เจ้าหุ่นเพื่อนรัก บทที่ 3 : หุ่นจำแลง
โดย : ม. มธุการี
เจ้าหุ่นเพื่อนรัก โดย ม.มธุการี นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ที่คุณจะมีรอยยิ้มไปกับทุกบทตอน กับเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องสวมรอยเป็นหุ่นยนต์เพื่อไปอยู่กับเศรษฐีหนุ่มผู้ต้องการมีภรรยาในอุดมคติและเธอต้องทำสิ่งนี้เพื่อไม่ให้พ่อถูกฟ้องจนหมดตัว เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มาอ่านกันได้ที่นี่ที่เดียว เพราะนิยายสนุกๆ #มีให้อ่านที่อ่านเอา
****************************
– 3 –
หล่อนรีบเดินออกมาสำรวจดูแม่หุ่นสาวสวย แหวกดูทุกส่วนเพื่อสำรวจความสึกหรอ แบบนี้น่าจะได้เสียกันแล้วเลยเอาเจ้าสาวมาส่งคืน แถมจะเรียกเงินสินสอดอีกสิบล้าน…
พ่อเดินหน้านิ่วคิ้วขมวดกลับเข้ามา บ่นอู้ว่า
“มันจะเสียไปได้ยังไง หุ่นเขาสร้างมาอย่างมีประสิทธิภาพ หรือว่านายนี่จะเบี้ยวเรา”
“อาจจะได้เสียกันแล้วพ่อ”
“แกรู้ได้ไง”
“หุ่นหน้าซีดกลับมา”
พ่อกดปุ่มควบคุมแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับมามีชีวิตเหมือนก่อน
“รึไม่ก็โดนตึ้บมาอย่างแรง” อัลทิมาออกความเห็นต่อ
“ต้องเอาเข้าไปซ่อม ดูซิว่าอะไรมันเสีย อาจจะต้องรีเซ็ทกันใหม่”
พ่ออุ้มสาวน้อยเข้าห้องแล็บส่วนตัว ในขณะที่อัลทิมายืนรอกระสับกระส่าย
เพราะกำลังห่วงเงินสิบล้านที่อาจจะหายวับไปกับตาถ้าพ่อซ่อมมันไม่ได้ เห็นหน้าแม่นั่นแล้วทำให้ยิ่งแน่ใจว่าต้องโดนตึ้บมาอย่างไม่ต้องสงสัย ใครมั่งไม่รู้กิตติศัพท์ของลูกชายเจ้าสัวคนนั้น เห็นหน้าวันนี้ก็รู้ว่ากำลังแบกอารมณ์โกรธมาอย่างสุดๆ…
มันช่างเป็นการรอคอยที่ยาวนานจนกระทั่งตกเย็นกว่าพ่อจะออกจากห้องแล็บ เดินเช็ดหัวล้านออกมาด้วย
“ซ่อมได้มั้ยพ่อ” รีบถามอย่างรวดเร็ว
“คิดว่าระบบเครื่องเสียงเสีย อย่างอื่นทำงานได้หมดหลังจากรีเซ็ทแล้ว” พ่อถอนใจดังเฮือก
“พ่อแก้ไม่ได้เลยหรือ” ถามอย่างใจเสีย
“ต้องส่งกลับไปแก้โรงงานใหญ่ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน อาจจะเป็นเดือน หรือหลายๆเดือน นายคนนี้แกคงไม่รอหรอก”
“พ่อหมายถึงเขาจะเอาเช็คคืน” หล่อนถามอย่างตกใจ
“แน่นอนสิ เพราะมันอยู่ในสัญญา เขาเอาไปทดลองสิบวันไม่พอใจ ก็มีสิทธิ์ส่งคืนได้ นี่ไม่กี่ชั่วโมงวิ่งโร่กลับมาแล้ว มันน่ามั้ยล่ะ ทำไมเรามันซวย ขนาดนี้ด้วย”
พ่อกระแทกตัวนั่งอย่างหมดหวัง อัลทิมาทรุดตัวนั่งตาม พลอยอ่อนแรงจนพูดไม่ออก
“สิบล้านปิ๋วแน่หรือพ่อ” ถามเสียงแหบเสียงแห้ง
“พันเปอร์เซนต์ เห็นหน้านายคนนั้นมะ แสดงว่าเขาจะต้องไปทำอะไร สักอย่างแม่หุ่นมันถึงได้ใบ้แดกขนาดนั้น อาจจะทุบตีด่าว่า นิสัยส่วนตัวเรา รู้กันอยู่แล้ว”
“เอาเขาขึ้นศาลได้นี่พ่อ” หล่อนออกไอเดีย
“ข้อหาอะไร”
“ปลุกปล้ำกระทำชำเราอนาจารต่อเจ้าหุ่น”
“มันมีด้วยเหรอ แล้วหลักฐานเรามีอะไร นังหุ่นมันพูดไม่ได้อีก โว้ย กลุ้มจริงๆ เราสูญเงินนี่ไปแกต้องไปขอทานแน่ เตรียมตัวไว้เหอะ”
“ไม่มีทางแก้เลยหรือพ่อ” อัลทิมาตกใจเป็นล้นพ้น “ทำไมพ่อไม่คิดหาทาง อย่างน้อยอย่าให้เขาเอาเช็คสิบล้านกลับไปได้”
รอบนี้พ่อนั่งคิดหนัก และคิดนานจนหล่อนเกือบจะสิ้นหวัง
หน้าตาพ่อบ่งบอกชัดว่าแทบจะไม่มีความหวังอะไรอีกแล้ว เป็นนานกว่าพ่อจะ ตัดสินใจพูดออกมา
“ตอนนี้นังหุ่นมันแค่ใบ้กิน ขณะที่การตอบสนองอย่างอื่นยังทำงานอยู่ คือยังสามารถแสดงอารมณ์และการตอบโต้ได้ทุกอย่าง มีทางเดียวคือหาทาง ใส่เสียงเข้าไป”
“จะเอาเสียงใครพ่อ นังสิริก็ไม่ทำงานแล้ว” อัลทิมางงไป
“จะเสียงใครก็เสียงแกไง” พ่อมองหน้า
“เสียงอัล แล้วจะอัดใส่เข้าไปยังไง”
“ไม่มีการอัด ต้องใช้เสียงสดๆนั่นเลย เหมือนการพูดโทรศัพท์กันนั่นแหละ คือฉันจะใส่ไวไฟเข้าไปในหุ่น เพราะหุ่นมีตาเป็นจอเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แกอยู่ทางนี้ก็พูดจาตอบโต้กับเขาไป เหมือนพูดโทรศัพท์ติดต่อกัน แกจะเห็นเขา แต่เขาจะไม่เห็นแก ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนครบกำหนดสิบวันตามสัญญา ก็ซื้อเวลาไปก่อน ครบกำหนดเราก็เอาเช็คเข้าแบ้งค์ ต่อจากนั้นก็ไม่ใช่เรื่อง ของเราแล้ว เขาต้องดีลกับบริษัทใหญ่โดยตรง อาจจะส่งเจ้าหุ่นไปแก้ที่โน่น เขารอได้ก็รอไป”
รอบนี้พ่อลุกขึ้นยืนและดีดนิ้วไปด้วย
“ทางเดียว ต้องสำเร็จ เดี๋ยวฉันจะรีบติดไวไฟใส่เจ้าหุ่น จากนั้นก็โทร ให้เขามารับ แกก็เตรียมเปิดคอมพิวเตอร์เอาไว้เพื่อการติดต่อ ไป รีบไป ยังไงต้องให้เสร็จวันนี้”
พ่อรีบกลับเข้าห้องแล็บทิ้งให้หล่อนนั่งเซ่ออยู่ตรงนั้น คือพ่อจะให้หล่อนพูดจากับนายโรคจิตคนนั้นเป็นเวลานานถึงสิบวัน อาจจะต้องทนการถูกด่าและสับ โขกไม่เว้นแต่ละวันจากอีตาบ้า แล้วเกิดหล่อนเสียสติด่ากราดตอบโต้ขึ้นมามั่ง ตามวิสัยคนหัวร้อน…
โอ้ย…จะบ้าตาย..
เดินเข้าห้องส่วนตัวและเตรียมเปิดคอมพิวเตอร์ พยายามท่องคำว่า สิบล้านๆๆๆจนมันฝังลึกเข้าไปในหัว สิบวันสิบล้านกับคนบ้าๆมันก็น่าจะคุ้มกัน ก่อนที่จะถูกยึดทั้งบ้านทั้งรถจนต้องไปนอนข้างถนน
เป็นนานพ่อจึงมาที่ห้อง นั่งปลุกปล้ำกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของหล่อนเพื่อป้อนข้อมูลเพิ่มเติม จนเครื่องเริ่มทำงาน รอบนี้หล่อนมองเห็นภาพห้องนั่งเล่น ในบ้านปรากฏทางหน้าจอ
“ระบบตาของแม่หุ่นกำลังทำงาน คือไม่ว่านังนี่จะมองไปทางไหนภาพ จะมาปรากฏที่นี่ให้แกเห็น” พ่ออธิบาย “เดี๋ยวจะสาธิตให้ดู”
พ่อออกไปข้างนอก และภาพที่ปรากฏจากจอก็คือพ่อกำลังเดินไปมา จากนั้นก็มีเสียงพูด
“มองเห็นฉันมั้ย เห็นแล้วก็ตอบใส่ไมโครโฟน”
“เห็นค่ะพ่อ” อัลทิมารีบตอบไป
“ดี ทีนี้ฉันจะลองพูดคุยกับหุ่น แล้วแกก็ตอบโต้กลับมา”
“ว่าไง คุณสบายดี…?” เสียงพ่อดังเข้ามาในเครื่อง
“สบายดีค่ะ คุณล่ะคะ”
“ผมสบายดี วันนี้มีอะไรกินมั่ง”
“คุณอยากกินอะไรล่ะคะ” อัลทิมาหัวเราะคิกอย่างพลอยนึกสนุก
“คุณทำอาหารได้หรือ”
“ยังไม่รู้ค่ะ ต้องถามพ่อ ทำได้ป่ะพ่อ”
“ได้สิ ทำอาหารได้ทุกอย่าง ไม่งั้นจะสิบล้านเรอะ วะ”
“สรุปคืออัลต้องทำไรมั่งล่ะพ่อ”
“กวาดบ้านถูบ้าน ทำอาหารสามมื้อ”
“ขี้ข้าดีๆเลยพ่อ”
“แล้วแกจะมาเดือดร้อนอะไร หุ่นมันทำไม่ใช่แกทำ”
อัลทิมาเห็นพ่อดุหน้าตาถมึงทึงจนต้องหัวเราะคิกคัก
“แล้วแกจะส่งเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้นะ เพราะหุ่นมันไม่ได้หัวเราะ เดี๋ยวเกิดเขาจับได้ ว้า…”
พ่อกลับมาที่ห้องอีกครั้ง กำชับว่า
“ได้ผล แต่แกต้องพูดจาให้มันสมบทบาทหน่อย ไม่ยากหรอก เพราะหุ่นมันแค่อ้าปากพะงาบๆ แกก็แค่ใส่อารมณ์ใส่เสียงเข้าไป”
“หุ่นมีฟีลลิ่งด้วยหรือพ่อ”
“ไม่มีก็เหมือนมี เพราะร้องไห้ได้ด้วย ไม่งั้นจะสิบล้าน เพราะใส่โปรแกรมเข้าไปจนสมองเหมือนคนจริงๆ เอาเข้าจริงๆความฉลาดของแกไม่ทันมันหรอก เพราะฉะนั้นพูดจาอะไรอย่าไปโชว์โง่ให้นายนั่นมันจับได้ ไหวพริบแกจะต้องเพรียบ จำไว้ เดี๋ยวจะโทรให้นายนั่นมารับตัวเจ้าสาวของเขาไป แกก็อยู่ในนี้และคอย ตอบโต้ เพราะฉันจะต้องสาธิตให้เขาดูอีก”
พ่อออกไปแล้ว มีเสียงพูดคุยโทรศัพท์และอัลทิมาก็เข้าประจำการ สำหรับหล่อนนี่คือศึกใหญ่ในชีวิตที่มีเงินประกันมูลค่าถึงสิบล้านและหล่อนจะพลาดไม่ได้เลย…
ปัชรีบขับรถออกจากบ้านหลังได้รับโทรศัพท์แจ้งเตือนมาว่าแม่หุ่นได้รับการแก้ไขให้ใช้งานได้แล้ว รวดเร็วขนาดนั้นเชียว เขายังนึกว่ามันจะเจ๊งไปแล้วชั่วนิจนิรันดร์และเตรียมจะเรียกเช็คคืนมาอยู่แล้ว แสดงว่าฝีมือนายช่างวิศวกร หุ่นยนต์คนนี้มันช่างเหลือเชื่อจริงๆ
มาถึงบ้านอีกฝ่ายและได้รับการสาธิตให้ดูในห้องนั่งเล่น
“ใช้งานได้เหมือนเดิมครับ ผมแค่รีเซ็ตให้ใหม่ ไม่เชื่อลองพูดคุยกันดู”
“ก็ไม่รู้จะถามอะไร แค่อยากรู้ว่าทำไมมันเสียไปได้ตอนนั้น”
“ผิดกลิ่นค่ะนาย ตอนนี้หนูหายแล้ว”
มีเสียงใสตอบมาพร้อมเจ้าตัวทำตาปริบๆจนเขาชะงักไป
“ทำไมเสียงเปลี่ยน”
“ผมเปลี่ยนโปรแกรมคลื่นเสียงใหม่ครับ คือจะเหมือนคนจริงๆมากขึ้นและไม่ใช่เสียงสิริอีกต่อไป” วิศวกรแก่รีบอธิบาย
“นังสิริมันตายไปแล้วค่ะ เจ้านายเล่นด่ามันแหลก” แม่หุ่นเสริมขึ้นมาอีกเล่นเอาเขาเหงื่อซึม ที่มันเอาเขามาเปิดโปง รีบตัดบทว่า
“งั้นผมรีบเอากลับไปเลย ว่าแต่คิดค่าแรงรึเปล่าครับเนี่ย”
“สามพันค่ะ” ตอบกลับมารวดเร็ว พอๆกับวิศวกรแก่ที่รีบขัด
“อยู่ในสิบล้านครับ ผมไม่คิดอะไร” รีบกดปุ่มปิดการทำงานรวดเร็ว “แม่หุ่นตัวนี้อาจจะปากมากไปหน่อย คุณก็อย่าไปถือสา”
“รีเซ็ตใหม่นี่เปลี่ยนทั้งระบบเลยหรือครับ” เขาถามอย่างสนใจ
“ใช่ครับ แต่หุ่นมีกลไกพิเศษส่วนตัวที่สามารถปรับตัวให้เข้าได้กับทุกสถานการณ์ สรุปก็คือ คุณจะไม่ต้องใช้เครื่องรีโมทคอนโทรลมันอีกต่อไป คุณจะคาดการณ์อะไรไม่ได้ทั้งนั้นกับหุ่นตัวนี้ นี่คือความซับซ้อนของระบบสมองกลที่ใกล้เคียงความเป็นคนมากขึ้นทุกที อาจมีการถึงขั้นด่าไปก็ด่ากลับ นี่คือการตอบสนองโดยอัตโนมัติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ”
เท่ากับว่าถ้าถูกเขาด่าครั้งต่อไปอาจจะไม่มีอาการใบ้กินเหมือนเช่นที่แล้วมา รีบแพ็คใส่กล่องโดยมีเจ้าบ้านแบกไปส่งให้ถึงที่รถ มีการกำชับกำชา ก่อนจากกันว่า
“ผมถึงอยากขอร้องอีกอย่าง ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก็ขอให้ใจเย็นๆ หุ่นมันอาจจะปากมากไปหน่อยก็ถือซะว่ามันถูกเซ็ตมาให้เป็นคน”
อัลทิมามองจากหน้าต่างชั้นบนก็เห็นพ่อยืนสั่งเสียนายนั่นเป็นนาน
จะอะไรกันเสียนักหนา…
พอรถขับพ้นรั้วบ้านพ่อก็เดินแน่วเข้าบ้านทันที หน้าตาถมึงทึงเมื่อเข้ามาในห้องอีกครั้ง ตะคอกใส่
“สามพัน แกไปเรียกเขาสามพัน มันเรื่องอะไรกัน”
“ก็อัลเห็นพ่อเหนื่อย” พูดอุบอิบ
“เหนื่อยก็ต้องทน เพราะจะให้เขารู้ไม่ได้ถึงแผนของเรา นี่ไม่ทันไรแกทำท่าจะสติแตกให้เขาจับได้ สิบล้านเชียวนะแก ดีมั้ยดีต้องเข้าคุกทั้งพ่อทั้งลูกโทษฐานหลอกลวงผู้บริโภค
“ปัญญาอ่อนแบบนั้นจับไม่ได้หรอกพ่อ อย่าห่วงเลย อัลจะทำให้เนียนที่สุด”
“แค่สิบวันเอง ถูกด่าถูกว่าอะไรก็ยอมๆไปก่อน เขาลงทุนสิบล้านก็ต้องการหุ่นที่อ่อนหวานเอาอกเอาใจสารพัด”
“ทำอาหารได้ด้วยหรือพ่อหุ่นตัวนี้”
“สารพัดแกจะให้ทำอะไร มันโปรแกรมเข้าไปในสมองกลหมดแล้ว ทำอาหารอร่อยเสียยิ่งกว่าเชฟอันดับหนึ่ง แค่ที่แกกดรีโมทให้มันทำงานไป”
พ่อส่งเครื่องรีโมทคอนโทรลให้หล่อน กำชับกำชาว่า
“แล้วอย่าไปพลาดจนนายนั่นจับได้ เราสองคนตะรางไม่ได้ผุดได้เกิด เลยนะแก”