
ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 43 : อยู่ต่อ หรือ…
โดย :
“ขุนเขาแมกไม้” นวนิยายเรื่องเยี่ยมในชุดโหราศาสตร์ ผลงานเรื่องล่าสุดของ ’กฤษณา อโศกสิน‘ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ประจำปีพุทธศักราช 2531 กับเรื่องราวของเดินดงและอิทธิพลของดาวเสาร์ที่มีต่อชีวิตของเขาได้ในอ่านเอา
ดื่มกินด้วยกันพร้อมกับส่งเสียงคุยข้ามไปมาจนต่างฝ่ายต่างก็อ่อนแรงจากการบุกป่าฝ่าดง ทำท่าคออ่อนคอพับจนหมดแรงพูดจา หัวหน้าทัวร์กับลูกน้องมาช่วยกันทยอยเก็บภาชนะไปล้างที่ห้องน้ำ อีกด้านนำเข้าเก็บไว้ในลังกระดาษที่เตรียมมา เพียงพริบตาก็เหลือแต่ความเงียบ เนื่องจากแต่ละคนค่อยๆ คลานเข้าเต็นท์ของตน ไม่กี่นาทีต่อมาก็แน่นิ่งไปในนิทรา
เก่งผู้เดียวไม่พลอยร่วมวงน้ำเมา เนื่องด้วยเกรงนายจ้างจะดื่มเหล้าเบียร์จนหมดสติ เลยรออยู่จนทุกคนคออ่อนคอพับกันถ้วนหน้า เว้นนายหนุ่มของเขาเท่านั้น
ครั้นปิดเต็นท์เรียบร้อยแล้ว แต่เดินดงยังคงพลิกตัวไปมา ถามเบาๆ ว่า
“แกไม่กินเบียร์กะเขาเลยนะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาชัดถ้อย ไม่มีวี่แววแม้แต่น้อยว่าเมาหรือแค่มึน
“ไม่หรอกฮะ..ขืนผมกินอีกคนแล้วพับไป ใครจะเฝ้าพี่ล่ะ”
“เฮ่ย..ทำไมต้องเฝ้า” เขาพึมพำคล้ายปราม หากก็พอใจอยู่ในที “มาแบบนี้ ขืนเมาเละ แกก็ลองนึกดูว่ากูจะทุเรศขนาดไหน”
“ไม่ใช่อะไรหรอกพี่..คือ..”
“คืออะไร” เดินดงวางศีรษะลงบนหมอน ขยับแจ๊กเกตกันหนาวให้กระชับเข้ากับทรวงอก เนื่องด้วยอากาศเริ่มเย็นขึ้นเป็นลำดับ หากก็เย็นอย่างสบาย
“คือผมกลัวว่าพี่จะยังเหนื่อยที่ต้องอุ้มนางเอกเดินตั้งไกล..” เก่งหรี่เสียงแกมหัวเราะอย่างยั่วเย้า ” แต่ก็รู้นะว่า..”
“ว่าอะไรวะ”
“ว้า-า-า พี่คงติดใจอุ้มอีก”
เดินดงอดไม่ไหวก็เลยยื่นมือหงิกๆ ชูใส่พร้อมหัวเราะนิดๆ
“ใคร้จะไม่ติดใจ”
“อะฮ้าพี่” เก่งป้องปาก “อย่าบอกนะว่ากลับไปนี่จะให้คุณพ่อคุณแม่จัดขันหมากมาขอ”
“แกคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยเหรอไอ้บ้า..อย่าลืมว่า เขามีตราจองแขวนโร่อยู่นั่น”
“เธ่อ” เก่งลดเสียงกระซิบ “พนันกันดีก่า”ท่ามกลางความมืดมัวสลัวรางบนฟูกบางที่สบายใช้ได้ เดินดงรู้สึกชัดว่า อย่างน้อยตนเองก็ยังโชคดีที่สวรรค์ส่งคู่คิดผู้ติดตามที่ชื่อสัตย์อย่างเก่งมาให้ ไม่มีสิ่งใดจะเลิศเลอไปกว่าเพื่อนคู่กายที่มีน้ำใจสุจริต
“แกอย่าลืมละกัน ตาโอมันใหญ่คับเมืองละนะ ใหญ่กว่าตาจัง แล้วลูกมันก็ทำท่าจะตายเอานา..ถ้า..ไม่ได้นางในฝันไปนอนด้วย”
เก่งเลยส่งเสียง ฮิฮิ แกมด้วยคำตอบ
“มาพนันกันไงพี่ ถ้าผมชนะ พี่มีของขวัญไหมล่ะ”
แต่ไม่ได้ยินเสียงนายตอบ หากก็เดาได้ว่า น่าจะมียิ้มเจ้าเล่ห์ติดอยู่บนริมฝีปากก่อนจะชวนกันหลับตาวาดภาพวันนี้ไปพลางอย่างฟุ้งฝัน
แต่เช้าวันใหม่ที่คิดว่าคงจะตื่นสายกันเพราะอ่อนเพลีย ก็กลับมิใช่เช่นนั้น
โดยเฉพาะเชียงคำกับเอื้องอินทร์ผู้ต้องกุลีกจอลุกขึ้นแต่ตรู่ไปห้องน้ำ แต่งตัวใหม่ เตรียมไปเอารถที่จอดไว้ ณ กระท่อมของชายหนุ่ม ขับกลับเพชรบุรีรวมทั้งใบจันเองก็หลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนเช่นกัน แต่คนละความหมาย
ด้วยว่าภายในดวงใจส่วนที่ลึกล้ำ ส่วนที่ตนเองไม่เคยกล้ำกรายเข้าไปสัมผัสมิว่าเมื่อไร ดูราวจะขยายใหญ่กว้างขึ้นจนแลเห็นแสงสว่างฉานฉาย เป็นแสงที่ราวกับซ่อนตัวอยู่ตรงไหนไม่ปรากฎ แต่บัดนี้ไฟเพียงดวงเดียวดูสดใหม่ใสจ้า ไม่ต้องเพ่งมองก็แลเห็น
“ที่จริงเรายังไม่อยากกลับเลยนะจัน อยากอยู่ต่อ..เป็นห่วงไง..” เชียงคำบอกขณะนั่งกินขนมปังทาเนยกับกาแฟด้วยกัน มีทั้งเป้ ถุงย่าม ถุงผ้าใส่ของวางระเกะระกะ เตรียมขนขึ้นรถ เดินทางกลับบ้าน ถัดออกไปคนนำทัวร์ทั้งสี่นายต่างก็ช่วยกันรื้อเต็นท์สอดใส่ซองรวมสี่ซอง แบกไปไว้ที่รถคันเดิม เสร็จสิ้นแล้วทุกคนก็ขึ้นรถคันหน้า ออกเดินทางท่ามกลางอากาศที่ยังคงเย็นไปตามทางเก่า 399 โค้ง ถึงกระท่อมไม้ไผ่ก่อนเที่ยง
“ถึงแล้ว” นายโอกาสร้องดังขณะก้าวตามกันลงมา
ประตูรั้วเปิดรอ คนงานของสองเจ้าของไร่เป็นผู้เฝ้าระวังระหว่างเจ้าของบ้านไม่อยู่ หากก็ใช้รถไถดินออกไปยาวเหยียด พูนดินที่กรุยแล้วยกขึ้นมาเป็นแนวยาวสามสี่แถว เตรียมลงพืชพรรณที่ยังคงวางเรียงกันอยู่บนกระท่อมลั่นกุญแจ แต่ที่ประเสริฐสุดก็คือน้ำไฟมาติดตั้งให้เรียบร้อยแล้ว
ทุกคนลงจากรถสองแถวแล้วต่างก็โผเข้าหาพาหนะของตนที่จอดเป็นแนวต่อจากรถกระบะเจ้าของกระท่อม
เชียงคำกับเอื้องอินทร์ต่างก็พนมมือตรงหน้านายโอกาสและนายจังด้วยสายตาค่อนข้างเสียดายที่มาสนุกด้วยกันในวันเวลาที่น้อยเกินไป หากก็เชิญชวน
“ถ้าคุณอาว่างเมื่อไหร่ ต้องไปเที่ยวเมืองเพชรให้ได้นะคะ”
“ไปแน่นอนหนู” นายโอกาสยิ้มพราย พลางบอกอย่างมีความหมาย “แต่หนูอาจจะต้องมานี่อีกก่อนอาไปก็ได้นา”
“รับทานอะไรให้อิ่มก่อนดีไหมฮะ” หัวหน้าท้วร์ไต่ถามขณะขนอาหารกลางวันที่แวะซื้อกลางทางลงมาวางเรียงบนโต๊ะไม้ไผ่ มีข้าวผัดสิบกว่าห่อกับไก่ย่าง จึงต่างก็พร้อมใจกันลงนั่งล้อมวงส่งอาหารเข้าปากเชิงส่งท้ายการชมลำเนาไพร
“นี่ถ้าหนูจันไม่มีอุบัติเหตุ ทริปนี้คงมีความสุขอีกเยอะเลยนะ” นายโอกาสเปรยๆ ” หนูเป็นยังไงมั่ง นั่งเงียบ ปวดไหมฮะ”
นายจัดพี่ชายต้องรับหน้าที่ประคองน้องสาวก้าวเดิน ขึ้นรถลงรถนั่งลงยืนขึ้น นายอุกกาคงอยากทำหน้าที่แทนเต็มกลั้น แต่ไม่กล้า ดีไม่ดีอาจพาหล่อนหกล้มซ้ำอีกก็เป็นได้..คิดแล้วก็ได้แต่ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ที่แปลกกว่านั้นก็คือ
ใบจันไม่หันมาพูดจากับเขาแม้แต่หนึ่งคำ
เดินดงยืนส่งเชียงคำและเอื้องอินทร์ที่รถจนกระทั่งสองหญิงลับเข้าไป เสียงเขาบอกเพื่อนของหล่อนว่า
“ถึงแล้วอย่าลืมคุยมาอีกนะฮะ” แม้จะไม่เอ่ยชื่อใคร ทุกคนก็รู้ได้ว่าเขาบอกเอื้องอินทร์
นายโอกาสได้ทีจึงพูดดังๆ
“มีข่าวดีเมื่อไหร่ อาจะรีบบอกนะหนู”
สองหญิงต่างก็กดหน้าต่างรถลงโบกมือเป็นครั้งสุดท้ายให้แก่ทุกคนที่ออกมายืนส่ง เว้นใบจันผู้เดียวที่ต้องนั่งนิ่งอยู่กับที่ ชูแค่ฝ่ามือด้วยสีหน้าไร้รอยหรรษาใดๆ จนกระทั่งพาหนะคันนั้นลับรั้วกระท่อมหายไป
“คุณดงหน้าซีดเลย นางเอกกลับบ้านชะแล้ว” นายโอกาสยังคงหันมาสัพยอก เพราะแลเห็นสีหน้าเขาเรียบเฉย..โดยเดาเอาเองว่าต่อแต่นี้ไป ชายชาวกรุงคงเข้าสู่อาการเหงาเศร้า เนื่องด้วยหญิงสาวผู้ที่เขาทำท่าว่าติดเนื้อพึงใจลาจาก
“คุณเอื้องคุณเชียงน่ารักไงฮะ” ชายหนุ่มก็เลยตอบเรียบๆ แม้จะล่วงรู้แก่ใจว่า ไม่ใช่เพราะต่อแต่นี้ จะไม่มีเพื่อนคุยที่ถูกคอกันอีกแล้ว แม้ว่าคุยกันทางไลน์ได้ แต่ก็ไม่เหมือนคุยกันตัวต่อตัว “ขาดไปเราก็เหงา”
“ใช่” นายจัดเห็นด้วยทันใด “ไปเที่ยวกับคนมากๆ ใครกลับก่อนสักคนสองคนก็แบบนี้ละฮะ.. ใช่ไหมจัน เพื่อนกลับไป ทีนี้ก็เหงาแน่นอน”
“อย่าเหงาเลยหนู” นายโอกาสเอ่ยปลอบ “เดี๋ยวอุกตามไปอยู่เป็นเพื่อนอีกคนดีกว่าว่านะหนูนะ”
หญิงสาวแทบจะหวีดร้องสุดเสียงออกมาทันใดนั้นเนื่องด้วยบัดนี้ ทนมิได้แล้ว หรือมิฉะนั้นก็เพราะทนเสแสร้งแกล้งเป็นใครที่ไม่ใช่ตนเองมาพักใหญ่
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณลุง พี่อุกไม่ต้องมานะ..จันอยากอยู่คนเดียว” สีหน้าผู้พูดดูขึงขังเอาจริงจนนายโอกาสและอุกกานิ่งไป
หากก็ไหวทันพอที่จะไม่รุกจนอีกฝ่ายต้องระเบิดความจริงใจออกมา
นั่นก็คือ แท้จริงแล้ว ฉันไม่ได้สวาทนายดอกนะ อย่าเข้าใจผิด
“อยากกลับบ้านแล้วละพี่จัด พาจันกลับบ้านได้แล้ว จะไปนอนพัก”
“ก็ได้” พี่ชายแลเห็นสีหน้าน้องสาวก็เลยต้องตามใจ จึงเปรยๆ “เหงาแล้วซีใช่ไหม เพื่อนกลับหมดก็น้องสาวก็เลยพยักหน้า
เดินดงแค่พูดกับหล่อนนิดนึงโดยมารยาท
“ผมคงไม่ไปรบกวนคุณหรอกนะฮะ.. ขอให้หายไวๆ ละกัน”
เท่านั้นเอง น้ำตาก็ร่วงพรูลงมาตามร่องแก้มของหญิงที่เคยหยามน้ำหน้าเขา
แต่ชายหนุ่มไม่สนใจ ยืนส่งทั้งนายจังนายจัดใบจัน พากันขี่พาหนะส่วนตัวกลับบ้านไล่ๆ กับนายโอกาสและอุกกา
เพียงไม่กี่นาที บ้านที่เคยคับคั่งไปด้วยรถและผู้คนก็เงียบกริบ เหลือแต่คนงานของเจ้าของไรทั้งสองแค่สีคนกับชั่วโมงยามบ่ายแก่ที่มีเพียงอากาศเย็นสบายกับสายหมอกขาวบางบนฟากฟ้า
พร้อมความรู้สึกคนึงนึกบางสายที่ไหลรินราวลำธารเล็กใต้ภูผาอย่างเงียบเหงาเศร้าลึกในทรวงอกของชายหนุ่มจากมหานคร
“พี่หิวอีกไหม” เก่งเดินมาถาม “ถ้าหิวก็มีนะ มีข้าวผัดเหลือ..เดี๋ยวผัดอีกทีก็อร่อย แล้วยังมีไก่ย่าง..ปีกไก่เหลืออีกสองสามปีก หรือถ้าไม่อยากช้ำ ผมต้มข้าวต้มเติมให้ก็ยังได้ เอาไหม”
แต่นายของเขาไม่ตอบ ได้แต่เดินไปเปิดประตูรั้วมองดูดินที่ถูกกรุยเป็นทางยาว กับเนินที่พูนสูงตรงดิ่งออกไปในที่ราบตรงหน้า ยาวกว่าที่เห็นเมื่อสามวันก่อนสักสามเท่าตัว มิหนำซ้ำก็ยังเพิ่มแถวดินขึ้นอีกสามแถว
พลางยืนกอดอกมองพระอาทิตย์ที่กำลังคล้อยต่ำ นกกากำลังขยับปีกสีเข้มของมันบินกลับรังที่อยู่แถวนี้
ชวนให้จิตใจหดหู่เหลือกำลังถึงแก่คิดว่า เขาจะยังอยากอยู่ ณ กระท่อมปลายนาหลังนี้อีกหรือไม่
- READ ขุนเขาแมกไม้ : ตอนอวสาน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 44 : คนึงถึงนางยักษ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 43 : อยู่ต่อ หรือ...
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 42 : เมื่อหัวใจเริ่มแปลบปลาบ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 41 : รู้ซึ้งถึงน้ำใจ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 40 : อุบัติเหตุ!!
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 39 : จ็อกกระดิ่น
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 38 : สวรรค์บนดิน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 37 : ธรรมชาติงามไฉไล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 36 : ศอกกลับ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 35 : เที่ยวชมไร่ให้สิ้นสงสัย
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 34 : วันนี้เป็นวันดี
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 33 : ดวงดวงของผู้ยิ่งใหญ่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 32 : คำถามที่อยากให้ตอบ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 31 : ภาพที่ชวนแปลกตา
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 30 : ‘ดวง‘ ขัดกัน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 29 : อุปสรรคจากเพศตรงข้าม
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 28 : ไม่ชอบขี้หน้า!
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 27 : ชายไม่เอาถ่านกับบริวารคู่ใจ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 26 : คืนพิเศษ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 25 : เล่น ‘เกม’
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 24 : การเดินทางค่อยๆ ไกลออกไป
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 23 : ดีกว่าตําราใดๆ ในจักรวาล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 22 : อสุรกายเต็มบ้าน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 21 : เสนอตัว
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 20 : หนังสือล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 19 : ‘ดวง’ ของทั้งคู่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 18 : คู่แข่งคู่ควง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 17 : ท่ามาก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 16 : ทุกหนแห่งล้วนมีราคา
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 15 : ติดพัน ‘แม่เสือ’
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 14 : ไอ้หน้าโง่อหังการ
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 13 : คนดวงแข็ง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 12 : ไหว้เจ้าที่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 11 : ผู้มาเยือน
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 10 : ยามวิกาล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 9 : วิถีเพิ่งเริ่มต้น
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 8 : ต้นไม้ใหญ่มีอารักษ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 7 : พืชพรรณไม้มงคล
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 6 : ตำราล้ำค่า
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 5 : ช้างบุก
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 4 : นายจัดลูกนายจัง
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 3 : สองชายฉกรรจ์
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 2 : ผู้พบใหม่
- READ ขุนเขาแมกไม้ บทที่ 1 : ชีวิตที่เริ่มต้น