
ตรวนใบจาก บทที่ 2 : ผู้หญิงคนใดชื่อกิมบ๊วย
โดย : ฉาย แสงเพชร
ตรวนใบจาก รางวัลรองชนะเลิศโครงการอ่านเอาก้าวแรกปี 5 โดย ฉาย แสงเพชร เกษตรกรจาก จ.ตราด ผู้ฝันอยากเป็นนักเขียนแนวท้องถิ่นที่ได้พลิกบทบาทจากงานเขียนเชิงวิชาการมาสู่การเขียนนวนิยายแนวแฟมิลี่ดราม่ากับเรื่องราวของอาชีพลอกใบจากและชีวิตที่เป็นปริศนาของคุณยายคนหนึ่ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้ในเว็บไซต์อ่านเอา
ป้ากิมเหมยรีบพูดแทรกขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าแม่ของตนจำผิด เรียกหลานสาวเป็นลูกสาวที่ตายไปนานแล้ว “แมะ นี่โบตั๋น ลูกสาวหลิวมันนะ หลิวลูกสาวแมะไง ไม่ใช่เจ๊บ๊วย”
“ไม่ใช่ นี่แหละกิมบ๊วย ครูข้าบอก กิมบ๊วยจะกลับมา นี่ไง กิมบ๊วยกลับมาแล้ว”
“โอ๊ย แมะ หลงอีกแล้ว เจ๊บ๊วยตายไปตั้งแต่ฉันยังไม่ได้แต่งงานเลย นี่ โบตั๋น หลานแมะต่างหาก”
แล้วเรื่องราวก็วนอยู่อย่างนั้น ป้ากิมเหมยพยายามแนะนำจนอ่อนใจว่านี่คือโบตั๋น ลูกสาวของกิมหลิว แต่ยายกลับเฝ้าแต่เรียกเธอว่ากิมบ๊วย ไม่ยอมเรียกว่าโบตั๋น แถมยังพยายามพูดกับเธอด้วยประโยคที่เธอจับต้นชนปลายไม่ถูก
“เอ็งกลับมาหาแมะ แสดงว่าเอ็งหายโกรธแมะแล้วใช่ไหม เอ็งเชื่อแล้วใช่ไหมว่าที่แมะทำไปทั้งหมด เป็นเพราะแมะหวังดีกับเอ็ง เอ็งยกโทษให้แมะแล้วใช่ไหม กิมบ๊วย”
สุดท้าย ป้ากิมเหมยเลยให้เธอถอยออกมา ป้าใช้เวลาปลอบประโลมยายอยู่พักใหญ่กว่าแกจะยอมสงบลง เมื่อป้าหันมาทางเธออีกครั้ง เธอจึงยิงคำถามทันที
“คนที่ชื่อกิมบ๊วยเป็นใครหรือคะป้า”
“พี่สาวป้าเอง”
เพราะเธอไม่เคยติดต่อกับญาติฝ่ายแม่มาก่อน และแม่เล่าเรื่องราวของญาติฝ่ายนี้ให้เธอฟังน้อยเต็มที เธอไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าพี่น้องของแม่มีกี่คน เธอนิ่งนึก ลำดับญาติอยู่สักครู่ ขณะที่ป้ากิมเหมยหันไปปลอบยายที่นอนกระสับกระส่าย ส่งเสียงอืออาที่ฟังไม่รู้เรื่อง เมื่อป้ากิมเหมยหันกลับมาอีกครั้ง เธอจึงเอ่ยถาม
“คนที่ชื่อกิมบ๊วยเป็นป้าของหนูใช่ไหมค่ะ แล้วแม่มีพี่น้องกี่คน”
“ยายน่ะ มีลูกกับตาของหนูห้าคน ลูกชายคนโตป่วยตายไปตั้งแต่เด็ก ลูกสาวคนรองก็คือป้าบ๊วยนั่นแหละ ตายไปตอนเป็นสาวแล้ว แต่ยังไม่ได้แต่ง ถัดมาก็ป้า ลุงเต้ง แม่หนูเป็นคนสุดท้อง”
“มีลูกกับตาห้าคน แสดงว่ายายมีลูกกับคนอื่นอีกหรือคะ”
“ก่อนจะมาแต่งงานกับเตี่ยของป้า ยายของหนูเคยแต่งงานมาก่อน มีลูกชายคนนึง ป้าไม่แน่ใจนะว่าเขาเลิกกันหรือเพราะผัวเก่าตาย ยายเลยเป็นแม่หม้าย จนมาเจอเตี่ยของป้า เลยแต่งงานใหม่ ต่อมาเตี่ยของป้าก็ตายไปอีก ป้ายังเด็ก จำความอะไรยังไม่ค่อยได้เลย จำได้แต่ที่เขาเล่าให้ฟังว่าตอนเตี่ยตาย แม่หนูยังอยู่ในท้อง”
“แล้วลุงกับป้าที่ตายไปแล้วล่ะคะ”
“พี่ชายของป้าน่ะ ตายแต่ยังเด็ก ป้าก็ยังเด็กอยู่ จำหน้ากันยังไม่ได้เลย เจ๊บ๊วยมาตายตอนเป็นสาวแล้ว ทีหลังเตี่ยตายไปหลายปี ก่อนแม่หนูจะหนีเข้ากรุงเทพไปอีก เฮ้อ นึกๆ ดู ป้าก็อดสงสัยไม่ได้”
“อะไรหรือคะป้า ป้าบ๊วยเป็นอะไรตาย” โบตั๋นรีบซักต่อทันที แอบตื่นเต้นไม่ได้ว่าเธออาจจะได้เจอโครงกระดูกในตู้แบบการตายที่มีเงื่อนงำอย่างที่เคยอ่านในนิยายบ้างแล้ว
“เจ๊บ๊วยฆ่าตัวตาย แกทะเลาะกับแมะแรงมาก ขังตัวเองในห้อง พอนึกเอะใจ พังประตูเข้าไป เจ๊แกก็ตายแล้ว แมะเสียใจมากที่เจ๊บ๊วยทำอย่างนั้น แกเก็บรูปทุกรูปลงหีบ ปิดตาย ไม่ให้ใครหยิบมาดู แม้แต่รูปติดหน้าศพก็ไม่มีเหลือเลย ไม่เคยเอ่ยชื่อให้ใครได้ยินอีก ใครเอ่ยถึงก็ไม่ได้ ทำเหมือนไม่เคยมีลูกสาวคนนี้อยู่ ไม่น่าเชื่อเลยว่าพอเจอหน้าหนู แมะกลับเอ่ยถึงเจ๊บ๊วยออกมาได้”
“หนูเหมือนป้าบ๊วยมากหรือคะป้า”
“ไม่ได้เหมือนแบบในละครหลังข่าวหรอก” ป้ากิมเหมยพยายามพูดให้ติดตลก “ในบรรดาลูกสาวสามคนของแมะน่ะ ป้านี่ผิวคล้ำที่สุดละ ผิวคล้ำเหมือนแมะ แต่รูปร่างท้วมเหมือนเตี่ย ไม่เหมือนเจ๊บ๊วยกับหลิว สองคนนั่นสวยกว่าป้า ร่างเล็ก บางแบบแมะ ผิวขาวแบบเตี่ย แต่หน้าตาไม่เหมือนกันนะ เจ๊บ๊วยสวยกว่าเยอะ หนูน่ะ รูปร่าง สีผิว หน้าตาก็ไปทางหลิวเกือบหมด”
“อ้าว ถ้าหนูเหมือนแม่มากกว่าป้าบ๊วย ทำไมยายถึงเรียกหนูว่ากิมบ๊วยล่ะคะ หรือยายคิดว่ากิมบ๊วยมาเกิดเป็นหนู”
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ป้าว่าคงเพราะเจ๊บ๊วยกับหลิวรูปร่างคล้ายกัน หนูเองก็รูปร่างเหมือนแม่ พอยายเห็น ใจแกคงนึกถึงเจ๊บ๊วยที่ตายไปมาก ก็เลยทึกทักว่าเจ๊บ๊วยกลับมา”
แม้จะฟังดูว่าน่าจะเป็นไปได้ แต่โบตั๋นก็ยังสงสัยในใจ ทำไมยายถึงฝังใจกับลูกสาวที่ชื่อกิมบ๊วยมากนัก ทั้งที่แม่ของเธอก็เป็นลูกสาวที่จากไปเหมือนกัน เพียงแต่จากเป็นไม่ได้จากตาย ลูกสาวที่จากเป็นนี่สิ ยังจะมีโอกาสกลับคืนมาหาเมื่อแกแก่ชรา ลูกสาวที่จากตายจะฟื้นคืนมาได้อย่างไร
แสงสว่างยามเที่ยงที่ประตูหน้ามืดลงเมื่อมีคนมายืนบัง พร้อมกับเสียงห้าวๆ เอ่ยขึ้นอย่างยียวน
“ตื่นเต้นเหลือเกินนะ แม่สาวใหญ่จากกรุงเทพ แค่โดนเรียกเป็นคนอื่นแค่นี้ สงสัยอยู่ได้ ไม่เคยพยาบาลคนแก่มาก่อนละสิ”
คำว่าสาวใหญ่ ทำให้หญิงสาววัยเกือบ 40 แต่ยังไม่ถือว่าตัวเองแก่รู้สึกปรี๊ดขึ้นมาทันที เธอได้แค่หันไปมองจิกตา ยังไม่มันจะพ่นวาจาตอบโต้ เสียงเอะอะโวยวายของคุณยายที่เธอคิดว่าหลับไปแล้วก็ดังขึ้นมา น้ำเสียงของคุณยายบอกถึงความเกลียดชังอย่างยิ่งยวด
“ไป ไปให้พ้นนะไอ้ใบจาก มึงอย่าคิดมาวอแวกับกิมบ๊วยอีก ไป ออกไป ไปให้พ้น”
“อะไรนี่ยาย เห็นหน้ากันมาตั้งสองปี ยังเห็นผมเป็นคนอื่นอีกรึ”
เสียงของผู้ชายคนนั้นสวนกลับมาอย่างทันควัน ซ้ำยังมีแววสำรวลเล่น ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจที่ถูกเรียกแบบนั้นสักนิดเดียว
โบตั๋นลอบสังเกตสีหน้าท่าทางของชายผู้ที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตู อายุอานามน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ แต่ผิวดำคล้ำแบบคนทำงานกลางแจ้ง นี่จะเป็นลูกจ้าง คนข้างบ้าน หรือเป็นหลานยายเหมือนกันกันแน่ แต่อย่างหลังคงจะยาก เมื่อเห็นท่าทางของยายที่ดูโมโหโทโสกว่าเธอเสียอีก
“ใครเป็นยายมึง ไอ้ใบจาก มึงไม่ใช่หลานกู อย่าคิดมาเกาะนังบ๊วยกิน ไป๊”
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 6 : เรื่องเล่าของกิมเต้ง
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 5 : ชีวิตคู่ของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 4 : เรื่องเล่าของกิมเหมย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 3 : ผู้ชายคนใดชื่อใบจาก
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 2 : ผู้หญิงคนใดชื่อกิมบ๊วย
- READ ตรวนใบจาก บทที่ 1 : ฤดูมรสุม
- READ ตรวนใบจาก บทนำ : ผู้ซ่อนกายในความมืด