
บ่วงวงกต บทที่ 15 : ร่องรอยของอดีต
โดย : Cirrus Halo
![]()
“บ่วงวงกต” นิยายสยองขวัญลึกลับ โดย Cirrus Halo เรื่องราวกลุ่มเพื่อนที่เดินทางสู่จังหวัดเลยเพื่อเที่ยวงานผีตาโขน แต่กลับติดอยู่ในรีสอร์ทปริศนาและต้องเผชิญเหตุฆาตกรรมสุดหลอน อ่านได้ที่ อ่านเอา
ธนันต์ปล่อยมือจากคอเสื้อของตรีสิทธิ์ เหตุผลข้อนี้มากกว่าที่ทำให้เพื่อนของเขายอมปล่อยให้คนตายโดยไม่ช่วยได้ เขาหลับตาลงพร้อมจะรับฟังความจริงต่อจากนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาหยั่งเชิงมาจนแน่ใจระดับหนึ่งแล้ว ตรีสิทธิ์ยังคงอธิบายต่อไป
“ช่วงแรกๆ ที่เพิ่งกลายเป็นตัวตายตัวแทน วิญญาณจะไม่อาละวาดรุนแรงนัก แต่เมื่อต้องติดอยู่ที่เดิมทำเรื่องซ้ำๆ วนไปเรื่อย พวกเขาจะเริ่มไม่พอใจ เราต้องรีบหาทางออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกวิญญาณใหม่จะเริ่มมองหาตัวตายตัวแทน”
“แกจงใจปล่อยให้เขาตายจริงๆ สินะ”
“อย่ามาทำตัวเป็นคนดีหน่อยเลย แกเองก็มีเรื่องที่ช่วยปิดบังอยู่ไม่ใช่หรือ”
ธนันต์มั่นใจแล้วว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ใช่ตรีสิทธิ์ที่เริ่มเป็นเพื่อนกับเขาตั้งแต่เข้าทำงานที่เดียวกัน ดวงตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความขุ่นมัวจากความแค้น และสาเหตุก็น่าจะมาจากคนใกล้ตัว
ธนันต์จ้องตาอีกฝ่ายแล้วจึงตัดสินใจเรียกชื่อของเขา
“แกคือธีระใช่มั้ย”
คนที่ถูกเรียกว่าธีระถอนหายใจยาวก่อนยอมรับออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ไม่น่าเชื่อว่าแกจะใช้เวลานานขนาดนี้ กว่าจะแยกฉันกับเพื่อนใหม่ของแกได้”
“พูดแบบนี้คือยอมรับงั้นหรือ”
“เออ ฉันเอง ธีระ”
“นี่แกอย่ามาอำกันนะ แกตายไปแล้วไม่ใช่หรือ”
“แกนี่มันย้อนแย้งดีนะ ก็แกเป็นคนชี้ตัวว่าฉันคือธีระเองไม่ใช่หรือ”
“ก็ฉันคิดว่าแกจะปฏิเสธน่ะสิ”
“ก็เจ้าของร่างนี้มันเป็นร่างทรงไม่ใช่หรือ”
“ไม่นะ เจ้าตรีสิทธิ์มันบอกว่าต่อต้านเรื่องนี้…”
ธนันต์ชะงักนึกคำพูดในหัวไม่ออก เขาเริ่มสับสนกับสิ่งที่ตนเองพูด ธีระในร่างตรีสิทธิ์จึงเป็นฝ่ายกล่าวขึ้น
“ฉันจะเป็นธีระหรือตรีสิทธิ์ก็ไม่สำคัญหรอก แต่พวกแกต้องรีบพาจุรีออกไปจากที่นี่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ของคนเป็น”
“งั้นแกเป็นผีก็ช่วยๆ เจรจากับพวกวิญญาณที่ตายไปแล้วให้หน่อยสิ”
ธีระนิ่งเงียบ ตั้งแต่เป็นวิญญาณมา สิ่งที่ผูกพันเขาเอาไว้กับโลกใบนี้ก็คือแฟนสาวของเขา เขากล่าวกับธนันต์ตามตรง
“ฉันอยู่ที่นี่ก็เพื่อปกป้องจุรี”
ธนันต์เงยหน้ามองอีกฝ่าย เขาเองก็ต้องการคำอธิบายที่ชัดเจนในบางเรื่องเช่นกัน
“แกอย่าพูดเหมือนกับแกเป็นฝ่ายถูกคนเดียวสิ มีอีกหลายเรื่องที่ฉันข้องใจ” ธนันต์เริ่มจะยอมรับเหตุการณ์ตรงหน้าได้แล้ว เขาถามอย่างไม่อ้อมค้อม “เมื่อวานตอนแย่งมีดกับคุณกฤติ แกจงใจบิดมีดให้แทงไปที่เขาใช่มั้ย”
“ถ้าใช่แล้วยังไง มันทำให้แกรอดมาได้ไม่ใช่หรือ”
“แต่ฉันไม่ต้องการให้เพื่อนฉันกลายเป็นฆาตกร”
“สำหรับฉัน มันคือการทำให้ผีสองตนที่บ้านพักนั่นเลิกอาละวาดไปได้พักหนึ่ง หรือแกอยากให้เรากลายเป็นตัวตายตัวแทนของพวกนั้น”
ยังไม่ทันที่จะได้ข้อสรุป ก้องก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามายังจุดชมวิวก่อนโวยวายเสียงดังลั่น
“ใครโทรเรียกหน่วยกู้ภัยเข้ามาในรีสอร์ต พวกเขาโทรมาบอกว่าใกล้ถึงแล้วเนี่ย”
“ผมเป็นคนโทรเองครับ ขอโทษที่ใช้โทรศัพท์โดยพลการ”
“แล้วคุณโทรเรียกรถกู้ภัยมาทำไม”
“มีคนกระโดดหน้าผาน่ะครับ”
“หา” ก้องร้องเสียงหลงก่อนมองไปทางริมรั้ว “ไม่สิ แล้วทำไมเรียกรถกู้ภัยล่ะ”
“ตอนแรกเขายังเกาะหน้าผาไว้ได้น่ะครับ เลยคิดว่าอาจจะพอช่วยทัน”
ธนันต์มองหน้าธีระ ไม่เข้าใจว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่ เพราะคนที่ยืนดูอยู่เฉยๆ จนกระทั่งดำรงตกลงไปตายก็คือธีระ จนกระทั่งเพื่อนของเขากล่าวขึ้นคำหนึ่ง
“แล้วพวกเขาจะมาถึงที่นี่เมื่อไรครับ”
“เห็นว่าอีกสิบห้านาที โทรไปบอกยกเลิกก่อนก็แล้วกัน”
“ผมว่าให้เขามาดูที่เกิดเหตุเถอะครับ เผื่อเขาจะช่วยเก็บศพที่อยู่ข้างล่างนั่นกลับไปให้ญาติทำพิธีได้”
“แล้วไม่คิดหรือว่าตำรวจก็จะแห่กันมาด้วย ทำไมพวกคุณไม่ช่วยกันดึงขึ้นมาเล่า อยู่ในเหตุการณ์ไม่ใช่หรือ”
“เราพยายามช่วยแล้วแต่ไม่ทัน”
ธีระตอบสีหน้าเรียบเฉยเหมือนทองไม่รู้ร้อน ธนันต์ไม่อยากเปิดโปงเพื่อนจึงเลือกที่จะเงียบฟัง
“เออ ช่างเหอะ” ก้องตอบ “ถึงโทรยกเลิกตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว น่าจะมาถึงแล้วมั้ง เพราะพวกคุณเลย”
ในระหว่างที่จุดชมวิวกำลังวุ่นวายอยู่นั้น สิริกับจุรีกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในบ้านพัก สิรินึกได้ว่ายังมีขนมที่ซื้อมาจากตลาดกลางคืนเหลืออยู่ เธอจึงนำออกมาแกะทานรองท้องแทนอาหารเย็น ในขณะที่จุรีเลื่อนดูหน้าจอมือถือจึงได้เห็นข่าวการกระโดดหน้าผาของสองแม่ลูกที่รีสอร์ตริมภู การฆ่าตัวตายที่ว่าเกิดขึ้นเพียงสามวันก่อนที่ทั้งสี่คนจะเข้าพักในรีสอร์ต เธอยื่นหน้าจอโทรศัพท์ให้สิริดู
“นี่ดูสิ พอมีคนลงข่าวการตายต่อเนื่อง ก็มีคนขุดข่าวเก่าๆ ขึ้นมาด้วย”
สิริรับโทรศัพท์มาจึงเห็นข่าวที่ปรากฏในหน้าจอเป็นข่าวของชายหญิงคู่หนึ่งที่เข้ามาพักในรีสอร์ตริมภู แต่มีปากเสียงกันเนื่องจากผู้ชายหลอกนัดผู้หญิงให้มาหาเพราะต้องการข่มขู่เรียกเงินจากเธอเรื่องที่เธอเป็นชู้กับเขา ทั้งคู่แทงกันตายภายในบ้านพัก แต่ที่น่าแปลกคือแผลบนตัวผู้ตายทั้งสองคนเหมือนกับแผลบนตัวอานนท์และกฤติ
“นี่ เหมือนกับว่าที่นี่เริ่มเกิดเรื่องมีคนตายติดต่อกันในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาใช่มั้ย”
“เท่าที่ดูข่าว สภาพศพก็คล้ายๆ กันด้วย”
“ถ้าเป็นเรื่องผี มันจะใช่การหาตัวตายตัวแทนหรือเปล่า” สิริกล่าวด้วยสีหน้าซีดเผือด ตั้งแต่เห็นสองแม่ลูกที่ริมหน้าผาทำให้เธอเชื่อเรื่องผีขึ้นมาแล้ว เพียงแต่ยังหวังลึกๆ ว่ามันจะเป็นแค่ภาพหลอน
เมื่อเลื่อนหน้าข่าวในจอมือถือลงมาอีก จุรีเห็นภาพของชายที่คุ้นหน้า แม้สภาพของเขาจะไม่ได้มอมแมมเหมือนที่เคยเห็น แต่เธอจำใบหน้าของเขาได้แม่น เขาเคยมาตามหาเมียน้อยและลูกของเขาที่นี่แต่พวกเธอไม่ยอมรับเขาอีก ภรรยาหลวงของเขาก็ขอฟ้องหย่าและศาลบังคับให้เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูอย่างหนักทั้งที่เขาต้องเสียหน้าที่การงานไปเพราะเรื่องที่เขามีชู้ ดังนั้นเขาจึงเสียสติและกลายเป็นคนเร่ร่อน คนเดียวกับที่สิริจ้างเพื่อให้เดินตัดหน้ารถของธีระนั่นเอง
ทันใดเสียงเคาะประตูบ้านพักดังขึ้นทำให้สองสาวสะดุ้งหันมองตามต้นเสียงพร้อมกัน สิริหันไปพูดกับจุรี
“หรือว่าพวกธนันต์มา”
จุรีกำลังจะลุกไปเปิดประตู แต่อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็เงียบหาย จุรีจึงเอาหูแนบบานประตูเพื่อฟังเสียง เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกเป็นระยะ มันไม่ใช่เสียงเคาะเพื่อเรียกพวกเธอมาเปิดประตู แต่เป็นเสียงเหมือนกับตอนที่ด้ามไม้ถูพื้นของป้าแก้วซึ่งเป็นแม่บ้านกระแทกถูกประตูเป็นระยะ เพียงแต่ตอนนี้ป้าแก้วไม่มีชีวิตอยู่แล้ว งั้นเสียงนี้มาจากที่ไหนกัน
จุรีและสิริเสียวสันหลังวูบขึ้นมาจนไม่กล้าขยับตัว ไม่ว่ารอนานแค่ไหนเสียงดังกล่าวก็ไม่หยุดลง สิริส่งสายตาหาจุรีเพื่อให้เดินมาที่อีกฟากหนึ่งของประตู สิริเป็นคนดึงลูกบิดประตูเปิดออก ทั้งคู่ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะได้เจอป้าแก้วไม่ว่าในรูปแบบใดยืนอยู่ที่หน้าประตู แต่กลับผิดคาดเพราะไม่มีใครยืนอยู่ตรงนั้นเลย
ทันใดสิริรู้สึกถึงบางอย่างที่คลอเคลียอยู่เหนือศีรษะ เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจึงมองเห็นเส้นผมสีดำยาวสยายที่ทิ้งตัวอยู่บนหน้าผากของเธอ ใบหน้าสีขาวซีดผุดขึ้นท่ามกลางปอยผมนั้น สีหน้าของหญิงสาวเจ้าของใบหน้ายับย่นอึดอัดทรมาน ได้ยินเสียงกัดฟันกรอดเพราะหายใจไม่ออก ทั้งน้ำตาและน้ำลายกำลังจะไหลหยดย้อยใส่สิริ แต่เธอก้มหน้าหวีดร้องรีบวิ่งพ้นประตูออกไปเสียก่อนโดยลืมไปว่าจุรียังยืนหน้าซีดอยู่ในบ้านพัก
วิญญาณของป้าแก้วเลื้อยลงมาหมอบคลานอยู่บนพื้นแล้ววิ่งไล่ตามสิริไปโดยไม่สนใจจุรีที่ยืนตัวสั่นงันงกอยู่กับที่เพราะก้าวขาไม่ออก เธอกลืนน้ำลายลงคอรอให้วิญญาณป้าแก้วหายลับสายตาไปแล้วจึงเดินออกจากบ้านพักเพื่อไปช่วยเพื่อน ตอนนี้ความคิดกับการกระทำของเธอสวนทางกันโดยสิ้นเชิง เธอฝืนใจวิ่งตามไปทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยความหวาดผวา
สิริวิ่งมาถึงทางขึ้นจุดชมวิว วิญญาณของป้าแก้วที่คลานสี่ขาตามมานั้นไวยิ่งกว่า เธอจับข้อเท้าของสิริจนอีกฝ่ายล้มลงนอนคว่ำกับพื้น มือเย็นเยียบเลื่อนจากข้อเท้าขึ้นมาถึงต้นขา สิริพลิกตัวเพื่อหันไปเผชิญหน้ากับวิญญาณของป้าแก้ว เธอหวีดร้องเสียงดังลั่น

- READ บ่วงวงกต บทที่ 17 : ข้อความจากคนตาย
- READ บ่วงวงกต บทที่ 16 : บ่วง
- READ บ่วงวงกต บทที่ 15 : ร่องรอยของอดีต
- READ บ่วงวงกต บทที่ 14 : รายต่อไป
- READ บ่วงวงกต บทที่ 13 : ตัวตายตัวแทน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 12 : โลกที่เปลี่ยนไป
- READ บ่วงวงกต บทที่ 11 : ทางวงกต
- READ บ่วงวงกต บทที่ 10 : จุดชมวิว
- READ บ่วงวงกต บทที่ 9 : เรื่องวิวาท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 8 : ความไม่ลงรอย
- READ บ่วงวงกต บทที่ 7 : ตลาดกลางคืน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 6 : วันแรกในรีสอร์ท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 5 : เพื่อนบ้าน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 4 : รีสอร์ทริมภู
- READ บ่วงวงกต บทที่ 3 : ในม่านหมอก
- READ บ่วงวงกต บทที่ 2 : ตำนาน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 1 : ใกล้งานเทศกาล







