กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน

กานต์ปรียา บทที่ 5 : คุณรักฉันมากแค่ไหน

โดย : ดารัช

Loading

กานต์ปรียา นิยายสืบสวนดราม่า โดย ดารัช กับเรื่องราวที่ว่าด้วยเส้นบางๆ ระหว่างความรัก ความหลงใหล และการล้ำเส้นสู่ Cyberstalking ที่อาจบานปลายเป็นอาชญากรรม เรื่องราวของความสัมพันธ์ซ่อนเร้น การหายตัวไปอย่างปริศนา และเบาะแสที่อาจเปิดเผยความจริงอันมืดดำในโลกออนไลน์ อ่านได้แล้วที่ อ่านเอา www.anowl.co

 ‘พี่สายฟ้ารักปรียาแค่ไหนคะ’

กานต์ขบกรามแน่นเมื่อได้อ่านข้อความของปรียา หญิงสาวไม่ติดต่อสายฟ้านับแต่วันที่เธอมาหาเขาที่บ้าน และบอกว่าเธอเลือกเขา กานต์มีความสุขแทบสำลัก แต่นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทำไมปรียาต้องพยายามยื้อผู้ชายเลวๆ ที่ไม่สนใจแม้แต่จะตอบข้อความเธอเลยสักนิดด้วย

กานต์ลุกจากเก้าอี้หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ มือของเขายังคงสั่นเทาขณะยกเบาะนวม หยิบกล่องเหล็กใต้เบาะมาใส่ตัวเลขห้าหลักเพื่อปลดล็อก โทรศัพท์มือถือสีดำของสายฟ้ารอเขาอยู่ในนั้น แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง กานต์ชาร์จแบตแค่พอให้เปิดเครื่องได้ ชั่งใจครู่หนึ่ง แล้วพิมพ์ข้อความตอบปรียา

“คงต้องตัดรอนไปเลยให้มันจบๆ” น้ำเสียงกานต์เกรี้ยวกราด เขาปิดไฟห้องนอนมีเพียงแสงสลัวสีส้มจากโคมไฟหัวเตียง และแสงสีฟ้าจากจอโน้ตบุ๊ก ทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มซ่อนตัวในเงามืดเกินครึ่ง มีเพียงประกายตาวาวโรจน์เด่นชัด

‘เอาตรงๆ ปรียาเป็นแค่ของเล่นแก้เบื่อ พูดขนาดนี้แล้วก็เลิกวุ่นวายกับพี่ทีเถอะนะ’ กานต์มองข้อความที่กดส่งไป สายฟ้าใช้คำพูดประมาณนี้เวลาเบื่อหน่ายขีดสุด

มีข้อความ ‘อ่านแล้ว’ ปรากฏหลังข้อความที่กานต์ส่ง แต่ปรียาไม่ได้ตอบอะไรมาอีก

ชายหนุ่มยิ้มร่า เขาจะโทร.หาคนรักดีไหม เธอจะได้รู้ว่ายังมีผู้ชายอย่างเขา คนที่อยู่เคียงข้างและพร้อมเข้าใจ กานต์โกรธมากที่ปรียาทักแช็ตหาสายฟ้า แต่เขาจะมองข้ามมันไป ให้อภัยเธอ และเริ่มต้นใหม่

“มีแค่ผมที่อยู่เคียงข้างคุณ” ชายหนุ่มยิ้ม ผิวปากเป็นท่วงทำนองเพลงอมตะ เซเรเนดหมายเลข 13 หรือไอเนอไคลเนอนัคท์มูซีค (Eine kleine Nacht-Musik) ผลงานประพันธ์โดยโมสาร์ท ท่วงทำนองรื่นเริงปลุกเร้าจิตใจ ขณะเดียวกันท่อนแผ่วก็อ่อนหวานอ้อยส้อย เป็นท่วงทำนองที่ชวนให้นึกถึงความรักอันเร่าร้อน รุนแรง และบ้าคลั่ง กานต์คิดว่าถ้าจะมีเพลงบรรเลงใดสามารถแทนตัวปรียาของเขา คงเป็นเพลงนี้

กานต์บิดขี้เกียจขับไล่ความเมื่อยล้าจากการนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ได้ยินเสียงกร๊อบของกระดูกเบาๆ แล้วเขาก็ทรุดนั่งบนเก้าอี้ล้อหมุน มองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นโพรไฟล์เฟซบุ๊กของปรียาในฐานะเจ้าของบัญชี

‘กานต์รู้ใจปรียาที่สุด’ น้ำเสียงติดจะอ้อนหน่อยๆ ของคนรักแวบมาในหัว เรียกรอยยิ้มและความรู้สึกอ่อนหวานในใจ

กานต์มองช่องแช็ตในเฟซบุ๊ก เพ่งความสนใจไปที่ยังข้อความที่ปรียาคุยกับเบญญาภา เพราะปรียามักเล่าอะไรต่อมิอะไรให้เพื่อนสนิทฟัง ในช่องแช็ตก็เป็นเรื่องละครเวทีที่ปรียากำลังจะไปดูกับเขา

ในไลน์มีข้อความจากจักรภัทร คุยกันเรื่อง Team Buiding แค่อ่านข้อความหมาหยอกไก่ของอีกฝ่าย ก็ทำเอากานต์แยกเขี้ยว พยายามระงับความรู้สึกอยากตะบันหน้าเจ้าตัวไว้

ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ ไม่มีอะไรต้องกังวล ปรียาไม่มีทางปรายตาแลมัน กานต์จะจัดการให้แน่ใจ

เขาจงใจซื้อตั๋วละครเวทีเรื่องที่คนรักอยากดู เลือกวันเดียวกับจัดกิจกรรมนอกสถานที่ของแผนกหญิงสาว เป็นวิธีที่ช่วยให้ปรียาหาข้ออ้างปฏิเสธได้สมบูรณ์แบบ เพื่อให้เธอมีเวลาอยู่กับเขา

ตอนนั่งไล่อ่านแช็ตต่างๆ ที่หญิงสาวคุยโต้ตอบกับคนอื่น กานต์เห็นเธออยากไปพักโรงแรมริมทะเลแห่งหนึ่ง เขาเช็กตารางงานของคนรักจนแน่ใจว่าเธอไม่ติดงาน จึงตัดสินใจจองที่พัก กานต์แน่ใจว่าปรียาคงดีใจมากแน่ๆ เขาระงับความพลุ่งพล่านในใจไม่ไหว อยากโทร.บอกเธอ พอมองช่องแช็ตในเฟซบุ๊ก ก็เห็นปรียากำลังแช็ตคุยกับเบญญาภา แปลว่าเธอยังไม่นอน

เขากดปิดหน้าต่างเฟซบุ๊กและไลน์ของปรียาโดยไม่ล็อกเอาต์เพื่อให้ตัวเองสามารถออนไลน์ด้วยชื่อบัญชีของคนรักได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง กว่าจะได้อีเมลและรหัสผ่านสำหรับทั้งสองบัญชีมา เขาต้องคอยเก็บเล็กผสมน้อยจากข้อมูลต่างๆ

การได้ชื่อเฟซบุ๊กของปรียาไม่ใช่เรื่องยาก กานต์ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นความเป็นคนเปิดเผยของผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ ทั้งสเตตัสที่เปิดให้บุคคลสาธารณะอ่านได้ ไปจนถึงประวัติส่วนตัวละเอียดยิบ

ระหว่างนั่งไล่ดูข้อความเก่าๆ ของปรียาแบบพยายามเจาะรายละเอียด ไม่รู้ตอนไหนที่ตั้งใจค้นหาอีเมลและรหัสผ่านเฟซบุ๊ก ถ้าเขาสามารถอ่านทุกข้อความที่หญิงสาวแช็ตกับคนอื่นได้ เขาก็จะเข้าใกล้เธอได้มากขึ้น และมากขึ้น

แม้ปรียาจะอัปสเตตัสทุกอย่างเป็นสาธารณะ แต่ใครมันจะบ้าพอที่จะโพสต์อีเมลกับรหัสผ่านเฟซบุ๊กให้คนอื่นรู้กันล่ะ จะให้ไปถามดื้อๆ เพื่อขอข้อมูลก็เป็นไปไม่ได้เสียด้วย

แต่เหมือนระหว่างเธอและเขาคือพรหมลิขิต ในตอนที่ชายหนุ่มเลื่อนเคอเซอร์เมาส์เพื่อดูการอัปเดตสเตตัสของปรียาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปีปัจจุบัน ไล่ไปช่วงปี 2010 ที่เริ่มมีการใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ก เขาก็พบอะไรบางอย่างเข้า

กานต์จงใจไล่ย้อนไปจนโพสต์เก่าๆ คนเราอาจระวังตัวในการใช้งานบัญชีโซเชียล แต่ถ้าเป็นตอนที่เราเพิ่งเริ่มเล่นใหม่ๆ และไม่แน่ใจว่าต้องระวังอะไรบ้างล่ะ ใช่ว่าทุกคนจะตระหนักเรื่องนี้และคอยเช็กโพสต์เก่าๆ ของตัวเองนี่นา

แล้วก็ บิงโก!

‘งานกลุ่มของพวกเรา ใครทำเสร็จแล้วส่งมาเมลฉันได้เลยนะ เดี๋ยวจะรวบรวมแล้วก็ทำ Power Point สำหรับเสนออาจารย์ เมลนี้นะ preeyapreeya@mailmail.com

พอมองย้อนกลับไป ชายหนุ่มยังจำความรู้สึกลิงโลดตอนนั้นได้อยู่เลย กานต์จดเมล์ลงกระดาษ คราวนี้ก็รหัสผ่าน… จริงๆ การเดารหัสผ่านนั้นไม่ยากนัก กานต์เคยนั่งเสิร์ชในกูเกิลเล่นๆ เกี่ยวกับรหัสผ่านยอดแย่ที่มีคนตั้ง เขาลองเอารหัสผ่านที่ว่ามาลองพิมพ์ในอีเมลของเพื่อนร่วมงาน และพบว่ายังมีคนใช้รหัสผ่านจำพวกนั้นจริงๆ อย่างพวก 123456, 123456789, qwerty, password, 1234567, iloveyou อะไรจำพวกนี้ ทำให้รู้สึกได้เลยว่าคนทั่วไปให้ความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวน้อยกว่าที่คิด

แม้แต่การดูรหัสผ่านในเฟซบุ๊กนั้นก็ไม่ยาก ยิ่งถ้าคนที่เราต้องการแฮกบันทึกรหัสผ่านเอาไว้ในเว็บเบราว์เซอร์อยู่แล้ว แค่เราสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของเขาได้ และเป้าหมายเคยบันทึกรหัสผ่านไว้ที่หน้าเบราว์เซอร์ ก็จะสามารถเข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊ก ซึ่งจะขึ้นชื่อผู้ใช้กับรหัสผ่านในช่องสำหรับล็อกอินเรียบร้อย เพียงแค่ตัวรหัสผ่านจะเป็นจุดกลมๆ ไม่สามารถอ่านได้ วิธีการแฮกรหัสผ่านนั้นง่ายมาก เพียงแค่เปลี่ยนให้จุดเหล่านี้กลายเป็นตัวอักษรที่เรียกว่า String แถมคนส่วนใหญ่ชอบใช้รหัสผ่านชุดเดิมกับหลายๆ บัญชีส่วนบุคคล ดังนั้นยิงปืนนัดเดียว อาจได้นกติดมาเป็นพรวน

แต่สำหรับการเดารหัสผ่านของปรียาจำต้องใช้วิธีอื่น แค่เพียงกดดูในกูเกิล ก็มีโปรแกรมดูรหัสผ่านมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมจำพวกกู้รหัสผ่าน โปรแกรมดูชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน Router ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ดูชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านในเครื่อง ดูรหัสผ่านอีเมล โปรแกรมช่วยจำรหัสผ่าน Wireless ดูรหัสผ่านบนเว็บเบราว์เซอร์ แต่ละโปรแกรมเรียงรายออกมาหน้าสลอนพร้อมใช้งาน ถ้ารหัสผ่านที่ตั้งไม่ได้ซับซ้อนมาก การเจาะรหัสผ่านก็จะเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มนึกรักความเป็นคนเปิดเผยของปรียาอีกครั้งเมื่อโปรแกรมระบุรหัสผ่านของหญิงสาวออกมา เขานั่งหัวเราะเมื่อเห็นคำว่า senha ซึ่งติดอันดับ 10 ของรหัสผ่านยอดแย่ปี 2020 โดยคำนี้เป็นภาษาโปรตุเกส หมายถึง รหัสผ่านหรือ password ซึ่งสามารถจบการแฮกได้ภายในเวลา 10 วินาที

“ปรียา คุณคือพรหมลิขิตของผมจริงๆ” ตอนนั้นกานต์เลียริมฝีปาก นึกภาพใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวแล้วตื่นเต้นจนแทบอยากไปช่วยตัวเองในห้องน้ำเดี๋ยวนั้น

จริงๆ เวลาตั้งรหัสผ่านจะมีโปรแกรมที่ให้ลองใส่รหัสที่ตั้งว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนในการแฮกรหัสผ่านดังกล่าว อย่างพวก ‘HOW SECURE IS MY PASSWORD?’ ซึ่งบางทีเขาก็เจอช่องโหว่ในการตั้งรหัสผ่านของตัวเอง รหัสผ่านที่คิดว่าปลอดภัยระดับหนึ่ง กลับใช้เวลาในการแฮกเพียงแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้นเอง

ชายหนุ่มเปิดโปรแกรมไลน์ ลองพิมพ์อีเมลและรหัสผ่านเดิมลงไปด้วย และบิงโก! ปรียาใช้รหัสผ่านแบบเดียวกันทั้งสำหรับไลน์และบัญชีเฟซบุ๊ก ตอนนี้มือที่มองไม่เห็นของกานต์ยึดครองข้อมูลส่วนบุคคลของปรียาเอาไว้…ความใส่ใจ…การคอยเฝ้ามอง…สิ่งเหล่านี้ทำให้กานต์ยืดอกพูดได้เต็มปากว่าเขารู้ใจปรียาที่สุด รู้ว่าเธอคิดอะไร รู้ว่าเธอต้องการอะไร แค่รู้ว่าเธอชอบอะไร เขาก็จะสรรหามาให้เธอได้ทุกอย่าง จักรวาลรอบตัวเขาหดเล็กย่อส่วน รวมเอาไว้ในตัวคนคนเดียว ดวงดาวพราวฟ้าส่องสกาวในดวงตาของคนคนเดียว

หลังได้ username และพาสเวิร์ด ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่กานต์จะไปตั้งค่าไม่ให้โปรแกรมต่างๆ แจ้งเตือนเวลาปรียาและเขาใช้งานบัญชีออนไลน์ต่างๆ ของเธอในเวลาเดียวกัน

ใช่แล้ว ทั้งหมดคือพรหมลิขิต

กานต์อ้าปากหาว เอามือลูบใบหน้าด้วยความอ่อนเพลีย เขากะพริบตาไล่น้ำตาที่รื้นเพราะจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป จุดสีเขียวเล็กๆ ในเฟซบุ๊กของปรียาดับลง ป่านนี้เธอคงหลับไปแล้ว

“ฝันดีนะครับ คนดีของผม” เขาพึมพำ ยิ้มน้อยๆ

ในฝันของกานต์ เต็มไปด้วยความทรงจำตอนเจอปรียาครั้งแรก

น่าจะปีที่แล้วกระมัง กานต์คบกับเบญญาภา แคชเชียร์สาวแสนร่าเริงที่ร้านสะดวกซื้อ ความสัมพันธ์ของเขาและเบญญาภาเป็นความสัมพันธ์ราบเรียบ หญิงสาวหน้ากลมมักส่งยิ้มให้เขาเป็นพิเศษทุกครั้งที่กานต์ผลักประตูร้านสะดวกซื้อเข้าไป เธอชวนเขาไปดูหนังด้วยกันในตอนเย็นธรรมดาวันหนึ่งหลังกานต์เลิกงาน กานต์ยังจำรอยยิ้มสดใสของเบญญาภาได้ หัวใจเขากระตุกวูบ ก่อนจะตอบตกลง

ต่างจากตอนที่เจอกับปรียา…

ตอนนั้นลูกค้าโทร.มาแคนเซิลการนำเสนอเกมใหม่ กานต์ที่จู่ๆ ได้เวลาว่างมาโดยไม่คาดฝัน ไม่รู้จะไปไหนดี พอรู้ตัวอีกที เขาก็มาโผล่หน้าร้านสะดวกซื้อที่เบญญาภาทำงานอยู่

กานต์สะดุดตากับปรียาตั้งแต่แรกเจอ หญิงสาวร่างสูงโปร่ง เรือนร่างงดงามซ่อนอยู่ในชุดเดรสสีขาวเน้นสัดส่วน ใบหน้าเลอะคราบน้ำตาแต่ยังสวยจนกานต์ตกตะลึง เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าคุยอะไรกับเบญญาภาบ้าง มีเพียงชื่อ ‘ปรียา’ สลักลงในใจ

พอหญิงสาวเดินออกจากร้าน กานต์รู้สึกเหมือนโลกดับวูบ เขารีบหันไปบอกเบญญาภาว่ามีงานด่วน แล้วเดินตามปรียาไปเงียบๆ กานต์ไม่ได้คิดจะเข้าไปทัก เขาแค่อยากมองเธอ มองจังหวะก้าวเท้าด้วยท่าทางมั่นใจ มองเธอชะลอจังหวะการเดิน เพื่อหยุดซื้อสลัดจากแผงข้างทาง มองปรียาแอบดึงกระโปรงชุดเดรสเพื่อจัดทรง กานต์ขยับจะเรียกเมื่อเห็นกระเป๋าสตางค์ของปรียาร่วงหล่น แต่เขาเพียงแค่เดินไปหยิบมันไว้ แล้วเดินตามเธอไป

เขาลองก้าวเท้าตามจังหวะของเธอ ซ้าย ขวา ซ้าย ราวเด็กน้อยเดินตามนักเป่าปี่แห่งฮาเมลิน กานต์ฮัมเพลงเป็นท่วงทำนองซิมโฟนีหมายเลข 13 อันโด่งดังของโยเซ็ฟ ไฮเดิน (Franz Joseph Haydn) ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งซิมโฟนี และบิดาแห่งควอเท็ตเครื่องสาย ชายหนุ่มไม่สนใจด้วยซ้ำว่าปลายทางคือที่ไหน ขอเพียงเสียงบรรเลงท่วงทำนองไพเราะราวอยู่ในดินแดนแห่งฝันยังคงดำเนินไป กานต์รู้สึกราวพร้อมจะละทิ้งทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวตนของตัวเอง

ใครบางคน ความรู้สึกบางอย่าง หากไม่เคยสัมผัส หากไม่เคยรู้สึก หากไม่เคยพบพาน ย่อมสามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันต่อไปได้ แต่เมื่อได้พบกันแล้ว โลกทั้งใบก็เปลี่ยนไป ไม่อาจย้อนกลับไปเหมือนก่อนหน้าได้อีก

 

ตอนอ่านข้อความตอบกลับจากสายฟ้า ปรียานึกถึงตอนเธอเจอแฟนเก่าครั้งแรก ความทรงจำเหล่านั้นแจ่มชัดเสียจนแม้แต่รายละเอียดปลีกย่อยอย่างกลิ่นโคโลญหอมเย็นที่เขาใช้ หรือแม้แต่ความรู้สึกไม่สบายตัวจากเสื้อผ้าที่สวม เสื้อแขนผ่าสีขาวกับกระโปรงทรงเอสีกากียาวเหนือเข่าเล็กน้อย มันน่ารักแต่ไม่ค่อยพอดีตัวนัก แถมปรียาต้องคอยดึงกระโปรงที่เอาแต่ร่นขึ้นบ่อยๆ

ปรียาพบกับสายฟ้าครั้งแรกในงานแจกลายเซ็น จริงๆ เธอไม่ใช่แฟนคลับของเขา ไม่ได้ติดตามผลงานของชายหนุ่มด้วยซ้ำ หญิงสาวเพียงแค่ไปซื้อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนร่วมงาน แล้วแวะพักขาที่ร้านหนังสือเพราะมีมุมให้นั่งอ่านเท่านั้น อีกอย่าง ท่วงทำนองชวนผ่อนคลายของดนตรีคลาสสิกที่เปิดคลอเบาๆ ก็ชวนให้รู้สึกสบายใจ

เก้าอี้กลมสำหรับให้ลูกค้านั่งพักอ่านหนังสือมีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งจับจอง เขามีรูปร่างบึกบึนแบบคนออกกำลังกาย สวมเสื้อแขนสั้นสีดำตัวโคร่งกับยีนส์ขากระบอก เผยรอยสักรูปมังกรพันเลื้อยรอบแขนขวา ชายหนุ่มกำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้น หญิงสาวลอบมองท่าทางดื่มด่ำในจักรวาลแห่งตัวอักษรอยู่ครู่หนึ่ง เธอหยิบหนังสือใกล้มือมานั่งเปิดบ้าง ก่อนจะทรุดตัวนั่งใกล้เขา

ตอนแรกตั้งใจจะแกล้งทำเป็นอ่าน แต่ประโยคเปิดในหนังสือก็ดึงหญิงสาวเข้าสู่โลกอีกใบ หน้าแล้วหน้าเล่า บรรทัดแล้วบรรทัดเล่า จนอ่านจบบทไม่รู้ตัว หญิงสาวปิดหน้าหนังสือ ตั้งใจจะซื้อเล่มนี้ไปอ่านต่อ ก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่คนเดียวบนเก้าอี้ เธอบิดขี้เกียจ แล้วหยิบหนังสือไปยังเคาน์เตอร์คิดเงิน

แคชเชียร์ร้านหนังสือเป็นหญิงสาวหน้าหมวยวัยยี่สิบต้น รวบผมหางม้า เธอมองหนังสือในมือปรียา ทำหน้าตากรุ้มกริ่ม “พี่ไม่ต้องซื้อแล้วค่ะ พี่นักเขียนเขาซื้อให้พี่แล้วค่ะ”

ปรียาเลิกคิ้ว

“ก็พี่ผู้ชายที่นั่งข้างพี่ไงคะ เขาเป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้ ตอนพี่นั่งอ่าน พี่สายฟ้าเขานั่งมอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วหยิบหนังสือบนชั้นมาจ่ายเงิน แถมเซ็นลายเซ็นให้ด้วย” พูดจบ พนักงานก็หยิบหนังสือตรงชั้นวางเวลาลูกค้าฝากของมาให้

ปรียารับหนังสือมางงๆ เปิดดูหน้าแรก ในนั้นมีลายเซ็นและข้อความกำกับ

‘ขอบคุณที่อ่านหนังสือของผมด้วยท่าทางสนุกสนาน ทำให้ผมรู้สึกอยากเขียนนิยายที่สนุกขึ้นให้มากๆ เลยละครับ – สายฟ้า’

“เขาไปไหนแล้วคะ” ปรียารีบถาม

“พี่เขามีงานแจกลายเซ็นที่ร้านหนังสืออีกร้าน ชั้นสาม ด้านบนนี่ละค่ะ” พนักงานร้านหนังสือทำหน้าเสียดาย “หนูต้องเฝ้าร้านเลยไปไม่ได้” แล้วเธอกลับทำหน้าสดชื่น “แต่จะว่าไปก็ถือว่าโชคดีนะคะ เพราะพี่เขาแอบแวะหลบคนมานั่งที่นี่ก่อน เหมือนได้เจอส่วนตัวแบบเอ็กคลูซีฟเลย”

ปรียาไม่สนใจประโยคท้ายๆ ของอีกฝ่าย เธอหอบหนังสือวิ่งขึ้นบันไดเลื่อน พอเดินตรงไปอีกหน่อยก็ถึงร้านหนังสือที่จัดงานแจกลายเซ็น เธอมองฝ่ากลุ่มคนเข้าไป เห็นนักเขียนหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ กำลังอธิบายเกี่ยวกับหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่าย

สายฟ้าหันมาสบตาปรียา ส่งยิ้มให้เธอน้อยๆ ใบหน้าอ่อนโยนขัดกับรูปลักษณ์ดิบเถื่อนทำให้หญิงสาวใจเต้น

รอจนแจกลายเซ็นเสร็จ เขาก็เดินมาหา ปรียาไม่หลบสายตาที่จ้องมา เธอมองเขา และยิ้มตอบ

“คุณรักฉันมากแค่ไหน” สายฟ้าพูด

“ว่ายังไงนะคะ”

“ตอนจบของนิยายเล่มที่คุณอ่านไงครับ” นักเขียนหนุ่มบอก “นางเอกถามพระเอกว่ารักเธอมากแค่ไหน พระเอกที่หมดเยื่อใยกับเธอแล้วตอบเธอว่า ผมรักคุณเท่าที่ผมจะรักได้”

“ทั้งที่หมดใจแล้ว ก็ยังพูดแบบนี้เหรอคะ” ปรียาทำปากยื่น

“เพราะหมดใจแล้ว ก็เลยพูดแบบนี้ได้ครับ” สายฟ้าตอบ “เพราะว่าพยายามที่จะรักแล้ว แต่รักได้แค่นี้ ความรักเหมือนเกมกระดานหกนะครับ ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต่างแข่งกันว่าใครรักใครมากกว่า แต่พอถึงจุดหนึ่งเกมกระดานหกที่คนรักทั้งสองจับมือและเล่นด้วยกันอาจน่าเบื่อจนไม่สามารถทนเล่นอีกต่อไป”

หญิงสาวมองประกายระยับระยับในดวงตาของอีกฝ่าย กล่าวด้วยน้ำเสียงราวต้องมนตร์ “ฟังดูน่าสนใจดีนะคะ แบบนี้ก็แปลว่าเรื่องนี้จบเศร้าสินะคะ”

“จบเศร้าหรือเปล่าต้องลองตัดสินใจเอาเองครับ” เขาตอบ เอามือลูบคาง “ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะลองอ่านมันหรือเปล่า”

 

‘พี่สายฟ้ารักปรียาแค่ไหนคะ’

ปรียานั่งจ้องโทรศัพท์มือถือเขม็ง ทันทีที่สายฟ้าตอบคำถามของประโยคนั้นออกมา เรื่องของเธอและเขาก็จะจบลงอย่างสมบูรณ์ หญิงสาวไม่แน่ใจว่าทำไมเธอยังติดต่อแฟนเก่าอีก ทั้งที่เจ้าตัวไม่เคยตอบข้อความของเธอเลย ปรียาคิดว่าเธอคงอยากบอกลากับอีกฝ่ายอย่างไม่ค้างคาใจอะไรกันอีก ต้องหมดใจแล้วจึงจะสามารถพิมพ์ประโยคนั้นออกมาได้ เพราะว่าพยายามที่จะรักแล้ว แต่รักได้แค่นี้ เกมกระดานหกที่คนรักทั้งสองจับมือและเล่นด้วยกันมันน่าเบื่อจนไม่อาจทนเล่นอีกต่อไป

เธออยากเริ่มต้นใหม่กับกานต์ อยากซื่อสัตย์กับเขา

ปรียาเป็นคนสวย เธอรู้แน่ใจมาตลอด และใช่ว่าเธอจะไม่มีคนคุย แต่ตอนที่คบกับใคร หญิงสาวจะคบแค่คนเดียว ซื่อสัตย์กับคนคนเดียว

มีคำว่า ‘อ่านแล้ว’ ปรากฏหลังคำถามของเธอ

“จะอ่านไม่ตอบอีกแล้วสินะ” เธอวางโทรศัพท์ เตรียมลุกขึ้น พอกันที สายฟ้าหมดใจไปนานแล้ว เธอยังจะยื้อให้ได้อะไรขึ้นมา

ทว่าคราวนี้อีกฝ่ายยอมตอบคำถาม ‘เอาตรงๆ ปรียาเป็นแค่ของเล่นแก้เบื่อ พูดขนาดนี้แล้วก็เลิกวุ่นวายกับพี่ทีเถอะนะ’

หญิงสาวมองข้อความในไลน์นิ่ง ถือโทรศัพท์ค้าง จู่ๆ อากาศรอบตัวก็เย็นยะเยือกชวนขนลุก เธอทรุดตัวนั่งลงบนพื้นข้างฟูกนอนอย่างหมดเรี่ยวแรง

วินาทีนั้น ปรียารู้แก่ใจว่าใครก็ตามที่แช็ตไลน์คุยกับเธอไม่ใช่สายฟ้า!

 



Don`t copy text!