ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 35 : ความหลังของกิ่งแก้ว

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 35 : ความหลังของกิ่งแก้ว

โดย : เอมอักษร

Loading

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที

“ปรี!” ประตูห้องเปิดผลัวะเข้ามา พร้อมกับเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขาอย่างกะทันหัน ทำให้มือที่เตรียม จะจ้วงขวดปากฉลามใส่ร่างสาวที่หลับตาปี๋ตรงหน้า กระตุกอย่างตกใจ

หมูยอร้องไห้โฮ อาศัยจังหวะนั้นพุ่งออกจากมุมอับ ตะลีตะลานวิ่งไปหาผู้ที่โผล่เข้ามาช่วยชีวิตเธอโดยบังเอิญ

“ป้าแก๊วว ป้าแก้ว ช่วยหนูด้วย”

“แม่ มาทำไม” ชายหนุ่มอุทาน ก่อนตะโกนก้อง “จับมันไว้แม่ อย่าให้มันหนีไป”

กิ่งแก้วยืนขวางประตูไว้ ขณะที่หมูยอวิ่งมาจับลูกบิด ปรีเมธวิ่งปราดเข้ามากระชากผมหญิงสาวจนผงะหงาย แล้วตบไปมาเต็มแรงจนร่างท้วมลงไปกองกับพื้น

“แม่เฝ้าประตูไว้ อย่าให้ใครหนีออกไปนะ ไม่งั้นก็ตายกันหมดนี่แหละ”

กิ่งแก้วหน้าซีดเผือด กวาดตามองสภาพภายในห้อง แล้วครางอย่างตกตะลึง

“ทำไมสภาพเละเทะอย่างนี้ล่ะ แล้วไอ้ฝรั่งนั่นเป็นใคร คุณหนูเจนอยู่ไหนล่ะปรี”

“อย่าเพิ่งถามได้มั้ย” ชายหนุ่มเข่นเสียงหงุดหงิด “มันผิดแผนไปหมดแล้วน่ะซิ แถมนังหมูยอกับไอ้ฝรั่งนี่มันบอกว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิด มีภาพปรีที่ปีนเข้าบ้านอีก ปล่อยมันไว้ไม่ได้แล้วละแม่”

กิ่งแก้วขมวดคิ้ว “จะมีภาพปรีได้ไง ก็ปรีหลบอยู่ในรถแม่ตลอด ทั้งตอนเข้าตอนออก”

“ปรีออกไปสูบบุหรี่ริมกำแพง ก็เห็นว่าแม่ยกคัตเอาต์สวิตช์กล้องวงจรปิดลงทั้งบ้านแล้วนี่ ไม่คิดว่าไอ้บ้านตรงข้ามมันซ่อนกล้อง” ชายหนุ่มตอบอย่างหงุดหงิด แล้วถามอย่างนึกขึ้นได้ “เออ แล้วแม่มาทำไม”

“ก็ที่บ้านมีเรื่องน่ะซิ” กิ่งแก้วถอนใจยาวเหยียด สีหน้าสลดหมองคล้ำ “คุณเจไปร้องห่มร้องไห้กับคุณรุจี เรื่องอะไรก็ไม่รู้ แม่แอบฟังอยู่แต่ก็ได้ยินไม่ถนัด ได้ยินเสียงคุณรุจีร้องตกอกตกใจ แม่กลัวว่า…จะเป็นเรื่องคลิป” หญิงแม่บ้านเอื้อมมือไปเขย่าแขนลูกชาย “แม่ว่าเราอยู่ไม่ได้แล้ว รีบหนีกันเลยเถอะปรี”

“อะไรวะ” ปรีเมธร้องอย่างโกรธจัด “แล้วยังงี้นังเจจะยอมให้เงินไหม ถ้าไม่มีเงิน เราจะไปไหนรอดล่ะ เออ หรือมันไปร้องไห้ขอเงินแม่”

กิ่งแก้วส่ายหน้า “แม่ก็ไม่รู้ แต่เรื่องมันชักไม่เข้าท่า ถ้ามันไปฟ้องตำรวจ เราก็จบเห่”

“โธ่เว้ย ทำไมถึงซวยยังงี้วะ มีแต่เรื่อง” ชายหนุ่มเดินงุ่นง่านไปรอบห้อง สีหน้าเคร่งเครียดจนผู้เป็นแม่มองขยาด

เจิดจันทร์เขม้นมองไปที่ด้านหลังของแม่บ้าน เห็นเงาวับแวมของร่างจางเกือบโปร่งใสที่คุ้นตา ค่อยๆ เดินเข้ามาในห้อง

“ปู่” หญิงสาวร้องวี้ด โผเข้าไปหาชายชรา ขณะที่ปู่ไกรมีสีหน้าอิ่มเอิมยิ่งกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น “ปู่ ปู่ทำสำเร็จใช่ไหมคะ”

ปู่ไกรพยักหน้า “ปู่ทำสมาธิเกือบตาย ต้องต่อสู้กับอีกโลกหนึ่งที่คอยดึงปู่กลับไป ปู่รู้สึกเหมือนถูกผ่าร่างออกยังไงยังงั้นเลย” ปู่ไกรเล่า “แต่ปู่ไม่สนความเจ็บละ คิดอย่างเดียวขอให้ช่วยยัยเจได้ ในที่สุด ยัยเจก็ได้ยินปู่จริงๆ ตอนแรกมันก็กลัวหรอกนะ นึกว่าตัวเองเครียดจนเพี้ยน ปู่ต้องค่อยๆ ปลอบ และบอกว่ามันจะยอมทำลายชีวิตของตัวเองเพื่อไอ้คนเลวบัดซบคนหนึ่งทำไม แถมพอตายไป อาจไม่มีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ ที่มีบุญ ทั้งสวยรวยเก่งอย่างชาตินี้ด้วยซ้ำ อาจกลายเป็นหมูหมากาไก่ หรือเปรตอสุรกายในนรกก็ได้ ปู่น่ะเคยเห็นมาหมดแล้ว” ปู่เล่ายืดยาวกว่าทุกครั้ง สีหน้าปลื้มเปรมสุดขีด “ที่สำคัญ เจตายไปคนหนึ่ง พ่อแม่คงเสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เผลอๆ อาจตายตามเจไปทั้งคู่ก็ได้ แต่ถ้าเจไปบอกพ่อแม่ แล้วไปแจ้งตำรวจ เจก็จะแก้ปัญหาได้ แถมยังได้อยู่กับคนที่รักเจไปอีกตลอดชีวิต”

“โอ๊ย สาธุ” เจิดจันทร์คราง โล่งอกจนน้ำตาซึม

“ทีนี้นังกิ่งแก้วมันแอบฟังอยู่ มันเลยไปเก็บทองหยองที่ห้องแล้วเผ่นมาหาลูกชายมันนี่แหละ ปู่เลยเพ่งสมาธิตามมันมาด้วย แล้วก็ออกมาจากบ้านได้จริงๆ ดีใจแทบตาย เพราะปู่อยากมาช่วยเจิด”

“โอ๊ย ปู่ขา เจิดดีใจที่สุด” หญิงสาวชี้มือไปที่ห้องนอน “หนูเจนนอนสลบอยู่ในนั้นค่ะ มันคงเอายานอนหลับให้กิน แต่ตอนนี้คนอื่นทำท่าจะขิตกันหมดแล้วค่ะ ทั้งหมูยอทั้งฝรั่ง ไอ้ปรีมันคลั่ง เมื่อกี้ถ้าป้าแก้วไม่โผล่มาซะก่อน มันก็แทงหมูยอแล้ว”

ปู่ไกรเหลียวไปมองคนต้นเหตุอย่างตกใจ ก็พบว่าชายหนุ่มกำลังระบายอารมณ์ใส่ผู้เป็นแม่ไม่ยั้ง

“อย่า อย่ามาพูดว่าทำดีที่สุดแล้ว ถ้าทำดีแล้วจะเป็นงี้ได้ไง ก็เพราะแม่มันห่วย เรื่องทุกอย่างมันเกิดเพราะแม่คนเดียว”

“แม่พยายามแล้วนะปรี” หญิงแม่บ้านร้องไห้โฮ

“แม่ ทำไมวันนั้นแม่ทำไม่สำเร็จ” ปรีเมธพูดอย่างขมขื่น “ถ้าฉันได้เป็นลูกเขาจริงๆ ชีวิตฉันคงไม่เป็นอย่างนี้ ฉันคงได้อยู่ในบ้านใหญ่หลังนั้น ได้เรียนเมืองนอก ได้ทำงานดีๆ มีชีวิตสุขสบายไปแล้ว”

กิ่งแก้วสะอื้น ส่ายหน้าไปมาอย่างระทดท้อ “ปรี คุณภูมิเขาผ่านผู้หญิงมาเยอะ เขาไม่ได้ถูกหลอกง่ายๆ”

ปู่ไกรหันขวับมองหน้าเจิดจันทร์ แววตาระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งที่อุ้มชูแม่บ้านในฐานะสะใภ้ลับขึ้นมาทันที ก่อนสาวเท้าไปใกล้เพื่อตั้งใจฟัง

“แม่หลอกใส่ยานอนหลับในเหล้าให้เขากินได้ แต่เขาก็คงรู้ตัวว่าไม่ได้ทำอะไรแม่ ถึงแม่จะถ่ายรูปตอนอยู่บนเตียงด้วยกันก็เถอะ”

“แต่แม่เล่าว่า ปู่เตรียมจะซื้อบ้านให้เราอยู่แล้ว พ่อเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่เห็นคัดค้าน ก็แสดงว่าลึกๆ เขาต้องคิดว่าปรีเป็นลูกบ้างละ” ชายหนุ่มเถียงทันควัน

แววตากิ่งแก้วอ่อนโรย นึกเวทนาลูกชายจับใจ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอไม่ได้โทษลูกชายแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่าเขาเจ็บปวดขมขื่นแค่ไหน ที่ต้องเกิดมาในฐานะลูกชายสาวใช้กับช่างซ่อมรถ จะว่าไปก็เป็นความผิดของเธอเต็มประตู ที่เจ็บปวดและผิดหวังกับเรื่องในอดีตเสียจนเผลอระบายให้เด็กชายตัวน้อยฟังตั้งแต่ยังเล็ก กับ ‘แผนการ’ ที่อีกเพียงก้าวเดียว เธอกับลูกก็จะได้ครอบครองทุกอย่างและสุขสบายไปชั่วชีวิตแล้วแท้ๆ

“ปรีไม่รู้ว่าธาตุแท้คุณภูมิเป็นคนยังไง” กิ่งแก้วอธิบายเสียงสั่นเครือ “ที่เขาไม่คัดค้าน เพราะเขาเห็นประโยชน์ที่คุณไกรจะยกสมบัติให้เขาทั้งหมด และไม่ว่าเขาขออะไรคุณไกรก็ต้องให้ เพราะดีใจที่ได้หลานชาย แต่ถ้าคุณไกรจากไปเมื่อไหร่ แม่รู้เลยว่าคุณภูมิจะไม่มีวันยอมรับ”

“แม่เลยต้องพยายามหาทางขอสมบัติจากคุณไกรไว้ก่อน ใครจะไปนึกว่า แกจะอยากตรวจดีเอ็นเอขึ้นมา ทั้งๆ ที่ดูรักปรีขนาดนั้น” กิ่งแก้วหลับตาอย่างสะเทือนใจ แทบไม่ต้องทบทวนก็จดจำภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ตามหลอกหลอนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันได้แม่นยำ “แม่ไม่ได้ตั้งใจเลย แม่แค่อยากขู่แกเท่านั้น แม่แกล้งหยิกให้ปรีร้องไห้ ไม่ได้บีบคอจริงๆ แต่คุณไกร…”

กิ่งแก้วพึมพำแผ่วเบา “อโหสิให้แก้วด้วยเถอะนะคะคุณท่าน”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอปู่ตาย แล้วแม่กลับไปขอทำงานที่บ้านนั้น เขาก็ยังรับแม่ แสดงว่าเขายังมีเยื่อใยอยู่ ถ้าแม่บอกว่าปรีเป็นลูกจริงๆ เขาก็คงจะเชื่อ…”

กิ่งแก้วมองลูกชายอย่างสงสารสุดหัวใจ ภาพเด็กชายตัวเล็กที่แอบมองบ้านหลังใหญ่อย่างตื่นเต้น แอบมองคุณภาคภูมิจากนอกรั้วอย่างชื่นชม เธอรู้ดีว่า เด็กชายปรีเมธทั้งเกลียดและกลัวบิดาแท้ๆ ที่เป็นช่างซ่อมรถ เพราะเขาขี้เมาและชอบทุบตียามขาดสติ แต่แม้เวลาสร่างเหล้า เขาก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกชายไม่ได้ เขามักอ้างความยากจนที่ทำให้เป็นไป แต่กิ่งแก้วรู้ดีว่าเป็นเพราะกมลสันดานของเขาไม่เอื้อต่อการรักใครมากกว่ารักตัวเอง

ปรีเมธจึงเติบโตมาอย่างตกๆ หล่นๆ แถมยังมีแม่ที่คอยเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟังจนฝังหัว เมื่อเขาเติบโตขึ้นด้วยต้นทุนหน้าตาหล่อเหลา ชายหนุ่มจึงขัดเกลาตนเองจนสามารถยกระดับเข้าไปอยู่ในสังคมชั้นสูงได้ไม่ยาก หากแต่เป้าหมายของปรีเมธกลับไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีหรือแม่ม่ายขี้เหงาที่มีเกลื่อนตามงานเลี้ยง แต่กลับเป็นสามสาวพี่น้องที่เขาฝังหัวว่าเกือบจะได้เกี่ยวดองเป็น “พี่น้องแท้ๆ”

ถ้าเพียงแต่ฉันทำได้สำเร็จ…

 

 



Don`t copy text!