
กานต์ปรียา บทที่ 8 : บทเรียนเรื่องจักรวาลที่ชื่อว่าคุณ
โดย : ดารัช
![]()
กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

“ต่อไปเป็นความคืบหน้าเรื่องข่าวการพบชิ้นส่วนบุคคลนิรนามที่ภูเขาแถบชานเมืองเมื่ออาทิตย์ก่อนนะครับ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ยูทูบเบอร์และตากล้องไปขุดกล่องความทรงจำบริเวณจุดชมวิว โดยมีการไลฟ์สดผ่านแฟนเพจในเฟซบุ๊ก แต่กลับพบชิ้นส่วนมือซ้ายของบุคคลนิรนาม” ผู้ประกาศข่าวชายผิวขาวสว่าง หน้าตี๋ ร่างสันทัด สวมชุดสูทสีดำ นั่งหลังตรง อ่านข่าวสลับกับเงยหน้ามาสบตาผู้ชมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ทางตำรวจกระจายกำลังค้นหาชิ้นส่วนต่างๆ ขยายตัวไปทั่วเนินเขา และพยายามระบุตัวตนของเหยื่อ ล่าสุดได้พบชิ้นส่วนศพจำนวนสี่สิบห้าชิ้น…อธิน เขมจินดา รายงานครับ”
เจอสี่สิบห้าจากทั้งหมดห้าสิบชิ้นอย่างนั้นหรือ
กานต์แค่นยิ้ม เพ่งความสนใจไปยังผู้ประกาศข่าวในโทรทัศน์จอแบนที่ร้านอาหาร กานต์จ้องอีกฝ่ายเขม็ง ทั้งการกวาดสายตามองผู้ชม จังหวะเน้นเสียงหนักเบา หรือแม้แต่สีหน้าขยะแขยงที่ปรากฏแวบหนึ่งตอนอ่านข่าว
กานต์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้พลาสติกโทนสีขาวมินิมอลของร้าน ICARUS เพ่งสายตาไปยังไม้ใบสีเขียวสบายตาสูงฟุตครึ่งไม่ห่างจากตำแหน่งที่เขานั่งนัก
“ไปไหนก็มีแต่ข่าวนี้ หน้าเฟซกับทวิตเตอร์ก็ขึ้นเต็มนิวฟีด มีแต่แฮชแท็ก ‘ฆาตกรรมบนภูเขาชานเมือง’ เอย ‘ฆาตกรฆ่าหั่นศพ’ เอย ‘พบชิ้นส่วนปริศนา’ เอย” ครรชิต เพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยมัธยมของกานต์บ่น
กานต์เงยหน้ามองคนพูดที่นั่งตรงข้ามเขา ผู้ชายร่างบึกบึนไว้ผมเปิดข้างปัดทางขวา แต่คงใส่เจลหน้าไปนิด ผมเลยดูแข็งโป๊ก ผิวเข้มแบบคนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หน้าคมแบบคนใต้ สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายตาราง ฉีดน้ำหอมเยอะเกินไปจนกลิ่นฉุน ครรชิตเป็นคนที่ดูดีติดตรงบางอย่างก็เยอะเกินไป
ครรชิตกำลังไถหน้าจอมือถือ เจ้าตัวดูไม่อนาทรกับข่าวที่กำลังอ่าน อาจจะรู้สึกแขยงอยู่บ้าง แต่เป็นความแขยงภายใต้ความรู้สึกปลอดภัย ด้วยความที่เป็นเรื่องไกลตัว
“ว่าแต่ไม่คิดเลยนะว่าพวกเราจะทำงานจังหวัดเดียวกัน ตั้งแต่จบมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยนี่หว่า โลกกลมมากเลยจริงๆ” ประโยคหลังอีกฝ่ายเงยหน้ามาคุยกับกานต์
“ต้องขอบคุณเฟซบุ๊กนะ” กานต์ยิ้มมุมปาก “จู่ๆ ฉันก็คิดว่านายจะเป็นไงบ้าง แล้วพอลองเอาชื่อกับนามสกุลนายไปเสิร์ชดูในเฟซบุ๊ก ชื่อครรชิต เกิดทองทา กับรูปนายก็โผล่มาเลย มีแม้แต่สมัยรูปที่นายเรียนมัธยมปลาย”
ครรชิตหัวเราะเสียงก้อง “อ๋อ รูปนั้น ตอนพวกเราไปเข้าค่ายรอดอนี่ ตอนนั้นยังหัวเกรียนกันอยู่เลย เหนื่อยแต่สนุกดีเนอะ” เขารำพึงถึงความหลัง “ว่าแต่ไม่เจอกันตั้งนาน นายหน้าไม่เปลี่ยนเลยได้ไงวะเนี่ย”
กานต์จ้องอีกฝ่าย “นายก็ไม่เปลี่ยนไปมาก”
“เออ ไม่เปลี่ยนมาก” ครรชิตเอามือผมตัวเอง “มีแต่ผมนี่แหละ เริ่มบางลงทุกที”
“เวลาทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ให้ทุกคนนั่นแหละ” กานต์พูด
จะว่าไป โลกของกานต์ราวติดอยู่ในภาพยนตร์ขาวดำเก่าๆ มีชีวิตวนซ้ำราวเพลงบรรเลงจังหวะเอื่อยเนือยไร้ที่สิ้นสุด จนกระทั่งวันที่เขาเปิดประตูเข้าไปในมินิมาร์ตแถวที่ทำงาน และจ้องมองดาวฤกษ์กะพริบแสงในดวงตาปรียา…ปรียาของเขา…จักรวาลขยายออกตรงหน้า เขาเพิ่งรู้ว่าโลกมีสีสันมากมายและสวยงามเหลือเกิน จู่ๆ บทเพลงบรรเลงที่กานต์ชอบฟังมีท่วงทำนองอ่อนหวานลึกซึ้งแบบที่กานต์ไม่เคยรู้มาก่อน
“สปาเกตตีซอสมะเขือเทศกุ้งกับคาปูชิโนร้อนของน้องกานต์ กับสเต๊กเนื้อสันในและน้ำเปล่าของคุณลูกค้าอีกท่านค่ะ” วิมล เจ้าของร้าน ICARUS ร่างท้วม สวมชุดเสื้อแขนยาวชีฟองแขนหลายชั้น กับกระโปรงจับจีบสีดำครึ่งแข้ง บรรจงวางอาหารตรงหน้ากานต์และครรชิต กานต์กล่าวขอบคุณและส่งยิ้มให้
“เจ้าของร้านมาเสิร์ฟเองเลยแบบนี้ ที่ร้านคงขายดีมากเลยนะครับ” กานต์เย้า
วิมลยิ้มน้อยๆ สีหน้าภูมิใจ “ส่วนมากลูกค้าก็บอกกันปากต่อปาก ลูกค้าประจำเองก็ไม่ทิ้งกันด้วย น้องกานต์ถ้าขาดเหลืออะไรก็เรียกได้นะคะ”
กานต์ยิ้มรับ เขายกคาปูชิโนร้อนมาสูดดมกลิ่นหอมชวนผ่อนคลาย กวาดสายตามองรอบร้าน เขาเป็นคนนัดครรชิตมาเจอที่ร้านอาหารร้านประจำ แนะนำเพื่อนเก่าว่าเป็นร้านดัง บรรยากาศ และรสชาติอาหารก็ดีด้วย แต่เหตุผลจริงๆ ไม่ใช่ทั้งหมดนั้นเลยสักนิด…
จะว่าไป ปรียาชอบบรรยากาศและรสชาติอาหารของร้าน ICARUS พวกเขาจึงมักมาทานอาหารที่นี่ด้วยกันบ่อย แถมปรียายังเอ็นดูเด็กหญิงต้นหอม สาวน้อยผมเปียวัยเก้าขวบ ลูกสาวเจ้าของร้านเป็นพิเศษ
ตัวกานต์เองก็ชอบชื่อร้าน…อิคารัสเป็นบุตรของเดดาลัส ตามตำนานกรีก สองพ่อลูกถอนขนปีกนกนางนวลแล้วเย็บใหม่ด้วยขี้ผึ้ง แล้วติดที่แขนของตน เดดาลัสและอิคารัสโบยบินไปยังท้องฟ้าด้วยปีกที่ประดิษฐ์ขึ้น อิคารัสโบยบินสูงขึ้น พุ่งตรงไปยังพระอาทิตย์ทอแสงเจิดจ้า แต่ปีกขี้ผึ้งไม่อาจทนแสงแผดเผาของพระอาทิตย์ ทำให้ปีกละลาย และอิคารัสผู้ปรารถนาจะชื่นชมความงามของดวงอาทิตย์ใกล้ๆ ก็ร่วงลงสู่ทะเลสีครามและจมน้ำตาย
กานต์นึกถึงปรียา เขาเข้าใจความรู้สึกของอิคารัสที่อยากสัมผัสพระอาทิตย์ และเข้าใกล้ความงดงามนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พักนี้ปรียาดูเหม่อลอย กานต์ลองไล่เช็กพวกแช็ตต่างๆ ของปรียาก็ไม่มีอะไรผิดสังเกต กระนั้น เขาก็สัมผัสได้ว่าเธอกำลังสนใจบางอย่างที่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร กานต์ไม่ชอบที่เขาไม่อาจรู้ใจเธอ ชายหนุ่มต้องรีบจัดการเรื่องวุ่นๆ ของสายฟ้า พอจบเรื่องแล้ว เขาจะได้ทุ่มความสนใจให้ปรียาอย่างเต็มที่
“ร้านนี้แยกโซนอาหารกับเครื่องดื่มค่ะ เพื่อประสาทสัมผัสด้านกลิ่นและบรรยากาศที่เพอร์เฟกต์ในการทานอาหาร ตัวร้านตกแต่งโทนมินิมอลสีขาว ประดับไม้ใบต่างๆ…” เสียงสดใสดังมาจากประตูทางเข้าโซนอาหารคาว ดึงดูดให้กานต์หันไปมอง
หญิงสาวร่างเล็ก ผิวขาวเหลือง ไว้ผมยาวหยักศก สวมชุดกระโปรงลายดอกไม้โทนสีชมพูพาสเทลขนาดพอดีตัว ให้ความรู้สึกเหมือนตุ๊กตาแสนสวย เธอเดินเข้ามาพร้อมผู้ชายร่างสูงใหญ่ ผิวขาวเหลือง
“เมอร์รี่ติดบรรยายแบบเวลารีวิวร้านเสียอย่างนั้น” หญิงสาวเอามือปิดปาก หัวเราะเบาๆ หันไปกล่าวกับผู้ชายที่มาด้วยกัน “แต่ร้าน ICARUS นี่เมอร์รี่อยากมานานแล้วนะคะ เพื่อนที่ทำงานชอบแนะนำให้มาถ่ายคลิปที่ร้านเพราะบรรยากาศดี มี Work Space เผื่ออยากจัดประชุมหรือสัมมนาด้วย ขนาดพี่หนึ่ง หัวหน้าเมอร์รี่ยังเปรยว่าจะแวะมาที่นี่ด้วยกันตอน Team Building แผนกช่วงปลายปี…ดีจังที่พี่นนท์มาเป็นเพื่อน”
“ก็เมอร์รี่เอาแต่เก็บตัวอุดอู้อยู่ในบ้าน ออกมาคาเฟ่สวยๆ กินของอร่อยๆ น่าจะดี” ณัฐนนท์ตอบ น้ำเสียงอ่อนโยน
กานต์ผุดรอยยิ้ม มองตามคนทั้งสองไม่วางตา ครรชิตมองตามสายตาเขาแล้วเบิกตากว้าง ก่อนตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวร่างเล็ก “เมอร์รี่นี่นา”
ลูกค้าใหม่ทั้งสองชะงัก มาริษาหันมองมองครรชิต โบกมือพร้อมส่งรอยยิ้มร่าเริงมาให้ โดยมีสายตาของกานต์ลอบจับจ้องทุกอากัปกิริยา เธอสาวเท้ามายังโต๊ะของพวกเขา ยิ่งดูใกล้ๆ มาริษาก็น่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้แสนสวยอย่างที่มัสลิน น้องฝึกงานในแผนกของเขาเคยพูด
“พี่ครรชิต!” มาริษาทัก “บังเอิญจัง จะมาทานข้าวก็เจอเพื่อนร่วมงานซะได้”
“มากับนนท์สินะ” ครรชิตทำสายตารู้ทัน มาริษาค้อนขวับ ส่วนณัฐนนท์กล่าวทักทายครรชิต ดูท่าพวกเขาทั้งสามจะรู้จักกันอยู่แล้ว
ไม่สิ คนทั้งสามรู้จักกัน กานต์รู้เรื่องนี้ดีจึงไล่ค้นเฟซบุ๊กของครรชิต และชวนมาทานข้าวที่ร้านอาหารต่างหาก แถมเป็นร้านที่มาริษาโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ‘รู้สึกหดหู่จัง แต่ก็ยังดีที่พรุ่งนี้จะได้ไปทานข้าวที่ร้าน ICARUS เพราะว่าฉันอยากไปชิมเมนูซิกเนเจอร์ที่ร้านมานานละ อาหารคาวก็น่ากิน พี่นนท์บอกว่าการกินขนมอร่อยๆ ทำให้อารมณ์ดี ดูท่าจะจริงนะ เพราะแค่คิดว่าจะได้ไปกินขนมที่ร้านสวยๆ ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว ดังนั้นเลิกฟุ้งซ่านเรื่องอื่น แล้วหาชุดน่ารักๆ สำหรับไปถ่ายรูปที่ร้านกันเถอะ!’
ตอนได้ชื่อเพจเฟซบุ๊กของมาริษามา สิ่งแรกๆ ที่กานต์ทำคือตรวจสอบรายชื่อสมาชิกในเพจ เพราะปกติเวลาทำเพจ ผู้ติดตามมักเป็นคนในแวดวงชีวิตส่วนตัวจริงๆ กับแฟนคลับที่ติดตาม กานต์มองหาคนที่จะเชื่อมโยงเขากับมาริษาผ่านคนเหล่านั้น เริ่มจากไล่ดูการสนทนาโต้ตอบเวลาหญิงสาวอัปรูปหรือโพสต์สเตตัสต่างๆ
ชื่อ ‘ครรชิต เกิดทองทา’ เพื่อนเก่าสมัยมัธยมของกานต์สะดุดตาเขาอย่างรวดเร็ว พอคลิกไปดูโพรไฟล์เฟซบุ๊กของครรชิต เขาก็ได้ข้อมูลเรื่องที่ทำงาน รวมทั้งอาชีพและแผนกของมาริษาผ่านรูปกิจกรรมบริษัทที่ครรชิตชอบโพสต์ลงเฟซบุ๊กแถมมาอีกด้วย…การอดหลับอดนอนเพื่อค้นข้อมูลของกานต์ช่างคุ้มค่า
เพราะมัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อย กานต์ถึงกับสะดุ้งเมื่อครรชิตสะกิดแขนเขา
“เหม่อไปถึงไหนเนี่ย” เพื่อนเก่าพูดกลั้วหัวเราะ แล้วแนะนำกานต์กับเพื่อนร่วมงาน
“ว่าแต่น้องเมอร์รี่หน้าคุ้นมากเลยนะครับ” กานต์ทำท่าสงสัย เล่นบทคนแปลกหน้ากับยูทูบเบอร์สาวจอมจุ้นที่มาป่วนฆาตกรรมสมบูรณ์แบบของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“จะคุ้นหน้าก็ไม่แปลก” ครรชิตงับเหยื่อ “เมอร์รี่เป็นยูทูบเบอร์ชื่อดังเชียวนะเว้ย”
กานต์เบิกตา “เดี๋ยวนะ ใช่แล้ว เจ้าของช่องยูทูบกับเจ้าของเพจ Merry Everyday ใช่ไหมครับ” เขาทำน้ำเสียงตื่นเต้น “พี่ติดตามช่องยูทูบอยู่นะครับ ได้มาเจอเจ้าของเพจตัวเป็นๆ แบบนี้ยอดไปเลย”
“มากินข้าวยังเจอแฟนคลับ อิจฉาคนดังจริงๆ” ครรชิตแกล้งแซวรุ่นน้อง มาริษาหัวเราะเบาๆ แล้วหันมาขอบคุณกานต์ที่ติดตามช่องของเธอ
“แต่คลิปที่ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กล่าสุด…” เขาเว้นจังหวะ ทำหน้ายุ่งยากใจ ลอบมองสีหน้าเจื่อนลงของมาริษา หญิงสาวถึงกับเซน้อยๆ จนณัฐนนท์ขยับมาประคอง
“เจอชิ้นส่วนศพแบบนั้น คงช็อกน่าดูเลยนะครับ แถมคลิปที่ไลฟ์สดตอนเจอศพก็มีคนแคปมาแชร์ว่อนเน็ตเสียด้วย” กานต์โยนระเบิดลูกใหญ่กลางวง มาริษาตัวสั่น เธอพยายามคุมสีหน้าให้ปกติ กระนั้นก็ไม่หลุดพ้นการลอบสังเกตของเขา
“พอเถอะครับ!” ณัฐนนท์ก้าวมาข้างหน้าเป็นเชิงปกป้องหญิงสาว สายตาที่มองกานต์เย็นเยียบ “คลิปที่ลงในไลฟ์ก็ลบไปแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้ตำรวจจัดการเถอะครับ และกรุณาอย่าพูดเรื่องนี้อีก!”
มาริษาจับแขนณัฐนนท์ไว้ ส่ายหน้าให้อีกฝ่ายน้อยๆ ก่อนหันมายิ้มซีดเซียวให้กานต์และครรชิต “งั้นเมอร์รี่กับพี่นนท์ขอตัวไปทานอาหารก่อนนะคะ”
กานต์มองตามคนทั้งสองไป ณัฐนนท์พาหญิงสาวไปอีกมุมของร้าน จงใจเลี่ยงพวกเขาสองคน กานต์พยายามกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น เขาก้มหน้า ไม่อยากให้ครรชิตผิดสังเกต
ทว่า เพื่อนเก่าของเขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง เจ้าตัวตบบ่าเขา “เมอร์รี่คงเครียดอยู่แล้วน่ะ พอใครพูดถึงนิดหน่อยเลยคิดมาก ไม่ต้องกังวลนะ นายก็แค่ถามเพราะเป็นห่วง อย่าคิดมาก เมอร์รี่ก็คงรู้แหละ”
กานต์พยักหน้าให้อีกฝ่าย ลอบยิ้มในใจ ช่างใสซื่ออะไรเช่นนี้
เขาหันไปมองมาริษาและณัฐนนท์ที่กำลังคุยกันระหว่างรออาหาร เพียงเท่านี้ เขาก็สามารถเข้าใกล้หญิงสาวที่บังอาจมาป่วนแผนฆาตกรรมอันสมบูรณ์แบบของตัวเองได้ก้าวหนึ่งแล้ว
***
‘ไปร้าน ICARUS มาแล้ว!!! บิงซูบราวนี่โรยท็อปปิงด้วยผลไม้และช็อกโกแลตอร่อยมาก แถมเจอรุ่นพี่ต่างแผนกที่ทำงานด้วย โลกกลมสุดๆ ว่าแต่วันหยุดรอบหน้าจะหลอกพี่นนท์พาไปกินของอร่อยที่ไหนอีกดีน้า’
บนรถแท็กซี่ กานต์หยิบโทรศัพท์มาดูสเตตัสบนนิวฟีดเฟซบุ๊กของมาริษา ที่เด้งขึ้นทันทีที่หญิงสาวลุกออกจากร้าน เขาหันไปบอกครรชิตว่ามีธุระด่วน แล้วรีบตามอีกฝ่ายออกไป
ชายหนุ่มสลับมาใช้บัญชีเฟซบุ๊กอีกบัญชีของตัวเอง เขาตั้งบัญชีนี้ไว้หลายปีแล้ว รูปโพรไฟล์เป็นภาพตัวการ์ตูน ไม่ค่อยโพสต์อะไรแต่แชร์โน่นแชร์นี่นานๆ ที ไม่ใช่บัญชีหลักของกานต์ แต่เป็นบัญชีที่ตั้งเอาไว้เวลาจะปกปิดตัวตนเพื่อไปส่องคนอื่น
เขากดไปดูตรงคำขอเพิ่มเพื่อนที่ตัวเขาส่งไปยังเฟซบุ๊กของมาริษาด้วยบัญชีตัวการ์ตูนนี้เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ยังคงไร้การตอบรับ
“ไม่รับแอดเพื่อนจากคนแปลกหน้าสินะ” กานต์พูด “ถือว่ามีความสามารถในการระวังตัวขั้นพื้นฐาน”
กานต์ได้ชื่อช่องยูทูบของมาริษามาจากมัสลิน นักศึกษาฝึกงานที่เป็นแฟนคลับของเจ้าหล่อน หญิงสาวร่างเล็กเสียงหวานมีผู้ติดตามในยูทูบราวสี่แสนซับ นับว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว โดยทั่วไปยูทูบเบอร์จะมีเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมชื่อคล้ายๆ กับช่องยูทูบเพื่อช่วยโปรโมต ซึ่งกานต์ไม่ผิดหวัง เขาค้นเจอเพจและไอจีของ ‘Merry Everyday’ อย่างรวดเร็ว ทุกอย่างราบรื่นราวจะเป็นใจ
แม้จะตรวจสอบจากคลิปวิดีโอที่หญิงสาวอัปโหลดแล้วไม่พบอะไรเกี่ยวพันมาถึงตัวเขา ชายหนุ่มก็ยังไม่วางใจ ดูอย่างที่เจ้าหล่อนเล่นเกมล่าสมบัติกับณัฐนนท์จนไปเจอนาฬิกาข้อมือของสายฟ้าเข้าสิ กานต์คิดแค่ว่าเขาอยากแน่ใจว่าเจ้าหล่อนจะไม่มีอะไรโผล่มาเซอร์ไพรส์ทีหลังอีก
ลางสังหรณ์ของกานต์ไม่ผิด นังยูทูบเบอร์ตัวดีสาระแนหาเรื่องมาให้เขาจนได้ ศพที่ควรนอนนิ่งสนิทใต้ดินกลับไม่อยู่ในที่ที่ควรอยู่ แม้ตำรวจจะยังระบุไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น กานต์มั่นใจว่าตัวไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรไว้ ต่อให้ตำรวจระบุได้ว่าเจ้าของเศษชิ้นส่วนทั้งหมดคือสายฟ้า มันก็เท่านั้น ชายหนุ่มเพียงแค่หงุดหงิดที่มีคนมาป่วนแผน และเขาก็อยากแน่ใจว่ามาริษาจะทำตัวสงบเสงี่ยมเสียที แต่จะให้เดินไปหาต่อหน้า แล้วขอให้ลบคลิปวิดีโอกับภาพทั้งหมดเอาดื้อๆ ก็คงไม่ได้ แผนของเขาก็คือต้องค้นหาม้าไม้เมืองทรอย หาทางฝ่าด่านป้องกันเพื่อเข้าถึงตัวหญิงสาว ถ้ามาริษาเป็นอันตรายก็เชือดเธอซะ!
ม้าไม้เมืองทรอยปรากฏในตำนานกรีกโบราณ สงครามกรุงทรอยหรือสงครามม้าไม้เป็นการสู้รบกันระหว่างกองทัพของชาวกรีกและชาวทรอยหรือชาวโทรจัน ชนวนเหตุเกิดจากเจ้าชายปารีสแห่งทรอยลักพาตัวเจ้าหญิงเฮเลน ชายาของกษัตริย์เมเนลาอุส ผู้ปกครองนครสปาร์ตาของกรีก จนเกิดสงครามแย่งชิงตัวเจ้าหญิงเฮเลนผู้เลอโฉม
สงครามระหว่างกองทัพชาวกรีกและชาวเมืองทรอยกินเวลายาวนานนับสิบปี กองทัพกรีกก็ยังไม่สามารถตีฝ่าการป้องกันอันแน่นหนาเพื่อก้าวผ่านประตูเมืองทรอยไปได้ กระทั่งกองทัพกรีกออกอุบายสร้างม้าไม้จำลองขนาดมหึมา เรียกกันว่าม้าไม้เมืองทรอย ภายในกลวง บรรจุทหารกรีกเอาไว้ แล้วมอบให้กรุงทรอยเสมือนเป็นขอบขวัญและเป็นนัยว่าได้ยกธงขาวยอมแพ้ชาวทรอย
ชาวทรอยนำม้าไม้เข้ามาตั้งในเมืองเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ งานรื่นเริงยาวนานติดต่อกันทั้งกลางวันและกลางคืน กระทั่งตกดึก ทหารกรีกที่ซ่อนตัวในม้าไม้ลอบออกมาเปิดประตูเมืองให้กองทัพกรีกที่แอบซุ่มอยู่ด้านนอก ในที่สุดชาวกรีกก็มีชัยเหนือเมืองทรอยอย่างง่ายดาย ทหารชาวกรีกยังเผาเมืองทรอยจนราบคาบอีกด้วย
จะว่าไป คำว่าม้าโทรจันเองยังหมายถึงโปรแกรมไวรัสที่บรรจุในคอมพิวเตอร์เพื่อลบเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน เลขที่บัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิต ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ
และตอนนี้กานต์เองก็วางม้าไม้ไว้หน้าเมืองทรอยเพื่อเข้าถึงข้อมูลของมาริษาถึงสองตัว
ม้าไม้ตัวแรกคือครรชิต การ ‘บังเอิญ’ เจอกันในร้านอาหาร ในฐานะเพื่อนของรุ่นพี่ที่ทำงาน ย่อมสร้างความรู้สึกในเชิงบวก
ม้าไม้ตัวที่สอง คือการแอดเฟซบุ๊กขอเป็นเพื่อนกับมาริษา
ก่อนหน้านี้ เขาไล่ดูคลิปวิดีโอที่เจ้าหล่อนอัปโหลด อ่านข้อความที่หญิงสาวพิมพ์ในเพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม แต่มาริษาไม่เผยช่องโหว่อะไรที่พาเขาไปยังแอ็กเคานต์ที่แท้จริงของตัวเธอ เพราะแอ็กเคานต์ส่วนตัวนั้นเป็นที่ปลอดภัยที่เธอจะโพสต์หลายๆ อย่างที่ลับเฉพาะขึ้น ไม่ใช่แค่แนะนำเพจหรือคลิปใหม่ๆ ทว่า มาริษาระวังตัวจนไม่เคยอัปคลิปพาทัวร์บ้านเลยด้วยซ้ำ
ในเมื่อโจมตีตรงๆ ไม่ได้ ชายหนุ่มจึงต้องอ้อมเล็กน้อย
เขาไล่อ่านข้อความในเพจเฟซบุ๊กของมาริษา ตรวจสอบคำพูดและวิธีที่เจ้าหล่อนตอบกลับคอมเมนต์ต่างๆ จนเจอชื่อเพื่อนเก่าของตัวเองอย่างครรชิต แถมยังแจ็กพ็อตแตก เพราะครรชิตทำงานที่เดียวกับมาริษา แม้จะคนละแผนก แต่การโต้ตอบกันในเพจก็ดูสนิทสนมพอควร
กานต์รีบแอดเพื่อนครรชิต เพราะเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่เรียนมัธยม ครรชิตเลยตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของกานต์อย่างรวดเร็ว กานต์เริ่มต้นจากเฟซบุ๊กของครรชิต ค้นหาแอ็กเคานต์เฟซบุ๊กจริงๆ ของมาริษาจากรายชื่อเพื่อนของครรชิต จนเจอเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม Im Marisa ที่มีโพรไฟล์เป็นภาพหญิงสาวผมสีดำลอนยาว สวมชุดกระโปรงมีระบายลูกไม้พลิ้วไหว ส่งยิ้มสดใสให้กล้อง
แค่คิดถึงตอนตัวเองนั่งหลังขด ยื่นหน้าจ้องคอมจนปวดคอ ไล่หารูปของมาริษาในรายชื่อเพื่อนเกือบห้าร้อยคนของครรชิต กานต์ก็รู้สึกปวดตาขึ้นมา
กานต์มองโพรไฟล์ภาพตัวการ์ตูนของตัวเองที่มาริษายังไม่รับแอดเพื่อน จริงๆ เขาก็เผื่อใจไว้แล้วบางส่วน เพราะถ้ามีใครก็ไม่รู้มาขอเป็นเพื่อน การระวังตัวและไม่รับแอดก็เป็นเรื่องปกติ ชายหนุ่มแค่อยากลองโยนหินถามทางเพื่อดูว่ามาริษาระวังตัวในการใช้งานบัญชีโซเชียลของเจ้าตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะจะว่าไป เจ้าตัวทำช่องยูทูบ แถมยังมีเพจในเฟซบุ๊ก การรับคำขอเป็นเพื่อนจากคนแปลกหน้าน่าจะง่ายระดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนมาริษาขีดเส้นชัดเจนระหว่างเพจและบัญชีส่วนตัว
“น่าสนใจ!” กานต์ยกยิ้มมุมปาก
ชายหนุ่มเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊กของมาริษา ไล่ค้นหารายชื่อเพื่อนของหญิงสาว เลือกคนที่ไม่ค่อยอัปเดตอะไรมาก จนเจอเฟซบุ๊ก ‘วรรณ วรรณิดา’ ทำงานบริษัทเดียวกัน แต่น่าจะคนละแผนก คงเป็นเพื่อนกันในบัญชีเฟซบุ๊กเพราะทำงานที่เดียวกันเฉยๆ กานต์มองภาพผู้หญิงวัยราวสี่สิบต้นๆ ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนแสกกลาง สวมเสื้อเบลาส์สีเขียวลายตาราง ส่งยิ้มภูมิฐานให้กล้อง สเตตัสบนเฟซบุ๊กของเจ้าตัวส่วนมากจะแชร์บทความแนวธรรมะ หรือไม่ก็ความรู้เรื่องทริกการแต่งหน้าแต่งตัวสมกับที่ทำงานบริษัทเครื่องสำอาง แถมยังใช้งานไม่ค่อยบ่อยด้วย เป็นเป้าหมายที่เหมาะเจาะราวกับสวรรค์กำลังเข้าข้างเขา
กานต์กดเข้าไปดูภาพของวรรณิดาที่มีคนอื่นแท็ก โล่งอกที่เจ้าตัวไม่ได้ปิดกั้นการมองเห็นเมื่อมีคนอื่นแท็กรูปตัวเองในเฟซบุ๊ก ทำให้กานต์ทำงานสะดวกขึ้น
เขาเซฟหน้าตรงของวรรณิดา เลือกภาพที่ให้ความรู้สึกภูมิฐานแบบภาพโพรไฟล์ปัจจุบัน แล้วสมัครบัญชีเฟซบุ๊กด้วยอีเมลสำรองที่กานต์สมัครแบบใช้แล้วทิ้ง ตั้งชื่อเฟซบุ๊กเป็น ‘วรรณ วรรณิดา (เฉพาะเพื่อนสนิท)’ ใช้ภาพโพรไฟล์เป็นภาพที่โหลดมา แล้วส่งคำขอเป็นเพื่อนมาริษาอีกครั้ง
อันที่จริง การที่กานต์ใช้โพรไฟล์ชื่อแปลกๆ แถมตั้งอวตารเป็นรูปการ์ตูน ข้อมูลส่วนตัวแทบไม่มี ขอแอดเพื่อนมาริษาไปก่อนหน้า นอกจากจะเพื่อตรวจดูว่าเจ้าหล่อนระวังตัวเรื่องการรับเพื่อนออนไลน์แค่ไหน ยังเพื่อบีบให้หญิงสาวเกิดความไม่ไว้ใจว่าบัญชีแปลกๆ ที่แอดเธอมาเป็นใคร หลังจากนั้นกานต์ก็ใช้บัญชีเฟซบุ๊กของรุ่นพี่ที่ทำงาน แถมยังเป็นเพศเดียวกัน การได้เห็นใบหน้าที่คุ้นตา หลังเผชิญความไม่น่าไว้ใจจากบัญชีเฟซบุ๊กแปลกๆ ก่อนหน้า ย่อมเพิ่มโอกาสให้มาริษารับเพื่อนบัญชี ‘วรรณ วรรณิดา (เฉพาะเพื่อนสนิท)’ ได้ง่ายขึ้น
อีกอย่าง…รุ่นพี่ที่ทำงานส่งคำขอเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ใครจะกล้าปฏิเสธ ต่อให้ไม่อยากรับเพื่อนเพราะไม่สนิทกัน แต่เพราะอาจต้องร่วมงานกันจึงต้องรักษามารยาท
แถมใครจะไปคิดว่าคนที่ขอแอดเพื่อนมาไม่ใช่คนในโพรไฟล์
ทันทีที่เป้าหมายกดรับแอด กานต์จะได้ข้อมูลทั้งโพสต์สาธารณะและโพสต์ที่เห็นได้เฉพาะเพื่อน
คำพูดที่ว่าถ้าอยากรู้อะไรให้ไปค้นในอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงเลย กานต์แทบจะรู้จักทุกแง่มุมของมาริษาผ่านการนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำงานที่ไหน เพื่อนสนิทเป็นใคร ความใฝ่ฝัน หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่เธออยู่หรือไม่อยู่บ้าน ไล่ไปจนถึงสมาชิกในครอบครัว บางอย่างต้องอาศัยการค้นหาจากหลายๆ แหล่ง แต่บางอย่าง หญิงสาวก็เป็นคนโพสต์บอกใบ้เองผ่านบัญชีโซเชียลของอีกฝ่าย โดยที่เธอเองคงไม่รู้ตัวเลย
กานต์ค่อยๆ เข้าใกล้มาริษามากขึ้นทีละก้าว ทีละก้าว
กานต์บิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ สะบัดศีรษะไล่ความเกร็งที่คอจนดังกร็อบเบาๆ พอให้ความปวดเมื่อยทุเลาลง เขาเอามือลูบใบหน้า ลอบเดินตามมาริษาและณัฐนนท์ กระทั่งเก๋งสีเทาเข้มรูปทรงสปอร์ตแล่นออกไป กานต์โบกมือเรียกแท็กซี่ เขาจงใจไม่เอารถยนต์คันเก่งมาด้วยเหตุผลนี้
ประตูเมืองทรอยอุตส่าห์แง้มออก จะให้เขาอยู่เฉยก็ไม่ใช่เรื่อง
แท็กซี่ตามรถสีเทาไปจนถึงปากซอยเล็กๆ มีร้านสะดวกเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงอยู่ด้านหน้า มาริษาก้าวลงจากรถ ณัฐนนท์ลดกระจกลง พูดอะไรกันครู่หนึ่ง แล้วณัฐนนท์ก็แล่นรถจากไป ส่วนมาริษาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ จากตัวร้าน เดินเข้าซอยไปไม่ไกลนักจะเป็นบ้านของหญิงสาว กานต์จำได้แม่นเพราะมาริษามักอัปรูปเซลฟีหน้าร้านสะดวกซื้อเวลามีผลิตภัณฑ์เสริมความงามของบริษัทที่หญิงสาวทำงานอยู่มาวางขาย หญิงสาวคงไม่อยากให้ณัฐนนท์ต้องรอและอยากเลือกซื้อของสบายๆ จึงให้เขากลับบ้านไปได้เลย
“เดี๋ยวจอดด้านหน้าป้ายรถเมล์เลยครับ” กานต์บอกคนขับซึ่งเป็นชายหน้ารูปสี่เหลี่ยม ทำผมเสยขึ้นข้างบน คนขับแท็กซี่ทำหน้านิ่ง แทบไม่พูดจา แต่ขับรถตามรถของณัฐนนท์ได้ดีชนิดไม่ปล่อยให้คลาดสายตา ส่วนหนึ่งอาจเพราะกานต์บอกว่าเขากำลังตามจับชู้รักของแฟนสาวก็ได้
กานต์ชี้ไปยังป้ายรถเมล์ไม่ไกลจากร้านค้านัก เขาไม่อยากให้มาริษาบังเอิญมองเห็นเขาก่อน แผนของกานต์วันนี้แค่มาดูลาดเลาเท่านั้น แต่ถ้าเขาเดาไม่ผิดแล้วละก็…
ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ เพิ่มทิปให้คนขับอีกหนึ่งร้อยบาทด้วยความลิงโลด กานต์ผุดรอยยิ้มที่ดูบิดเบี้ยวจนน่ากลัว เมื่อสายตาหันไปเห็นชายผมกระเซิง พุงพลุ้ย ผิวเข้ม วัยประมาณห้าสิบกลาง สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นคอปก กางเกงยีนส์ชิโน่ขาสั้นสีกากี เดินลากเท้าผ่านเขาไปด้วยท่าทางระแวดระวัง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 9 : ผมให้คุณเป็นที่หนึ่ง
- READ กานต์ปรียา บทที่ 8 : บทเรียนเรื่องจักรวาลที่ชื่อว่าคุณ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 7 : บอกมาว่าคุณรู้สึกอย่างไร
- READ กานต์ปรียา บทที่ 6 : กล่องความทรงจำในดินแดนที่ถูกลืม
- READ กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 4 : เรื่องทั้งหมดที่ฉันชอบ
- READ กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด
- READ กานต์ปรียา บทที่ 2 : เส้นทางที่ไม่อาจหวนคืน
- READ กานต์ปรียา บทที่ 1 : อ้อมกอดแนบแน่นราวพยายามกลืนกินอีกฝ่าย







