ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (2)

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (2)

โดย : หมอนอิงพิงหลัง

Loading

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว โดย หมอนอิงพิงหลัง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาขอเอาใจนักอ่าน โดยเฉพาะนักอ่านทาสแมว กับเรื่องราวของ น้ำปิง  เจ้าพ่อแห่งความเพอร์เฟคที่โดนวงล้อโชคชะตาเล่นตลกและแมวสามสี….ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวสารพัดจนเขาหลงรักชีวิตแบบแมวๆ เข้าอย่างจัง น้ำปิงกับถนนสายแมวเหมียวจะเป็นอย่างไร อ่านกันได้เลยค่ะ

“ส้มจุกเอ๊ย เดี๋ยวยายไปเตรียมของก่อน พอเอ็งอิ่มแล้ว เอาชามไปแช่ไว้ในอ่าง เราจะรีบไปตลาดกันนะลูก”

“จ้ะ ยาย” ส้มจุกตอบรับคำยาย

ผมมองตามเห็นยายคำมูลทยอยหยิบขนมห่อใบตองค่อยๆ เรียงบนถาด ต่อด้วยขนมชั้น ขนมตะโก้ ขนมต้มขาวต้มแดง บ้างก็เป็นชิ้น บ้างก็อยู่ในกระทง ยายกับหลานน่าจะไปขายขนมที่ตลาดไหนสักแห่งแน่ ดูยายตั้งใจทำขนมใหม่กลิ่นก็หอม ใบตองสีก็สวย ใช้ได้เลยนะเนี่ยสามารถนำเสนอเป็นไลน์ขนมไทยในโรงแรมได้เลย เอ ว่าแต่พ่อแม่ส้มจุกไปไหนหนอ

พอส้มจุกกินเสร็จเธอก็เอาจานชามข้าวไปแช่ใส่อ่าง แล้วก็รีบวิ่งไปในสวนตักน้ำใส่บัวรดน้ำที่ต้นไม้ในสวนอย่างคล่องแคล่ว ทุกคนเตรียมตัว ผมก็คงต้องเตรียมตัวเหมือนกัน พอหนังท้องตึง ลำไส้ก็เริ่มทำงาน ว่าแล้วผมก็ได้กลิ่นดินอันหอมหวน กลิ่นทรายอันยั่วยวนลอยมาจากใต้ต้นมะม่วง

 

หลังจากที่ผมช่วยส้มจุกรดน้ำใส่ปุ๋ยเสร็จ ทุกคนก็พร้อมออกเดินทาง แม้ผมจะยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นแมวได้ยังไงหรือว่านี่คือความฝัน แต่ยายหลานคู่นี้ดูน่ารักและอบอุ่นดีจนอยากจะตามไปด้วยกันก่อน

เด็กน้อยอุ้มผมใส่ตะกร้าหน้ารถจักรยานเก่าคันหนึ่งที่น่าจะเป็นคันโปรดของเธอเพราะมีริบบิ้นยาวสีเหลืองออกตุ่นๆ ผูกไว้ ยายเปิดประตูบ้านด้านหน้า แสงแดดสาดส่องเข้ามาพร้อมกับกลิ่นต่างๆ ที่ถูกหอบมากับสายลม

เสียงกระดิ่งจักรยาน กริ๊ง กริ๊ง วิ่งผ่านหน้าบ้าน ถนนสายนี้มีผู้คนสัญจรไปมาไม่เงียบเหงา ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องแถวหน้าต่างไม้สีเขียวไข่กาเรียงราย มองไปทางหัวมุมถนนมีผู้คนยืนมุงร้านน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ถัดไปเป็นร้านโจ๊กใต้ต้นปีบสูงใหญ่ มีกลุ่มเด็กตัวน้อยๆ บ้างก็เล่นโดดยาง บ้างก็เล่นตั้งเต บ้างก็ยืนต่อแถวตรงเพิงขายลูกชิ้นทอด กำลังกินลูกชิ้นร้อนๆ ทอดใหม่อยู่ริมถนน ชุมชนดูสะอาดสะอ้านชวนให้นึกถึงภาพเมืองเก่าที่สาบสูญไปนานแล้ว

ยายเริ่มเข็นรถขนมไปตามถนนลาดยางเล็กๆ เสียงจักรยานส้มจุกเอี๊ยดอ๊าดดังตามเป็นจังหวะ แม้ผู้คนแถวนี้ไม่ได้แต่งตัวดีนักแต่ก็ยิ้มแย้มอารมณ์ดีทักทายกัน เดินไปไม่ไกลก็เจอสะพานข้ามคลอง น้ำในคลองใสแจ๋วเห็นปลาตัวเล็กแหวกว่ายไปมา มุมหนึ่งมีเด็กเล่นน้ำกันอยู่ อีกมุมหนึ่งมีเรือบดจอดเทียบลำน้ำและมีคนนั่งตกปลานั่งล้อมวงกันอยู่

“ไง ตาหลวย วันนี้ได้ปลาตัวใหญ่บ้างไหม” ยายคำมูลตะโกนถามพร้อมยิ้มให้

“แม่คำมูลหรือ วันนี้ฉันได้ตะเพียนขาวมาหลายตัว เดี๋ยวฉันเอาไปให้ที่ตลาดนะ” ตาหลวยยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ

 

ด้านหน้าทางเข้าวัดมีพ่อค้าแม่ค้าเต็มไปหมด ทุกคนกำลังง่วนกับการจัดร้าน แต่ที่เตะตาผมคือแม่ค้าขายลูกชิ้นหน้าตาสะสวยในชุดผ้าถุง เธอมีผิวสีขาวแก้มสีชมพูขนตางอนยาว หน้าตาดีระดับเข้าประกวดได้ สวยขนาดที่ใครๆ เห็นแค่ครั้งเดียวก็ลืมไม่ลง จู่ๆ เธอก็หันมายิ้มให้ ผมตกใจจนหยุดกึกใจเต้นตึกตัก แล้วเธอก็ส่งไส้กรอกปิ้งให้ส้มจุกไม้นึง อ้าว! ก็นึกว่ายิ้มให้เรา

“วันนี้มาช่วยยายขายของหรือจ๊ะส้มจุก”

“ค่ะ น้าชบา ขอบคุณค่ะ” ส้มจุกลงจากรถ พนมมือไหว้ รับไส้กรอกมาและแบ่งให้ผมหนึ่งเม็ด ยายคำมูลหยิบขนมใส่ไส้ยื่นให้กลับ

“แต่งตัวสวยเหมือนเดิมเลยนะแม่ชบา”

“ขอบคุณมากจ้ะยายคำมูล” เธอไหว้สวยและรับของจากมือยาย ยิ้มอย่างเขินอายแล้วก็หันไปจัดร้านต่อ

 

บรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเองของชุมชนแถวนี้ทำให้ใจผมผ่อนคลาย หวนนึกถึงสมัยก่อนที่อยู่กับตายาย เป็นคืนวันที่ไม่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีความสุข เพราะความสุขเหล่านั้นมันกระจายตัวอยู่ในอากาศ เหมือนละอองเหมือนอณูในทุกๆ วินาทีที่เราหายใจ ไม่ต้องคิดหรือวางแผนเพื่อให้ชีวิตดี เป็นแค่วิถีธรรมชาติที่มีความเป็นอยู่แบบพอเพียงแค่เราหลงลืมไป

พวกเราเดินเลี้ยวเข้าไปภายในตลาด ยายถอยรถเข็นจอดตรงที่ว่างข้างร้านดอกไม้ ส้มจุกสวัสดีคุณน้าข้างร้าน ยังไม่ทันจะจัดของเสร็จก็มีลูกค้าประจำโผล่มา สั่งขนมอย่างละสิบชุดเหมือนเดิม พร้อมหยิกแก้มส้มจุกทีนึงเป็นของแถม ส้มจุกปล่อยผมลงและบอกผมว่าให้ไปเดินเล่นรอที่ท่าน้ำเหมือนเดิมนะ ว่าแล้วส้มจุกก็รีบช่วยยายจัดชุดขนมด้วยความขะมักเขม้น

 

ยืนมองหลังยายกับส้มจุกอยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ ว่านี่เป็นโอกาสที่เราจะตามหาร่องรอยของตัวเราแล้ว แต่ร้านค้าในตลาดแถวนี้ดูน่าสนใจจัง ท่าน้ำอยู่ไหนก็ยังไม่รู้ ขอเดินเล่นก่อนแล้วกัน ผมเดินเปิดหูเปิดตามาอีกนิดก็เจอร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณดูน่ากินเหลือเกิน ด้วยความเคยชิน ผมควานหาเงินในกระเป๋าแต่ไม่เจอ เจอแต่พุงกลมๆ ของตัวเอง ผมจึงนั่งลง จ้องมองตรงไปที่หม้อก๋วยเตี๋ยว เจ้าของร้านเงื้อตะกร้อลวกก๋วยเตี๋ยวขึ้นกำลังจะไล่ผม เสียงวิ้ง วิ้งประกายปิ๊งปั๊งพุ่งออกจากดวงตากลมสีอำพันของผม มือเขาก็ตกลงทันที เหมือนโดนมนต์สะกด จากใบหน้าแดงก่ำก็ฉีกยิ้มออกมา และหันไปหยิบลูกชิ้นให้ผมกินหนึ่งเม็ดแทน

เอ๊ะ! นี่มันบังเอิญหรือเปล่าเนี่ย หรือเป็นความสามารถพิเศษของแมว งั้นต้องลองร้านต่อไปดู พอผมเคี้ยวลูกชิ้นเม็ดนั้นเสร็จ ผมก็หรี่ตาใช้หนวดเรดาห์และจมูกฟุดฟิดกำหนดเป้าหมายถัดไป ต่อไปคือร้านหมูสะเต๊ะแล้วผมก็ยิงลำไยบีมจากดวงตาอีกครั้งหนึ่ง

หมูสะเต๊ะหอมหวานไม้นั้น อุดมไปด้วยเครื่องเทศกำลังดีให้กลิ่นยี่หร่า ตะไคร้ ลูกผักชี สมดุลกับกลิ่นขมิ้น ผงกะหรี่ เจือด้วยกะทิสดที่ถูกย่างบนเตาถ่านจนได้กลิ่นพิเศษของกะทิเผาไฟ รสชาติกรุบกรอบผสมความชุ่มช่ำในเนื้อหมู แม้ไม่มีอาจาดแกล้มก็ไม่ได้ลดทอนความอร่อยลงเลย

ว่าแล้วก็ต่อด้วยข้าวโพดปิ้งหอมเนย ทอดมันปลากราย หมูทอดซีอิ๊ว ไส้กรอกอีสาน หมี่กะทิสีชมพูสดใส ขนมครกชาววัง ขนมปังสังขยา ตบท้ายด้วย ข้าวเหนียวลำไย และทับทิมกรอบน้ำกะทิ

 

ผมนั่งพุงกางอยู่ที่ท่าน้ำหลังตลาด ได้กลิ่นของดอกไม้สีขาวอ่อนๆ โชยมา บรรยากาศสงบเงียบไร้สิ่งกวนใจ แล้วผมก็ล้มตัวลงนอน ผมหวนนึกถึงตอนที่เดินตรวจงานที่โรงแรมทุกเช้า กลิ่นสเปรย์ปรับอากาศราคาแพงที่พี่เป๊กอนุญาตให้ใช้เฉพาะวันที่มีแขกวีไอพี จากนั้นก็ต้องเดินตรวจแถวอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ จานชามในห้องอาหารต้องเงางามสะอาดไร้รอยนิ้วมือ สุดท้ายก็มาช่วยน้องๆ ฟรอนต์ออฟฟิศเตรียมรายชื่อแขกที่จะเข้าพักในแต่ละวัน

ตายละวา วันนี้ก็ต้องต้อนรับแขกวีไอพีอีกท่านด้วยนี่นา ผมสะดุ้งขึ้นมาแล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ ผมลืมไปว่าตอนนี้เราเป็นแมวอยู่ ยังดีที่โรงแรมมีพี่เป๊กกับน้องๆ อยู่ แต่ที่คอนโดฯ เราล่ะ เจ้าต้นยิมโนด่างสุดรักที่ออกดอกใครจะรดน้ำให้ โอ๊ย ตาย ตาย ผมจะต้องทำบุญใหญ่ให้พวกมันเลยไหมเนี่ย จะว่าไปตอนนี้ที่เรามาติดอยู่ในร่างแมว น้องๆ และพี่เป๊ก ทุกคนจะเป็นยังไงนะ จะออกตามหาเราหรือไม่ หรือก็เป็นอีกวันที่งานโรงแรมก็เดินต่อไป สุดท้ายเราก็เป็นแค่เฟืองหนึ่งชิ้นในระบบทุนนิยมน่ะเหรอ

อย่าว่าแต่เรามีความความสำคัญอะไรกับโรงแรมเลย จริงแล้วจุดหมายของชีวิตคืออะไรกันแน่ ทำงานงกๆ มาตั้งนานเพื่อผ่อนรถผ่อนคอนโดฯ ตอนนี้แม้แต่เงินสักบาทเดียวยังไม่มีเลย ผมยื่นมือขึ้นฟ้าเห็นอุ้งมือแมวกลมๆ ถ้ามีใครสักคนตอบเราได้ก็ดีสินะ

 

น้ำในคลองไหลเอื่อยๆ ใบไม้ลอยตามกันมาทีละใบสองใบ ผมทอดสายตาออกไปที่คุ้งน้ำไกล มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมถึงฟื้นขึ้นมาอยู่ในร่างของแมว นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก หรือว่าเราตายไปแล้ว ไม่เอาๆ ไม่คิดดีกว่า พอหนังท้องตึงตามันก็ปริ่มๆ จะปิด ผมสู้กับเปลือกตาบนอยู่สักครู่ ก็ผล็อยหลับไปที่ศาลาริมน้ำใต้ต้นปีบขาวสูงใหญ่

 



Don`t copy text!