ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 4 : โอโซนถูกบุลลี

ลูกไม้เกี่ยวรัก บทที่ 4 : โอโซนถูกบุลลี

โดย : นวาภัส

Loading

ลูกไม้เกี่ยวรัก โดย นวาภัส นวนิยายโรแมนติกคอมเมดี้ (เล็กๆ) เรื่องราวของหญิงสาวสุดแกร่งที่ชีวิตนี้ขอมีลูก โดยไม่ต้องมีสามี แล้วใครเล่าจะเข้าใจเธอ พบกับความอลหม่านของสองแม่ลูกคู่ป่วนใน “ลูกไม้เกี่ยวรัก” ได้ในเพจอ่านเอา และ เว็บไซต์อ่านเอา anowl.co

กริ่งสัญญาณเลิกเรียนดังกระหึ่มทั่วอาคาร โอโซนสะพายกระเป๋าเป้ออกมาจากห้อง นั่งลงใส่รองเท้าเรียบร้อยก็เดินออกมาที่สนามเด็กเล่น เพื่อนๆ หลายคนกำลังปีนป่ายอยู่ที่เครื่องเล่นกลางสนาม รอเวลาพ่อแม่จะมารับกลับบ้าน โอโซนวางกระเป๋าลงแล้ววิ่งไปเล่นกับเพื่อนๆ ที่กำลังกวักมือเรียก หลังเลิกเรียนเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ จะได้สนุกสนานกับเพื่อนในช่วงสั้นๆ ก่อนกลับบ้าน

“ลูน่า! กลับบ้านกันครับ”

สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มถักผมเปียสองข้างหันไปยิ้มแฉ่งเมื่อได้ยินเสียงพ่อเรียก

“ลูน่ากลับก่อนนะโอโซน บ้ายบาย” สาวน้อยโบกมือลาเพื่อนรัก ก่อนจะวิ่งจี๋ไปหาพ่อ

โอโซนโบกมือตอบเพื่อน เขามองตามหลังลูน่าที่จับมือพ่อไว้แน่น เดินแกว่งแขนไปมาท่าทางมีความสุข

“เราไปแล้วนะโอโซน ป๊ากับม้าเรามาแล้ว” ลีโอเพื่อนอีกคนวิ่งไปหาพ่อแม่ ดีใจที่จะได้กลับบ้าน โอโซนได้ยินลีโออ้อนพ่อให้พาไปกินไอศกรีม

“ไม่ได้นะลูก ป๊าทำงานมาทั้งวันแล้ว ไว้วันหยุดค่อยไปกินนะ” เสียงแม่ของลีโอปรามเบาๆ ลีโอหน้าม่อยที่ถูกขัดใจ

“ลีโออยากกินเหรอ ได้สิ ไอติมใช่มั้ยไปกันเลย” พ่อของลีโอยิ้มใจดี ลีโอดีใจกระโดดกอดพ่อแน่น

“เย้ ไอติมๆๆ ลีโอรักป๊าที่สุดเลย”

โอโซนมองเพื่อนของเขาเดินจับมือพ่อกับแม่ โยนตัวไปมาเหมือนเล่นชิงช้า เสียงหัวเราะสดใสของลีโอดังก้องเข้าไปในใจ โอโซนตาละห้อย รู้สึกอิจฉา อยากมีพ่อให้จับมือบ้าง

“วันนี้พ่อหรือแม่นายมารับเหรอโอโซน”

โอโซนหันไปหาคนถาม บิ๊กบอมเพื่อนตัวอ้วนกลมกำลังจ้องมองเขาอยู่ บิ๊กบอมเป็นเพื่อนที่ตัวใหญ่ที่สุดในชั้นเรียน และมีนิสัยเกเรชอบแกล้งเพื่อนเวลาที่ครูเผลอ ทำให้เพื่อนๆ ไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เพราะกลัวถูกรังแก

“แม่มารับ” คนตัวเล็กกว่าตอบ

“นายไม่มีพ่อเหรอ เราไม่เคยเห็นพ่อนายเลย” บิ๊กบอมถามจี้ใจดำ โอโซนหน้าจ๋อยลง “พ่อนายไปไหน” เพื่อนตัวโตถามไม่หยุด

โอโซนเริ่มหน้าเสีย เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อเป็นใครอยู่ที่ไหน แม่ไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้ฟัง ตอนอยู่ต่างประเทศ พวกผู้ใหญ่ไม่เคยมีใครถามถึงพ่อของเขา เขาจึงไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของการไม่มีพ่อ แต่เมื่อมาอยู่เมืองไทยและเข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก เพื่อนๆ มักจะถามว่าพ่อเป็นใคร ทำอาชีพอะไร หล่อไหม แล้วต่างพากันคุยโอ้อวดพ่อของตัวเองอย่างภาคภูมิใจ อย่างพ่อของลีโอก็เป็นเจ้าของบริษัทส่งออกที่รวยมาก มักจะมีของเล่นใหม่ๆ มาอวดเพื่อน พ่อของลูน่าเป็นกัปตันขับเครื่องบินไปทั่วโลก ลูน่าจึงมีขนมของฝากจากต่างประเทศมาแจกเพื่อนๆ เสมอ ส่วนบิ๊กบอมจะคุยอวดทุกคนว่าพ่อของเขาเป็นคนทำรถไฟฟ้าและตึกใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ โอโซนพอฟังก็รู้สึกเจ็บลึกๆ ทั้งที่เคยคิดว่าแค่มีแม่อยู่ด้วยก็มีความสุขมากแล้ว

“บิ๊กบอมครับ คุณแม่มารับแล้ว ไปเอากระเป๋าเร็ว” น้ำเสียงใจดีของครูรัตน์แทรกเข้ามา

“ค้าบ” บิ๊กบอมยกมือไหว้ครูรัตน์ ก่อนจะหยิบกระเป๋าที่วางเอาไว้ แล้ววิ่งไปหาแม่ที่เดินมาไกลๆ

“เป็นยังไงครับโอโซน คุณแม่ยังไม่มาอีกเหรอ” ครูรัตน์เป็นครูประจำชั้นของโอโซน เธอใจดีและเอาใส่ใจเด็กๆ ทุกคนเหมือนกับลูกของตัวเอง จึงเป็นที่รักของนักเรียนทุกคน

วันประชุมผู้ปกครองครั้งแรก ปัณฑารีย์เข้ามาเปิดอกคุยกับครูรัตน์ถึงเรื่องราวการเกิดของโอโซน ทีแรกเธอรู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าโอโซนเกิดจากการซื้อน้ำเชื้อของผู้บริจาคมาผสมเทียม ไม่ใช่น้ำเชื้อจากสามีหรือคนรักของปัณฑารีย์เองด้วยซ้ำ แต่พอได้ฟังเหตุผลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของเธอ ครูรัตน์จึงเข้าใจว่าทำไมสาวสวยที่กำลังมีอนาคตทางการงานที่ดี ถึงเลือกหนทางที่จะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว สุ่มเสี่ยงกับการโดนดูถูกเหยียดหยามโดยเฉพาะในสังคมไทยที่ยังไม่เปิดกว้าง ผู้คนบางส่วนมีทัศนคติที่ไม่ดีกับแม่เลี้ยงเดี่ยวเท่าไรนัก

ปัณฑารีย์ขอให้เธอเก็บเรื่องการเกิดของโอโซนเป็นความลับ และไม่อยากให้ถามถึงพ่อของเด็ก รวมถึงไม่ต้องการให้ลูกชายเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวกับพ่อ ซึ่งเธอก็รับปาก แต่สำหรับเด็กๆ ด้วยกันเธอไม่สามารถควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้ เด็กๆ ที่มีความอยากรู้อยากเห็น อย่างบิ๊กบอมก็มักจะตั้งคำถามที่เขาอยากรู้ตามประสาเด็ก และเมื่อมีคนหนึ่งอยากรู้ เด็กอื่นๆ ก็จะอยากรู้ด้วย แต่สำหรับคนเป็นครูสิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือความรู้สึกของโอโซนเมื่อเห็นเพื่อนๆ มีพ่อแม่มารับส่งพร้อมหน้าพร้อมตา ในขณะที่ตัวเองมีแต่แม่เท่านั้น สิ่งนี้ต่างหากที่จะทำให้โอโซนเกิดปมและคำถามในใจ

ครูรัตน์เคยเจอกรณีพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมาก่อน แต่สำหรับโอโซนคือกรณีพิเศษที่เธอเองก็เพิ่งเคยเจอ ถ้าเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวคนอื่นๆ เขาจะสามารถบอกลูกได้ว่า พ่อ หรือแม่ หายไปไหน ทำไมไม่อยู่กับเขา แต่สำหรับเด็กที่ถูกผสมเทียมขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครคือพ่อ จะหาคำตอบแบบไหนมาตอบเด็ก ในวันที่เขาอยากรู้เรื่องพ่อขึ้นมา

“ยังครับ” โอโซนก้มหน้าตอบเสียงเบา หน้าจ๋อยตั้งแต่ที่บิ๊กบอมถามเรื่องพ่อ

“งั้นเดี๋ยวครูรอเป็นเพื่อนนะ ไปเล่นตรงโน้นกันดีกว่า” ครูรัตน์พยายามหากิจกรรมให้ลูกศิษย์ตัวน้อยทำ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจให้ลืมคำถามของเพื่อน แต่ดูเหมือนโอโซนจะเป็นเด็กที่ไม่ลืมอะไรง่ายๆ

เย็นนั้นเมื่อปัณฑารีย์มาถึง ครูรัตน์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง หญิงสาวเป็นกังวลใจแต่ก็ขอบคุณครูประจำชั้นที่คอยสอดส่องดูแลลูกชายของเธออย่างดี คืนนั้นปัณฑารีย์แทบนอนไม่หลับเมื่อพยายามคิดว่าจะบอกลูกอย่างไร เมื่อถึงวันที่ลูกเอ่ยปากถามถึงพ่อของเขาขึ้นมาจริงๆ

เช้าวันหยุดที่ไม่ต้องทำงาน ปัณฑารีย์ตื่นสายโด่งเหมือนคนที่หิวโหยการนอน เธอเดินงัวเงียลงมาข้างล่าง เตรียมตัวทำอาหารเช้าให้ลูก เพราะในวันหยุดเธอจะให้ป้าวรรณีพักผ่อนไม่ต้องมาทำงาน

“แม่คับ ทำอะไร” โอโซนเดินเข้ามาถามเมื่อเห็นแม่กำลังตั้งกระทะทำอาหารเช้า

“ทำข้าวเช้าไงครับ หิวหรือยัง”

“โอโซนกินคอนเฟล็กซ์กับนมไปแล้ว” เด็กน้อยบอกแม่

“อ้าว ทำไมไม่รอแม่ทำให้ล่ะครับ” คนเป็นแม่มองลูกชายอย่างสงสัย

“แม่ตื่นสาย โอโซนหิวนี่คับ” คำตอบตรงไปตรงมาของลูกชายทำเอาหญิงสาวรู้สึกผิด เธอเหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้อง เกือบสิบโมงครึ่งแล้ว คนเป็นแม่ยิ้มแหยเดินมากอดลูก

“ขอโทษนะครับที่แม่ตื่นสาย เดี๋ยวแม่พาไปกินของอร่อยที่ห้างดีมั้ย” เธอหาทางชดเชยความผิดที่ตื่นสายจนลูกชายต้องทำอาหารเช้ากินเอง

“ไปคับ แต่รอให้โอโซนซักผ้าเสร็จก่อนนะคับ” โอโซนยิ้มแป้นที่จะได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกับแม่

“ซักผ้า!” หญิงสาวอุทานด้วยความแปลกใจ

“โอโซนซักผ้าไว้คับ แม่จะได้ไม่เหนื่อย”

คนเป็นแม่น้ำตาแทบแตกเมื่อรู้ว่าลูกห่วงใยเธอขนาดนี้ ปัณฑารีย์กอดลูกไว้แน่นหอมแก้มซ้ายขวาจนแก้มน้อยๆ เป็นสีแดงจากแรงหอมฟอดใหญ่ หญิงสาวเดินไปดูเครื่องซักผ้าที่กำลังทำงานปกติ เธอประหลาดใจที่ลูกชายรู้วิธีการใช้ เพราะจำได้ว่าไม่เคยสอนลูกสักครั้ง

“โอโซนซักผ้าเป็นด้วยเหรอครับ”

“โอโซนจำมาจากป้าณีคับ” โอโซนเป็นเด็กฉลาดช่างจำ ถ้าสิ่งไหนที่สนใจเขาจะจำได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญเด็กน้อยอ่านภาษาอังกฤษได้ดีกว่าภาษาไทย เพราะฉะนั้นเมนูภาษาอังกฤษบนเครื่องซักผ้าจึงไม่ใช่ปัญหาของโอโซน

เป็นเวลาเกือบเที่ยงครึ่ง สองแม่ลูกเดินจูงมือกันเลือกร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า โอโซนโลเลอยากเข้าร้านโน้นร้านนี้ ปัณฑารีย์ปล่อยให้ลูกชายเลือกตามใจชอบ ในที่สุดเด็กน้อยก็ชี้ไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย หญิงสาวพาลูกเข้าไปนั่งแล้วสั่งอาหาร โอโซนเห็นเมนูอาหารทะเลที่สีสันน่ากิน เขาอยากกินปูสีส้ม แต่แม่ของเขาแกะปูไม่เป็น เด็กน้อยจึงไม่เคยได้สั่งเลย

“พ่อขา เนเน่อยากกินปู” เสียงเด็กหญิงโต๊ะข้างๆ อ้อนพ่อให้แกะขาปูยักษ์ให้กิน เมื่อแม่พยายามแกะให้แล้วแต่ทำไม่ได้ พ่อของเธอจึงช่วยแกะอย่างง่ายดาย และส่งเนื้อปูขาวๆ อวบๆ ให้ลูกสาวกินอย่างเอร็ดอร่อย

โอโซนมองเด็กหญิงน่าอิจฉาที่มีพ่อแกะปูให้กิน แววตาของเขาเศร้าจนปัณฑารีย์สังเกตเห็น

“อยากกินปูมั้ยครับ เดี๋ยวแม่บอกให้ร้านแกะมาให้” หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจตัวเองดีว่าสิ่งที่ลูกต้องการไม่ใช่ปู แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ โอโซนหน้าเศร้าส่ายหน้าน้อยๆ ปฏิเสธ

“โอโซนอยากกินเทมปุระคับ” เด็กน้อยหน้าละห้อยชี้ไปที่เมนูเทมปุระ

“โอเค เดี๋ยวแม่สั่งให้เลย” ปัณฑารีย์ยกมือเรียกพนักงานเข้ามาแล้วสั่งเทมปุระให้ลูกชาย รวมทั้งเมนูอื่นๆ ที่โอโซนชอบ หญิงสาวมองลูกกินอาหารเงียบๆ เธอเห็นว่าโอโซนแอบมองโต๊ะข้างๆ บ่อยๆ แม้จะไม่พูด แต่ก็รู้ว่าลูกชายคิดอะไรอยู่ จึงได้แต่เศร้าใจ

หลังกินอาหารเรียบร้อยก็พาลูกไปเดินเล่นซื้อของที่อยากได้ เธอตั้งใจแล้วว่าจะให้ทุกอย่างที่ลูกอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า เสื้อผ้า ของเล่น เพื่อชดเชยสิ่งที่เธอไม่สามารถหาให้ได้ โอโซนดีใจที่แม่ซื้อของเล่นใหม่ถูกใจให้ เด็กน้อยยิ้มร่าเอาถุงของเล่นมาถือเองด้วยความเห่อ

บริเวณลานกิจกรรมของห้างสรรพสินค้า เสียงพิธีกรบนเวทีประกาศว่าจะมีการแสดงโชว์จากตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่น ผู้คนที่เดินอยู่แถวนั้น รีบพาลูกหลานเข้าไปดูจนแน่นขนัด บดบังจนไม่เห็นด้านหน้าเวที โอโซนและเด็กผู้ชายอีกคนกระโดดเหยงๆ อยากดูการแสดงของตัวการ์ตูน แต่ตัวเล็กๆ ของเด็กน้อยกระโดดยังไงก็ไม่พ้นเอวผู้ใหญ่ โอโซนเริ่มถอดใจ

ขณะนั้นเองพ่อของเด็กผู้ชายคนข้างๆ ก็อุ้มลูกขึ้นขี่คอ ทำให้เด็กคนนั้นอยู่สูงกว่าทุกคน เห็นเวทีชัดเจนจนร้องออกมาอย่างดีใจที่ได้เห็นตัวการ์ตูนโปรด

โอโซนมองเด็กคนนั้นอย่างอิจฉา สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่พ่อของเด็ก เขาอยากมีพ่อที่แข็งแรงแบบนี้บ้าง จะได้พาเขาขี่คอดูการแสดง แกะปูแข็งๆ ให้กิน มารับที่โรงเรียนทุกวัน อุ้มเขาชูขึ้นสูงๆ สูงกว่าใครทุกคนบนโลกนี้

“แม่อุ้มเอามั้ย” ปัณฑารีย์ที่เห็นทุกอย่าง รีบเข้ามาถามลูกชายอย่างห่วงใย ถึงเธอจะไม่สามารถยกลูกขึ้นขี่คอสูงๆ ได้ แต่เธอก็อุ้มลูกให้สูงพอที่จะเห็นเวทีได้เหมือนกัน

“อยากกลับบ้านแล้ว” พูดจบโอโซนก็เดินคอตกออกมาทันที คนเป็นแม่มองตามด้วยความรู้สึกหดหู่หัวใจ

คืนนั้นปัณฑารีย์เดินงุ่นง่านอยู่หน้าห้องนอนของโอโซน อยากจะเข้าไปคุยกับลูก แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงไหน เหตุการณ์ที่เจอในวันนี้ เป็นลางบอกเหตุว่าไม่นานลูกจะต้องถามเรื่องพ่อของเขา แล้วเธอจะตอบว่าอย่างไร ถึงจะเคยคิดไว้บ้างตั้งแต่เขายังไม่เกิด แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆ กลับกังวลกลัวว่าสิ่งที่พูดอาจจะทำร้ายหัวใจของลูกมากกว่าจะทำให้เข้าใจความจำเป็นของเธอ

หญิงสาวตัดสินใจผลักประตูเข้าไป โอโซนกำลังง่วนกับของเล่นที่ซื้อมาใหม่อยู่บนเตียง ปัณฑารีย์เดินไปนั่งใกล้ๆ เธอลูบหัวลูกเบาๆ อย่างรักใคร่

“โอโซน อยู่กับแม่มีความสุขมั้ยครับ” เธอตัดสินใจถามออกมาเพื่อหยั่งเชิง

“มีคับ” เด็กน้อยตอบคำถามแม่แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ของเล่น

“เราอยู่กันแค่สองคนแบบนี้ก็มีความสุขแล้วเนอะ” ปัณฑารีย์โอบกอดลูกไว้แนบอก

“คับ” เด็กชายตอบสั้นๆ ปัณฑารีย์ยิ้มโล่งที่ลูกชายเข้าใจและไม่ถามถึงเรื่องที่เธอกังวล แต่ถ้าเธอก้มมองดูลูกสักนิด ก็จะได้สีหน้าแววตาที่หม่นหมองของโอโซน เด็กชายรู้สึกเศร้าแต่เขาไม่อยากให้แม่เศร้าไปด้วย จึงปิดปากไม่ถามถึงเรื่องพ่อ แม้ในใจจะอยากรู้เพียงใดก็ตาม

 

“โอโซน นายไม่มีพ่อใช่มั้ย” บิ๊กบอมกับเพื่อนๆ เข้ามายืนจังก้าขวางหน้าโอโซนเอาไว้ และคาดคั้นถามเรื่องพ่อของเขา

“นี่ อย่าแกล้งโอโซนนะ ลูน่าจะฟ้องครูรัตน์” สาวน้อยผมเปียเท้าเอว ทำหน้าดุขู่บิ๊กบอมให้หยุดรังแกโอโซน

“น่าสงสารเด็กไม่มีพ่อ” เด็กชายตัวกลมไม่สนใจคำขู่ ยังคงล้อเลียนปมด้อยของเพื่อนอย่างสนุกสนาน ลูกสมุนตัวน้อยๆ ก็พลอยสนุกไปด้วยพากันรุมล้อเลียนเรื่องพ่อของโอโซน

“เรามีพ่อนะ!” โอโซนโกรธจนทนไม่ไหวจึงโพล่งออกมาโดยไม่ได้คิด

“แล้วทำไมไม่เคยเห็นพ่อนายเลยล่ะ ถ้ามีก็พามาดูสิ” บิ๊กบอมทำหน้าไม่เชื่อ โอโซนโกรธจนตัวสั่น

“ใช่ๆ ให้พ่อนายมารับสิ” เพื่อนอีกคนช่วยสนับสนุน

“ก็ได้ เราจะให้พ่อมารับ พวกนายจะได้รู้ว่าเราก็มีพ่อ” โอโซนตะเบ็งเสียงออกไปด้วยความโกรธ เขาอดทนให้เพื่อนๆ ล้อเลียนมาหลายวันแล้วโดยที่ไม่เคยโต้ตอบอะไร ได้แต่นิ่งและเดินหนี ทั้งที่ในใจก็เจ็บจนอยากร้องไห้ออกมา ในที่สุดความอดทนของเด็กน้อยก็หมดลง

แค่มีพ่อก็พอแล้วใช่ไหม ถ้าทุกคนเห็นเขามีพ่อเหมือนคนอื่นๆ ก็จะไม่ถูกแกล้งอีกใช่ไหม โอโซนตะโกนก้องในใจ มองเพื่อนๆ อย่างเหลืออด

“อะไรกันเด็กๆ เสียงดังเอะอะเชียว มีอะไรหรือเปล่า” ครูรัตน์เดินเข้ามาเห็นว่าโอโซนกับเพื่อนๆ กำลังยืนจ้องหน้ากัน โอโซนตาแดงเหมือนจะร้องไห้

“บิ๊กบอมแกล้งโอโซนค่ะครูรัตน์” ลูน่ารีบฟ้องทันทีที่เห็นหน้าครู

“ไม่ได้แกล้งคับ ลูน่าโกหก” บิ๊กบอมรีบแก้ตัวเพราะกลัวถูกทำโทษ

“ลูน่าไม่ได้โกหก บิ๊กบอมล้อโอโซนว่าไม่มีพ่อค่ะ แต่โอโซนบอกว่าเขามีพ่อเหมือนคนอื่น” สาวน้อยฟ้องทุกอย่างที่ได้ยิน สีหน้าขึงขังไม่กลัวใคร

ครูรัตน์ถอนหายใจยาวอย่างลำบากใจ สิ่งที่เธอกลัวได้เกิดขึ้นแล้ว หรือเกิดมานานแล้วเพียงแต่เธอยังไม่รู้ เธอมองโอโซนที่กำลังกัดฟันพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้ออกมาด้วยความสงสารจับใจ

“บิ๊กบอม การล้อเลียนเรื่องพ่อแม่ของเพื่อน เป็นสิ่งที่ไม่ดีไม่น่ารักเลยนะครับ ขอโทษโอโซนซะ” ถึงน้ำเสียงอ่อนโยน แต่สีหน้าของครูรัตน์กลับจริงจัง บิ๊กบอมหน้าจ๋อยรีบหันไปขอโทษโอโซนเสียงอ่อย

“ขอโทษ”

“บอกเพื่อนด้วยว่าจะไม่ทำอีกแล้ว” ครูรัตน์ออกคำสั่ง

“เราจะไม่ทำอีกแล้ว” บิ๊กบอมกลัวครู จึงก้มหน้าพูดอย่างไม่เต็มใจ

“เก่งมากครับบิ๊กบอม เราตัวโตกว่าเพื่อนต้องดูแลปกป้องเพื่อน ไม่ใช่แกล้งเพื่อนนะครับ เข้าใจไหม” ครูสาวสั่งสอนศิษย์ด้วยความเมตตา หัวโจกตัวน้อยพยักหน้าหงึก แล้ววิ่งไปเล่นกับเพื่อนเมื่อครูทำท่าอนุญาตให้ไปได้ ครูรัตน์หันมาหาโอโซนที่ยืนนิ่งแววตาเศร้า

“โอโซน การโกหกไม่ดีนะครับ รู้ใช่ไหม”

“โอโซนไม่ได้โกหกคับ โอโซนมีพ่อเหมือนคนอื่น” เด็กน้อยพูดเสียงเครือ น้ำตาคลอพร้อมที่ไหลออกมา

ครูรัตน์สะเทือนใจ เธอเข้าใจหัวอกของโอโซน ประสบการณ์การเป็นครูเกือบสิบปี ทำให้เจอเหตุการณ์แบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เด็กๆ ที่มีแต่พ่อหรือแม่ หรือแม้แต่ไม่มีเลย มักจะถูกเพื่อนๆ บุลลี  ทำให้รู้สึกเป็นปมด้อย บางคนยอมโกหกเพื่อให้เพื่อนยอมรับและเลิกรังแก แต่บางคนก็เชื่อว่าสักวันพ่อหรือแม่ที่เขาไม่เคยมี จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายและโหยหามาตลอด โอโซนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ครูขอโทษนะ ครูไม่ได้ตั้งใจว่าโอโซนโกหก แต่โอโซนไปบอกเพื่อนแบบนั้น จะดีเหรอครับ” ครูรัตน์รู้สึกผิดที่ใช้คำพูดกล่าวโทษกับลูกศิษย์

“เด็กทุกคนต้องมีพ่อไม่ใช่เหรอคับ แล้วโอโซนพูดผิดตรงไหน” ความฉลาดของเด็กน้อยทำเอาครูสาวปวดหัว แต่ก็จริงที่เด็กพูด ทุกคนเกิดมาจากการปฏิสนธิจากเซลล์สืบพันธุ์ของชายและหญิง ก็คือพ่อและแม่ โอโซนก็มีพ่อเหมือนคนอื่น เพียงแต่พ่อของเขาคือบุคคลนิรนามที่จะไม่มีวันรู้เลยว่า เขาคนนั้น…เป็นใคร

 



Don`t copy text!