ซ่อนรัก บทที่ 53 : ไม่สบาย

ซ่อนรัก บทที่ 53 : ไม่สบาย

โดย : โสภี พรรณราย

Loading

ซ่อนรัก โดย โสภี พรรณราย เมื่อความรักพังทลาย ปารีสจึงออกเดินทางด้วยหวังว่าโลกกว้างจะช่วยเยียวยาหัวใจ แต่สิ่งที่เธอคิดและตัดสินใจอาจไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อหนุ่มหล่อเข้มคนนี้เข้ามาในชีวิต และความหลังของหล่อนกับเขาเป็นความรักที่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาอยากให้คุณได้อ่านออนไลน์

“ยังไม่กลับอีกเรอะ?” กุลวดีถาม เมื่อก้าวเข้ามาในห้องของปารีส

ห้องทำงานของหญิงสาวที่เปลี่ยนจากที่กั้นเป็นสัดส่วนพิเศษสำหรับผู้ช่วยของดุสิต ตอนนี้ปารีสได้ห้องส่วนตัวติดกับห้องทำงานของเจ้านายเรียบร้อย ให้รู้ว่าใครเป็นใคร ใครสำคัญต่อไปในอนาคต

หฤทัยก็ก้าวตามมาติดๆ พูดว่า

“กลับบ้านได้แล้ว เขากลับกันหมดบริษัทแล้ว”

ปารีสจ้องมองคอมพิวเตอร์ตรงหน้า พลางว่า

“งานออกแบบติดพันอยู่ กลับไปก่อนเถอะ”

“อ้าว…” กุลวดีโคลงศีรษะ “กลางวันชวนไปกินข้าวด้วยกันก็อ้างงานติดพัน เย็นจะชวนกลับบ้านก็อ้างงานอีก จะทุ่มเทกับงานเกินไปแล้วนะ”

“แค่ไม่กี่วันเอง”

“อยากชนะแผนกคุณนุชใช่ไหม?”

“เอ้อ…แค่ไม่อยากให้คุณสิตผิดหวัง ยอดขายจี้เพชรปลาดาวของฉันยอดไม่ตรงตามเป้าก็รู้สึกแย่แล้ว”

“เพิ่งวางขายเอง ระยะแรกเอง ดูต่อระยะสองสาม บางทียอดก็มาตอนนั้น ช่วงนี้ของปียอดขายจะนิ่งๆ เงียบๆ หน่อย”

“ยังไงก็ต้องขอทำงานก่อน”

“ครั้งนี้จะประมาทไม่ได้”

“สองฝ่ายอาหลาน พวกเขาไม่ฆ่ากันตายหรอก”

“ฉันไม่ใช่อาหลาน”

“แต่เธอก็เกือบเป็นคนพิเศษ ถ้าไม่เพราะแต่งงานกับคุณวิศว์ แล้วเธอมีสิทธิ์เป็นเจ้าของบริษัท เป็นเจ้านายพวกเราเลยนะ”

“เออ..เออ…แต่งเร็วไปหน่อย” หฤทัยโพล่ง

ปารีสมองคนพูดตาแป๋ว จนหฤทัยต้องเปลี่ยนว่า

“แต่งไม่เร็วก็ได้ เวลาเหมาะสม คุณวิศว์ก็แสนดี แพ้คุณสิตนิดเดียวตรงรวยไม่เท่า นิดเดียวจริงๆ แล้วทุกอย่าง คุณสมบัติทุกอย่างเลยสูสีกันมากๆ”

ปารีสโบกมือ

“พวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”

“คุณวิศว์ล่ะ วันนี้ไม่เห็นเข้ามาเลย สงสัยไปคุมงานอื่นที่อื่น”

“วันนี้คุณวิศว์ไปดูแลงานตกแต่งห้องที่โรงแรมคุณเทวี”

“อุ๊ย…แฟนเก่ารวยและสวยมาก” แล้วรีบยกมือปิดปาก “พูดมากอีกแล้ว อารมณ์เพื่อนเราตอนนี้ไม่พร้อมรับข้อมูลข่าวสารอะไร…ก็ได้…กลับ กลับก่อนล่ะ”

“อย่าทำงานดึกเกินไปนะ” กุลวดีเตือนก่อนออกจากห้องไปกลับหฤทัย

พอลับตาทั้งสอง ปารีสรู้สึกปวดท้องเล็กน้อย

เป็นอะไรเนี่ย? อย่าเพิ่งมาเป็นอะไรตอนนี้ กำลังทำงานสำคัญ

ความเครียดหรือเปล่า?

สลัดทิ้งความเจ็บปวด ทำงานต่อ รู้สึกยังไม่ค่อยพอใจ ผลงานของตัวเอง เปลี่ยน…ปรับ…แก้…หลายหน ก็ยังไม่พอใจ ทำงานจนลืมเวลา จนรู้สึกปวดท้องอีกครั้ง และครั้งนี้ดูรุนแรงขึ้น ปวดมากขึ้น และมองไปรอบๆ ก็ปิดไฟมืด ทุกแผนกกลับไปแล้ว

จนได้ยินเสียงคนเดินมา

“คุณสิต?”

ดุสิตเบิกคิ้ว

“อ้าว…คุณยังทำงานอยู่หรือครับ ผมลืมเอกสาร กลับมาเอาเห็นห้องคุณเปิดไฟนึกว่าคุณลืมปิด”

“ติดลมค่ะ งานยังไม่เสร็จ อยากให้เสร็จก่อนค่ะ”

“คุณไม่ดูเวลาเลย แล้วจะห้าทุ่มแล้วนะครับ”

“ตายแล้ว ไม่ได้ดูเลยค่ะ” แล้วก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดบริเวณท้อง จึงจับท้องและร้องเบาๆ “โอ๊ย…”

“เป็นอะไรครับ?”

“ปวดท้องค่ะ”

“ท่าทางคุณต้องไปโรงพยาบาลแล้ว”

“เดี๋ยวโทรบอกคุณ…” คุณวิศว์ แต่เธอก็เปลี่ยนทัน “ให้ยัยวดีมารับฉัน”

“ไปกับผมก่อนเลย ไปรถผมเร็วกว่า ทำไมต้องให้คุณวดีมารับเสียเวลา”

เขามองหล่อนอย่างห่วงใย จัดการปิดคอมให้และหิ้วกระเป๋าถือให้ ตอนนั้นปารีสก็รีบส่งไลน์ไปบอกเพื่อน

ดุสิตพาหญิงสาวมาถึงโรงพยาบาล ต้องเข้าแผนกฉุกเฉินก่อน ในเวลาต่อมา กุลวดีก็มากับหฤทัย ได้พูดคุยกับดุสิตระหว่างรอตรวจปารีส

วิศว์มาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ยังไม่ทันปรากฏตัว เขาเห็นเบื้องหน้า

ดุสิตเป็นเจ้าที่เจ้าการจัดการให้ปารีส

“ใครเป็นญาติสนิทครับ” หมอถาม

กุลวดีกับหฤทัยแสดงตัวเป็นเพื่อน แต่ดุสิตแสดงตัวเป็นชายคนสนิท เป็นแฟน ต้องมีคนเซ็นให้เธออยู่ที่โรงพยาบาล และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ดุสิตไม่รีรอที่จะเซ็นต์

วิศว์สงบนิ่ง…

ปารีสมีคนที่รักเธออยู่ถึงสามคน ตรงภาพเบื้องหน้าที่เห็นดุสิตร้อนรนและเป็นธุระให้ทุกอย่าง

เขาล่ะ…ต้องแสดงตัวหรือเปล่า

ไม่แสดงตัว แต่รอจนทุกคนกลับไปแล้ว ตีสามเศษและปารีสถูกย้ายจากห้องฉุกเฉินไปห้องพักพิเศษ และอยู่ตามลำพังแล้วเขาจึงได้ปรากฏตัวเบื้องหน้าเตียงนอนผู้ป่วย

ปารีส…ผู้หญิงที่เขารัก จากประสบการณ์ชีวิตตั้งแต่วัยรุ่นจนผ่านคนรักมาหลายคน สุดท้ายเขาเลือกเธอ…เป็นคนแต่งงานด้วย เหมือนกับในส่วนลึก เขาไม่เคยลืมเด็กผู้หญิงวัยเจ็ดปีที่พบครั้งแรก ตอนเธอหลงทางในป่าเลย

แต่…เธอกลับเป็นฝ่ายลังเล ไม่ยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ที่งดงามของคู่ชีวิตคู่หนึ่ง ที่ไม่ควรปิดบังซ่อนเร้น หรือว่าเขาคาดหวังกับเธอมากเกินไป

เหมือนว่าปารีสจะรู้ตัว ความเจ็บปวดคลายลงบ้าง หลังจากได้รับยา ไม่เจ็บเท่าเก่า เธอลืมตาและเห็นเขา

วงหน้าที่สงบนิ่ง หากมีแววตาที่ห่วงใย เขาเสมือนยาที่รักษาบาดแผลหัวใจให้ตนเสมอมา

แต่…แต่ในแววตาที่ห่วงใย ก็ยังแฝงความคลางแคลงเล็กน้อยที่ปิดไม่มิด

“คุณวิศว์…”

เพราะความห่วงใยมีมากกว่าความคลางแคลง ทำให้วิศว์ถามอย่างอ่อนโยน

“คุณดีขึ้นแล้วนะครับ”

“คุณสิตช่วยส่งฉันมาโรงพยาบาล แล้วยัยวดีกับทัยก็เพิ่งกลับไปไม่นาน”

“ผมเห็นทุกอย่าง คุณสิตห่วงใยคุณมาก ส่วนคุณวดีก็เป็นคนโทรบอกผม”

“ฉันจะบอกคุณ แต่บังเอิญคุณสิตอยู่ที่บริษัทในตอนนั้น”

“ขอให้คุณปลอดภัยก็พอครับ”

“คุณ…เอ้อ..คุณ…ไม่เป็นไรนะคะ”

ประโยคนี้เขาควรถามเธอมากกว่า

“คุณสิ…ไม่เป็นไรนะครับ”

“อาการเจ็บคลายลงบ้างแล้วค่ะ ดีขึ้นมากเลย พรุ่งนี้ว่าจะออกจากโรงพยาบาล คุณมารับฉันกลับได้ไหมคะ?”

รอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของชายหนุ่ม ทำให้คนป่วยรู้สึกดีขึ้นในใจ

“คุณยังไม่ได้ถามหมอเลยนะว่าให้คุณกลับได้ไหม?”

“ฉันรู้ตัวเองค่ะ ฉันกลับบ้านได้แน่ๆ ค่ะ”

“ผมมารับแน่ ถ้าหมอให้คุณกลับ”

“ค่ะ”

“ผลของการกินอาหารไม่ตรงเวลาหรือเปล่าครับ?”

ปารีสยิ้มแห้งๆ

“ด้วยค่ะ และฉันคงเครียดมากด้วย”

“อย่าเครียดสิครับ ผมอยากให้คุณทำใจสบายๆ”

“เรื่องงาน…”

“หนักหนาก็ลาออก”

“อย่ายุให้ลาออกเลยค่ะ ฉันยังต้องพิสูจน์ความสามารถอีก”

“ปา…คุณควรพักผ่อนนะ” เห็นสภาพที่อ่อนล้าของเธอชวนสงสาร

“คุณ…”

“ผมจะอยู่จนคุณหลับ”

หญิงสาวก็อยากนอน…อยากหลับ มีมืออบอุ่นของวิศว์ค่อยๆ ลูบหน้าผากและเสยผมให้ ลูบศีรษะเบาๆ อีกมือที่จับมือเธอและลูบเบาๆ เสมือนกล่อม

เธอจะปลอดภัยในความดูแลของเขาเสมอ และตลอดไป

 

จิรานุชมาหาวิศว์ที่ห้องประชุม มีนัดจะเลือกสีผนังด้านหลังของห้องประชุม ปกติเขาจะเข้ามาดูงานวันเว้นวัน พบแต่ช่างของบริษัทที่กำลังทำงานแต่ไม่เห็นวิศว์

จิรานุชถามช่างก็ไม่ได้รับคำตอบ

“หรือเขาจะเข้าสายหน่อย” แต่รินทร์เดินมาพอดี จึงรายงานว่า

“คุณวิศว์โทรมาบอกฮะ เช้านี้จะไปทำธุระที่โรงพยาบาล ขอเลื่อนนัดเป็นบ่าย”

“ทำไมเธอไม่บอกฉันก่อน”

“รินทร์ขอโทษฮะ เพราะคิดว่าจะพบคุณวิศว์ตอนเช้าหรือบ่ายก็ไม่แตกต่างกันหรอกฮะ เขาแค่เข้าสายหน่อยฮะ”

“วันหลัง ถ้าเรื่องเกี่ยวกับคุณวิศว์โทรมา หรือไม่โทร หรืออะไรก็ตาม ต้องรายงานฉันทุกครั้งและอย่างเร็วด้วย” น้ำเสียงไม่พอใจจนรินทร์ตกใจ

ก็…ก็…ไม่ผิดคาดเท่าไหร่นะ แต่ยังตกใจ

คุณนุชเคยเห็นตนเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ขณะนี้มีวิศว์…บุคคลที่สามทำลายความสัมพันธ์ของตนกับคุณนุช…

คุณนุช…ของตน…คุณนุชของรินทร์

วิศว์…แทรกซึมในใจคุณนุชตั้งแต่แรกจนวันนี้ และแทนที่ตนเรียบร้อยแล้ว

“อะไร เสียงดังเชียว?” เป็นเสียงคุณอนันต์ ที่ก้าวเข้ามากับคุณนาถและดุสิต ยังไม่ทันมีคำตอบ

ดุสิตได้ยิน รีบถามขึ้นแทรกคำถามบิดา โดยถามรินทร์

“รินทร์…คุณวิศว์โทรมาหรือว่าจะไปทำธุระที่โรงพยาบาล”

“ฮะ”

“โรงพยาบาล?” ดุสิตเข้าใจทันที จึงบอกกับบิดามารดา “คุณพ่อครับ ผมต้องรีบไปโรงพยาบาลก่อน คุณปารีสเมื่อคืนปวดท้อง ผมส่งเธอไปรักษา เธอเคยสนิทกับคุณวิศว์มาตั้งแต่เด็ก ผมเจอคู่แข่งแล้ว ผมไม่ยอมแพ้แน่ๆ ครับ” พูดจบก็ผลุนผลันไปทันที

คุณนาถโคลงศีรษะ

“ลูกคนนี้นี่ หลงผู้หญิงขนาดนี้เรอะ”

“เออ…ให้มันจริงใจสักคนเถอะ” สามีว่า

หากจิรานุชถอนใจยาว…ยาว…หนักใจ

อย่าเลยนะ…อย่าเลย…สอง…คน…สองคน วิศว์กับดุสิต ถ้า…ถ้า…เป็นสายเลือดเพชรอนันต์ล่ะก็ ไม่อยากคิดถึงเรื่องศึกสายเลือด

ทางด้านดุสิต เขารีบมาที่โรงพยาบาลและภาพที่เห็นในห้องของคนป่วยคือ

ปารีสกับวิศว์…เก็บข้าวของแล้ว กำลังจะกลับ วิศว์ถือข้าวของให้ ส่วนปารีสก็นั่งบนรถเข็น มีพยาบาลกำลังรอพนักงานมาเข็นรถออกจากห้องเพื่อไปส่งที่รถ

“คุณสิต?” ปารีสเลิกคิ้ว

“อ้าว…มีคนมาตัดหน้าผมซะแล้ว” ดุสิตยังคงตั้งสติได้ ทั้งที่รู้สึกไม่ค่อยพอใจ พูดแบบฝืนยิ้มกับผู้ชายตรงหน้า

วิศว์เผชิญหน้าตรงๆ และไม่คิดจะถอยแน่ อยากบอกว่าเขาแทบไม่ได้นอนเลย เมื่อคืนกลับไปอาบน้ำเช้าก็แวะกลับมาอีก

“ผมห่วงคุณปา เลยมาแต่เช้า ผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว” วิศว์ว่า

“อะไรกัน เมื่อวานเพิ่งเข้าโรงพยาบาล วันนี้จะกลับแล้ว”

“คนไข้ดื้อ หมอเลยต้องยอม”

ปารีสพูดกับดุสิต

“ก็แค่โรคกระเพาะค่ะ ช่วงนี้อาจเครียดๆ เลยกำเริบ ปกติฉันมียากินค่ะ”

“คุณเครียดอะไรครับ อย่าบอกว่างานนะครับ เพราะผมจะไม่ยอมให้คุณเครียดงานแน่ๆ เพราะคุณเป็นคนพิเศษของผมและของบริษัท”

ปารีสยิ้มแห้งๆ

“เรื่องส่วนตัวค่ะ”

“บอกผมสิครับ ผมจะช่วยแก้ไขให้ เป็นที่ปรึกษาให้ ผมเชื่อว่าทุกปัญหามีทางแก้เสมอ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ผมแก้ได้ ผมช่วยคุณได้ทุกเรื่อง”

ทุกเรื่องหรือ?

ไม่จริงมั้ง ไม่มีทางแก้ได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะส่วนตัวมากๆ อย่างความสัมพันธ์ของตนกับวิศว์ ความจริงแล้ว หญิงสาวไม่เคยคิดว่าจะให้ใครแทรกเข้ามาเลยนะ แม้ตนกับวิศว์จะเพิ่งเริ่มต้นก็ตาม หากวิศว์ก็เข้ามาในจังหวะที่เธอต้องการที่พักพิงทางใจที่สุด

“เอ้อ…ไม่เป็นไรค่ะ”

“วันนี้ผมตั้งใจมารับคุณกลับบ้าน” ดุสิตพูดตรงๆ

แล้ววิศว์ล่ะ?

ต้องเลือกหรือจะกลับพร้อมใคร?

“คุณสิตมีงานยุ่ง ไม่น่ามาเลยค่ะ เมื่อคืนก็อุตส่าห์ส่งฉันมาโรงพยาบาลแล้ว ถ้าส่งกลับบ้านกินยาที่บ้านก็อาจหาย ไม่ต้องมานอนที่นี่คืนหนึ่ง”

“ผมห่วงคุณมากนี่ครับ ผมว่าเราอยากรบกวนคุณวิศว์เลย ให้คุณวิศว์กลับไปเลย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย ผมจะเคลียร์คุณวิศว์วันหลังในส่วนที่คุณวิศว์จ่ายไปแล้ว”

วิศว์โบกมือ พูดตรงๆ ว่า

“กับคุณปา ผมไม่ให้เรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องครับ”

 



Don`t copy text!