เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 19 : Tipsy Turtle เต่ามีน เมา กึ่ม

เปลือกมุกสีชมพู บทที่ 19 : Tipsy Turtle เต่ามีน เมา กึ่ม

โดย : ขวัญอินทร์

Loading

เปลือกมุกสีชมพู โดย ขวัญอินทร์ นวนิยายดราม่าเข้มข้นที่อ่านเอานำมาให้ได้อ่านออนไลน์ เรื่องราวที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอาจไม่เคยมองเห็นเนื้อแท้ของใครได้เลย ถ้าเราเลือกมองแค่เพียงเปลือก ความสำเร็จ ความล้มเหลว และภาพจำที่ผู้อื่นตีกรอบให้ เราจึงไม่ควรด่วนตัดสินใคร เพราะสุดท้ายผลกรรมจะเปิดโปงทุกอย่างไม่ช้าก็เร็ว

รัม บลูคูราเซา น้ำสับปะรด พิน่า โคลาด้า 

เกือบสี่ทุ่ม งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของฟ้าพราวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก จนเขาต้องดูนาฬิกา

ข้อมือบ่อยๆ เพราะกลัวจะไปรับมุกอันดาไม่ทัน

ห้องจัดเลี้ยงเป็นแบบภัตตาคารจีน มีเวทีเล็กๆ ให้แขกได้ขึ้นไปร้องเพลง แม่กับน้าลีรวมทั้งคุณขจีผลัดกันขึ้นไปร้องเพลงสนุกสนาน โดยมีฟ้าพราวเป็นพิธีกรคอยเชียร์อัปอยู่บนเวที บรรยากาศจึงสนุกสนาน ชื่นมื่น

“นัดใครไว้ล่ะต้น เห็นดูเวลาบ่อยๆ” ภูวดลนั่งใกล้ลูกชายจึงสังเกตเห็นความผิดปกตินั้น

“ผมต้องไปรับมุกที่โรงแรมตอนห้าทุ่มครับ” ต้นบุญบอกพลางชี้ให้พ่อดูเวลาว่าขณะนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว อีกไม่เกินสิบห้านาทีเขาคงต้องออกไปก่อน

ภูวดลพยักหน้ารับทราบซึ่งเขาเองก็เหนื่อยมากแล้ว ปกติเขาเป็นคนนอนตอนสามทุ่ม ยิ่งเมื่อวานเขากับหมอบุญขับรถกันมาเองจากกรุงเทพฯ และวันนี้ก็ไปธุระเรื่องซื้อที่ดินทั้งวัน เขาจึงรู้สึกเพลียกว่าปกติ

ฟ้าพราวอยู่บนเวทีเห็นความผิดปกตินั้น ประกอบกับเพลงจบพอดีเธอจึงประกาศขอวางหน้าที่พิธีกรสักครู่เพราะเริ่มคอแห้ง คนอื่นเห็นด้วยกับเธอจึงพากันลงจากเวที ปล่อยให้นักดนตรีเล่นเพลงต่อไป

“สักสามทุ่มครึ่งผมขออนุญาตไปรับมุกอันดาก่อนนะครับ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงจะกลับมา” ต้นบุญบอกทุกคนบนโต๊ะอาหาร แม่กับน้าลี รวมทั้งหมอบุญทำหน้างงๆ เพราะไม่รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงคือใคร

ฟ้าพราวเม้มปากนิ่ง สีหน้าเรียบเฉยแววตากระด้าง ต่างจากคุณขจีคิ้วสวยบรรจงวาดขมวดมุ่น สีหน้าไม่แน่ใจ

“รับใครนะจ๊ะ”

“มุกอันดาครับ ผมนัดกับน้องเอาไว้ว่าจะไปรับที่โรงแรม” ต้นบุญบอกน้ำเสียงสุภาพ

“ทำไมเราต้องไปรับ” รัตนาเอ่ยถามลูกชายรู้สึกแปลกใจ

“มุกเค้าไปชงเหล้าให้สอสอเจนภพค่ะ” ฟ้าพราวเป็นฝ่ายตอบพร้อมฝืนยิ้มให้ทุกคน สีหน้าอึดอัดใจของเธอยิ่งทำให้แม่กับน้าลีสงสัยยิ่งขึ้น

“เด็กดริงก์หรือคะ” น้าลีถามเธอ

“ทำนองนั้นค่ะ วันนี้ท่านเจนภพก็ฉลองความสำเร็จเหมือนกันค่ะ แต่ต้องการแบบส่วนตัว ถ้าคุณต้นจะไปรับก็ลองโทรถามมุกก่อนดีมั้ยคะ บางทีอาจอยู่ต่อ…ก็ได้” ฟ้าพราวเล่าเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

“มุกเค้าเป็นบาร์เทนเดอร์ครับ ไม่ใช่เด็กนั่งดริงก์ เขามีหน้าที่ผสมค็อกเทล”

“แหม คุณต้น อยู่ด้วยกันในห้องวีไอพีสองต่อสอง ใครจะไปรู้คะ” ฟ้าพราวกล่าวติดตลก

“ถ้าแม่คนนั้นนะ ไม่ใช่แค่คุยหรอกค่ะ นึกแล้วมันน่าอายจริงเชียว ต้นไม่ต้องไปรับมันหรอก แค่ให้มันขึ้นรถก็ไม่เป็นมงคลแล้ว” ดูเหมือนคนที่บรรยายภาพมุกอันดาให้ทุกคนเห็นชัดที่สุดคือคุณขจี

แม่กับน้าลีถึงกับอ้าปากค้าง หันมามองหน้าเขาพร้อมกันโดยไม่นัดหมาย มีคำถามอยู่ในหน้าว่า แกไปยุ่งกับเค้าทำไม ยังไม่ทันที่เขาจะพูดแก้ตัวให้มุกอันดา คุณขจีก็เล่าวีรกรรมหลานสาวให้ทุกคนฟังต่อจนเขาไม่รู้จะเถียงแทนยังไง

“ผมขอตัวก่อนนะครับ ถ้ายังไม่กลับผมจะพามุกแวะมาทานด้วย เธอน่าจะตอบเรื่องตัวเองได้ดีกว่าคนอื่น” เขายืนกรานที่จะไปรับมุกอันดา ไม่สนใจสายตาเขียวปัดของแม่กับน้าลี และแววตาตื่นตะลึงของคุณขจีที่เห็นเขาเข้าข้างมุกอันดา มีเพียงฟ้าพราวที่ยังมีใบหน้าเรียบเฉย เก็บความรู้สึก

“เชิญค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ” เธอเอ่ยด้วยรอยยิ้มทว่าแววตาแข็งกร้าว

ขณะเดินออกไป เขาแน่ใจว่าเรื่องของมุกอันดาคงอยู่ในหัวข้อสนทนาอย่างถึงพริกถึงขิงแน่นอน

—-

ต้นบุญมาถึงที่โรงแรมรอจนถึงสี่ทุ่มแต่ก็ไม่เห็นเธอ นึกเป็นห่วงสารพัด พยายามโทร.หาแต่ก็ไม่มีใครรับ จึงคิดว่าเธอคงยังไม่เสร็จธุระ เขาไม่ได้เผื่อใจว่ามุกอันดาจะไปกับ ส.ส.เจนภพอย่างที่ฟ้าพราวกล่าวหา มั่นใจด้วยว่าเธอไม่รู้ว่าเสียด้วยซ้ำว่าลูกค้าคือ ส.ส.เจนภพ ถ้ารู้เธอคงไม่รับ ขณะที่เขากำลังกระวนกระวายใจอยู่นั้น ก็มีโทรศัพท์เข้ามาเป็นเบอร์ที่เขาไม่รู้จัก

          “ว่ายังไงนะ มุกอยู่ที่โรงพัก” ต้นบุญถามเสียงหลง

“เรื่องมันยาวค่ะ มุกลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่โรงแรมด้วย นี่ก็เอาของพี่ป้อมโทร กลัวพี่ต้นคอยนาน พี่ช่วยขึ้นไปเอาโทรศัพท์ให้มุกหน่อยได้มั้ยคะ ตอนนี้พี่ป้อมให้เพื่อนเก็บไว้ให้แล้ว” มุกอันดาสั่งความก่อนวางสาย

ต้นบุญจัดการตามที่เธอบอก จากนั้นก็ไปบาร์จับจิตซึ่งตอนนี้ไฟเปิดสว่างโร่ ประตูปิด มีเพียงเด็กบอยบริกรของร้านที่กำลังเก็บกวาดร้าน

เขาเล่าให้ฟังว่าบาร์เปิดอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็มีตำรวจสายตรวจกลุ่มหนึ่งเข้ามาในร้าน แจ้งกับพี่ป้อมว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าที่ร้านขายเหล้าหนีภาษี จะขอตรวจค้น

“พวกนักข่าวก็ถ่ายรูปตลอดเวลา แถมยังไลฟ์สดอีกต่างหาก แบบนี้ลูกค้าก็ไปหมดสิพี่” เด็กบอยบอกสีหน้าเซ็งจัด ต้นบุญจึงได้แต่ตบบ่าปลอบใจอยู่เป็นเพื่อนรอจนป้อมชัยกับมุกอันดากลับมา

“พี่ต้นยังอยู่เหรอคะ” คำแรกที่เธอเอ่ยทัก แปลกใจและอุ่นใจระคนกัน แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังทำให้ทุกคนยุ่งเหยิงไปด้วย จึงชักไม่อยากให้ใครมาเกี่ยวข้อง

“ยังอยู่ครับ” เขาแยกเขี้ยวตอบ นึกอยากหวดก้นสักสามทีให้สมกับคำถามกวนตีนนั้น แต่เมื่อเห็นท่าทางเครียดจัดของพี่ป้อมก็ต้องปล่อยเรื่องส่วนตัวไปก่อน

พี่ป้อมถูกกล่าวหาว่าบาร์จำหน่ายเหล้าภาษี ซึ่งมุกอันดาก็เอาบิลซื้อขายไปยืนยันแล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็โดนปรับเรื่องไม่แสดงใบอนุญาตไว้ในที่เปิดเผย และใช้ใบอนุญาตไม่ตรงกับสถานที่ระบุเพราะในใบอนุญาตเป็นตัวบ้าน แต่ที่บาร์คืออู่ซ่อมรถเก่า ความผิดทั้งสองกระทงโดนปรับกระทงละห้าพันบาท เจรจาต่อรองเหลือจ่ายแค่แปดพัน แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เขาก่อสร้างตามแปลนที่ยื่นกับเทศบาลหรือไม่

“แปลนเป็นยังไงไม่รู้ รู้แค่ว่าจ่ายสองหมื่นให้เทศบาลก็ได้ใบอนุญาต” คำตอบของพี่ป้อมทำให้ทุกคนถึงบางอ้อ ว่าแปลนตามแบบอาจไม่มีอยู่จริง หรือถ้ามีก็อาจไม่ตรงกับแบบที่ได้ใบอนุญาตซึ่งยังไงเขาก็ผิด สรุปแล้วพี่ป้อมต้องหยุดกิจการ เพื่อจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย

“มุกว่าต้องเป็นฝีมือสอสอเจนภพแน่” มุกอันดาเอ่ยขึ้นหลังจากฟังพี่ป้อมพูดจบ จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องที่โรงแรมให้ทุกคนฟัง

“มุกว่าอะไรนะ สอสอเจนภพจะขอซื้อที่ดิน แสดงว่าเค้ารู้เรื่องโครงการมหาลัยแล้วด้วย” ต้นบุญตีหน้ายุ่ง เห็นเค้าลางความเชื่อมโยงต่างๆ ได้

“โครงการอะไรคะ” มุกอันดาสงสัย ตั้งแต่เรียนจบมานี่ยังไม่ถึงปีแต่ผจญชีวิตแบบก้าวกระโดด จนรู้สึกเหมือนเติบโตขึ้นเท่าตัว

“พวกวงการอสังหารู้มาว่าทางมหาลัยจะมีโครงการสร้างศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ เลยกว้านซื้อที่รอน่ะ ฟ้าพราวรู้เลยจะให้สอสอเจนภพไปกว้านซื้อ“

“หวยเลยมาลงที่มุก พี่ฟ้านะพี่ฟ้า ทำไมถึงได้ต้องการไม่จบไม่สิ้น ไม่เหนื่อยบ้างหรือไง”

คำถามของมุกอันดาก็เป็นคำถามที่ใครหลายคนคงสงสัยเหมือนกัน ว่าเหตุใดฟ้าพราวถึงไม่รู้จักพอ

คืนนั้นกว่าเขาจะกลับไปคอนโดฯ ก็เกือบตีสี่ กว่าจะตื่นก็เกือบสิบโมงเช้า

“ตื่นแล้วหรือต้น” ภูวดลทักลูกชาย

“ครับพ่อ แม่ล่ะครับ” ต้นบุญถามถึงมารดา เมื่อคืนเขามัวยุ่งจนลืมทุกคนไว้ที่ห้องจัดเลี้ยง จนกระทั่งหมอบุญโทร.มาบอกว่า ทุกคนกำลังจะกลับ โดยให้ฟ้าพราวไปส่ง

แกตายแน่ แม่โกรธจนไฟลุกแล้วละ

คำขู่ของหมอบุญทำให้เขารู้ว่านับจากนี้ชีวิตเขาเริ่มวุ่นวายแน่

“แม่ไปกินติ่มซ่ำกับน้าลี แล้วก็ฟ้าพราว” ภูวดลบอกลูกชาย รอจังหวะให้ลูกชายดื่มกาแฟ ก่อนซักถามเรื่องเมื่อคืนจากข่าวออนไลน์ในมือถือ ซึ่งพาดหัวข่าวเสียจนทางร้านเสียหายจนประเมินค่าไม่ได้ บาร์เหล้า..อินดี้ ขายเหล้าหนีภาษี ซึ่งหากใครอ่านเนื้อหาละเอียดก็จะพบว่า เป็นแค่การตรวจสอบ และทางร้านก็พิสูจน์ข้อกล่าวหาได้แล้ว

ต้นบุญจึงเล่าเรื่องราวให้ฟังโดยละเอียด โดยเฉพาะเรื่องที่ฟ้าพราวรู้เรื่องโครงการของมหา’ลัย

“ถ้าคิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งคงถ่วงไว้หลายเดือนแน่ แบบนี้หนูมุกก็ตกงานน่ะสิ” ภูวดลพออ่านรูปการณ์ออก

“ครับ มุกบอกพี่ป้อมเครียดมาก เส้นสายก็ไม่มี แล้วถ้าเปิดร้านมาก็ไม่รู้ว่าจะเรียกความเชื่อมั่นได้หรือเปล่า ร้านกำลังไปได้สวยเสียด้วย” ต้นบุญพลอยกลุ้มไปด้วย มุกอันดาเขาไม่ห่วงยังไงเขาก็ไม่ยอมให้เธอต้องลำบากแน่ เว้นเสียแต่ว่าเธอจะดื้อไม่ทำตามเขา

“ใครบอกว่าไม่มีล่ะ” ภูวดลเอ่ย เขาคิดเอาไว้แล้วว่าจะนำเรื่องนี้ไปปรึกษาใคร

“แล้วเรื่องที่ดินเราจะเอายังไงดี เรื่องเมื่อคืนผมว่าเค้าแค่อยากบีบให้มุกขายที่มากกว่า”

“รู้จักน้องมานานยังไม่รู้ใจอีกหรือ ถ้าลองแกล้งกันแบบนี้ให้ตายมุกอันดาก็ไม่ยอมขายที่ให้หรอก”ภูวดลพูดกระเซ้า รู้ใจลูกชายดีว่าตอนนี้รู้สึกอย่างไรกับมุกอันดา เพียงแต่เจ้าตัวจะรู้หรือเปล่าเท่านั้น

ส่วนตัวเขาไม่ได้รังเกียจมุกอันดา แต่ว่าภรรยาเขานั้นดูจะไม่ถูกใจเอามากๆ ถึงแม้รัตนาเป็นแม่ที่ไม่เคยบังคับลูกและให้อิสระในการตัดสินใจ แต่ถ้าเป็นเรื่องสะใภ้เธอไม่ยอม เธอให้เหตุผลว่า ถ้าจะมาเป็นลูกสาวแม่ แม่ก็ต้องมีสิทธิ์เลือกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าภรรยาเขาไม่เลือกมุกอันดา

 



Don`t copy text!