
บ่วงวงกต บทที่ 1 : ใกล้งานเทศกาล
โดย : Cirrus Halo
![]()
“บ่วงวงกต” นิยายสยองขวัญลึกลับ โดย Cirrus Halo เรื่องราวกลุ่มเพื่อนที่เดินทางสู่จังหวัดเลยเพื่อเที่ยวงานผีตาโขน แต่กลับติดอยู่ในรีสอร์ทปริศนาและต้องเผชิญเหตุฆาตกรรมสุดหลอน อ่านได้ที่ อ่านเอา
รถเก๋งสีแดงวิ่งมาตามถนนลาดยางกว้างสี่เลน ท้องฟ้าในช่วงปลายเดือนมิถุนายนมักเต็มไปด้วยกลุ่มแพเมฆที่บดบังแสงอาทิตย์อ่อนๆ ยามเช้าตรู่ ความชื้นในอากาศที่เก็บเอาไอฝนจากเมื่อวานยังทำให้บรรยากาศขมุกขมัวไปด้วยม่านหมอกเบาบาง แม้อุณหภูมิภายนอกจะเย็นจับใจจากสายลมหนาวที่พัดผ่านใบไม้ไหวเป็นระยะ แต่ภายในรถกลับเย็นสบายกำลังดีเพราะมีเครื่องปรับอากาศ
สิริเป็นหญิงสาววัยทำงานที่ลาพักร้อนมานั่งเป็นคนคุมพวงมาลัยรถขับพาเพื่อนออกมาเปิดหูเปิดตากับโลกภายนอก เธอมองทางผ่านกระจกหน้ารถสลับกับมองหน้าเพื่อนสาวของตนซึ่งกำลังนั่งทอดสายตาอันเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ สีหน้าของจุรีหม่นหมองจับจ้องทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้สลับกับบ้านเรือนชั้นเดียวบ้างสองชั้นบ้างแต่กินพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งเป็นแบบบ้านที่พบได้ทั่วไปในต่างจังหวัดโดยจะตั้งอยู่ห่างกันค่อนข้างไกล
เมื่อเห็นเพื่อนถอนหายใจบ่อยครั้งเข้า สิริจึงเป็นฝ่ายชวนเธอคุยเพื่อสร้างบรรยากาศสบายๆ ให้สมกับที่มาพักผ่อน
“ฉันชวนเธอมาเที่ยว ช่วยทำหน้าให้มันเครียดน้อยกว่านี้ได้มั้ย”
“ถ้าเธอเป็นฉันก็คงยังทำใจไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ นี่เพิ่งผ่านไปหนึ่งเดือนเองนะ”
สิรินึกรู้ว่าเพื่อนกำลังกล่าวถึงอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ซึ่งแฟนของจุรีที่ชื่อธีระจะต้องขับรถไปรับเธอจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้านด้วยกันทุกเย็น
ธีระเป็นชายหนุ่มรูปร่างไม่ผอมไม่อ้วน เขาอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงผ้าสีกรมท่ากำลังร้องเพลงตามเสียงในวิทยุอย่างมีความสุขโดยมีจุรีนั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ เธอแทบจะหุบยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงกำหนดการแต่งงานที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้านี้ รถไม่ได้แล่นด้วยความเร็วเกินกำหนดและวิ่งอยู่ในถนนลาดยางมะตอยเลนกลางซึ่งเป็นถนนสายหลักของกรุงเทพฯ
ทั้งคู่ไม่ทันได้สังเกตเงาร่างของชายวัยกลางคนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าขาดวิ่น เนื้อตัวมอมแมมทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าเขาคงเป็นคนจรจัดที่เดินผ่านไปมาอยู่ในละแวกนั้น แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือเขาสาวเท้าไวๆ จากริมทางข้ามถนนมาตัดหน้ารถของธีระทั้งที่ไม่มีทางม้าลายหรือสัญญาณไฟหยุดให้ข้าม รถของธีระจึงชนกระแทกร่างของชายจรจัดเข้าอย่างจัง ร่างของเขาล้มกระเด็นลงบนพื้นถนนห่างออกไปนิดหน่อย แต่ธีระเบรกรถไม่ทันทำให้ล้อรถเหยียบเข้าที่ศีรษะของชายจรจัด ไขสมองสีขาวขุ่นไหลปะปนกับเลือดกระจายเต็มพื้นถนน
ด้วยความตกใจธีระหักพวงมาลัยรถเลี้ยวเข้าข้างทางกะทันหันจนมันชนทะลุผ่านแผงกั้นโลหะข้างทางไปกระแทกกับเสาไฟฟ้า รถหยุดเคลื่อนไหวในทันใดพร้อมๆ กับลมหายใจของธีระซึ่งถูกแท่งโลหะจากแผงกั้นแทงทะลุกระจกหน้ารถเข้ามาเสียบหน้าอกของเขา
จุรีซึ่งนั่งหลับหูหลับตาหวีดร้องจนสุดเสียงอยู่ที่เบาะข้างๆ รวบรวมความกล้าที่จะลืมตาขึ้นมองสถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง ร่างกายของเธอมีแผลฟกช้ำแต่ไม่หนักหนาสาหัส เมื่อหันขวับไปมองแฟนหนุ่มทำให้เธอเปล่งเสียงจนสุดอีกครั้ง เสื้อเชิ้ตสีขาวบัดนี้เต็มไปด้วยเลือดสีแดงฉานไหลซึมจนชุ่มโชก สติสัมปชัญญะสับสนไปหมด มือไม้ของเธอสั่นเทาทำอะไรไม่ถูก จะดึงแท่งเหล็กออกก็ไม่กล้า จะปลุกธีระให้ตื่นก็กลัวว่าเขาจะเจ็บปวดทรมาน ความกลัวเกาะกุมจิตใจที่เพิ่งสั่นคลอนเพราะอุบัติเหตุทำให้สมองปิดการรับรู้ไปเสียเฉยๆ ภาพสุดท้ายที่เห็นคือฉากสีดำมืดหลังเปลือกตาซึ่งหลับสนิทไม่ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ใจอีกต่อไป
สิริได้รับรู้เรื่องนี้หลังจากจุรีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ตำรวจและรถกู้ภัยเข้าไปจัดการกับที่เกิดเหตุ เธอรู้ว่าเพื่อนกำลังเสียใจและผิดหวังจากการสูญเสียคนรักก่อนจะถึงวันแต่งงานเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น มันคงเหมือนความหวังและความฝันพังถล่มครืนลงมาในคราวเดียว เพราะจุรีปิดขังตัวเองอยู่ในห้องมาตลอด สิริจึงตั้งใจชวนเธอออกมาเที่ยวผ่อนคลายที่จังหวัดเลยซึ่งกำลังจะมีเทศกาลครื้นเครง
“แล้วเธอนัดแฟนไว้ที่ไหนล่ะ” จุรีถามขึ้นเพราะได้ยินว่าแฟนของสิริเป็นคนชวนพวกเธอมาอีกที
“ธนันต์น่าจะไปรอที่วัดแล้ว เห็นบอกว่าเป็นวัดที่จะจัดงานผีตาโขนขึ้นในอีกสองสามวันนี้”
“ถ้าจำไม่ผิด เธอบอกว่าบ้านเกิดของคุณธนันต์อยู่ที่จังหวัดเลยนี้สินะ”
“ใช่ แต่เขาไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็ได้งานที่บริษัทในกรุงเทพ ก็เลยได้รู้จักกับฉัน เขาชวนมาเที่ยวเพราะเห็นว่าขบวนแห่ครึกครื้นอาจจะช่วยให้เธอหายเศร้าได้บ้าง”
จุรีพยักหน้ารับรู้แบบขอไปที เธอก็แอบหวังในใจว่ามันจะได้ผล หากมันช่วยให้เธอผ่อนคลายลงได้ เธอก็ยินดีจะลองเปลี่ยนบรรยากาศ
ไม่นานนักรถก็วิ่งผ่านซุ้มประตูวัดเข้ามาในบริเวณลานจอดรถ หลังจากสิริขับรถเข้าไปจอดเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็ลงจากรถก่อนหันมองสำรวจบริเวณรอบๆ วัดด้วยความสนใจ อากาศปลอดโปร่งไหลเข้าสู่ปอดทำให้รู้สึกสดชื่น กลิ่นของธรรมชาติทำให้จิตใจสงบลง ไกลออกไปก่อนถึงบันไดทางขึ้นสู่ภายในวัดมีซุ้มตลาดขายของตั้งอยู่ด้วย พวกเธอจึงมุ่งหน้าไปหาอะไรทานเป็นมื้อเช้าก่อน
เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลจึงมีการแขวนโคม ประดับไฟและหุ่นจำลองภูตผีที่มีหน้ากากหลากสีสันติดอยู่ตามซุ้มประตู ผู้คนเดินผ่านบางตาไม่หนาแน่น อาจเป็นเพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุดและยังไม่ถึงวันจัดงานเทศกาลด้วย จุรีและสิริขอลาพักร้อนกับที่ทำงานตั้งแต่ก่อนถึงเทศกาลสองสามวัน เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวชมสถานที่อื่นๆ บริเวณใกล้เคียงรีสอร์ตที่จองไว้ด้วย
ในขณะที่สองสาวกำลังมุ่งหน้าเข้าตลาด ธนันต์ซึ่งจอดรถมอเตอร์ไซค์ห่างจากรถของทั้งคู่ไปไม่ไกลนักก็เดินตรงมาทักทายพวกเธอพร้อมกับชายแปลกหน้าอีกคนหนึ่ง เขาอายุรุ่นราวคราวเดียวกับธนันต์และดูจะสนิทกันระดับหนึ่ง ธนันต์อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์สบายๆ ไม่ต่างจากทุกคนในที่นี้ เขาเริ่มแนะนำเพื่อนใหม่ให้รู้จัก
“เจ้านี่ชื่อตรีสิทธิ์ เขาเป็นเพื่อนที่ทำงานฉันเอง”
ชายผู้ถูกแนะนำมองดูสิริก่อนจะหยุดสายตาลงที่จุรี นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มของเขาเหมือนกำลังจ้องมองเธอ แต่เธอกลับรู้สึกว่ามันมองผ่านเธอไปที่ด้านหลังเสียมากกว่า เธอหันมองตามสายตาเขาทำให้เขาเหมือนจะเริ่มรู้สึกตัว
“ขอโทษครับ ผมเหม่อไปหน่อย ธนันต์เคยเล่าเรื่องของพวกคุณให้ฟัง ในที่สุดก็ได้เจอตัวจริงเสียที”
ธนันต์หรี่ตามองเพื่อนอย่างใคร่รู้ เขาชอบจับผิดเวลารู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ แบบนี้จากตรีสิทธิ์จึงอดไม่ได้ที่จะพูดดักคอเขาไว้
“อย่าบอกนะว่าเห็นอะไร ถามได้นะ ฉันชวนแกมาเพื่อการนี้แหละ”
“ถามได้หรือ แสดงว่าธนันต์เล่าเรื่องผมให้พวกคุณฟังแล้วหรือ” ตรีสิทธิ์กล่าวถามสองสาว สีหน้าของจุรีบ่งบอกว่าไม่รู้เรื่องแต่สิริพยักหน้าแทนเพื่อน
“ได้ค่ะ ฉันคุยกับธนันต์มาบ้างแล้ว”
“งั้นผมขอเสียมารยาทนะ” ตรีสิทธิ์เลือกที่จะถามจุรี “คุณเจออุบัติเหตุรถชนมาหรือ”
จุรีกลืนน้ำลายหันขวับไปมองด้านหลังตัวเองซ้ำอีกครั้ง เมื่อมองไม่เห็นอะไรเธอก็หันกลับมาคาดคั้นเอากับตรีสิทธิ์
“คุณเห็นใครคะ ใช่ผู้ชายใส่เสื้อสีขาวหรือเปล่า”
ตรีสิทธิ์ได้ยินก็รีบเบือนสายตาหนีเหมือนไม่อยากตอบคำถาม แต่กลับเป็นจุรีเสียอีกที่สีหน้าเปลี่ยนจากซังกะตายมาเป็นกระตือรือร้น นัยน์ตาฉายแววใคร่รู้ชัดเจนจนเขารู้สึกอึดอัด

- READ บ่วงวงกต บทที่ 17 : ข้อความจากคนตาย
- READ บ่วงวงกต บทที่ 16 : บ่วง
- READ บ่วงวงกต บทที่ 15 : ร่องรอยของอดีต
- READ บ่วงวงกต บทที่ 14 : รายต่อไป
- READ บ่วงวงกต บทที่ 13 : ตัวตายตัวแทน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 12 : โลกที่เปลี่ยนไป
- READ บ่วงวงกต บทที่ 11 : ทางวงกต
- READ บ่วงวงกต บทที่ 10 : จุดชมวิว
- READ บ่วงวงกต บทที่ 9 : เรื่องวิวาท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 8 : ความไม่ลงรอย
- READ บ่วงวงกต บทที่ 7 : ตลาดกลางคืน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 6 : วันแรกในรีสอร์ท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 5 : เพื่อนบ้าน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 4 : รีสอร์ทริมภู
- READ บ่วงวงกต บทที่ 3 : ในม่านหมอก
- READ บ่วงวงกต บทที่ 2 : ตำนาน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 1 : ใกล้งานเทศกาล







