะ ร่มรื่น เย็นสบาย” จิรานุชเอ่ยชม สูดลมหายใจลึกๆ

“ก็อยู่กันแบบเรียบง่าย”

“ตอนอยู่โรงพยาบาลไม่มีโอกาสพูดอะไรมาก เลยมาพูดกันที่นี่”

“มาถึงบ้าน ฉันก็รู้เจตนาของคุณแล้ว”

“งั้นเรามาพูดกันตรงๆ เลยนะ”

นงยกน้ำออกมาเสิร์ฟ แต่แขกไม่ได้สนใจจะดื่ม ที่มาก็เพราะวิศว์

“ดีค่ะ ไม่ต้องเสียเวลามาก”

ด้วยวัยแล้วจิรานุชอายุน้อยกว่าโสภา แต่ตอนนั้นในอดีตฐานะในบ้าน จิรานุชเป็นน้องเจ้าบ้าน โสภาก็แค่พนักงานคนหนึ่งในเพชรอนันต์ที่บังเอิญไปถูกตาต้องใจคุณอนันต์รับมาอยู่บ้านเป็นเมียเก็บ ซึ่งไม่ได้ยกย่องอะไรเลยสักนิด

“เรื่องของวิศว์”

โสภาพโบกมือ

“อ๋อ…หลานชายของฉันเองค่ะ”

“วิศว์เป็นลูกพี่อนันต์ใช่ไหม?” โพล่งถาม

“ก็เพิ่งบอกหยกๆ ว่าเป็นหลาน”

“คุณโกหก ไม่ว่าจะเรื่องเวลา วันเกิดวิศว์ หรือหน้าตา วิศว์เป็นลูกพี่อนันต์แน่ๆ”

โสภาหัวเราะแปร่งๆ

“ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน คุณจะมาถามทำไม หลานก็คือหลาน ลูกก็คือลูก วิศว์เป็นหลานชาย ไม่เชื่อไปถามวิศว์ดูสิคะ”

จิรายุโคลงศรีษะ

“คุณไม่ยอมพูดความจริงตามเคย”

“คุณนุช…” เจ้าของบ้านพูดเคร่งขรึม “อย่ามายุ่งกับเราเ ลยขอให้พวกเราอยู่อย่างสงบๆ”
“แต่วิศว์มาทำงานกับฉัน กับพี่อนันต์ ไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรอกนะ เป็นเรื่องของชะตาที่ต้องการให้พ่อลูกได้พบกัน ซึ่งคุณก็ฝืนชะตาไม่ได้ด้วย”

“ตลอดเวลาเรายืนด้วยขาของเรา ด้วยความสามารถของเรา ด้วยความสามารถของวิศว์ด้วย วิศว์เป็นหลานชายของฉัน!”

“แล้วลูก เด็กทารกที่คุณอุ้มออกจากบ้าน แทนที่จะไปคนเดียว คุณกลับอุ้มทารกเพิ่งเกิดไปด้วย ไม่คิดถึงอนาคตของเด็กคนนั้นที่จะเป็นทายาทเพชรอนันต์”

“เด็กคนนั้น…ตายไปแล้วค่ะ”

“ตาย…ไม่จริง” จิรานุชเผลอพูดดังเสียงแหลม

“ตาย…ไปแล้ว ฉันจึงเลี้ยงหลานแทนลูก ที่สามารถทำให้ฉันมีกำลังใจจะมีชีวิตอยู่ เพื่อหลานคนเดียว”

“ให้ลูกเป็นหลาน?”

“วิศว์เป็นหลาน”

“หลักฐานล่ะ?”

“คุณต้องการหลักฐานอะไร เอกสารต่างๆ ปลอมกันได้เสมอ ฉันพูดด้วยปากเปล่า วิศว์เป็นหลาน ถามวิศว์เองก็ได้นะคะ”

“มาถึงที่นี่ก็ยังไม่ได้ความจริง ปากแข็ง!”

“ถ้าวิศว์เป็นลูก ฉันจะยอมให้วิศว์ไปวุ่นวาย เกี่ยวข้องกับบริษัทคุณเหรอ เราอยู่ของเราดีๆ จะไปรื้อฟื้นอดีตทำไม”

“เพราะบางเรื่อง อย่างที่บอก ทุกอย่างต้องถูกต้อง อย่างที่ควรจะเป็น แม้แต่คุณก็ยากจะฝืนชะตาลิขิต”

ชะตาลิขิต…

พูดกันอย่างไรก็ไม่รู้เรื่องหรอก จนจิรานุชกลับไป และพูดสุดท้ายว่า

“สุดท้ายความจริงย่อมเป็นความจริง”

โสภาได้แต่ยักไหล่…และเมื่ออีกฝ่ายกลับไปแล้ว บ้านก็เงียบกริบ จนนงเอ่ยปาก

“พี่โสภา ฝ่ายนั้นเอาจริงนะ คุณวิศว์ก็เป็นอะไรไม่รู้ ทำไมต้องไปเกี่ยวข้องกับพวกเขา ทำให้ถูกระแวงเปล่าๆ หรือจะเป็นชะตาลิขิตอย่างที่เขาพูดกัน”

โสภาโบกมือ

“วิศว์เป็นหลาน และเป็นหลานเสมอ…”

 

ดุสิตคุยกับนิกรในห้องประชุมเล็ก ที่ประกอบด้วย ดุสิต นิกร ปารีส เลขาของสองหนุ่ม สายชล กับ กุลวดี โดยสรุปว่า

“ครั้งนี้เป็นการแข่งขันระหว่างแผนกเรากับแผนกอานุช การออกแบบที่ไม่เปิดเผย ภายในและคนตัดสินคือคุณพ่อ โดยไม่บอกว่าเป็นผลงานของใครเพื่อความยุติธรรม ต้องเสร็จภายในสิบวัน”

นิกรถามพี่ชายว่า

“แล้วแผนกเราก็ต้องระดมช่างออกแบบมาช่วยกันสิครับ จะกี่คนดี?”

ดุสิตโบกมือ

“ไม่ต้อง ให้คุณปาคนเดียวรับผิดชอบ”

ปารีสที่นั่งฟังมาตั้งแต่ต้น เบิกตากว้าง

“ฉันหรือคะ?”

“ครับ คุณออกแบบ สร้อยพร้อมจี้ อิสระทุกอย่าง”

“แต่ระหว่างแผนก ฉันอาจทำพลาดได้ ทางคุณนุชก็มีฝีมือ และคนอย่างคุณนุชอย่างคุณทรัพย์ก็เก่งมาก”

“อย่าสนใจ”

“แต่ว่า…”

“ผมจะช่วยคุณเอง ผมระบุไปแล้วว่า แผนกเราจะให้คุณแสดงฝีมือ ทางคุณรินทร์กล้ามาเยาะเย้ยผมว่ายอดขายของนายทรัพย์เหนือกว่าคุณ ทั้งที่แค่เริ่มต้นแค่เดือนสองเดือน ก็พูดตัดสินกันง่ายๆ แบบนี้ต้องดูระยะยาว”

นิกรแทรกว่า

“ปกติพี่สิตไม่ชอบรอ และใจเย็นนี่ครับ”

“ถ้าเกี่ยวกับคุณปารีส พี่รอได้ และเชื่อมั่นเสมอ” ระหว่างที่พูดก็หันไปสบตากับหญิงสาวด้วยสายตาของคนรัก

ปารีสทำตัวไม่ถูก ในขณะที่กุลวดีที่จดการประชุมก็มองเพื่อนรักอย่างเห็นใจ

ผลจากการไม่พูดความจริง ปกปิดเรื่องวิศว์ เพื่อนต้องอึดอัดแบบนี้แหละ ช่วยไม่ได้เลย

“คุณสิตคะ…อย่าไว้ใจฉันคนเดียวเลยค่ะ”

“คุณไม่ต้องกลัว ทางนั้นมีคุณทรัพย์ มีอานุชและคุณรินทร์ช่วยกัน ผมไว้ใจคุณที่สุด และผมจะช่วยคุณแน่ๆ ผมก็เป็นคนมีฝีมือคนหนึ่งนะครับ”

“ค่ะ…ถ้ามีคุณช่วย”

“แน่นอนครับ เราสองคนจะร่วมมือกันเต็มที่” แล้วดุสิตก็วางมือบนมือของปารีสที่อยู่บนโต๊ะต่อหน้าทุกคนในที่ประชุม และเห็นๆ ว่าฝ่ายหญิงค่อยๆ ชักมือออก ในขณะที่ดุสิตอมยิ้มอย่างใจเย็น

“พี่สิตจะแข่งกับอานุชไปทำไมครับ คนในบริษัทเดียวกันแท้ๆ ทั้งยังเป็นญาติสนิทด้วย” นิกรโคลงศรีษะ ดูเหมือนไม่ค่อยเข้าใจนัก

พี่ชายหัวเราะ

“แกมันซื่อมากเกินไป รู้ไหมรินทร์เป็นคนของอานุช และนับวันก็ก้าวร้าวเอาเรื่องขึ้นทุกที เหมือนจะคอยผลักดันให้อานุชมา แทนที่คุณพ่อ แทนจะเป็นพวกเราสองคน”

“คุณรินทร์รักและเคารพอานุชมากครับ”

“รินทร์คนนี้มันร้ายลึก ร้ายจริงๆ นะ”

“แต่เราก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเธอ”

“มันไม่แค่นั้นแน่ พี่ไม่ไว้ใจมันเลย”

“คนของอานุช อย่าแตะเลยครับ”

“ไม่แตะไม่ได้ ถ้าเล่นต้องเอาให้หนัก กล้าขึ้นเสียงกับพี่ ต้องเอาออกอย่างเดียว!”

 

“บ่าคุณแข็งมาก แสดงว่าเครียด” วิศว์นวดบ่าไหล่ให้กับปารีสในค่ำคืนที่สงบเงียบ

แอร์ในห้องนอนเย็นสบาย บรรยากาศในห้องก็เรียบโล่ง น่าพักผ่อน

ห้องนอนนี้ วิศว์ปรับเปลี่ยนไปบางมุม บางส่วน ด้วยสายตาของอินทีเรียดีไซเนอร์ฝีมือเฉียบอย่างเขา ทำให้ห้องนอนน่านอนขึ้น

“ว่าจะไม่เครียด ว่าจะทำงานสบายๆ เพราะเจ้านายใจดี แต่ไม่รู้ทำไมบางครั้งก็เครียดโดยไม่รู้ตัว”

“ถ้ารับมือเจ้านายไม่ไหว ก็ลาออกสิครับ”

ปารีสเอียงหน้ามองวิศว์ที่อยู่ด้านหลัง และช่วยบีบนวดบ่าไหล่ให้อย่างสม่ำเสมอ

“ยอมรับว่าบางครั้งเขาก็สามารถเป็นยาคลายเครียด แต่บางวันก็ทิ้งความเครียดมากขึ้น เป็นวันๆ ไป”

“ฉันเพิ่งเริ่มงานไม่นาน”

“คุณอยากพิสูจน์ฝีมือ?”

“จริงๆ แล้วได้งานดีมากค่ะ ได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือ แต่ในบริษัทมีคลื่นใต้น้ำ”

วิศว์หัวเราะเบาๆ

“ทุกบริษัทก็เป็นแบบนี้แหละครับ”

“ค่ะ…มีแบบนี้และท้าทาย”

“คุณอยู่ฝ่ายออกแบบ แถมมีเจ้านายคนเดียว ผมว่าไม่น่าจะเครียด”

“ตอนนี้ต้องแข่งขันอีก”

“แข่งขันดีสิครับ ได้แรงกระตุ้น ผมชอบออก แต่ต้องไม่เครียดอย่างคุณเป็น”

“แข่งขันนะคะ และคุณสิตก็คาดหวังมาก”

“ถ้าคุณเครียดขนาดนี้ ผมว่าคุณต้องเปลี่ยนความคิดหรือมุมบางมุม อย่าคิดถึงการแข่งขัน ทำให้เป็นงานธรรมดา…ธรรมดา”

ปารีสขยับตัวหันมา

“ฉันนวดบ่าให้คุณบ้างค่ะ”

วิศว์พยักหน้าทันที เปลี่ยนเป็นขยับที่กันและกัน

“เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าการแข่งขันเป็นเรื่องดี แต่ตอนชีวิตฉันเขวไปชั่วขณะจนต้องบินไปพักผ่อนกับพ่อแม่ที่ฝรั่งเศส ตอนนั้นยัยวดีกับทัยส่งผลงานของฉันเข้าประกวดแทน จนได้รับรางวัล ถ้าฉันอยู่กรุงเทพฯ คงไม่ส่งผลงานของตัวเอง แต่การชนะการแข่งขันจนมาทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องดีหรือเปล่า”

“คุณอ้างไม่ส่งเพราะชีวิตคุณเขวไปชั่วขณะหรือครับ”

“มันก็ดีอย่างนะคะ ที่ฉันได้รู้จักอุเทนก่อนจะถลำลึกมากกว่านี้ ธาตุแท้ของมนุษย์ บางทีก็ดูยากเหลือเกิน”

และดีอีกอย่างในตอนนี้ เอ่ยชื่อ ‘อุเทน’ ก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด เขาตายจากหัวใจเธออย่างสิ้นเชิง

เพราะ…ผู้ชายคนนี้นะ…วิศว์ คนที่เธอได้ใกล้ชิดที่สุด เป็นคนเดียวกัน คนที่นอนอยู่เคียงข้างในยามวิกาล ในยามที่เป็นของกันและกัน ร่างกับจิตรวมเป็นหนึ่ง

ปารีสคิดว่า บางที…ใกล้จะถึงเวลาเปิดเผยความจริง ความสัมพันธ์ของตนกับเขา

“ขอบคุณที่มีคุณนะคะ” เธอโพล่ง

“เป็นอะไรครับ?”

“ขอบคุณ…ขอบคุณ…” มือที่บีบนวด เลื่อนลงมาโอบกอดเขาจากเบื้องหลัง และแนบหน้ากับแผ่นหลัง ที่แม้นจะแข็งแต่ก็อบอุ่นและนุ่มนวลสำหรับเธอเสมอ

วิศว์อมยิ้ม ไม่ปล่อยให้เธอโอบกอดเขาฝ่ายเดียว ดึงร่างของหญิงสาวมาตรงหน้า แค่ดึงเบาๆ ร่างบางก็ตกอยู่ในอ้อมแขน

“อุ๊ย…”

แล้วก็ต้องปิดปาก เพราะปากของเขาประกบลงอย่างรวดเร็ว

จูบที่เนิ่นนานและแสนหวาน

และแน่นอนว่าไม่ได้หยุดที่จูบริมฝีปากเต็มอิ่ม อย่างแน่นอนวิศว์ต้องรุกล้ำมากขึ้น มากขึ้น ไปทั่วเรือนร่าง และอย่างเร่าร้อน

ทุกหนแห่งในเรือนกายที่มือของวิศว์สัมผัส ทุกหนแห่งที่ริมฝีปากของวิศว์ลากผ่าน คือความสุขสม เต็มใจ และอิ่มเอม

ความขุ่นเคืองบางอย่าง ความไม่พอใจบางอย่าง ในขณะนี้ก็มาหลายสิ่ง เพราะเป็นเวลาแห่งความสุขของสามีภรรยา

สมบูรณ์แบบแห่งความรัก สุขสมไปด้วยกัน รักกันและหลับนอนหลับสนิท

วันข้างหน้า…ชะตาชีวิตรักของทั้งคู่จะเป็นเช่นไร…ใช่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ



Don`t copy text!