
บ่วงวงกต บทที่ 11 : ทางวงกต
โดย : Cirrus Halo
![]()
“บ่วงวงกต” นิยายสยองขวัญลึกลับ โดย Cirrus Halo เรื่องราวกลุ่มเพื่อนที่เดินทางสู่จังหวัดเลยเพื่อเที่ยวงานผีตาโขน แต่กลับติดอยู่ในรีสอร์ทปริศนาและต้องเผชิญเหตุฆาตกรรมสุดหลอน อ่านได้ที่ อ่านเอา

เมื่อมาถึงจุดชมวิวพวกเขาก็รีบวิ่งปราดเข้าไปหาสิริที่กำลังจะกระโดดหน้าผาตรงจุดเดียวกับที่สองแม่ลูกเคยอยู่ จุรียืนอยู่อีกฟากหนึ่งของรั้วเตี้ยๆ กำลังดึงแขนยื้อเธอไว้ไม่ให้เข้าใกล้ริมหน้าผา แต่แรงของเธอมีจำกัดและกำลังจะปล่อยแขนเพื่อนหลุดมือ ตรีสิทธิ์มองเห็นมือสีขาวซีดสองข้างที่ยืดยาวขึ้นมาจากหน้าผาและจับขาของสิริเอาไว้แน่น แต่ขนาดของแขนทั้งสองต่างกันเกินกว่าจะเป็นของคนคนเดียวกัน เขามองเห็นนิ้วมืออีกสิบนิ้วที่เกาะขอบหน้าผาเอาไว้ ไม่ต้องชะเง้อดูก็พอคาดเดาได้ ร่างของเจ้าของมือคงห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผาตรงนั้น
ธนันต์รีบคว้าแขนสิริแล้วดึงเธอมากอดไว้ ก่อนจะอุ้มขาของเธอยกข้ามรั้วเข้ามา ทันทีที่ขาของสิริพ้นเขตรั้ว แขนสีขาวซีดนั้นก็หดกลับลงไปใต้หน้าผา ตรีสิทธิ์ได้แต่มองดูเงียบๆ ไม่กล้าบอกให้เพื่อนรู้ตัว
สิริเหมือนจะได้สติ เธอเงยหน้ามองดูธนันต์ด้วยสีหน้าซีดเผือด เธอจำสิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้ได้แต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้ขาก้าวออกไปยืนตรงจุดอันตรายโดยไม่ได้ขัดขืน เธอกล่าวกับธนันต์เสียงแผ่ว
“ปล่อยฉันลงเถอะ ไม่เป็นไรแล้ว”
ธนันต์ได้ยินก็ค่อยๆ วางเธอลงยืนบนพื้นช้าๆ สิริยังอยู่ในอาการหวาดผวาทำให้จุรีเดินเข้ามาปลอบโยนเธอ แม้จุรีจะไม่ได้ถูกวิญญาณเล่นงานไปด้วย แต่ตรีสิทธิ์ก็อดถามเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวลไม่ได้
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่ตกใจที่อยู่ๆ สิริก็เดินพรวดพราดไปยืนตรงนั้น”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำสักหน่อย” สิริแย้งขึ้นทันควัน “ฉันรู้สึกเหมือน…”
สิริเหลือบมองดูที่ขาของตนเอง เธอก้มลงถลกขากางเกงยีนส์ขึ้นจึงมองเห็นรอยนิ้วมือสีแดงช้ำห้านิ้วประทับอยู่อย่างเด่นชัด เธอยกมือขึ้นปิดปากสะดุ้งสุดตัวท่ามกลางสายตาประหลาดใจของจุรีและธนันต์ ธนันต์หันมองหน้าตรีสิทธิ์ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่มีปฏิกริยาต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย
“แกเห็นอะไรหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้นในรีสอร์ตกันแน่”
“ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน” ตรีสิทธิ์บอกตามตรง “แต่ฉันว่าเราต้องรีบออกไปจากที่นี่”
ไม่นานนักทั้งสี่คนก็ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งเข้ามาในลานจอดรถ ธนันต์รีบชวนเพื่อนลงไปดู ต้นเสียงมาจากเจ้าของอู่ซ่อมรถที่ขับรถมาคืนให้ เขาดับเครื่องยนต์แล้วยื่นกุญแจส่งคืนให้ธนันต์
“รถมอเตอร์ไซค์น้องซ่อมเสร็จแล้วนะ”
ธนันต์จ่ายเงินให้เจ้าของอู่ก่อนหันไปมองรถมอเตอร์ไซค์อีกคันที่ขับเข้ามาพร้อมกันด้วยความหวาดระแวง เขาถามเพื่อความแน่ใจ “พวกพี่มาด้วยกันใช่มั้ย”
“เขาเป็นเพื่อนพี่เอง ไม่งั้นจะกลับยังไงล่ะ”
“อ้อ…” ธนันต์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะถามต่อ “แล้วตอนพวกพี่ขับเข้ามาในรีสอร์ต เจออะไรแปลกๆ บ้างหรือเปล่า”
“อะไรแปลกๆ หมายถึงอะไร”
“แบบเจอใครโบกมือระหว่างทางบ้างหรือเปล่าน่ะครับ”
เจ้าของอู่มองหน้าธนันต์เริ่มไม่สบอารมณ์ ตรีสิทธิ์รีบแทรกขึ้น “เพื่อนผมกลัวผีน่ะครับ พอดีที่รีสอร์ตเกิดเรื่องนิดหน่อย มันก็เลยหลอน”
“อ้อ ที่แทงกันตายเมื่อคืนน่ะหรือ เห็นว่ามือมีดดื่มเหล้าเสพยาด้วยนี่”
“สรุปว่าเขาตายแล้วหรือครับ ตอนออกไปยังใส่หน้ากากออกซิเจนอยู่เลย”
“เห็นว่าตายตั้งแต่ยังไม่ออกจากรีสอร์ตเลย” เจ้าของอู่กล่าวพลันนึกขึ้นได้ “แล้วก็วันก่อน มีแม่บ้านตายด้วยนี่ใช่มั้ย”
สิริที่ได้ยินก็ถามขึ้นด้วยความตกใจ “ป้าแก้วก็ตายแล้วหรือคะ”
“เห็นว่าตายในรถพยาบาล ยังไม่ทันพ้นรีสอร์ตเลย จะว่าไปที่นี่ก็น่ากลัวจริงๆ นั่นแหละ” เจ้าของอู่พูดกลั้วหัวเราะ “ถ้ากลัวมากก็หาที่พักใหม่เถอะ บรรยากาศแถวนี้มันชอบกล จำคนขับรถที่ชื่อดำรงได้มั้ย”
“อย่าบอกนะว่าเขาก็ตายแล้ว”
“ไปแช่งเขาทำไมล่ะ” เจ้าของอู่กล่าวติดตลก แต่เมื่อเห็นท่าทางผวาของสิริ สีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้น “เขาน่าจะวิ่งรถมารับของที่นี่อีกรอบพรุ่งนี้ ถ้าไม่มีรถก็ติดรถเขาไปได้นะ”
“ขอบคุณที่บอกนะคะ” จุรีกล่าว เจ้าของอู่จึงเดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนแล้วขับออกจากรีสอร์ตไป
ธนันต์มองตามอีกฝ่ายจนลับตาไปแล้วจึงหันมาคุยกับสิริและจุรี
“พวกฉันจะขับมอเตอร์ไซค์ไปเอารถกะบะที่บ้านมารับ พวกเธออยู่ที่นี่กันเองได้ใช่มั้ย”
“นายจะไปนานแค่ไหนล่ะ” สิริถามเสียงอ่อนลง “บอกตามตรงว่าฉันกลัว”
“ไม่ถึงสามชั่วโมงก็กลับแล้ว แต่ถ้าไม่มีใครออกไปเลย เราก็ไม่ได้ไปจากที่นี่กันเสียที”
สิริพยักหน้ารับรู้แล้วจึงถอยหลังออกมาปล่อยให้ตรีสิทธิ์และธนันต์ขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับออกจากรีสอร์ตไป
มอเตอร์ไซค์ของตรีสิทธิ์กับธนันต์วิ่งออกจากซุ้มประตูของรีสอร์ตเข้าสู่ถนนลาดยางซึ่งขนาบข้างไปด้วยต้นไม้สีเขียว หมอกยังคงลงจัดตลอดทางทำให้ทัศนิวิสัยแย่ เมื่อรถแล่นตามถนนไปได้สักพักก็มีเงาร่างของชายคนหนึ่งเดินตัดหน้ารถ ธนันต์เบี่ยงรถไปวิ่งอีกเลนหนึ่งได้ทัน แต่ทางข้างหน้ากลายเป็นถนนวิ่งเข้าสู่ซุ้มประตูของรีสอร์ตแทน เขาตกใจรีบเบรกรถซึ่งตรีสิทธิ์ที่นั่งซ้อนหลังอยู่ก็แปลกใจไม่แพ้กัน
“เกิดอะไรขึ้น แกเห็นเหมือนฉันใช่มั้ย”
“เราวิ่งรถกลับมาทางเดิม”
“แต่ฉันไม่ได้ยูเทิร์นรถนะ”
“ฉันรู้” ตรีสิทธิ์กล่าวพลางมองดูรีสอร์ตตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “เราออกจากที่นี่ไม่ได้”
“อย่ามาล้อกันเล่นน่า”
ธนันต์กล่าวก่อนจะเริ่มบิดมอเตอร์ไซค์วิ่งออกจากรีสอร์ตไปอีกครั้งหนึ่ง แต่ผลก็เหมือนเดิมเมื่อพวกเขาหักหลบร่างเงาของชายปริศนา รถก็มุ่งหน้ากลับมาที่ซุ้มประตูทางเข้ารีสอร์ตตรงจุดเดิม ธนันต์จอดรถ เขานั่งเม้มปากจนปัญญาไม่รู้จะทำยังไงต่อ ในขณะที่ตรีสิทธิ์กล่าวขึ้นจากด้านหลัง
“เรากลับเข้าไปเถอะ ไม่มีประโยชน์หรอก”
ธนันต์นึกทบทวนถึงเรื่องเมื่อเช้าแล้วจึงถามกลับไป “สรุปว่าแกเห็นอะไรกันแน่ แกรู้ตัวตั้งแต่เมื่อไรว่ารีสอร์ตนี้มีผี”
“เมื่อวาน ฉันเห็นคนชื่ออานนท์ที่ควรจะตายไปแล้ว ออกไปทะเลาะกับคนชื่อกฤติที่หน้าบ้านพัก”
ธนันต์นึกถึงตอนที่เขาอธิบายกับก้องก่อนพึมพำออกมา “แก… ตอนนั้นแกเห็นอานนท์งั้นหรือ”
“ใช่ ฉันตกใจเหมือนกันตอนที่พวกแกบอกว่ามีแค่คนชื่อกฤติที่โวยวายอยู่ตรงนั้น” ตรีสิทธิ์นิ่งเงียบชั่งใจอยู่พักหนึ่งจึงอธิบายต่อ “ที่แย่กว่าก็คือ ฉันเห็นวิญญาณในบ้านพักที่น่าจะอยู่มาก่อนสองคนนั้น เหมือนกับพวกเขาเป็นอิสระหลังจากกฤติกับอานนท์ตายแล้ว”
“แกจะบอกว่าวิญญาณได้ตัวตายตัวแทนหรือ”
“ตอนสิริเกือบจะตกหน้าผา ก็เพราะผีสองแม่ลูกดึงขาเธอไว้”
“ไม่ใช่สิ แล้วทำไมจุรีไม่เห็นได้รับผลกระทบอะไรเลย”
“เรื่องนั้นฉันก็สงสัยอยู่เหมือนกัน แล้วชายปริศนาที่สิริบอกว่าขวางหน้ารถ ก็น่าจะเป็นคนเดียวกับที่ขวางทางมอเตอร์ไซค์แกเมื่อกี้นี้ แต่ทำไมเขาเพิ่งโผล่มาให้เราเห็นตอนนี้ล่ะ”
“เรื่องนั้นน่ะ…” ธนันต์อ้ำอึ้งทำให้ตรีสิทธิ์นึกเอะใจ
“ทำไม สิริบอกอะไรแกเกี่ยวกับผู้ชายคนนั้นหรือ”
“เขาบอกแต่ว่าเป็นชายจรจัด แต่ไม่ยอมบอกอะไรมากกว่านี้”
“แล้วแกสงสัยอะไรล่ะ”
ธนันต์เงียบก่อนจะเลี่ยงคำถามด้วยการเปลี่ยนเรื่อง “ว่าแต่เจ้าของอู่ซ่อมรถกับเพื่อนของเขาออกจากรีสอร์ตได้ยังไง เราขับรถตั้งนานยังไม่พ้นซุ้มประตูเลยเนี่ย”
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ตรีสิทธิ์กล่าวพลางนึกย้อนไปตั้งแต่เข้ามาที่รีสอร์ตจนถึงตอนนี้ “เมื่อคืนเรายังออกจากรีสอร์ตได้อยู่ แปลว่ามันเริ่มมีปัญหามาตั้งแต่หลังเรากลับจากตลาดใช่มั้ย”
“มาถามฉันแล้วฉันจะรู้ได้ยังไง”
ตรีสิทธิ์นึกถึงกิ่งที่ยืนอยู่หน้าบ้านพักเจ้าของรีสอร์ตก่อนจะพึมพำออกมา “บางที…ฉันต้องตรวจสอบอะไรหน่อย”
ธนันต์ถอนหายใจยาวพลางขับรถกลับเข้าไปในลานจอดรถอย่างไม่มีทางเลือก ในระหว่างที่ดับเครื่องแล้วเดินออกมา ธนันต์เหลือบเห็นรถกระบะตู้ทึบของดำรงจอดสนิทอยู่ เจ้าตัวคงเข้าไปส่งของข้างใน เขารีบหันไปชวนตรีสิทธิ์ให้ตามหาดำรงเพื่อขอติดรถออกไปจากรีสอร์ต

- READ บ่วงวงกต บทที่ 13 : ตัวตายตัวแทน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 12 : โลกที่เปลี่ยนไป
- READ บ่วงวงกต บทที่ 11 : ทางวงกต
- READ บ่วงวงกต บทที่ 10 : จุดชมวิว
- READ บ่วงวงกต บทที่ 9 : เรื่องวิวาท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 8 : ความไม่ลงรอย
- READ บ่วงวงกต บทที่ 7 : ตลาดกลางคืน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 6 : วันแรกในรีสอร์ท
- READ บ่วงวงกต บทที่ 5 : เพื่อนบ้าน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 4 : รีสอร์ทริมภู
- READ บ่วงวงกต บทที่ 3 : ในม่านหมอก
- READ บ่วงวงกต บทที่ 2 : ตำนาน
- READ บ่วงวงกต บทที่ 1 : ใกล้งานเทศกาล






