กานต์ปรียา บทที่ 10 : ความสุขชั่วนิรันดร์

กานต์ปรียา บทที่ 10 : ความสุขชั่วนิรันดร์

โดย : ดารัช

Loading

กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

แท็กซี่แล่นมาจอดหน้าบ้านชั้นเดียวทำจากไม้สีขาว ส่วนหลังคาและเสาบ้านเน้นสีน้ำตาลให้ความรู้สึกอบอุ่น หน้าบ้านมีแสงไฟสีส้มส่องสว่าง นางมรกต-แม่ของมาริษานั่งรอตรงม้าหินอ่อน ร่างเล็กท้วมของท่านดูห่อเหี่ยวด้วยความกังวล โดยมีนายจรัส-พ่อของเธอนั่งอยู่ข้างๆ

“ขอบคุณพี่กานต์มากเลยนะคะ” เธอหันไปพนมมือขอบคุณหนุ่มรุ่นพี่ หญิงสาวเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กกับอีกฝ่ายเรียบร้อย เธอตั้งใจว่าจะนัดเจออีกฝ่ายหลังจากนี้เพื่อขอบคุณให้เป็นเรื่องเป็นราว

“แน่ใจนะว่าจะไม่โทรหาเพื่อนคนนั้น”

มาริษากลั้นลมหายใจ ตลอดเวลาตั้งแต่กานต์จับสตอล์กเกอร์ โทร.เรียกตำรวจ รอเธอให้ปากคำที่โรงพัก ทั้งยังชวนไปนั่งสงบใจที่ร้านกาแฟ หญิงสาวเอาแต่ก้มมองโทรศัพท์ จ้องมองเบอร์ของณัฐนนท์ กานต์เองก็เคยเจอณัฐนนท์ที่ร้าน ICARUS จะถามถึงก็คงไม่แปลก เธอนึกถึงรุ่นพี่คนสนิท แล้วส่ายหน้าน้อยๆ ให้กานต์ แม้จะอยากโทร.หามากแค่ไหน แต่เธอและณัฐนนท์ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน มาริษาไม่อยากเคยชินกับการเอาแต่โทร.หาณัฐนนท์

พอจะเปิดประตูรถ กานต์ก็รั้งแขนเธอไว้ เขามองมาริษาด้วยสีหน้าจริงจัง “คนผิดคือไอ้เวรนั่นนะ ไม่ใช่เมอร์รี่ซะหน่อย”

มาริษากลั้นลมหายใจ อีกฝ่ายดูจะเท่าทันความคิดของเธอ และนึกรู้ว่าเธอเอาแต่โบยตีตัวเองตลอดเวลาที่นั่งรถกลับบ้าน เรื่องที่ตัวเธอเองเป็นคนบอกรายละเอียดต่างๆ ให้ทรงภพรู้ผ่านสื่อโซเชียล “ถ้าจะโทษตัวเองเรื่องนี้ มันก็อีหรอบเดียวกับพวกที่โทษผู้หญิงที่โดนข่มขืนว่าเพราะพวกเธอแต่งตัวโป๊ อะไรแบบนั้นเลย เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่ความผิดของเมอร์รี่นะ!”

โทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยหลักที่ขาดไม่ได้ และการ ‘ส่อง’ ‘โพสต์’ คอมเมนต์’ ‘แช็ต’ ในโลกออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารของผู้คน รอยนิ้วมือออนไลน์ที่เราทิ้งไว้ มีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จักเราจริงๆ ที่สามารถมองเห็นได้ ในบรรดาคนเหล่านั้น อาจมีคนประสงค์ร้ายมาสะกดรอยตามเราในโลกออนไลน์

‘คุณกำลังคิดอะไรอยู่’ ช่องว่างบนบัญชีโซเชียลต่างๆ ตั้งคำถามและรอให้เราโพสต์สตัส บอกความคิด โพสต์ภาพช่วงเวลาต่างๆ ของเรา เพื่อสื่อสารกับผู้คน ย่อโลกให้เล็กลง ทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็เป็นเหมือนคนที่ติดในที่มืด แล้วก่อกองไฟเพื่อส่องแสง ประกาศบอกทุกคนว่าฉันอยู่ตรงนี้

โดยลืมไปว่าสิ่งที่ซ่อนในเงามืดเลยเปลวไฟออกไปไม่ได้มีแต่มิตร

“ลงไปเถอะ พ่อกับแม่เมอร์รี่คงกังวลแล้ว” กานต์ยิ้มให้ มาริษารู้สึกราวได้รับคำปลอบโยน

นางมรกตถลันมาหาทันทีที่เธอก้าวลงจากรถ หญิงสาวกอดแม่แน่น ด้านหลัง นายจรัสเดินมาหาเธอ พยักหน้าให้น้อยๆ เป็นเชิงปลอบใจ

“ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูกเอ๊ย” ตอนอยู่ร้านกาแฟ มาริษาโทร.หาแม่เพื่อจะบอกว่าคงกลับบ้านช้า พออีกฝ่ายถามรายละเอียด เธอกลับเล่าไม่ออก กานต์เลยช่วยอธิบายเหตุการณ์คร่าวๆ และยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะพาเธอมาส่งถึงบ้าน

แม่คลายอ้อมกอด หันไปมองกานต์ ชายหนุ่มก้าวลงจากแท็กซี่ ไหว้ทักทายนางมรกตด้วยท่าทางอ่อนน้อม

“พี่กานต์เป็นเพื่อนพี่ครรชิต รุ่นพี่ที่ทำงานค่ะ พี่เขามาช่วยเมอร์รี่ไว้เพราะเห็นมีคนสะกดรอยตาม” เธอแนะนำรุ่นพี่ให้พ่อแม่รู้จัก “ส่วนนี่พ่อกับแม่ของเมอร์รี่”

แม่เดินไปหากานต์ สายตาที่จับจ้องชายหนุ่มมีแววไหวระริก “ขอบคุณที่ช่วยลูกน้าไว้นะจ๊ะ แค่ได้ยินจากโทรศัพท์ก็แทบลมจับ จู่ๆ ใครที่ไหนไม่รู้ก็มาสะกดรอยตามเมอร์รี่”

มาริษาสบตากานต์ นึกขอบคุณที่มีเขา กานต์เล่าให้พ่อแม่แค่ว่าเธอโดนคนโรคจิตสะกดรอยตาม โดยละเรื่องที่ทรงภพเป็นแฟนคลับของเธอ หรือเรื่องที่ทรงภพแอบเข้าบ้านมายุ่งเกี่ยวกับของของมาริษา

“ถ้ายังไงเพื่อความปลอดภัย คุณน้าทั้งสองคนติดกล้องวงจรปิดเผื่อไว้ก็ดีนะครับ” กานต์กล่าว “ยังไงก็กันเอาไว้ เผื่อมีใครมาป้วนเปี้ยน”

“ตายจริง” แม่เอามือทาบอก ใบหน้าของท่านดูแก่ชราและเปี่ยมไปด้วยความกังวล “ขอบคุณที่แนะนำนะจ๊ะ แค่ได้ยินว่ามีคนมาสะกดรอยตามเมอร์รี่ น้าก็จะเป็นลม นี่ถ้ามีคนแปลกๆ มาป้วนเปี้ยนแถวบ้านละก็…”

มาริษาจับมือสั่นเทาของแม่ ส่งยิ้มให้อีกฝ่าย ทำสีหน้าสดชื่น “คนร้ายโดนจับแล้ว โชคดีมากๆ ที่พี่กานต์มาช่วยเมอร์รี่ไว้ทัน แม่ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะคะ เดี๋ยวเราค่อยติดกล้องวงจรปิดไว้อีกทีเนอะ”

“งั้นหนูกานต์เข้าบ้านมาดื่มชา มาทานขนมก่อนไหมจ๊ะ” แม่พูด

กานต์มองมาริษา “วันนี้เมอร์รี่คงเหนื่อยแล้ว แถมคุณน้าทั้งสองคนก็คงตกใจมากๆ ผมไม่รบกวนดีกว่าครับ”

“พี่กานต์เข้ามาดื่มชา มาทานขนมเถอะค่ะ” เธอรั้งอีกฝ่ายไว้ ไม่รู้ทำไมรู้สึกอุ่นใจเหมือนมีพี่ชายเพิ่มมาหนึ่งคนเวลามองกานต์ ชายหนุ่มมองตอบ แล้วผุดรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้

“งั้นติดไว้ก่อน รอบหน้าผมจะขอมาฝากท้องนะครับ” เขายิ้ม

หญิงสาวมองส่งกานต์ขึ้นแท็กซี่ กระทั่งรถแล่นจากไปจนลับสายตา รับรู้ได้ว่าพ่อแม่เฝ้ามองเธอทุกอิริยาบถ ใบหน้าของท่านทั้งสองดูอิดโรยและกังวล หญิงสาวหอมแก้มพ่อแม่คนละฟอด ทำหน้าทะเล้นใส่

“เมอร์รี่ปลอดภัยหายห่วง มีรุ่นพี่สุดหล่อมาส่งถึงบ้าน พ่อแม่ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะ”

“เจอเรื่องหนักๆ มา ไปพักผ่อนซะเถอะเจ้าเมอร์รี่” พ่อบอก หญิงสาวรับคำ แล้วเดินเข้าห้องนอน นึกขอบคุณที่พ่อบอกให้เธอไปพัก เพราะมาริษาไม่รู้ว่าจะแกล้งปั้นสีหน้าร่าเริงต่อหน้าพ่อแม่ไปได้อีกสักกี่น้ำ เธอกลัวว่าจะหลุดแสดงความหวาดกลัวและเล่าเรื่องจริงทั้งหมดออกมา แค่นี้ท่านทั้งสองก็คงกังวลจนไม่รู้จะกังวลยังไงแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง แต่อยากตั้งสติก่อนแล้วค่อยๆ เล่า และตอนนี้มาริษายังตั้งสติไม่ได้ เธอไม่อยากคิดเลยว่าถ้ากานต์ไม่บังเอิญตามมา เธอจะรับมือกับเหตุการณ์ทั้งหมดยังไง

ทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง ความรู้สึกทั้งกลัวทั้งขยะแขยงกลับพุ่งพล่านขึ้นมาอีกระลอก มาริษาเดินดุ่มไปหยิบตุ๊กตาคิตตี้มาขว้างบนพื้น แต่ยังไม่พอ เธอกระชากผ้าปูที่นอนทิ้งเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วรื้อเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา ตามด้วยกวาดเครื่องสำอางทั้งหมดทิ้งบนพื้น หญิงสาวกลัวห้องของตัวเองไปหมด จินตนาการไม่ออกเลยว่าสตอล์กเกอร์โรคจิตอย่างทรงภพหยิบจับข้าวของชิ้นไหนของตัวเองบ้าง

หญิงสาวเอาของมากองในห้องจนเหนื่อย เธอทรุดตัวพิงเตียงนอน นั่งกอดเข่าตัวสั่นเทา วันนี้ช่างยาวนานเสียจนเธอนึกอยากให้มันเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง

“พวกเรารักกัน คอยเป็นห่วงกันและกัน พี่รู้อยู่แล้วว่าน้องเมอร์นี่ก็ใจตรงกับพี่”

“น้องเมอร์รี่ไม่รู้ตัวจริงๆ เหรอ ทั้งที่ยังเคยอัปสเตตัสว่าดื่มน้ำผลไม้ในห้องแล้วชื่นใจ แถมยังชอบเสื้อผ้าที่พี่ซื้อให้ เรายังเคยใช้ลิปมันกลิ่นพีชด้วยกัน สวมเสื้อผ้าชุดเดียวกัน นอนบนหมอนใบเดียวกัน”

“คนรักกันก็ต้องแบ่งของกันใช้สิจ๊ะ เมื่อคืนก่อนน้องเมอร์รี่ยังสวมชุดนอนลายคิตตี้ที่พี่ซื้อให้อยู่เลยนี่นา”

น้ำเสียงคล้ายเสียสติของนายทรงภพย้อนกลับมา วนซ้ำราวชั่วกัลป์ มาริษาแค่อยากถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เจอให้เพื่อนๆ และแฟนคลับ แบ่งปันสถานที่สวยๆ สร้างโลกที่น่าอยู่ มีพื้นที่สบายใจของตัวเอง เธอทำอะไรผิดนักหน้า ทำไมแฟนคลับที่คอยสนับสนุนเธอมาตลอด กลับกลายเป็นคนโรคจิตที่เฝ้าจับตามองเธอจากเงามืด

เสียงเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือดึงเธอจากภวังค์ มาริษามองข้อความในกล่องแช็ตเฟซบุ๊ก กานต์ส่งสติกเกอร์มาให้ เป็นภาพหมีสีน้ำตาลทำหน้าห่วงใย ถือป้ายข้อความ ‘Are you OK?’

หญิงสาวอมยิ้ม หัวใจพลันอบอุ่น

Im Marisa : พี่กานต์ถึงบ้านรึยังคะ

กานต์ บุณยารักษณ์ : ใกล้แล้วครับ เมอร์รี่อย่าไปคิดมากนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้

มาริษาส่งสติกเกอร์ขอบคุณให้อีกฝ่าย กานต์เองก็ไม่ได้ตอบอะไรมาอีก คงอยากให้เธอพักผ่อนเต็มที่ หญิงสาวนึกถึงที่เขาถามว่าจะบอกณัฐนนท์หรือเปล่า เธอมองช่องแช็ตที่มีชื่อณัฐนนท์อยู่ แล้ววางโทรศัพท์มือถือข้างตัว เธอไม่อยากรบกวนชายหนุ่มในตอนที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้

ถ้าพึ่งพามากเกินไปจนเคยตัว แล้วโดนปฏิเสธ มาริษาคงทนไม่ไหว

หญิงสาวนอนคู้ตัวบนพื้นห้อง รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจนไม่อยากทำอะไร พรุ่งนี้เธอจะเอาข้าวของไปทิ้งให้หมด ถือโอกาสจัดห้องใหม่แบบมินิมอลเสียเลย

น้ำตาหยดจากหางตา หญิงสาวเอามือปิดปาก สะกดกลั้นความรู้สึกอยากกรีดร้องเอาไว้ แค่รู้ว่าเธอโดนสะกดรอยตาม พ่อกับแม่คงกังวลมากพอแล้ว หญิงสาวไม่อยากเพิ่มเรื่องหนักใจให้พวกท่านอีก มาริษาพยายามฉีกยิ้มร่าเริง แต่ริมฝีปากไม่ยอมขยับ สุดท้ายเธอก็นอนมองพื้นห้องจนหลับไปตอนไหนไม่รู้

 

กานต์นั่งมองสติกเกอร์แมวอ้วนถือหัวใจ มีข้อความ ‘ขอบคุณนะ’ ด้านใน ที่มาริษาตอบกลับมาทางช่องแช็ตเฟซบุ๊ก ชายหนุ่มลงจากรถแท็กซี่ ส่งเงินพร้อมทิปก้อนโตให้คนขับ มืออีกข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ สายตาจดจ่อที่ข้อความ

คนขับกล่าวขอบคุณ แล้วขับรถจากไป กานต์กัดริมฝีปาก แต่ในที่สุดก็ไม่อาจกลั้นไว้ได้ เขาระเบิดเสียงหัวเราะดังสนั่นจนตัวโยน

กานต์เอามือปาดน้ำตาที่เกิดจากการหัวเราะมากเกินไป เขากดไปดูหน้าโพรไฟล์เฟซบุ๊กของมาริษา เขาชายหนุ่มจงใจแลกเฟซบุ๊กกับเจ้าตัวเผื่อไว้ตรวจสอบว่ามาริษาจะอัปสเตตัสอะไรเชื่อมโยงระหว่างกานต์กับคดีฆ่าหั่นศพหรือเปล่า ถือเป็นการกันไว้ก่อน

กานต์กดคลิกดูรูปโพรไฟล์ของมาริษา…มองคอมเมนต์ของ Merry MerryMe ที่ส่งสติกเกอร์หัวใจ และชมว่าสวยเสียจนละสายตาไม่ได้

จะว่าไปก็ต้องขอบคุณเจ้าสตอล์กเกอร์นั่น

กานต์ผุดรอยยิ้ม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาบ้านมาริษา

ชายหนุ่มซูมภาพเวลาหญิงสาวโพสต์ มองหาสถานที่ใกล้เคียง จนสามารถมาแอบยืนหลบหน้าบ้านของเธอ มองนางมรกตรอต้อนรับหญิงสาวกลับบ้าน แอบสังเกตนายจรัสยามมายืนรดน้ำต้นไม้ สอดส่ายสายตาจนแน่ใจว่าไม่มีกล้องวงจรปิด จนชายหนุ่มแอบเข้าไปขโมยกล้องถ่ายรูปและเมมเมอรี่การ์ดในห้องมาริษาได้ง่ายดาย อ้อ! แถมด้วยการแกล้งโทร.หาแล้วไม่พูดอะไรนั่นด้วย ถึงอย่างไร หญิงสาวควรได้รับบทลงโทษนิดๆ หน่อยๆ ที่สาระแนมาขุดหากล่องความทรงจำบนภูเขา รบกวนร่างที่ควรหลับใหลอย่างสงบของสายฟ้า

ทั้งหมดนี้เป็นผลของความพยายามอย่างหนัก เขาซุ่มตัวเงียบ เฝ้ารอ นึกภาพตัวเองเป็นจระเข้ในบึงใหญ่ โผล่สายตาเหนือน้ำ คอยจับจ้องทุกความเคลื่อนไหว รอเหยื่อตายใจ มองข้ามกองใบไม้ทับถม เดินมาดื่มน้ำริมบึง จากนั้นจระเข้นักล่าก็จะงับเหยื่อเคราะห์ร้าย บดขยี้ไม่ให้เหลือแม้กระดูกสักชิ้น

แล้วกานต์ก็สังเกตเห็นทรงภพ

ตั้งแต่วินาทีที่เห็นชายผิวเข้ม พุงพลุ้ยคอยลอบตามมาริษา เขาก็โยงอีกฝ่ายเข้ากับบัญชีเฟซบุ๊ก ‘Merry MerryMe’ ได้อย่างง่ายดาย กานต์ซุ่มรอจนโอกาสเหมาะ และในที่สุดเขาก็สามารถเข้าหามาริษาในฐานะฮีโร่ ปกป้องเธอจากมารร้าย ทั้งยังอบอุ่นเป็นกันเองราวกับพี่ชายแท้ๆ

จะว่าไป ถ้าไม่นับเรื่องความจุ้นจ้านและสร้างเรื่องยุ่งจนกานต์ต้องมาคอยปวดหัวตามแก้ มาริษาก็แค่อยู่ผิดที่ผิดทาง บังเอิญถ่ายคลิปวิดีโอติดอะไรที่ไม่ควรติด ทั้งนาฬิกาที่สายฟ้าซ่อนไว้ใต้หมอน ทั้งการเจอชิ้นส่วนศพบนภูเขา แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่กานต์จะจัดการไม่ได้ กานต์นึกถึงใบหน้าใจดีของนายจรัสและนางมรกต รวมทั้งสายตาอบอุ่นที่ครอบครัวของมาริษามองกัน

บางที…กานต์อาจจะไปมาหาสู่กับพวกเขา เป็นเหมือนพี่ชายของมาริษา และอาจเป็นลูกชายอีกคนของนายจรัสและนางมรกต…

บางทีครอบครัวนี้อาจไม่มองกานต์ด้วยสายตาหวาดกลัวหรือระแวงเหมือนเวลาที่แม่บุญธรรมของกานต์มองเขา

นัยน์ตากานต์หรี่ซึมโดยไม่รู้ตัว ตอนแรกครอบครัวที่รับเขาไปเป็นลูกบุญธรรมดูแลกานต์ดีมาก เด็กชายกานต์ที่ไร้เดียงสาคนนั้นคิดว่าจากนี้ไปเขาจะพบกับความสุขชั่วนิรันดร์ มีห้องของเขา ที่ทางของเขา บ้านของเขา และคนที่รักเขา

ทว่าทั้งหมดเป็นแค่ฝันตื่นหนึ่ง แม้จะยังคงใช้นามสกุลของพ่อบุญธรรม แต่กานต์กลับไม่สามารถเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา

ระหว่างนั่งคิดเรื่อยเปื่อย ก็มีข้อความในช่องแช็ตเฟซบุ๊กจากปรียา หญิงสาวส่งข้อความมาถามว่าพรุ่งนี้เธอมาหาเขาที่บ้านได้หรือเปล่า พักนี้แฟนสาวตัวติดกับเขาเป็นพิเศษ กานต์ผุดรอยยิ้มเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานซึ้ง ยามออดอ้อนราวลูกแมว แต่ยามเร่าร้อน…

ลำคอของกานต์แห้งผาก เขาคงเสพติดปรียาเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น ชายหนุ่มฮัมเพลงตามท่วงทำนองอ่อนหวานของ ‘ความฝันในค่ำคืนกลางฤดูร้อน บทประพันธ์ของเฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น ผู้อำนวยเพลงและผู้ประพันธ์เพลงชาวเยอรมัน ติดอยู่ในความสุขชั่วนิรันดร์ดังตอนจบของนิทานก่อนนอน



Don`t copy text!