อาคันตุกะ บทที่ 13 : จับกุมตัว
โดย : ดารัช
อาคันตุกะ โดย ดารัช นิยายที่ผ่านการคัดเลือกประกวดพล็อตจากโครงการช่องวันอ่านเอา ครั้งที่ 3 กลุ่มนวนิยาย ‘รักร้าย’ แต่เขียนไม่ทัน โครงการอ่านเอาก้าวแรก รุ่น 4 จึงช่วยให้ดารัชปิดจบนิยายเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ และวันนี้ พร้อมให้นักอ่านได้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวนี้แล้ว
“ทำไมพี่ธีร์ถึงไม่ไปด้วยกันล่ะคะ” กลีบบัวถามคนขับรถวัยกลางคน ที่มารับเธอทันทีที่สปีดโบตพาธีรดนย์และกลีบบัวจากเกาะมาเทียบท่าเรือ
“คุณธีร์ต้องคุยธุระกับลูกค้าต่อ กลัวคุณพิสชาจะรอนาน เลยให้ผมมารับคุณพิสชาไปส่งโรงแรมก่อนครับ”
“แต่…” กลีบบัวรู้สึกแปลกๆ ธีรดนย์ดูเหมือนกำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากเธอ เหมือนเขามีเรื่องติดใจสงสัย แต่ก็อยากกันเธอให้พ้นจากอันตราย แถมตอนแรกเหมือนเธอต้องนั่งรถอีกคันหนึ่ง แล้วธีรดนย์ขอเปลี่ยน สีหน้าของชายหนุ่มดูเครียดจนกลีบบัวสัมผัสได้
“จริงสิคะ แล้วคุณเมธหายไปไหนคะ” กลีบบัวถามถึงเลขาฯ ร่างท้วมของธีรดนย์ ตอนทริปฮันนีมูน เลขาฯ ส่วนตัวของธีรดนย์ก็ไม่ได้มารับมาส่ง
“คุณธีร์คงให้ไปทำงานอื่นครับ”
กลีบบัวกัดริมฝีปากด้วยความกังวล แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากไปพักที่โรงแรมในตัวเมือง เพื่อรอธีรดนย์เสร็จธุระและตามมาสมทบในวันรุ่งขึ้น
แต่พอรุ่งเช้า หญิงสาวกลับได้รับโทรศัพท์จากรุจิดา ที่บอกให้รีบเปิดโทรทัศน์ด่วน
ใบหน้าของผู้ประกาศข่าวอธิน เพื่อนในกลุ่มของพิสชาดูเศร้าสร้อย “และข่าวที่น่าสลดของเย็นเมื่อวานนี้นะครับ คุณธีรดนย์ เลิศวินิจประภากร ทายาทเพียงคนเดียวของคุณทรงชัย และคุณนาถนพิน เลิศวินิจประภากร เสียชีวิตระหว่างเดินทางด้วยรถยนต์”
กลีบบัวที่ยืนถือรีโมตโทรทัศน์ถึงกับเข่าอ่อน ทรุดลงไปนั่งบนพื้น แต่ไม่อาจละสายตาจากใบหน้าของอธินได้
“คุณธีรดนย์เพิ่งกลับจากฮันนีมูน และมีธุระติดต่อกับลูกค้าต่อ จึงให้ภรรยาคือคุณพิสชา เลิศวินิจประภากร เดินทางเข้าตัวเมืองไปก่อน ส่วนตัวเองใช้รถอีกคันที่เตรียมไว้เพื่อไปติดต่อลูกค้า แต่รถกลับเสียหลัก พุ่งตกหน้าผา และได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตในทันทีครับ”
เธอได้ยินอะไรผ่านๆ ทำนองว่าถนนเส้นที่ธีรดนย์ขับฝั่งหนึ่งเป็นหน้าผา และเคยเกิดอุบัติเหตุบ่อย โชคร้ายที่ไม่มีกล้องตรวจดูการจราจรในบริเวณดังกล่าว ทำได้เพียงสันนิษฐานจากหลักฐานแวดล้อมว่าเป็นอุบัติเหตุ ทางตำรวจกำลังกู้ซากรถมาตรวจสอบ แต่กลับไม่มีเนื้อหาข่าวใดๆ เข้าหัว ประโยคเดียวที่สะท้อนกลับไปกลับมาคือคำว่า ‘และได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตในทันที’
เสียชีวิต
ตาย
ธีรดนย์ตายแล้ว
พี่ธีร์จากไปแล้ว
ผู้ประกาศข่าวสาวที่ทำงานร่วมกับอธินรายงานข่าวต่อไป แต่กลีบบัวยังคงจ้องหน้าจอโทรทัศน์นิ่ง เธอภาวนาให้ตัวเองหูฝาด ฝันร้าย หรืออะไรก็ได้ แต่ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน หญิงสาวก็ไม่ตื่นจากฝันนี้เสียที
งานศพของธีรดนย์จัดอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจพันล้าน กลีบบัวสวมชุดกระโปรงสีดำ นั่งสงบนิ่งราวตุ๊กตาไขลาน หญิงสาวรู้สึกราวตัวเองยังคงติดอยู่ในฝันร้าย เธอและธีรดนย์ยังเที่ยวทะเลด้วยกันอยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับไม่อยู่แล้ว
กลีบบัวลอบมองแดนไทในชุดสีดำ ชายหนุ่มมากับย่าฤดีและแพทย์หญิงดาริกา หลังพาคุณย่าและพี่สาวไปนั่งโต๊ะเดียวกับมุกตาภา ตัวเขา อธิน และชินดนัยก็ช่วยกันต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน แดนไทหันมาสบตาเธอ สีหน้ากังวล กลีบบัวยิ้มให้ บอกให้รู้ว่าเธอไม่เป็นไร
แค่สบสายตาห่วงใยของชายหนุ่ม เธอก็รู้สึกราวสามารถข้ามผ่านได้ทุกอย่าง
นาถนพินเสียศูนย์อย่างแท้จริง หญิงสูงวัยร้องไห้คร่ำครวญจนสาวใช้คนสนิทต้องพาไปสงบสติอารมณ์ เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่าคนที่คุมสติและทำหน้าที่แม่งานคือบงกช แม่ของพิสชาที่เป็นเพื่อนสนิทของนาถนพินนั่นเอง
หลังแขกเริ่มซา กลีบบัวตามหาแม่สามี เธอและนาถนพินต่างสูญเสียคนสำคัญด้วยกันทั้งคู่ สำหรับกลีบบัว แม้จะเลิกกับธีรดนย์แล้ว แต่เขาก็ยังเป็นคนสำคัญสำหรับเธอเสมอ ส่วนแม่สามีเองก็ต้องสูญเสียลูกชายที่เป็นดังแก้วตาดวงใจ
กลีบบัวพบนาถนพินนั่งเหม่อริมศาลาวัด ใต้ต้นไม้ใหญ่ หญิงสาวเดินไปหยุดข้างๆ “คุณแม่คะ…”
“ทำไม” นาถนพินมองเธอ สีหน้าซีดเซียว “รถคันที่ตกหน้าผา จริงๆ แล้วเธอต้องเป็นคนนั่งมา แล้วทำไมต้องสลับรถกันด้วย”
“อะไรนะคะ” กลีบบัวตะลึง
“เขาตายเพราะเธอ ตาธีร์ตายเพราะเธอ!” แม่สามีเขย่าตัวกลีบบัวทั้งน้ำตา
“คุณแม่ใจเย็นก่อนนะคะ” กลีบบัวพยายามตั้งสติ “บอกพิสชาอีกทีสิคะ รถที่นั่งสลับคันกันเหรอคะ” เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุย้อนกลับมา ธีรดนย์ขอสลับรถกับเธอ หมายความว่าเขาเอะใจอะไรหรือเปล่า เขาขับรถคันนั้นไปโดยรู้ทั้งรู้ว่ารถมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ
“แต่ในรายงานข่าวบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ”
นาถนพินหัวเราะสลับร้องไห้คนเสียสติ “ผลการตรวจสอบบอกว่าสายเบรกของรถที่เธอควรจะนั่งมันเสีย ตอนนั้นฉันควรทำทุกอย่างเพื่อบังคับให้ตาธีร์ไม่ขับรถคันนั้น แล้วสุดท้ายเขากลับต้องมาตาย”
“เบรกเสีย” หญิงสาวทวนคำ
“ใช่ ผลตรวจสอบรถยนต์เพิ่งออก รถคันที่ตาธีร์สลับกับเธอมีปัญหา” แม่สามีมองเธอด้วยสายตากล่าวโทษ “แล้วทำไม! ทำไมตาธีร์ต้องมาตายแทนผู้หญิงป่วยทางจิตอย่างเธอด้วย!”
กลีบบัวตะลึง “ป่วยทางจิตเหรอคะ”
“คิดว่าฉันดูไม่ออกเหรอ คิดว่าตัวเองปกปิดตัวตนแนบเนียนนักอย่างนั้นละสิ” แม่สามีหัวเราะเหมือนคนเสียสติ “ฉันสืบประวัติเธอทุกอย่างนั่นแหละ ก่อนจะให้เธอแต่งงานกับตาธีร์น่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติของตระกูลเธอละก็ ฉันไม่ยอมให้ตาธีร์ต้องดองกับคนอย่างเธอหรอก”
“คุณแม่แอบสะกดรอยตามพิสชาเหรอคะ” หญิงสาวตะลึง
“ใช่ เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่สติแตก และทำตัวขายขี้หน้าตระกูลของฉันไง” นาถนพินขำขื่น “แต่ใครจะคิดว่าฉันต้องเสียลูกชายไปเพราะนังโรคจิตอย่างเธอ!”
ไม่พูดเปล่า แม่สามีพุ่งตัวมาหากลีบบัวด้วยท่าทางเหมือนคนเสียสติ กลีบบัวพยายามหนี แต่ไม่สามารถหลุดจากแรงบีบรอบคอ ราวตั้งใจจะฆ่ากลีบบัวให้ตายตามธีดนย์ไป
“ป้านาถ หยุดนะครับ ป้านาถ ผมบอกให้หยุดไง” แดนไทที่ตามมารีบถลันมาแยกนาถนพินจากกลีบบัว อธิน และชินดนัยก็มาตามมาด้วย อธินจับแขนนาถนพินไว้ ส่วนแดนไทรีบมาประคองกลีบบัวที่ไอไม่หยุด
“บัวเป็นไงบ้าง”
กลีบบัวส่ายหน้า เธอยังช็อกกับสิ่งที่ได้รับรู้จนสับสน หญิงสาวยื่นมือออกไปหาแดนไทราวจะหาที่พึ่ง ชายหนุ่มบีบมือเธอตอบ
“แดน พี่ธีร์ตายแทนเรา” กลีบบัวพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
ประตูห้องพักคนไข้เปิดผาง กฤตและรุจิดาแทบจะวิ่งแข่งกันเข้ามาในห้อง กลีบบัวในชุดผู้ป่วยถึงกับสะดุ้งกับความเร่งรีบของคนทั้งสอง
“บัว ฉันได้ยินมาว่าแม่สามีทำร้ายแกเหรอ เจ็บตรงไหนไหม” รุจิดาจับแขนกลีบบัวยกตรวจสอบไปมาด้วยท่าทางตกใจ
“ฉันไม่เป็นไร จริงๆ แล้วฉันสบายดีมากๆ แดนน่ะแหละ บังคับให้ฉันมาตรวจร่างกายอย่างละเอียดและนอนโรงพยาบาล”
“แล้วคุณแดนไทอยู่ไหน ทำไมปล่อยแกไว้คนเดียว ถ้ามีใครมาทำร้ายแกล่ะ”
“แดนออกไปจัดการเรื่องยาและค่ารักษาพยาบาลน่ะ” กลีบบัวตอบ
“เสียใจด้วยนะบัว เรื่องธีร์ ยังไงก็คนเคยรู้จักกัน” กฤตพูดเสียงเศร้า
“แกดูโทรทัศน์หรือยังบัว ข่าวออกทุกช่องเลยนะ” รุจิดาถาม
“ข่าว…ข่าวอะไรเหรอ”
“เรื่องนายพีระกับนายพุฒิเมธไง” ไม่พูดเปล่า รุจิดาหยิบรีโมตมากดเปิดโทรทัศน์ ผู้ประกาศข่าวกำลังรายงานการจับกุมตัวนายพีระและนายพุฒิเมธ ผู้ต้องหาคดีลอบสังหารธีรดนย์
“จากเบาะแสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบ นายพุฒิเมธหลงรักคุณพิสชา ภรรยาของนายธีรดนย์ ผู้ตาย และเกิดความหึงหวง ไม่พอใจ เขาจ้างวานนายพีระ ญาติห่างๆ ให้ลอบสังหารคุณพิสชาหลายครั้งด้วยความแค้น และครั้งล่าสุด ผู้รับเคราะห์คือคุณธีรดนย์ ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเสียหลักตกผา เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดจากภาพในกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถ คนที่แอบไปตัดสายเบรกรถคือนายพีระค่ะ”
มีภาพจากการทีมข่าว รายงานการบุกค้นห้องของนายพีระ มีภาพเบลอของชายหนุ่มในสภาพร่างไร้วิญญาณ พันผ้าห่อศพบนเปลสนามที่เจ้าหน้าที่กำลังหามออกไป
“จากการบุกค้นห้องของนายพีระ พบว่าเขาชิงผูกคอตายไปก่อนแล้วค่ะ ตอนนี้ทางตำรวจจึงเร่งรุดไปจับตัวนายพุฒิเมธ ที่คาดว่าอาจจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว จากหลักฐานว่านายพุฒิเมธมีการติดต่อทำพาสปอร์ตปลอมและวีซ่าปลอมค่ะ”
กลีบบัวมองภาพจากทีมข่าวถ่ายภาพห้องของพุฒิเมธ บนผนังห้องมีภาพพิสชาในหลายๆ อิริยาบถ เธอเพิ่งรู้ในตอนนี้เองว่าแววตาไม่พอใจเวลาพุฒิเมธมองเธอ คือความหึงหวงผสมกับความแค้นที่รักไม่สมหวัง
“แน่ใจนะว่าจะไม่ให้เรานอนเฝ้าด้วย” แดนไทถามย้ำตอนพากลีบบัวมาส่งบ้านรุจิดา
“เราอยู่กับรุ้งได้สบายมาก” เธอพูด “แดนกลับบ้านได้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
“จะไม่ให้ห่วงได้ไง”
“หวานกันเสร็จก็ตามไปนะบัว ฉันง่วงแล้ว” รุจิดาแกล้งทำท่าหาวจนกลีบบัวเขิน
แดนไทหัวเราะ หันมามองเธอ “ถ้ามีอะไรแปลกๆ โทรมานะ”
กลีบบัวพยักหน้า มองแดนไทเดินออกไป
อันที่จริง กลีบบัวกลัวมาก ทั้งเรื่องที่แม่สามีสะกดรอยตาม แถมยังคลุ้มคลั่งบีบคอเธอ ไหนจะเรื่องที่พุฒิเมธแอบถ่ายภาพเธอติดไว้เต็มห้อง รวมทั้งเรื่องที่ธีรดนย์ต้องมารับเคราะห์แทนเธอ รวมทั้งเรื่องปมในใจที่ทำให้บุคลิกของพิสชาแตกเป็นเสี่ยงๆ ทุกอย่างประเดประดังจนกลีบบัวต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ
“แกไหวไหม บัว” รุจิดาแตะบ่าเธอ กลีบบัวหันไปยิ้มให้เพื่อนรัก
พ่อแม่ของรุจิดาไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด ทำให้ที่บ้านมีเพียงเธอและรุจิดา กฤตอาสามาอยู่ด้วย แต่ย่าจงกลไม่สบาย หญิงสาวจึงไล่พี่ชายให้กลับไปดูแลย่า พร้อมรับคำมั่นเหมาะว่าจะล็อกประตูบ้านอย่างแน่นหนา และไม่เปิดประตูรับคนแปลกหน้าเด็ดขาด
หลังอาบน้ำ แต่งตัว สวมชุดนอนลายโดราเอมอนที่เธอเอามาทิ้งไว้บ้านเพื่อนรัก เผื่อเวลาแวะมานอนที่บ้านรุจิดา กลีบบัวรู้สึกสดชื่นและสบายใจขึ้น
หญิงสาวนั่งเล่นในห้องนอน มองภาพสะท้อนของพิสชาในกระจกเครื่องแป้ง พิสชาช่างสวยและบอบบางเสียจนกลีบบัวเจ็บปวดกับเรื่องที่อีกฝ่ายต้องเจอ
ระหว่างคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น กลีบบัวรับสาย
“คุณรัดเกล้า ผมเองนะ พุฒิเมธ”
“ใครนะคะ” กลีบบัวชะงัก
ปลายสายเงียบไป ก่อนกล่าวอย่างชั่งใจ “นั่นใคร ให้คุณรัดเกล้ามาคุยได้ไหม หรือว่า…นล นั่นนายเหรอที่รัก”
หญิงสาวตะลึง “คุณเมธไม่ได้ชอบพิสชาแบบที่ออกข่าวเหรอคะ”
“คนที่ผมรักคือนล” พุฒิเมธบอก
“แปลว่าที่ในข่าวบอก…”
“รูปพวกนั้นเป็นรูปตอนที่นลออกมา” พุฒิเมธตอบ “ผมถ่ายแค่รูปคนรักของผม”
กลีบบัวไม่รู้จะตกใจกับเรื่องไหนก่อนกัน ใครบางคนใส่ร้ายพุฒิเมธ หรือเรื่องที่พุฒิเมธคบกับนล แววตาไม่พอใจที่เขามองเธอและธีรดนย์คือความไม่พอใจ ที่เห็นคนที่หน้าเหมือนคนรักอยู่กับผู้ชายคนอื่นอย่างนั้นหรือ
“รัดเกล้าให้คุณทำอะไรคะ” กลีบบัวถาม
พุฒิเมธชั่งใจอย่างหนักว่าจะไว้ใจเธอได้มากน้อยแค่ไหน
“คุณรัดเกล้าให้ผมคุมนิทรรศการศิลปะ เพื่อจัดแสดงภาพจากสมุดวาดเขียน”
“สมุดวาดเขียนเหรอ” กลีบบัวทวนคำ จะว่าไป รัดเกล้าเคยบอกกลีบบัวว่าเจ้าหล่อนมีหลักประกันบางอย่าง หรือหลักประกันที่ว่าจะเป็นสมุดวาดเขียน
“คุณรัดเกล้าให้ผมปล่อยข่าวเรื่องนิทรรศการกับคุณนาถนพิน” พุฒิเมธพูด “แต่ไม่ให้ภาพวาดรั่วไหลเด็ดขาด”
“สมุดวาดเขียนอยู่ไหนคะ” สมุดที่ว่าคงเป็นสมุดวาดภาพของยาหยี เด็กหญิงอาจไปเห็นอะไรบางอย่างเข้า อย่างเช่นความลับที่ใครสักคนต้องการปกปิด แล้ววาดมันออกมาโดยไม่รู้ว่าคืออะไร รัดเกล้าที่เห็นเข้าจึงเอาสมุดไปซ่อนเพื่อใช้ต่อรองอะไรบางอย่าง
ต่อรองอะไร ต่อรองกับใคร ใครกันที่มีอำนาจมากพอจนรัดเกล้าอยากแบล็กเมล์
“คุณบอกว่ารัดเกล้าบอกให้ปล่อยข่าวให้คุณนาถนพิน” เธอถาม
“ใช่” พุฒิเมธตอบ “เธอบอกว่ามีคนจ้องจะทำร้ายนล ผมต้องช่วยเธอเพื่อให้นลปลอดภัย”
“คุณรู้เรื่อง…”
“โรคหลายบุคลิก…ใช่ ผมเคยเจอคุณรัดเกล้า และนล” เลขาฯ ของธีรดนย์ตอบ “บรรยากาศของทั้งสองคนต่างกัน แค่เห็นก็รับรู้ได้ว่าใครเป็นใคร นลไม่ค่อยปรากฏตัวบ่อย แต่ผมรู้เสมอเวลาเขาออกมา”
กลีบบัวครุ่นคิด “คุณเมธเห็นข่าวพีระหรือยังคะ” เธอถาม “คุณพอจะรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วใครจ้างให้เขามาทำร้ายพิสชา”
“ผมไม่รู้หรอก” พุฒิเมธตอบ น้ำเสียงติดจะหวาดกลัวเมื่อนึกถึงการตายของญาติตัวเอง “ผมรู้แค่ว่านั่นน่ะเป็นการจัดฉาก พีระอยากหาเงินเยอะๆ ไปรักษาแม่ที่ตาบอด ไม่มีทางฆ่าตัวตายแน่ๆ”
“บอกฉันมาให้หมดค่ะ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับพีระบ้าง คุณเกี่ยวข้องกับญาติห่างๆ ของตัวเองมากน้อยแค่ไหน”
“ให้ตายเถอะ ผมรักนล ผมไม่มีวันทำร้ายเขา!” พุฒิเมธตอบ “ผมแค่ฝากงานพีระให้คุณนาถนพิน แม่ของคุณธีร์ก็เท่านั้น”
“คุณนาถนพิน” หญิงสาวใจหายวาบ หรือว่าแม่สามีของเธอจะอยู่เบื้องหลังการลอบทำร้ายพิสชาทั้งหมด สาเหตุที่นาถนพินรู้ว่าเบรกรถคันที่ธีรดนย์ขับมีปัญหา เพราะเจ้าตัวเป็นคนสั่งให้พีระไปตัดสายเบรกหรือเปล่า
คำพูดของนางนาถนพินในงานศพทำให้กลีบบัวฉุกคิด แม่สามีพูดว่าอะไรแล้วนะ
‘ผลการตรวจสอบบอกว่าสายเบรกของรถที่เธอควรจะนั่งมันเสีย ตอนนั้นฉันควรทำทุกอย่างเพื่อบังคับให้ตาธีร์ไม่ขับรถคันนั้น แล้วสุดท้ายเขากลับต้องมาตาย’
จริงสิ อีกฝ่ายรู้ว่าจริงๆ แล้วคนที่จะต้องนั่งรถคนนั้นแต่แรกคือเธอ ไม่ใช่ธีรดนย์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะมีแต่คนจ้างวานเท่านั้นที่รู้
แต่ประโยคต่อมาที่บอกว่า ‘ตอนนั้นฉันควรทำทุกอย่างเพื่อบังคับให้ตาธีร์ไม่ขับรถคันนั้น’ กลับขัดแย้งกัน ถ้านางนาถนพินเป็นคนสั่งให้พีระไปตัดสายเบรก ก็ต้องห้ามธีรดนย์ทุกวิถีทาง แม้กระทั่งจับตัวเขาไว้เพื่อไม่ให้ขับรถออกไป
มีอะไรบางอย่างขัดแย้งกัน จนกลีบบัวไม่อาจตัดสินใจได้ว่านางนาถนพินอยู่เบื้องหลังทุกอย่างจริงๆ หรือมีเอี่ยวกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
“รายต่อไปอาจจะเป็นคุณนะคะ” กลีบบัวพูด “คุณเมธ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ซ่อนตัวไว้นะคะ ฉันจะช่วยคิดหาวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณ”
“ระวังตัวนะครับ” เลขาฯ ของธีรดนย์กล่าว “ฝากดูแลนลด้วย”
กลีบบัวยิ้ม ดีใจที่มีคนเป็นห่วงนลจากใจจริง แล้วกดวางสาย
เธอตั้งใจจะเรียกรุจิดา ระหว่างนั้นก็วิดีโอคอลหาแดนไทและกฤต ทั้งเรื่องคำพูดแปลกๆ ของแม่สามี รวมทั้งเรื่องที่พุฒิเมธเป็นผู้บริสุทธิ์ ถ้าช่วยกันคิด น่าจะช่วยให้เห็นอะไรบางอย่างแหลมคมขึ้น
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงกริ่งหน้าบ้านดังสนั่นจนกลีบบัวสะดุ้ง
“ใครมากดกริ่งนะ” รุจิดาเพิ่งออกจากห้องน้ำ สวมเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น มีผ้าผืนเล็กโพกผมไว้เพื่อหมักผม
กลีบบัวรู้สึกแปลกๆ ตอนนี้ดึกมากแล้ว แต่กลับมีใครบางคนมากดกริ่งประตูถี่รัวราวกำลังร้อนใจ แต่ถ้าเป็นคนที่พวกเธอรู้จัก ทำไมไม่โทร.หาก่อน
“แกรออยู่ในห้องนี่แหละ ฉันออกไปดูเดี๋ยวเดียว”
ในตอนที่กำลังจะห้าม รุจิดาก็เดินออกจากห้องนอนแล้ว
เสียงกริ่งเงียบไป
ความเงียบยาวนานปรากฏตัว นานเสียจนผิดปกติ
กลีบบัวเปิดผ้าม่าน มองไปยังประตูรั้วหน้าบ้าน แต่ก็ไม่เห็นอะไร ประตูรั้วปิด ไม่มีวี่แววของรุจิดา
“หรือว่ามีคนมาป่วน แล้วยัยรุ้งเข้าบ้านมาแล้ว” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มากดวางสายวิดีโอคอล เตรียมกดโทร.ไปถามรุจิดา พอกำลังจะโทร.ออก ก็หันไปเห็นโทรศัพท์ของเพื่อนรักวางไว้บนเตียงนอน
เธอใจคอไม่ดี เตรียมจะออกไปดูว่ารุจิดาเข้าบ้านมาแล้วหรือยัง และกำลังทำอะไรอยู่ บ้านของเพื่อนรักเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่น่าใช้เวลานานขนาดนี้เพื่อกลับเข้าห้อง
พอเปิดประตูห้องนอน กลีบบัวกลับพบนางบงกช แม่ของพิสชายืนอยู่ ในมือถือมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด!
“คุณแม่ นี่มันอะไรกันคะ” หญิงสาวไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อน ระหว่างจู่ๆ แม่ของพิสชามโผล่ที่นี่ หรือเรื่องสีหน้าคลุ้มคลั่งของนางบงกช เธอมองมีดปลายแหลม แล้วไล่สายตาไปยังประตูที่เปิดกว้าง รุจิดานอนหายใจรวยรินตรงชุดโซฟารับแขก
“รุ้ง” กลีบบัวตกตะลึง “ไม่นะ รุ้ง!”
“ตายยากตายเย็นเสียจริง ดูท่าฉันคงต้องลงมือเองเสียแล้ว” ไม่พูดเปล่า บงกชถลันมาหากลีบบัว แทงมีดใส่อากาศด้วยท่าทางคลุ้มคลั่ง กลีบบัวก้มตัวหลบ แต่กลับสะดุดขาตัวเองจนกลิ้งโค่โล่ลงไปนอนกองบนพื้น
บงกชไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือ หญิงสูงวัยก้าวเท้าพรวดมาหาเธอ ปักมีดเล่มที่แทงรุจิดา เข้าใส่กลีบบัวที่เพิ่งตะเกียกตะกายลุกขึ้นนั่ง หมายจะแทงท้องกลีบบัว แต่หญิงสาวเบี่ยงตัวหลบจนพลาดไปโดนแขน
เธอล้มลงไปนอนบนพื้นอีกรอบ บงกชตามมาคร่อมเหนือตัวหญิงสาว จ้วงมีดลงมา สีหน้ามุ่งหมายเอาชีวิต!
กลีบบัวพยายามใช้แรงยันข้อมือของอีกฝ่ายไว้ ภาวนาให้บุคลิกนลที่ต่อสู้เก่งโผล่มาช่วย แต่ก็ไม่มีสัญญาณจากเด็กหนุ่มเลย อันที่จริง หลังจากไปบ้านพักตากอากาศของพิสชา และเข้าไปในห้องนอนของพนัช ก็ไม่มีบุคลิกไหนออกมา ราวกับโลกภายนอกทรมานเกินไป
“ทำไม” กลีบบัวไม่เข้าใจ ถึงจะเฉยชาต่อกันอย่างไร แต่พิสชาก็คือลูก ทำไมบงกชจึงพยายามทำร้ายลูกสาวคนเดียวของตัวเองเช่นนี้
“เพราะแกมันตัวซวยไง นังพิสชา แกหาว่าพนัช ลูกชายสุดที่รักของฉันข่มขืนแก จนพนัชเครียด ออกไปดื่มเหล้า จนเกิดอุบัติเหตุ ไหนจะเรื่องนิทรรศการห่าเหวอะไรนั่นอีก”
“นิทรรศการ” กลีบบัวทวนคำ เธอเริ่มปวดแผลที่ถูกแทงจนจะต้านแรงของบงกชไม่ไหว
“ก็นิทรรศการที่แกจะจัดแสดงภาพเขียนของนังเด็กยาหยีไง!” บงกชกระชากเสียง แววตาคลุ้มคลั่งราวคนวิกลจริต “อียาหยีมันประสาทกลับ วาดทุกอย่างที่เห็น แล้วเสือกมาเห็นฉันกับนาถกำลังพลอดรักกัน แล้วแก…แกมันนังงูพิษ คิดจะแบล็กเมล์นาถของฉัน ปล่อยแกไว้ก็มีแต่เรื่อง ฉันน่าจะฆ่าแกให้ตายคามือ ตั้งแต่วันที่แกปากเสีย โกหกว่าพนัชข่มขืนแกแล้ว!”
กลีบบัวมองแม่แท้ๆ ของพิสชาตาค้าง “คุณรู้มาตลอดว่าพิสชาป่วยเป็นโรคหลายบุคลิก!”
“ใช่ ฉันรู้ แล้วจะทำไม”
“แต่คุณก็ยังปล่อยให้ใจของพิสชาแตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นยาหยี นล รัดเกล้า แล้วก็ไปรยาได้ลงคองั้นเหรอ” กลีบบัวร้องไห้ให้กับพิสชา เธอรู้แล้วว่าทำไมตอนที่สัมผัสถึงพิสชา จึงรู้สึกถึงความเศร้ามหาศาลท่วมท้น
“ลูกของฉันมีแค่พนัชคนเดียว แกมันเด็กปีศาจที่ทำให้ลูกชายฉันต้องตาย” บงกชตวาดจนน้ำลายกระเด็นเป็นฝอย “แถมแกยังฆ่าไม่ตายอย่างกับแมลงสาบ ฉันอุตส่าห์เข้าหาไอ้พีระหน้าเงินที่ทำงานให้นาถ เสนอเงินก้อนโตที่จะช่วยรักษาแม่ของมัน ให้มันเอาถั่วใส่ขนมเค้กให้แก จ้างมันเอามีดไปแทงแกทำทีเป็นแย่งกระเป๋าลักทรัพย์ แต่แม่งเสือกโง่แทงผิดตัว ให้แอบตัดสาบเบรกรถคันที่แกจะนั่งกลับจากฮันนีมูน แกกลับสลับรถกับตาธีร์เสียอีก ทำงานพลาดแล้วพลาดอีก ตายห่าไปให้มันจบๆ นั่นแหละดีแล้ว แกรู้ไหมว่าฉันต้องคิดแผนจนหัวแทบแตกว่าจะโบ้ยความผิดให้ไอ้พุฒิเมธกับไอ้พีระยังไง”
หญิงสาวนึกถึงรายงานข่าวที่บอกว่าพีระฆ่าตัวตาย รวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจค้นเจอในห้องพักของพีระ “การตายของพีระเป็นการจัดฉากเหรอคะ”
“ใช่ ฉันจ้างคนไปฆ่าและเอาหลักฐานปลอมไปวางไว้ห้องมันเอง” นางบงกชยอมรับ “แต่แก ทำไมแกถึงได้ตายยากตายเย็นนักนะ!”
“ใครสั่งให้ใครตัดสายเบรกนะ” น้ำเสียงเยียบเย็นดังมาจากด้านหลัง
บงกชปล่อยมือจากกลีบบัว หันไปมองนาถนพิน “นาถ…ที่รัก…ทำไมเธอถึงมาอยู่นี่ เธอเสียใจเรื่องตาธีร์อยู่นะ เธอควรพักผ่อน”
“มึงสินะที่ฆ่าลูกกู!” นาถนพินพุ่งปราดมาหาบงกช บีบคอแม่ของพิสชาแน่น บงกชปัดป่ายมือไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือ
“นาถ ปล่อยฉันก่อน ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
“ลูกมึงจะเป็นโรคจิตห่าเหวอะไรกูไม่สนหรอกนะ ตราบใดที่มันยังไม่สร้างเรื่องให้ตระกูลกูเสื่อมเสีย มันก็ยังเป็นประโยชน์ในแง่ธุรกิจ แต่กลับมีแต่เรื่องแปลกๆ รอบตัวมัน ทั้งเรื่องถั่วในงานเลี้ยง ไหนจะเรื่องที่มีคนพยายามแทงมันแต่แทงผิดตัว” นาถนพินพ่นคำพูด “กูลองสืบดูจนรู้ว่าไอ้พีระ คนของกูเป็นคนทำ เลยพยายามสืบว่ามันจะทำไปทำไม คนอย่างมันจะมาลอบฆ่าพิสชาทำไม จนกูรู้ว่ามีใครบางคนจ้างให้มันทำ”
“นาถ ที่รัก ฉันไม่ได้ตั้งใจทำอะไรลับหลังเธอเลยนะ” บงกชวิงวอนขอความเมตตา
“นักสืบที่กูสั่งให้คอยติดตามนังพิสชารายงานมาว่าเจอไอ้พีระที่ตัวจังหวัด หลังลูกกูเดินทางไปทริปฮันนีมูนแค่หนึ่งวัน พอพุฒิเมธ เลขาฯ ธีร์รายงานกูว่ามีลูกค้านัดคุยงานกับลูกกูกะทันหัน แล้วตาธีร์บอกให้จัดรถยนต์สองคัน กูถึงเอะใจว่ามันมีอะไรแปลกๆ แล้วรถก็โดนตัดสายเบรกจริงๆ เพราะมึง อีบงกช เพราะมึง ลูกกูถึงต้องตาย”
“ที่รัก ฉันแค่อยากฆ่านังพิสชา ตั้งแต่เธอได้ข่าวว่ามันจะจัดนิทรรศการจากสมุดภาพของอียาหยี เธอก็กังวลว่าในนั้นจะมีความลับของพวกเราหรือเปล่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายตาธีร์แม้แต่ปลายก้อยเลยนะ ฉันรักเธอนะ นาถ”
มือนาถนพินบีบคอบงกชแรงขึ้น “แต่ลูกกูตายแล้ว ได้ยินไหม ตาธีร์ตายแล้ว!”
กลีบบัวพยายามยันตัวลุกไปช่วยแยกบงกชและนาถนพิน แต่เธอปวดแผลและหมดแรงเหลือเกิน ก่อนจะหลับไปด้วยพิษแผลถูกแทง หญิงสาวเห็นแดนไทวิ่งเข้ามาในห้อง
- READ อาคันตุกะ บทที่ 14 : ชีวิตหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ (จบบริบูรณ์)
- READ อาคันตุกะ บทที่ 13 : จับกุมตัว
- READ อาคันตุกะ บทที่ 12 : รถยนต์สองคัน
- READ อาคันตุกะ บทที่ 11 : พี่ชาย
- READ อาคันตุกะ บทที่ 10 : ผู้เฝ้าประตู
- READ อาคันตุกะ บทที่ 9 : อัตลักษณ์
- READ อาคันตุกะ บทที่ 8 : ไอหมอก
- READ อาคันตุกะ บทที่ 7 : ผนึกกำลัง
- READ อาคันตุกะ บทที่ 6 : นล
- READ อาคันตุกะ บทที่ 5 : อาคันตุกะ
- READ อาคันตุกะ บทที่ 4 : มีคนจะฆ่าพวกเรา
- READ อาคันตุกะ บทที่ 3 : นกน้อยในกรง
- READ อาคันตุกะ บทที่ 2 : ในภาพฝัน
- READ อาคันตุกะ บทที่ 1 : แม่หนูล่ะ อยากเปลี่ยนอะไรไหม
- READ อาคันตุกะ : บทนำ