
เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 20 : อย่าบอกใคร
โดย : กุลวีร์
![]()
เทพารักษ์ภัสดา โดย กุลวีร์ นวนิยายสนุกๆ ที่อ่านเอานำมาให้อ่านใน www.anowl.co กับเรื่องราวของเทพารักษ์ผู้มีสัตย์ว่าจะรักเพียงหนึ่ง ต้องลงมาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์เพราะหญิงสาวผู้เปลี่ยนหัวใจเขาตลอดกาล ภารกิจพิชิตใจจึงเริ่มต้น ท่ามกลางความวุ่นวายของเพื่อนบ้าน และบททดสอบของความรักที่ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง
“คุณว่าอะไรนะ”
หล่อนถามเพื่อความแน่ใจที่ได้ยินไม่ผิดเพี้ยนไป ไม่ใช่จะให้เขาสาธยายอีกครั้ง
เวธัสจะอ้าปากเล่าอีกหนตั้งแต่ต้นจนจบ หากหญิงสาวพูดขัดขึ้นมาอีก
“คุณบอกฉันคนเดียวพอนะ อย่าไปพูดกับใคร ยิ่งครูดิษย์ก็อย่าให้รู้ เราไม่ได้รู้แน่ชัดขนาดนั้น”
แต่ภาพที่เขาเห็น ช่างชัดเจนแจ่มแจ้ง แม้จะเห็นเพียงหนเดียวก็ตาม
“ผมเห็นเยี่ยงนั้นจริงๆ” เขายังยืนยันกับสิ่งที่ไม่ได้มองผิดไป
“คุณก็สอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านเสียจริง คุณมองจากในบ้านจะเห็นชัดได้ยังไงว่าพวกเขาทำอะไรกันบนรถ บางทีมันอาจไม่ใช่ก็ได้”
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าบ้านหลังนั้นเมื่อวันก่อนก็ไม่เกินขอบเขตอำนาจที่เขาจะมองเห็นเหมือนไปยืนอยู่ใกล้ๆ
“คุณแพรไม่เชื่อผมรึ”
“จะให้ฉันเชื่อทั้งหมดได้ยังไง เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะคุณ ถ้าไม่ใช่อย่างที่คุณบอกก็เป็นการใส่ร้ายน้าบุษ ทีนี้จะมองหน้ากันอีกได้ไหมล่ะ”
เวธัสใช้เวลาหนึ่งวันเต็มๆ สำหรับการตัดสินใจจะบอกให้หล่อนรู้ แต่ผลที่ได้นั้นเป็นไปตามที่หญิงชราคาดเดาไว้
แพรพิไลเอ่ยต่อ “ผู้ชายที่คุณเห็นอาจเป็นช่างมาซ่อมอะไรในบ้านก็ได้ ฉันเคยได้ยินน้าบุษพูดให้ฟังบ่อยๆ ว่าแอร์ในบ้านเสียประจำจึงมีผู้ชายเดินเข้าเดินออกให้เห็นบ่อยๆ”
“คนที่ผมเห็นแทบไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าเป็นช่างได้เลย” เขายังโต้แย้ง
“คุณจะใส่ความน้าบุษว่ามีผู้ชายคนอื่นให้ได้ใช่ไหม” หญิงสาวยกมือเท้าเอวด้วยความไม่พอใจ “หรือมีใครจ้องจะปั่นหัวคุณให้คิดแบบนั้น เผื่อได้คุณเป็นพวกอีกคนหนึ่ง”
เวธัสมองหล่อนซึ่งหันหน้าไปทางบ้านของหญิงชรา
“ถ้าไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่อย่ากล่าวหาผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยเลย”
แพรพิไลหัวเราะในลำคอ หันกลับมามองเขา “คุณบอกตัวเองด้วยแล้วกัน อย่าเชื่ออะไรให้มากจากสิ่งที่เห็น ถ้ายังไม่รู้ความจริง”
“คุณแพรไม่อยากรู้ความจริงสักหน่อยรึ” เขาถามยันเชิง
“ต่อให้เรื่องที่คุณเล่าให้ฟังจะเป็นความจริง มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อนบ้านที่ฉันไม่ควรไปยุ่งเกี่ยว” หล่อนอยากให้เขาเข้าใจกันบ้างสำหรับบางเรื่องที่อาจจะต้องปล่อยผ่าน “เพื่อไม่ให้กินแหนงแคลงใจกันและรักษาน้ำใจไมตรีที่เคยมีให้กันไว้ ฉันอยู่ในที่ของฉันแบบนี้ดีกว่ารับรู้เรื่องฉาวโฉ่อย่างนั้น”
“ถึงแม้บางเรื่องไม่ได้สร้างความเดือนร้อนให้คุณแพร แต่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่โต พอรู้ตัวอีกทีคงจะเกินแก้ไขได้”
“คุณลองบอกมาสิ ถ้าน้าบุษมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ อะไรจะเกิดขึ้นตามมา”
“การโกหกหรือปกปิดความจริงกับครูดิษย์”
แพรพิไลขบขันราวกับฟังเรื่องตลก “มันเป็นเรื่องเล็กมากๆ เลยนะ แค่โกหก”
“แต่เป็นการทำบาปเช่นกัน แล้วเมื่อไหร่มนุษย์จะมีบุญเพิ่มขึ้นสักที”
“พอเถอะ ฉันไม่อยากพูดธรรมะกับคุณ” แพรพิไลรีบยกมือขึ้นห้าม “เราจะคุยเรื่องนี้แค่วันนี้เท่านั้น ฉันไม่อยากให้คุณพูดถึงอีก หรือต้องไปจับจ้องหาความจริงเพื่อมาเถียงกับฉัน แค่มีเพื่อนบ้านหลังหนึ่งที่ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยก็เกินพอแล้ว อย่าให้มีอีกหลังเลยนะ เหลือเพื่อนบ้านสักหลังที่อยู่ข้างๆ กันไว้พูดคุยกันได้บ้างก็พอ”
“สิ่งที่ผมเห็นจะปล่อยผ่านเชียวรึ” เขายังเชื่อมั่นกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“คุณทำเป็นไม่เห็นสิ จะยากอะไรล่ะ อีกอย่างมันคือเรื่องในบ้านหลังนั้น คุณอยู่บ้านหลังนี้กับฉัน อย่าไปยุ่งด้วยเลยจะดีที่สุด”
เวธัสจ้องมองหล่อนด้วยความเข้าใจซึ่งมีความไม่เข้าใจแอบแฝง
ต่อไปเขาควรทำเช่นไรกับเรื่องดังกล่าว
“คุณเทพมายืนตรงนี้ตั้งแต่ตอนไหนครับ ผมไม่ทันเห็น”
ครูดิษย์ชะงักเท้า เอ่ยทักด้วยเสียงเบา
เวธัสเห็นครูดิษย์ทำตัวน่าสงสัยเหมือนที่เคยเป็น โดยจอดรถไว้ไกลจากบ้าน แล้วค่อยๆ ก้าวขามุ่งตรงไปที่บ้านตัวเองซึ่งทำทีเหมือนไม่อยากให้ผู้ใดรับรู้
เขากำลังพำนักในต้นทับทิมจึงปรากฏกายตรงประตูหน้าบ้าน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินผ่านหน้าไป
แท้จริงแล้ว มนุษย์ยังซ่อนเร้นความจริงบางอย่างไว้กับตัวเพื่อให้ดำรงชีวิตอย่างปกติ โดยที่ผู้อื่นไม่รู้เลยว่าทำผิดเบญจศีลข้อใดบ้าง
คนบางคนจึงหน้าชื่นตาบาน ขณะที่โกหกต่อกันด้วยความตั้งใจ
เวธัสล่วงรู้ได้จากเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคู่สามีภรรยา ด้วยการใช้อำนาจที่ยังพอมีเพียงเล็กน้อย เข้าไปสอดส่องหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นภายในบ้านข้างเคียง แม้จะต้องชี้แจ้งกับพระภูมิเจ้าที่ของบ้านหลังนั้นก็ต้องทำ เพื่อให้ทราบความจริงซึ่งเป็นไปตามที่คิดไว้ไม่มีผิด
ยิ่งเห็นยิ่งรับรู้ ใจก็พลอยไม่เป็นสุขที่จะบอกกล่าวกับหล่อน
เขาต้องสนใจคนตรงหน้า ยามที่ได้ยินคำถามต่อมาจากอีกฝ่าย
“คุณเทพจะไปไหนหรือเปล่าครับ”
เมื่อเขายังไม่ตอบคำถามใด ครูดิษย์ก็พูดขึ้นอีกด้วยความร้อนรนเล็กน้อย
“ผมขอเข้าไปคุยกับคุณเทพในบ้านได้ไหมครับ”
เวธัสเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้ามายืนคุยกัน หากครูดิษย์ยังเมียงมองไปทางบ้านของตัวเองด้วยความระแวดระวังราวกับกลัวคนในบ้านจะมองเห็น จึงเป็นเหตุให้เขาต้องเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน
“มีเรื่องใดต่อกันรึ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่แวะมาดูบ้านนิดหน่อย แล้วค่อยกลับไปสอนต่อ” ครูดิษย์ตอบเขา
เวธัสรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีเรื่องเป็นกังวล แต่ไม่คิดถามเซ้าซี้ “ผมนึกว่าคุณเลิกงานแล้ว”
“ยังครับ นี่แค่พักเที่ยง ผมมีสอนช่วงบ่ายด้วยครับ”
เขาพยักหน้ารับรู้
“คุณเทพอยู่บ้านตลอดใช่ไหมครับ เคยเห็นใครมาที่บ้านของผมบ้างไหม” ครูดิษย์ถามต่อ
“จะว่าเห็นก็เห็น จะว่าไม่เห็นก็ได้” เวธัสยังจำคำพูดของหล่อนได้ดี จึงไม่รู้จะบอกคนตรงหน้าเช่นไร เพื่อไม่ให้เป็นการโกหก
“ตกลงว่าเห็นหรือไม่เห็นครับ” ครูดิษย์อยากทราบคำตอบแน่ชัด
“ถ้าผมเห็นจะเป็นยังไงรึ”
“ผมจะได้รู้ว่ามีคนอื่นมาที่บ้าน ตอนที่ผมไปสอนหนังสือ”
“แล้วไม่รู้จริงรึ มีคนอื่นมาที่บ้านบ้างไหม”
เวธัสแค่อยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะไม่รู้จริงๆ หรือแค่ทำเป็นไม่รู้ทั้งที่รู้ดี
ครูดิษย์ก้มหน้าพูดกับเขา “รู้บ้างครับ มีทั้งคนส่งของ ช่างมาซ่อมแอร์ ซ่อมท่อน้ำประปา ตามที่คุณบุษเคยบอกกัน”
เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยมากกว่านั้น แต่ไม่มีคำใดออกจากปากอีกเลย
“คงจะเป็นเยี่ยงนั้น” เวธัสบอกได้เพียงแค่นี้
นี่คงไม่ใช่การโกหก หากเขาพูดความจริงไม่หมดเท่านั้นเอง
“คุณเทพอย่าบอกใครนะครับ ว่าเจอผมตอนกลางวันแบบนี้” ครูดิษย์ขอร้องเขาด้วยเสียงน่าเห็นใจ
เวธัสพยักหน้าเป็นคำตอบ หากคำร้องขอจากคนตรงหน้ายังไม่หมดสิ้นเพียงแค่นั้น
“ถ้าคุณเทพเห็นคนอื่นมาบ้านของผมด้วยท่าทีแปลกๆ ที่ไม่ใช่คนส่งของหรือช่าง ช่วยโทรบอกผมทีนะครับ ผมขอแค่นี้” ครูดิษย์ยื่นนามบัตรให้เขา
เวธัสรับกระดาษแผ่นเล็กโดยไม่คิดตกปากรับคำ เพราะไม่อยากจะทำตามที่ได้รับปากกันไว้
ครูดิษย์ขอตัวกลับ เนื่องจากใกล้ถึงเวลาสอนหนังสือจึงไม่ได้เข้าไปในบ้านตัวเอง
เขายังไม่แน่ใจว่าสิ่งใดคือความถูกต้อง ระหว่างทำตัวอย่างที่หล่อนบอกซึ่งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็สิ้นเรื่อง หรือต้องพูดความจริงตามที่เห็น
ความลับที่คนในบ้านหลังเดียวกันยังไม่รู้ ซึ่งไม่ใช่จะมีแค่สามีภรรยาในบ้านหลังนั้น หากบ้านหลังนี้ก็เช่นกัน
ถ้อยคำของหญิงชราก็แว่วให้ได้ยิน
‘ตาไม่เคยมีเรื่องปิดบังยาย จะทำอะไรหรือไปทำอะไรมาก็บอกยายหมดทุกเรื่อง แบบนี้แหละที่ยายเลือกตามาเป็นคู่ชีวิต เพราะเห็นถึงความจริงใจที่มีให้กันไม่เคยเปลี่ยน’
ความจริงเกี่ยวกับตัวเขาที่หล่อนยังไม่รู้ ถ้าคิดปิดบังอยู่เช่นนี้คงบ่งบอกถึงความจริงใจที่มีให้กัน
เวธัสคิดจะเปิดเผยตัวตนแท้จริงในเร็ววัน เผื่อมีโอกาสที่หญิงสาวอาจรักกันหมดทั้งใจ
จะมีสิ่งใดเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ไม่อาจรู้ได้
ถ้าเขาบอกต่อหน้าหล่อนว่า…คุณแพรจะเชื่อรึไม่ ผมเป็นเทพารักษ์

- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 22 : มีเหตุให้ต้องงอน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 21 : เกิดขึ้นอีกแล้ว
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 20 : อย่าบอกใคร
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 19 : จะเชื่อเหรอ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 18 : ช่วยกัน ช่วยด้วย!
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 17 : มีแต่เรื่องพิกล
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 16 : มองไม่เบื่อ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 15 : อยู่นานนาน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 14 : จีบจริงจัง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 13 : ดูไม่ออกเหรอ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 12 : มีเรื่องให้ร้อนรน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 11 : ของดีจริงจริง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 10 : บอกให้รู้ไว้ก่อน
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 9 : เหตุใดมันจึงร้อง
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 8 : ฝากด้วยนะ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 7 : อย่างนั้นก็แย่เลย
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 6 : เชื่อสิ!
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 5 : ขอไปทำไม
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 4 : เลิกพูดเถอะ
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 3 : ดีหรือไม่ดี
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 2 : ไม่ใช่ใช่ไหม
- READ เทพารักษ์ภัสดา บทที่ 1 : ขออยู่ที่นี่ได้ไหม
- READ เทพารักษ์ภัสดา : บทนำ







