กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด

กานต์ปรียา บทที่ 3 : อยากชำแรกเข้าไปในทุกห้วงความคิด

โดย : ดารัช

Loading

กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

“สำหรับคลิปหน้าจะเป็นวันสบายๆ ในโรงแรมเซเรเนดของเมอร์รี่ค่ะ อดใจรอชมกันไม่นานนะคะ และสำหรับคนที่เพิ่งกดเข้ามาที่ช่องของเมอร์รี่นะคะ ฝากช่วยกันกดไลก์ กดติดตาม กดแจ้งเตือน และแชร์คลิปของวันนี้ด้วยนะคะ แล้วเจอกับเมอร์รี่ที่ช่อง ‘Merry Everyday’ สำหรับวันนี้ เมอร์รี่ต้องขอลาไปก่อน สวัสดีค่า”

กานต์กรอคลิปวิดีโอในยูทูบกลับไปกลับมา เขานั่งมองใบหน้ายิ้มแย้มของคนตรงหน้า เมอร์รี่หรือมาริษาน่ารักเหมือนตุ๊กตาอย่างที่มัสลินบอกจริงๆ ด้วยความช่วยเหลือของเด็กฝึกงานสาว กานต์ได้ชื่อช่องยูทูบ รวมทั้งชื่อเพจในเฟซบุ๊กของเจ้าหล่อน พอลองเสิร์ชดู ก็พบว่าหญิงสาวเป็นคนดังในโลกออนไลน์พอตัว อันที่จริง เขาจะไม่สนใจมาริษาเลยสักนิด ถ้าเพียงแต่คลิปที่หญิงสาวอัปโหลด จะไม่มีภาพเขาอยู่ในนั้น!

ในคลิปเป็นตอนที่ยูทูบเบอร์สาวเดินเข้ามา โดยมีตากล้องร่างสูงสวมเสื้อคลุมยีนส์สีฟ้าแพนกล้องตามหลัง จังหวะที่มาริษาเดินมาหาพนักงานต้อนรับ กานต์ในชุดหลวมโพรกกำลังเดินออกจากเฟรมภาพ ลากกระเป๋าล้อเลื่อนออกไป ในคลิปจึงเห็นเพียงหลังของเขาไวๆ แต่ชายหนุ่มก็อยากตรวจสอบให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดสังเกต

“มานั่งทำอะไรมืดๆ คะ” เสียงงัวเงียของปรียาดังจากด้านหลัง หญิงสาวสวมชุดนอนของเขา ผมตรงยาวยุ่งเหยิงเพราะเพิ่งลุกจากเตียงนอน ดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ

กานต์รีบพับจอโน้ตบุ๊ก หันไปหาเธอ “ขอโทษครับ แสงไฟหน้าจอปลุกปรียาหรือเปล่า” เขาถาม “ผมก็ลืมคิดไปว่าคุณหลับอยู่”

หญิงสาวอ้าปากหาว ประสานมือบิดขี้เกียจด้วยท่าทางน่าเอ็นดูเหมือนลูกแมว “เปล่าค่ะ ปรียาหิวน้ำ แล้วพอตื่นมาไม่เห็นกานต์นอนข้างๆ” เจ้าหล่อนบุ้ยปากไปที่โน้ตบุ๊ก “ว่าแต่ลุกมากลางดึกกลางดื่น แอบมาดูอะไรคนเดียวคะเนี่ย”

เขาหัวเราะแก้เก้อ “พอดีนึกไอเดียเกี่ยวกับงานได้นิดหน่อย เลยลองหาคลิปที่น่าจะมีแนวทางคล้ายๆ กันในยูทูบน่ะครับ” กานต์มองหน้าตาแบบคนยังไม่ตื่นดีของหญิงสาว “แต่ปรียาคงไม่อยากฟังเรื่องน่าเบื่อๆ อย่างเรื่องงาน”

เธอย่นจมูก “น่าเบื่อจริงๆ แหละ พ่อคนน่าเบื่อ” หญิงสาวทรุดนั่งบนตักเขา ปรียาอยู่ใกล้เสียจนเขาได้กลิ่นน้ำหอมจางๆ เขาสูดกลิ่นหรูหราของมวลดอกไม้ แค่มองคนตรงหน้า กานต์แทบลืมทุกอย่าง ไม่ว่าจะดวงตาเบิกโพลงของสายฟ้า หรือความฝันเกี่ยวกับใบหน้าตื่นตะลึงของเด็กชายที่ร่วงจากบันได

“ปรียาไม่กวนแล้วดีกว่าค่ะ กานต์ทำงานไปเถอะ” เธอพูด ยันตัวลุกขึ้น

ชายหนุ่มรั้งเอวของคนรักไว้ แต่เธอขืนตัว

“เวลาตั้งป่านนี้แล้ว” หญิงสาวอุทาน เหลือบมองนาฬิกาแขวนผนัง “ปรียาอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานก่อนดีกว่าค่ะ” พูดจบ เจ้าหล่อนก็หยิบเสื้อผ้าที่กองเกลื่อนพื้น และโทรศัพท์มือถือเข้าห้องน้ำไป

“ปรียา” เขาเรียก แต่หญิงสาวดูจะไม่สนใจเขาเลยสักนิด

ชายหนุ่มกำหมัดแน่น รู้สึกหงุดหงิด ทำไมเธอไม่มองเขาล่ะ ทำไมเธอไม่สนใจเขาอีกแล้ว กานต์ไม่รู้เลยว่าปรียาคิดอะไรอยู่

เขาขมวดคิ้ว หญิงสาวบอกว่าจะไปอาบน้ำ แต่ทำไมถึงหยิบโทรศัพท์มือถือไปด้วยนะ

กานต์ยกหน้าจอโน้ตบุ๊กที่พับไว้ รีบไล่เปิดโปรแกรมเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรมของคนรัก มันยังคงนิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหว

เขาถอนหายใจ ปรียาคงแค่หยิบมือถือติดตัวตามความเคยชิน หรือไม่ก็ตั้งใจเปิดส่องสเตตัสคนอื่นไปเรื่อยเปื่อย เธอคงไม่ได้อยากเมาท์มอยเรื่องของเขา หรือแม้แต่เรื่องบนเตียงกับเพื่อน

ไม่สิ ถ้าเธอรู้สึกมีความสุข เธอจะเล่าให้เพื่อนสนิทอย่างเบญญาภาฟังไหมนะ

เขาจำได้ว่าเคยไล่อ่านแช็ตในเฟซบุ๊ก ปรียาทักเบญญาภาเพื่อบรรยายรายละเอียดการออกเดทกับสายฟ้าตั้งแต่เลือกเสื้อผ้าจนถึงบนเตียงเสียละเอียดยิบ คราวนี้เธอจะเล่าไหม หญิงสาวจะเปรียบเทียบหรือเปล่า เมื่อคืนเธอหลับสนิท คงเพราะเพลียมาก แต่ตอนนี้ล่ะ ปรียาจะยังเงียบอยู่ไหม

กานต์ใจเต้นรัว มือกุมเมาส์นิ่ง และรอคอย ชายหนุ่มนึกขอบคุณตัวเองที่เปลี่ยนใจไม่ลบบัญชีโซเชียลของปรียาไป ไม่งั้นตอนนี้เขาต้องคลั่งไปแล้วแน่ๆ กานต์ยอมไม่ได้ที่จะไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ตัวเองรักกำลังคิดอะไรอยู่!

ความเคลื่อนไหวในช่องแช็ตของเฟซบุ๊กดึงความสนใจของกานต์

ปรียา เปี่ยมปภานัน : เบญๆๆ แกๆๆ

Ben Benyapa : ฉันกำลังเตรียมออกกะดึก ง่วงสุดอะไรสุด ว่าแต่แกมีอะไรหรือเปล่า

ปรียา เปี่ยมปภานัน : ฉันเลิกกับพี่สายฟ้าแล้วนะ

Ben Benyapa : จริงดิ! แต่เอาจริงๆ คนเจ้าชู้พรรค์นั้นเลิกได้ก็ดี แกเห็นที่ไอ้บ้านั่นมันอัปสเตตัสในเฟซบุ๊กไหม พ่นออกมาแต่ขยะ

ปรียา เปี่ยมปภานัน : ฉันคบกับกานต์แล้วด้วย

Ben Benyapa : ฮะ? หา!!!

ปรียา เปี่ยมปภานัน : ก็ตามนั้นแหละ

Ben Benyapa : เดี๋ยวๆๆๆ เมื่อไหร่

ปรียา เปี่ยมปภานัน : เมื่อวาน คือ…พอมาคิดดู มีแต่กานต์นี่แหละที่เข้าใจและคอยอยู่ข้างๆ ฉัน ถ้าเป็นเขา ฉันคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวตามจิกว่าเขาจะมีคนอื่นหรือเปล่า

Ben Benyapa : แล้วยังไง ขอดีเทลหน่อย สรุปก็คือคบกับกานต์แน่ๆ แล้วใช่ไหม ไม่ไล่ตามไอ้สายฟ้าแล้วแน่นะ

ปรียา เปี่ยมปภานัน : แน่สิ! กานต์ดีกับฉันมากๆ เลยนะ ทำไมฉันต้องมานั่งสนใจคนเลวๆ อย่างพี่สายฟ้าด้วย

Ben Benyapa : อืม…งั้นก็ยินดีด้วยนะ ดีแล้วละ

ในช่องแช็ต มีจุดขึ้นว่าปรียากำลังพิมพ์ข้อความ แต่ใช้เวลานานมาก ราวหญิงสาวพิมพ์แล้วลบอยู่อย่างนั้น กานต์จ้องมองช่องแช็ตเขม็ง

ปรียา เปี่ยมปภานัน : ว่าแต่แกโอเคไหม แกเคยคบกับกานต์นี่นา

มีข้อความขึ้นว่าอ่านแล้ว แต่ไม่มีข้อความตอบกลับจากเบญญาภา

ปรียา เปี่ยมปภานัน : เบญ อย่าเงียบสิ ฉันไม่สบายใจเลยนะ

Ben Benyapa : แหม เรื่องของฉันกับกานต์มันก็ตั้งนานแล้วนะ ไว้คุยกันอีกที ฉันต้องกลับบ้านแล้ว พี่ทักษ์…ฉันหมายถึงผู้จัดการรอแล้วละ พอดีฉันจะขอติดรถเขากลับบ้าน บายนะ

บทสนทนาหลังจากนั้นเป็นการบอกลา ครู่ใหญ่ เบญญาภาก็ทักมาบอกว่าถึงที่พักแล้ว และคุยเรื่องละครที่กำลังฮิต กับนักดนตรีหน้าใหม่ที่เจ้าหล่อนกำลังติดตาม

กานต์หน้าชื่น วางโทรศัพท์มือถือ เขาไม่น่าคลางแคลงในความรู้สึกที่ปรียามีให้เลย ชายหนุ่มอยากเอาหัวโขกกำแพงสักร้อยครั้ง ผู้หญิงบริสุทธิ์งดงามอย่างเธอไม่มีทางเอาเขาไปพูดถึงในทางเสียๆ หายๆ แน่ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีอะไรให้กังวล ตอนนี้เขามีความสุขเสียจนแทบคลั่งเลยละ

 

เสียง ติ๊ง! ดังขึ้น ขนมปังขาวดันตัวออกจากเครื่องปิ้งขนมปัง กานต์ใช้คีมคีบใส่จาน แล้วนำไปวางบนโต๊ะทานอาหาร เขาถอยออกมา กวาดตามองอาหารเช้าบนโต๊ะอันประกอบด้วยนมสด ผลไม้ ไส้กรอกทอด ไข่ดาว ปิดท้ายด้วยขนมปังกรอบกำลังดี ส่งกลิ่นหอมกรุ่น เขาอมยิ้มที่เห็นทุกอย่างจัดวางสำหรับสองชุด

ปรียาเปิดประตูห้องนอนออกมา หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่ง ยัดชายในกางเกงสแล็ก มัดผมยาวลวกๆ ด้วยยางรัดของ

ปกติปรียามีภาพลักษณ์ที่ดูเนี้ยบ แต่พอมาเห็นเธอสวมเสื้อผ้าของเขาแบบนี้ ทำให้กานต์ใจสั่น ชายหนุ่มเอาแต่ยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าจนหญิงสาวมองค้อน

“ทำไมถึงจ้องปรียาแบบนี้คะ มันต้องดูตลกแน่ๆ ปรียาไม่ค่อยแต่งตัวแบบนี้เลย” เธอละล่ำละลักพูด “ให้ตายเถอะ หรือจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนดี”

“ปรียาสวยมากครับ” เขาพูดจากใจ

เธอสบตาเขา ค้นหาความจริงในคำพูด ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางพอใจ “ถ้ากานต์ว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” เธอชะโงกตัวมองอาหารบนโต๊ะ “ว้าว! ไม่คิดว่าจะมีบริการอาหารเช้าให้ด้วยนะคะเนี่ย เมื่อวานกานต์ก็ต้มโจ๊กให้ วันนี้เป็นแนวอเมริกัน เบรกฟาสต์อีก” เจ้าหล่อนพูดยิ้มๆ

“งั้นคืนนี้ค้างที่นี่อีกสิครับ” เขาพูด

หญิงสาวหัวเราะร่วน “กานต์คนขี้อายที่ปรียารู้จักแรกๆ เป็นแค่โฉมหน้าสินะคะ”

เขาหัวเราะตาม ถ้าเธอชอบ เขาจะเป็นแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น

“ทานมื้อเช้าก่อนสิครับ” ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ไม้ให้

หญิงสาวมองนาฬิกาข้อมือ “ไม่ทันแล้วค่ะ จากบ้านกานต์ไปที่ทำงานจะผ่านโรงเรียน โซนนั้นถ้าออกจากบ้านสายรถต้องติดแน่ๆ ปรียาไปก่อนดีกว่า ติดเอาไว้ก่อนนะคะ คราวหน้าจะทานให้เรียบเลยค่ะ”

กานต์เผลอทำหน้ามุ่ย

“ไม่งอนสิคะ” ร่างโปร่งของคนรักขยับมาใกล้ แขนบอบบางของเธอโอบเขาเอาไว้ กานต์รู้สึกราวตัวเองลอยละล่องบนปุยเมฆ “วันนี้ปรียาต้องรีบไปจริงๆ” เธอผละจากเขา แต่กลับยืนนิ่งราวกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วเธอก็หันกลับมา จูบแก้มเขาแผ่วเบาก่อนขอตัวไปทำงาน

กานต์ยืนแข็งค้างในท่าเดิม ยกมือลูบแก้ม สัมผัสของหญิงสาวยังคงอ้อยอิ่งอยู่เช่นนั้น เขาผุดรอยยิ้มอ่อนโยน จะว่าไปต้องขอบคุณสายฟ้า ไม่สิ ต้องขอบคุณโทรศัพท์มือถือของนักเขียนหนุ่มต่างหาก

รอจนเสียงเครื่องยนต์จากเก๋งสีขาวของปรียาเคลื่อนออกไปสักพัก ชายหนุ่มผละจากห้องครัวไปยังเตียงนอน เกร็งแขน ใช้แรงยกเบาะนวมขนาดหกฟุตขึ้นมา แล้วควานมือใต้เบาะจนเจอกล่องเหล็กใบหนึ่ง มันเป็นกล่องเหล็กสี่เหลี่ยมขนาดประมาณกระดาษเอห้า มีระบบล็อกรหัสสำหรับใส่ตัวเลขห้าหลัก

เขากดรหัส ไม่นานกล่องก็เปิดออก ภายในมีโทรศัพท์มือถือของสายฟ้าวางไว้ กานต์ก็กดเข้าเฟซบุ๊ก นั่งอ่านข้อความบนหน้าฟีดของหนุ่มนักเขียนที่ตัวเองพิมพ์ไว้เมื่อคืน

‘ใช้ชีวิตไปเรื่อยแบบไม่ต้องสนใจใครก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้เบื่อไม่อยากทำอะไร แค่มีสาวๆ ก็พอใจ แต่ขอสาวๆ หน้าใหม่ๆ นะ พวกของเก่าน่ะน่าเบื่อ #หาข้อมูลเขียนนิยายเกี่ยวกับสาวฮอต #เบื่อคนเก่าๆ’

กานต์มองสติกเกอร์โกรธและข้อความตอบกลับ ‘คนเลว’ ที่ปรียาพิมพ์ เขายิ้ม ยิ่งเธอเห็นความเลวของแฟนเก่ามากเท่าไร เธอก็จะเห็นว่ามีเพียงเขาที่แสนดีและคอยอยู่เคียงข้างเธอ

กานต์ผุดรอยยิ้มสะใจ แล้วอัปเดตสถานะเพิ่มเติม

‘พักโซเชียลเดือนนึงนะครับ ใครเห็นข้อความนี้ถือว่ารับทราบนะ จะหาแรงบันดาลใจเรื่องรักมาปั่นต้นฉบับ #อยู่ที่ไหนไม่สบายเท่าอยู่ในใจผม #รอบนี้ขอแบบขาวๆหมวยๆ’

ตอนที่กำลังจะปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ เขาถึงได้เห็นว่ามีเบอร์ไม่ได้รับ ปลายสายนั้นตัวเขาเองเป็นคนบันทึกเอาไว้ว่า ‘โรงแรมเซเรเนด’

กานต์ขมวดคิ้ว ก่อนจะโทร.กลับ

เสียงเรียกเข้าดังไม่นาน เสียงผู้ชายตอบกลับ “สวัสดีครับ โรงแรมเซเรเนดครับ ไม่ทราบมีอะไรให้ช่วยไหมครับ”

คงเพราะรีบร้อนตอบ เสียงของชายหนุ่มจึงติดจะแหบพร่า “เอ่อ…คือพอดีผมเห็นทางโรงแรมโทรมาน่ะครับ”

“รบกวนขอทราบชื่อคุณลูกค้าหน่อยได้ไหมครับ”

“สายฟ้า” เขาตอบ “สายฟ้า บทบูรณ์”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง มีเสียงพลิกหน้ากระดาษและคลิกเมาส์ แล้วพนักงานโรงแรมก็ตอบกลับมา “ครับผม คุณสายฟ้านะครับ วันก่อนคุณลูกค้ามาเข้าพักที่โรงแรม ไม่ทราบมีทำของหล่นหายบ้างไหมครับ มีลูกค้าที่เข้าพักต่อเจอของเข้า เลยอยากโทรมาตรวจสอบว่าใช่ของคุณสายฟ้าหรือเปล่าน่ะครับ”

“ของอะไรครับ” เสียงกานต์แทบจะตวาด เขากลอกตาไปมา แผนการที่สมบูรณ์แบบของเขาเกิดช่องโหว่ขึ้นมาเช่นนั้นหรือ เขาเผลอลืมอะไรไว้ มันจะสาวมาถึงตัวเขาหรือเปล่า ชายหนุ่มเผลอกำโทรศัพท์แน่น แย่แน่ๆ เขาอุตส่าห์ได้รับความรักจากปรียา ถ้าทุกอย่างพังทลาย เขาจะทำอย่างไรดี

“คุณสายฟ้าครับ” พนักงานของโรงแรมเรียก น้ำเสียงดูตกใจ คงเพราะเขาเผลอขึ้นเสียงใส่ “คุณสายฟ้า”

“ครับ ครับผม” เสียงของอีกฝ่ายดึงสติชายหนุ่มกลับมา เขาพยายามคุมเสียงให้เรียบ “สรุปว่าของที่แขกคนที่พักต่อจากผมเจอคืออะไรเหรอครับ”

“ต้องขอโทษด้วยนะครับ ทางเราบอกไม่ได้ครับ” น้ำเสียงอีกฝ่ายขอโทษขอโพย “คือถ้าลูกค้าไม่ได้ทำอะไรหาย ก็ไม่เป็นไรครับ ทางโรงแรมจะเก็บไว้ก่อนเผื่อเจ้าของตัวจริงมาถามหา ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษที่รบ…”

“เดี๋ยวก่อน” เขาห้ามเสียงดัง เผลอผุดลุกขึ้นยืน “คือ…ผมยังไม่ได้เอาของออกจากกระเป๋าเลย มัวแต่ยุ่งๆ ยังไงขอเช็กก่อนได้ไหม แล้วผมจะติดต่อกลับไป”

พนักงานโรงแรมรับคำ

ทันทีที่วางสาย กานต์เดินวุ่นเป็นหนูติดจั่น เขาลืมอะไรไว้ มันจะสาวถึงตัวเขาหรือเปล่า ชายหนุ่มเตะหมอนที่กลิ้งตกบนพื้นตอนที่เขายกเบาะนอนขึ้น ด้วยความที่ยังไม่สาแก่ใจ กานต์เตะมันอีกครั้งเต็มแรง จังหวะยกเท้า ชายหนุ่มพลาดเตะไปโดนขอบเตียงจนเล็บหัวแม่เท้าฉีก เขานั่งงอตัวข้างเตียง เอามือกุมนิ้วเท้า กัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด ชายหนุ่มทั้งเจ็บทั้งเหนื่อย ไหล่ไหวสะท้าน จู่ๆ เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ ถ้าเขาโดนตำรวจจับได้ล่ะ ถ้าปรียาเกลียดเขาล่ะ กานต์แค่อยากอยู่กับปรียาอย่างมีความสุขชั่วนิรันดร์ แบบเดียวกับฉากจบในนิทานก่อนนอนเขาเคยฟังสมัยอยู่บ้านเด็กกำพร้า

ปรียา…เพียงนึกถึงเธอ กานต์ก็ดึงสติกลับมาได้ เขาทำทุกอย่างเพื่ออยู่กับเธอ ดังนั้น เขาจะต้องไม่มาตกม้าตายโง่ๆ เด็ดขาด

กานต์สะบัดศีรษะไล่ความสับสน เขาต้องตั้งสติ

ชายหนุ่มยันกายขึ้น มือกำโทรศัพท์ของสายฟ้าไว้ เขาเดินกลับไปห้องครัว หยิบโทรศัพท์ของตัวเองที่วางบนโต๊ะอาหาร มื้อเช้ายามนี้เย็นชืด แต่เขาไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งนั้น

เขากดโทรศัพท์

“สวัสดีครับพี่นิพิท ผมกานต์นะครับ” ชายหนุ่มพูด

“กำลังถามเจ้าพีทอยู่เลย วันนี้ไม่มาทำงานหรือไงเราน่ะ” เสียงทุ้มของหัวหน้าแผนกตอบกลับมา “แล้วที่ไม่ค่อยสบายเป็นไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง” ประโยคหลังหัวหน้าคงเท้าความถึงตอนที่กานต์ละเมอในห้องประชุม

“ตอนแรกเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ยังปวดหัวครับพี่” เขาตอบ แสร้งทำเสียงอิดโรย “ผมคิดว่าวันนี้คงไม่ไหว จะขอลาป่วยวันนึงนะครับ”

“พักผ่อนเถอะ ไม่เป็นไรหรอก” น้ำเสียงนิพิทห่วงใย “อาการเป็นยังไงไลน์มาบอกพี่ด้วยนะ ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ไปให้หมอตรวจเสียหน่อย”

กานต์กล่าวขอบคุณหัวหน้าแผนก แล้วกดวางสาย

เขาสูดลมหายใจ ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าของหายที่พนักงานโรงแรมพูดถึงคืออะไร ดังนั้น ก่อนอื่น เขากะจะทำสิ่งที่พอทำได้ นั่นคือตรวจสอบคลิปวิดีโอของมาริษาเพิ่มเติม เพื่อดูว่าตัวเขาเผลอลืมอะไรไปบ้างหรือเปล่า

 

“สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกแล้วกับช่อง Merry Everyday” หญิงสาวในวิดีโอเปลี่ยนมาสวมชุดนอนลายสกอตสีชมพูแขนยาวขายาว ปล่อยผมลอนสยาย เจ้าตัวกำลังนั่งขัดสมาธิบนพื้นห้องของโรงแรม ข้างๆ คือณัฐนนท์ ตากล้องหนุ่มหน้าตาคมคาย ผิวขาว สวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มสามส่วน

กานต์กดหยุดคลิปวิดีโอ ชั่งใจว่าจะดูต่อดีหรือไม่ คลิปนี้เป็นคลิปต่อจากตอนที่ถ่ายเห็นเขาไวๆ แต่ถ้าให้เดา เนื้อหาของคลิปนี้คงเป็นแค่การนั่งพูดคุยกันในห้องนอน และอาจจะถ่ายบรรยากาศในห้องพักนิดหน่อย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา บางทีชายหนุ่มควรเพ่งความสนใจยังเรื่องที่ว่าเขาเผลอลืมอะไรไว้ที่โรงแรมเซเรเนดดีกว่า

ยังไม่ทันตัดสินใจ ปลายนิ้วของเขาก็ไปกดปุ่มเพลย์ ทำให้วิดีโอเล่นต่อ “คืนนี้ที่โรงแรมเซเรเนดฝนตกค่ะ” หญิงสาวผมลอนขยับมาหน้ากล้อง แล้วแพนไปยังภาพฝนพรำนอกหน้าต่าง แล้วขยับมานั่งตำแหน่งเดิม ทำหน้าเสียดาย “ตอนแรกกะจะพาทุกคนไปตระเวนชิมอาหารร้านอร่อย เลยต้องยกเลิกไปค่ะ”

“ดังนั้น เราจะทำอะไรกันดีครับทุกคน” ตากล้องหนุ่มพูดเสียงเรียบ จนมาริษาตีเขาเบาๆ โทษฐานทำหน้าตาย ณัฐนนท์กะพริบตาปริบๆ ท่าทางเหมือนโดนบังคับให้มาออกหน้ากล้อง พอรวมกับใบหน้าหล่อเหลา เรียกคอมเมนต์หวีดจากบรรดาแฟนคลับ

มาริษาเป็นคนเฉลย “พวกเราจะมาเล่นเกมกันค่ะ…คิดว่าจะเป็นการตอบคำถาม หรือเล่นเกมจำพวก True or Dare ใช่ไหมล่า ผิดค่ะ” หญิงสาวเอามือไขว้กันเป็นรูปกากบาท หลิ่วตาให้กล้อง “วันนี้พวกเราสองคนจะมาล่าสมบัติในห้อง 405 ค่ะ คืนนี้เมอร์รี่จะพักห้องนี้คนเดียวนะคะ ส่วนพี่นนท์พอถ่ายคลิปเสร็จจะกลับบ้านค่ะ อย่าคิดลึกกันนะคะ”

หมายเลขห้องทำให้กานต์หูผึ่ง ห้อง 405 เป็นห้องที่เขาเข้าพัก เลื่อยศพของสายฟ้าเป็นชิ้นๆ ในห้องน้ำ ก่อนจะเอาเศษชิ้นส่วนทั้งหมดไปฝังที่ภูเขาไม่ไกลจากตัวโรงแรม!

ในขณะที่ตัวชาอยู่นั้น หูและตาของกานต์ยังคงทำงาน มาริษาอธิบายกติกาของเกมว่าแต่ละคนได้ซ่อนของที่ติดชื่ออีกคนไว้คนละสองชิ้นในห้องพัก แล้วให้แต่ละฝ่ายตามหาของที่มีชื่อของตัวเองภายในเวลาที่กำหนด จากนั้นก็จะมานั่งคุยถึงที่มาที่ไปของสิ่งของแต่ละชิ้น

“ตามเสียงเรียกร้องของเหล่าแฟนบอยและแฟนเกิร์ลของช่องนะคะ วันนี้พี่นนท์จะไม่เป็นตากล้องหนึ่งวัน แต่จะมาเล่นเกมกับเมอร์รี่ด้วยค่ะ” ยูทูบเบอร์สาวผายมือมาทางชายหนุ่มข้างตัว ณัฐนนท์ยิ้มเขิน “วันนี้เลยไม่มีตากล้อง ตอนที่แต่ละคนตามหาของ ก็จะอัดคลิปในมือถือแยกกันไว้ แล้วเมอร์รี่จะมาตัดต่อทีหลัง เพราะฉะนั้นตอนถ่ายทำ เมอร์รี่จะไม่รู้เลยว่าพี่นนท์ไปสำรวจอะไรบ้าง ถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็ตามพวกเรามาเลยค่า”

พูดจบ ภาพในวิดีโอก็แบ่งเป็นสองช่อง ซึ่งมาจากการใช้โทรศัพท์มือถือของแต่ละคนอัดวิดีโอ กานต์กดหยุดวิดีโอ เพ่งสายตาไปทีละเฟรม คอยดูว่าเขาเผลอทิ้งหลักฐานหรือลืมอะไรเอาไว้หรือเปล่า แต่ก็ไม่มีอะไรทั้งนั้น

เขาถอนหายใจโล่งอก บางทีของที่มาริษาและณัฐนนท์เจออาจเป็นของที่พนักงานทำความสะอาดลืมทิ้งไว้ก็ได้ เขาคงตื่นตูมไปเอง

เขาไล่ดูจนถึงตอนที่คนทั้งสองตามล่าสมบัติเจอ แล้วกลับมานั่งรวมกัน แต่ละคนถือกล่องของขวัญที่มีชื่อของตัวเองแปะไว้ด้านหน้าคนละสองกล่อง

“ใครจะเริ่มแกะกล่องสมบัติก่อนดี” ณัฐนนท์ยกกล่องของขวัญในมือมาเขย่า

มาริษาเป่ายิ้งฉุบแพ้ หญิงสาวแลบลิ้น ทำหน้าครุ่นคิดหน้ากล่องของขวัญสองกล่องที่มีชื่อของตัวเองติดอยู่ “จะเปิดกล่องไหนดีเนี่ย ไม่มีของประเภทออกสื่อไม่ได้หรอกใช่ไหม” หญิงสาวหันไปคาดคั้นณัฐนนท์ เธอย่นจมูกเบาๆ ด้วยท่าทางน่ารัก

มาริษาสุ่มหยิบกล่องของขวัญสีชมพูใบเล็กขึ้นมา พอแกะออกก็ส่งเสียงวี้ดว้าย พยายามซ่อนภาพถ่ายใบหนึ่งสุดฤทธิ์

“พี่นนท์ไม่ต้องมายิ้มเลย” หญิงสาวหน้าแดง คว้าหมอนหนุนมาไล่ตีรุ่นพี่ ณัฐนนท์วิ่งวุ่นไปทั่ว มาริษาแนะนำตั้งแต่ต้นคลิปว่าสนิทกับตากล้องหนุ่มตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ภาพถ่ายที่ณัฐนนท์เอามาคงเป็นภาพตลกๆ สมัยเรียนของหญิงสาว

ไม่น่ามีอะไรแล้ว กานต์รู้สึกว่าตัวเองเสียเวลาเปล่า เขาควรหาหนทางอื่นเพื่อหาคำตอบว่าของที่มีคนลืมทิ้งไว้ที่พนักงานโรงแรมพูดคืออะไร

ในตอนที่กำลังจะปิดคลิปวิดีโอ อะไรบางอย่างก็ตกลงมาจากหมอนในมือมาริษา มันคือนาฬิกาข้อมือเรือนที่สายฟ้าสวมบ่อยๆ!

 

“ขอบคุณที่จะส่งมาให้ทางไปรษณีย์นะครับ พอดีผมติดงานไม่สะดวกไปเอาของจริงๆ” กานต์พูดกับพนักงานคนเดิมของโรงแรมเซเรเนด แล้วกดวางสาย

เขาตรวจสอบบัญชีโซเชียลของสายฟ้า แม้จะยึดอาชีพนักเขียน แต่จากการแอบติดตามมาสักระยะ ดูเหมือนสายฟ้าจะแค่ลอยชายไปมาด้วยเงินจากมรดกและประกันอุบัติเหตุของพ่อแม่ เขียนงานล่าสุดสามปีที่แล้ว อัปสเตตัสว่าจะหาแรงบันดาลใจเขียนงานเป็นระยะ แต่ส่วนมากเป็นการสนุกกับสาวคนโน้นคนนี้มากกว่า คนที่ติดต่อด้วยจริงๆ มีแค่ปรียา ซึ่งหลังๆ ก็ไม่ได้คุยอะไร เป็นเสือผู้หญิงสไตล์วันไนต์สแตนด์ อ้อ! จะว่าไปอีกคนที่สายฟ้าติดต่อด้วยบ่อยๆ คือกานต์เอง ในเวอร์ชันปลอมตัวเพื่อไปตีสนิทน่ะนะ

กานต์ขมวดคิ้วเมื่อไลน์ของสายฟ้าเด้งข้อความเข้าจากคนแปลกหน้า หน้าจอโพรไฟล์เป็นรูปผู้หญิงอายุสี่สิบกว่า ผมซอยสั้นระต้นคอ สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้ม ให้ความรู้สึกเคร่งขรึมแบบผู้หญิงทำงานเก่ง

ภคินี : สายฟ้า วันพุธหน้ายังนัดกันที่เดิมไหม

กานต์ขมวดคิ้ว พุธหน้า นัดกันที่เดิม อีกฝ่ายหมายถึงเรื่องอะไร อีกอย่าง ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร พ่อแม่ของสายฟ้าเสียชีวิตแล้ว ตัวเขาเป็นลูกโทน หรือว่าผู้หญิงที่ชื่อภคินีคือหนึ่งในคู่ขาของนักเขียนหนุ่ม แต่ถ้าเป็นคู่ขา ทำไมสายฟ้าจึงไม่เคยแช็ตคุยกับเจ้าหล่อนตลอดหลายเดือนที่กานต์ลอบติดตามอีกฝ่ายเลย อีกอย่าง สไตล์ผู้หญิงที่สายฟ้าชอบไม่น่าใช่สไตล์สาวรุ่นพี่ท่าทางเคร่งขรึมแบบนี้

ภคินี : จะเบี้ยวเหรอ

กานต์ไล่ดูรายชื่อผู้ติดต่อในโทรศัพท์ ไม่มีชื่อภคินี ไม่มีแม้แต่เฟซบุ๊ก หรืออินสตราแกรม

ภคินี : จะเอาแบบนี้ใช่ไหม

สายฟ้า : โทษที ไม่ว่าง

เขากลั้นใจพิมพ์ตอบ ปลายทางเหมือนกำลังพิมพ์อะไรสักอย่าง แล้วเหมือนเปลี่ยนใจ สุดท้ายก็พิมพ์ตอบมาสั้นๆ

ภคินี : ช่างเถอะ ต่อไปก็ไม่ต้องติดต่อกันอีก

กานต์ถอนหายใจยาว ชายหนุ่มยังคงนั่งบนเก้าอี้ปรับเอนได้ หน้าโต๊ะทำงาน สายตาจ้องคลิปวิดีโอที่ปล่อยให้เล่นไปเรื่อยๆ ของช่อง Merry Everyday เขาเอนหลังพิงเบาะ ประสานมือเหนือศีรษะ บิดขี้เกียจจนรู้สึกได้ว่าข้อต่อลั่นกร๊อบ

หลังแช็ตโต้ตอบกับหญิงสาวแปลกหน้า และดูเหมือนเจ้าตัวตัดสินใจจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับสายฟ้าแน่แล้ว กานต์มานั่งตรวจสอบจากวิดีโอที่มาริษาอัปโหลดจนแน่ใจว่าสิ่งที่เขาลืมเอาไว้มีเพียงนาฬิกาข้อมือเท่านั้น ไม่ได้มีอย่างอื่นที่บ่งชี้ถึงการไปเยือนของนายกานต์ บุณยารักษณ์

พอนึกถึงนาฬิกาข้อมือที่หลุดลอดสายตา กานต์ขบกรามกรอด เขาจำได้ว่าตอนหั่นศพ ไม่เห็นนาฬิกาข้อมือของสายฟ้าเลย ไอ้ระยำนั่นคงอาศัยจังหวะตอนอยู่บนเตียงนอน แอบถอดนาฬิกามาซ่อนไว้ แต่ด้วยความสะลึมสะลือเพราะฤทธิ์ยาสลบ มันเลยทำได้แค่หลับไปอีกรอบ

เขายิ้มเย็น แม้จะตายไปแล้ว สายฟ้ายังสร้างเรื่องวุ่นวายให้ไม่รู้จักหยุดหย่อน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายคงทำได้ดีที่สุดแค่นี้ กานต์สามารถจัดการทุกอย่างได้ง่ายๆ ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนรอบตัวสายฟ้าเข้าใจคือเจ้าตัวหยุดเล่นโซเชียลชั่วคราว แล้วสนุกอยู่กับการไล่ตามก้นสาวๆ โดยอ้างว่าจะหาข้อมูลและแรงบันดาลใจสำหรับนิยายเรื่องใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ กานต์ติดตามสายฟ้ามานานพอที่จะวางแผนให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของอีกฝ่าย

ส่วนนาฬิกาข้อมือ ชายหนุ่มบอกให้ทางโรงแรมส่งคืนตามที่อยู่คอนโดฯ ของสายฟ้า เขาค่อยหาจังหวะเหมาะๆ ไปหยิบมาทำลายอีกที หรือไม่ จะปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่น่าเป็นปัญหาอะไร

เขาถอนหายใจโล่งอก หลังจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาหน่อยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาแขวนผนังในห้องนอน เขาพบว่าตัวตัวเองนั่งหัวหมุนเพราะฤทธิ์เดชของผู้ชายที่ไม่อยู่ในโลกนี้แล้วจวบจนบ่ายคล้อย

ในห้องครัว อาหารเช้ายังคงวางบนโต๊ะทานข้าว กานต์หิวจนขี้เกียจอุ่นอาหาร เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้ไม้ อารมณ์ดีจนแม้แต่ไข่ดาวอมน้ำมันกับไส้กรอกเย็นชืดยังอร่อย

กานต์ไพล่นึกถึงนาฬิกาข้อมือของสายฟ้า…แอบทิ้งของไว้สินะ แต่สุดท้ายคนอย่างแกก็ทำได้แค่นี้แหละ สายฟ้า ยอมรับความพ่ายแพ้ และพบสันติสุขใต้ผืนดินเสียเถอะ เพราะว่าต่อจากนี้ กานต์จะใช้ชีวิตให้เต็มที่ และแน่นอนว่าต้องมีผู้หญิงที่เขารักและรักเขาอย่างปรียาอยู่เคียงข้าง

แล้วชายหนุ่มก็เดินมาเปิดโน้ตบุ๊ก เข้าบัญชีโซเชียลของปรียาที่ล็อกอินค้างไว้ ไล่อ่านข้อความแช็ตที่เธอคุยกับเพื่อน นั่งดูสตอรี่ต่างๆ ดูข้อความแช็ตในไลน์ ทั้งเรื่องงานและไลน์กลุ่มอื่นๆ เธอสั่งข้าวมันไก่กับชามะนาวเป็นมื้อเที่ยงสินะ กานต์อมยิ้มแล้วสั่งอาหารแบบเดียวกัน ปรียาบ่นกับเบญญาภาว่าอยากทานบุฟเฟต์แซลม่อน แล้วไปแช็ตคุยเรื่องภาพยนตร์เข้าใหม่กับเพื่อนร่วมงาน

กานต์หยิบโทรศัพท์มือถือมากดเข้าเฟซบุ๊กตัวเอง ทักชวนหญิงสาวไปดูหนังเข้าใหม่และทานบุฟเฟต์ด้วยกันช่วงวันหยุด ปรียาส่งสติกเกอร์ดีใจมาให้ แล้วพิมพ์มาว่า ‘กานต์รู้ใจปรียาที่สุด มีแฟนรู้ใจขนาดนี้ ปรียาต้องล่ามกานต์ไว้ จะได้ไม่เผลอไปมองผู้หญิงคนอื่นแล้วละค่ะ’

ชายหนุ่มหัวเราะ ส่งสติกเกอร์หัวใจไปให้เธอ ก่อนพูดทวนประโยคที่แฟนสาวพิมพ์มาในแช็ต

“กานต์รู้ใจปรียาที่สุด”

 



Don`t copy text!