ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 1 : ภาพที่งดงามไม่มีวันลืม (1)

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 1 : ภาพที่งดงามไม่มีวันลืม (1)

โดย : หมอนอิงพิงหลัง

Loading

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว โดย หมอนอิงพิงหลัง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาขอเอาใจนักอ่าน โดยเฉพาะนักอ่านทาสแมว กับเรื่องราวของ น้ำปิง  เจ้าพ่อแห่งความเพอร์เฟคที่โดนวงล้อโชคชะตาเล่นตลกและแมวสามสี….ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวสารพัดจนเขาหลงรักชีวิตแบบแมวๆ เข้าอย่างจัง น้ำปิงกับถนนสายแมวเหมียวจะเป็นอย่างไร อ่านกันได้เลยค่ะ

“…เอาละครับ ก่อนที่ผู้ฟังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ เรามีคำถามเข้ามาจากทางบ้านครับ สายจากทางบ้านถามมาว่า ถ้าอยากจะทำตามฝัน แต่ฝันนั้นมันดูเลือนรางจนเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เราควรล้มเลิกความฝันนั่นดีไหม จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลัง จากคุณพิมพ์ครับ

ยากเหมือนกันนะครับกับคำถามนี้ อันที่จริงความฝันก็มักจะแตกต่างกันไปในแต่ละคนนะครับ ไม่ว่าความฝันของคุณจะเล็กหรือใหญ่ ดูใกล้แค่เอื้อมหรือไกลจนเหมือนจะคว้าไม่ถึง แต่ทุกความฝันต่างก็สวยงามและเราทุกคนก็อยากให้มันเป็นจริงทั้งนั้น

ที่จริงชีวิตเราเหมือนกับความฝัน ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ มันทั้งสวยงามและเปราะบาง อย่าทิ้งความฝันไปเพราะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะมันยังไม่เป็นจริงต่างหากถึงเรียกว่าความฝัน

ผมขอส่งบทเพลงสุดท้ายให้คุณพิมพ์และทุกคนด้วยครับ เพลงคนชอบฝัน ขอให้ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่พิเศษสำหรับทุกท่านครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ…”

ผมหยุดมือที่กำลังพรวนดินต้นยิมโนด่างในกระถางตรงหน้า มองขึ้นไปบนฟ้าเห็นดวงจันทร์สุกสกาว คำถามจากทางบ้านเมื่อครู่ทำให้ผมทบทวนความทรงจำของตัวเองก่อนหน้านี้ ตัวเราก็เคยถามคำถามนั้นกับตัวเองเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นเวลาเมื่อ 5 ปีที่แล้วตั้งแต่ที่เราเข้ามาอยู่เมืองนี้

ย้อนนึกถึงวันแรกที่ผมมาที่นี่ ผมเข้าไปทำงานที่โรงแรม เริ่มงานจากตำแหน่งต่ำสุด ไม่รู้จักใคร ไม่มีบ้านอยู่ แต่ฝันอยากมีห้องเป็นของตัวเอง จึงตัดสินใจผ่อนห้องชุดนี้ทั้งที่เงินเดือนก็แค่พอกินเดือนชนเดือน คิดเสียว่าดีกว่าเสียค่าเช่าห้องไปเปล่าๆ สุดท้ายก็ได้มีห้องแต่ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ต้องใช้กระเป๋าเดินทางหนุนแทนหมอนอยู่พักใหญ่ ยังดีที่มีพี่เป๊กช่วยเหลือให้กาน้ำร้อนเก่ามาก็เลยไม่ต้องกินบะหมี่สำเร็จรูปแบบแห้งต่อเนื่อง โต๊ะกินข้าวเล็กแบบนั่งพื้น ตู้เย็นเก่าๆ ใบย่อมที่ซื้อมามือสอง คิดไปแล้วก็ตลกตัวเองเหมือนกัน มันเป็นวันที่ความฝันเจิดจรัสกว่าสตางค์ในกระเป๋าจริงๆ

ผมอมยิ้มกับตัวเองแล้วก็ก้มหน้าพรวนดินต่อ แต่คราวนี้แหละแหละฝันเราจะเป็นจริงสักที เพราะเจ้าต้นยิมโนด่างเรียงรายลำต้นแดงดำอมม่วงกำลังมีช่อดอกตูมชัดปรากฏที่ยอด พืชไม้อวบน้ำนี้ราคาต้นก็ไม่ต่ำกว่าต้นละสองสามร้อย ยิ่งต้นไหนที่มีสีพิเศษ ต้นที่มีรากแก้วอีก ราคาตกต้นละไม่ต่ำสองสามพันเป็นแน่ ผมอารมณ์ดีพรวนดินไปฮัมเพลงตามไปจนรายการวิทยุเปลี่ยนเป็นช่วงเล่าเรื่องผี ผมก็รีบปิดมันแล้วกลับเข้าห้อง ไม่ได้กลัวนะแต่ผมอยู่คนเดียว

เสียมอันย่อมถูกเสียบกลับไปยังกล่องเครื่องมือที่ตั้งอยู่บนกองสมุดสูตรเก่า มันเป็นบันทึกวิธีเพาะไม้อวบน้ำจากเมล็ดของผมเอง หลังจากลองผิดลองถูกสูตรแล้วสูตรเล่า เวลาช่างยาวนานเหลือเกินกว่าจะถึงวันนี้ กว่าที่ยิมโนด่างจะสามารถงอกจากเมล็ดได้ ผมหยิบสมุดเล่มล่าสุดมาจดบันทึกเพิ่ม ‘แผนปลูกไม้อวบน้ำ โดยน้ำปิง เล่มที่ 5’ แผ่ส่วนกุศลให้พวกต้นเก่าที่เป็นสีน้ำตาลซีดเหมือนแปรงขัดหม้อ เสร็จแล้วผมก็หยิบบันทึกอีกเล่มมาจดต่อ ‘แผนการใช้เงินในอนาคต โดยน้ำปิง เล่มที่ 12’

หลังจากช่วงเวลาความฝันประจำวันจบลง ผมหยิบเอกสารแผนงานรับรองการสัมมนาใหญ่เพื่อต้อนรับเจ้าชายคนสำคัญออกมาทวนอีกครั้ง อาจพูดได้ว่ามันเป็นงานสำคัญที่สุดของผมในช่วง 5 ปีนี้เลยก็ได้ ที่เริ่มต้นจากพนักงานฟรอนต์ออฟฟิศตัวเล็ก ค่อยๆ เขยิบมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ จนมาถึงวันนี้ เพราะพี่เป๊กเสนอแก่ผู้บริหารของโรงแรมให้ผมเป็นผู้จัดการคนต่อไปแทนเขา แม้ว่าผมจะจบแค่การโรงแรมระดับ ปวส.และอายุยังไม่ถึง 30 แต่พี่เป๊กให้คำมั่นกับผู้บริหารว่าทั้งฝีมือและความตั้งใจของผมไม่เป็นรองใคร ผมทั้งดีใจและตื่นเต้นมากทีเดียว ก็คงต้องลองสักตั้งละไอ้น้ำปิง

หลังจากทวนหัวข้อสำคัญครบ ผมก็เก็บของให้เรียบร้อย มองไปรอบๆ ห้อง ข้าวของที่รายล้อมรอบตัวผมมีแค่ให้พอเพียงกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน ปิดไฟและเข้านอน ฝันหวานถึงความสำเร็จในวันพรุ่งนี้และร้านต้นไม้อวบน้ำเล็กๆ ที่ผมเป็นเจ้าของ

 

เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ผมเอื้อมมือปิดเสียงนาฬิกาปลุกที่ร้องเรียกอย่างไม่ขาดสาย หลังจากบิดตัวไปมา ผมก็คว้าบัวรดน้ำสังกะสีและสมุดจดบันทึกเปิดประตูออกไปที่ระเบียงเช่นเคย

มันบานแล้วเจ้าต้นยิมโนด่าง ผมดีใจก้มเข้าไปดูใกล้ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ยังไม่ได้แปรงฟัน

“โอ๊ย เก่งมากเจ้าด่าง! เห็นไหมล่ะ ไอ้ปิงเอ๊ย ในที่สุดเราก็เลี้ยงต้นกระบองเพชรจิ๋วจนออกดอกแทงยอดกับเขาเป็นเหมือนกัน ถึงจะเป็นเวลาตั้งหลายปีก็เหอะ” แม้ดอกจะยังบานไม่เต็มที่ แต่ก็เผยสีแดงสดใสข้างในให้เห็น ดอกสีแดงอมชมพูขับกับลำต้นลายด่างสีเข้มแซมด้วยหนามเล็กๆ นี่แหละคือสิ่งที่ผมเฝ้ารอมานาน ก้าวแรกของความฝันเล็กๆ ของผม

ผมฮัมเพลงด้วยความอารมณ์ดีในขณะที่ เช็ดก๊อกน้ำให้สะอาดหลังจากที่แปรงฟันเสร็จ อาบน้ำ แต่งตัว ปิดน้ำปิดไป พอเช็กทุกอย่างในห้องจนเรียบร้อยแล้ว สะพายกระเป๋าใบโปรด เดินไปหยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ที่แขวนไว้ข้างประตู แล้วเดินออกจากห้องไป

ผมบิดกุญแจสตาร์ตรถมอเตอร์ไซค์เพื่อขี่ไปยังที่ทำงาน เขาอมยิ้มและพลางคิดในใจว่า ตัวเขาเองก็กำลังออกดอกออกผลไม่ต่างอะไรกับเจ้าต้นยิมโนด่างเลยทีเดียว นี่นับเป็นช่วงเวลาที่เขาเฝ้ารอคอยมานาน

 

“สวัสดีคร้าบ” ผมพยักหน้าให้ รปภ.ขณะขี่รถเข้ามาที่โรงแรม

“วันนี้มาเร็วจังนะพี่” เสียง รปภ.ตอบกลับ

ผมหันกลับไปยิ้มให้อีกครั้งและขี่รถไปยังที่จอดประจำด้านหลังของโรงแรม ผมหยิบกระเป๋าเป้และเอกสารมาตรวจตราอีกครั้งก่อนเดินไปยังประตูเข้าของพนักงาน แตะคีย์การ์ด ตอกบัตร และก้าวเข้าไปยังห้องแต่งตัวพนักงานตามปกติเหมือนทุกวัน ผมเก็บของใส่ล็อกเกอร์และแต่งตัวให้ตัวให้เรียบร้อย ยิ้มหวานให้กระจกแต่ยังเต็มไปด้วยความประหม่าในใจ

“ไอ้ปิงเอ๊ย ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุดนะ” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับมีมือบีบไหล่ผม

“ขอบคุณมากครับพี่เป๊ก”

“เอ็งเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว พี่เชื่อว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถเอ็ง ถึงแม้ทีมเราจะเล็ก แต่เราจะร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันกันไป” พี่เป๊ก ผู้จัดการ ยิ้มให้ผมอย่างภูมิใจและเดินนำหน้าเข้าไปในโรงแรม

ผมมองตามหลังพี่เป๊ก ถึงพี่เขาจะอายุมากแล้ว แต่แผ่นหลังที่อยู่ภายใต้สูทสีดำของเขานั้นดูอบอุ่นเสมอ ผมนึกถึงวันที่มาทำงานแรกๆ ก็ได้พี่คนนี้แหละที่สอนงาน คอยให้กำลังใจ พี่เป๊กเองก็หมายมั่นปั้นมือที่จะให้ผมแสดงศักยภาพให้เต็มที่ ให้ทีมบริหารเห็นสมกับเป็นลูกน้องเบอร์หนึ่งของพี่เป๊ก

ผมกลับมามั่นใจอีกครั้ง สูดลมหายใจเข้าลึก หยิบเอกสารวางแผนงานที่เตรียมตัวมาอย่างดี เดินตามพี่เป๊กเข้าไปเพื่อเตรียมต้อนรับแขกคนสำคัญ ซึ่งเป็นเจ้าชายพระองค์หนึ่งจากประเทศแถบตะวันออกกลางที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก งานนี้แหละที่จะเป็นหน้าเป็นตาให้ผมก้าวขึ้นตำแหน่งผู้จัดการอย่างเต็มภาคภูมิ

ทุกอย่างต้องเป๊ะ เช้าวันนี้ผมทำงานไปก็พลางคิดทวนอยู่ในหัวรอบแล้วรอบเล่าถึงแผนงาน เก้าโมงเช้าต้องต้อนรับอำนวยความสะดวกเจ้าชายไปยังห้องรับรองพิเศษ สิบโมงต้องเตรียมห้องรับรองดื่มชาในการประชุมระหว่างท่านเจ้าชายกับคณะกรรมการพลังงาน พร้อมเสิร์ฟของว่างพิเศษเป็นมาการองสีทองจากเชฟกระทะเหล็ก เที่ยงตรงต้อนรับและจัดรับประทานอาหารกลางวันกับท่านนายกเทศมนตรีที่ห้องแสงจันทร์ พร้อมเตรียมอาหารพิเศษที่ทำจากปลาสดที่นำเข้าพิเศษจากญี่ปุ่น เจ้าชายไม่ทานเนื้อ ท่านนายกเทศมนตรีไม่ทานปลา ส่วนท่านภรรยาที่ไม่ทานเค็ม ผู้ติดตามไม่ทานกุ้ง อาบังไม่กินหมู คนจีนไม่กินเนื้อ เมื่อวานถูกหวยกิน งวดต่อไป 2 6 วิ่งบนล่าง เอ๊ะเดี๋ยว ไม่ใช่ละ มั่วแล้ว แล้วตอนบ่ายล่ะน้ำปิง ผมคิดวนๆ เวียนๆ มาหลายรอบแล้ว

 

“พี่ พี่…”

“พี่! เจ้าชายมาแล้ว!” ลูกน้องแผนกฟรอนต์ออฟฟิศทักขึ้น

ผมตกใจเงยหน้าขึ้นมา ประกายสีทองฉายรัศมีเจิดจรัสสะท้อนเข้าตาจนผมเผลอยื่นมือออกไปนึกว่ากำลังรับพรจากพระเจ้า

“สวัสดี นี่คือคุณแพทริเซีย แมวประจำราชวงศ์” เสียงสาวใช้ดังขึ้นพร้อมยื่นสิ่งที่เธอถืออยู่มาที่หน้าผม

ผมตกใจรับกรงที่เธอยื่นมาให้ มันเป็นกรงสัตว์เลี้ยงทองคำของเจ้าชายที่ตกแต่งคล้ายทัชมาฮาลขนาดเล็กคลุมด้วยผ้าต่วนดิ้นทองประดับตุ้งติ้งเพชร ข้างในมีแมวเปอร์เซียขนยาวปุยสีขาวดุจหิมะ มีดวงตาสีฟ้าสวยงามราวลูกแก้ว

“ครับๆ ยินดีต้อนรับครับ คุณ…เอ่อ แมว”

ผมฉีกยิ้มแบบงงๆ หันไปมองทางประตูใหญ่ทางเข้าของโรงแรม เห็นเจ้าชายก้าวลงมาจากรถลีมูซีนสีขาวคันหรูแต่งตัวงดงามตามแบบชายชาวตะวันออกกลางเป็นชุดพื้นเมืองสีขาวกรอมเท้า กรามเป็นสัน ผมหยักศก ขนตายาว พนักงานเปิดประตูแสดงความเคารพ คอนซีแอจผายมือให้เจ้าชายเดินตามพรมแดงที่ปูทอดสู่ห้องรับรองพิเศษ เจ้าชายหันมายิ้มโชว์เขี้ยวฝังเพชรให้ผมพร้อมพูดว่า

“ยู ฝากดูแลแมวแสนรักของไอด้วยนะ” ยิ้มพร้อมขยิบตาให้ทีหนึ่ง

ผมหันไปมองเจ้าชายเดินจากไป แต่สิ่งที่เตะตาผมก็คือรองเท้าสีทองของเจ้าชายที่ปลายโค้งขึ้นมีพู่ทองห้อยอยู่ โผล่ออกมาจากทุกฝีก้าวที่ย่างเดิน ผมนึกขึ้นได้ เฮ้ย! นี่เราต้องต้อนรับเจ้าชายไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่แมวนี่

“มิสเตอร์เป๊ก วันนี้จะเสิร์ฟอะไรให้เรากินหรือ ได้ข่าวว่าเป็นอาหารพิเศษด้วยใช่ไหม” เสียงเจ้าชายดังมาตามโถงโรงแรม

“ใช่ครับๆ ท่าน” พี่เป๊กโค้ง ผายมือบอกทางให้เจ้าชายแล้วเดินมากระซิบบอกผม

“ไอ้ปิง ไอ้ปิง เอาแมวไปเก็บแล้วรีบๆ ตามพี่มานะ เดี๋ยวพี่ดูแลท่านเจ้าชายให้ก่อน” พี่เป๊กพูดแล้วก็วิ่งกลับไปรับรองเจ้าชาย

ผมตั้งสติได้ จึงรีบจัดแจงสั่งลูกน้องหน้าฟรอนต์มารับกรงแมวไป แต่คุณสาวใช้ตาคมที่มีดวงตาโต ดำขลับตามแบบฉบับสาวอาหรับโผล่ออกมาจากผ้าคลุมใบหน้าสีน้ำเงินตกแต่งด้วยดิ้นทองระยิบระยับ ยกมือขึ้นทาบอกแล้วร้องบอกว่า

“ช้าก่อน การดูแลแมวของท่านเจ้าชายนั้นมีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้” พร้อมยื่นคู่มือการดูแลแมวให้ เป็นหนังสือเล่มหนาหน้าปกหนัง มีตัวอักษรนูนสีทองภาษาอังกฤษ เขียนว่า คุณแพทริเซีย เล่มที่ 1

อะไรวะเนี่ย มีคู่มือเลี้ยงแมวด้วยหรอกหรือ แถมยังเป็นภาษาอังกฤษอีกต่างหาก เล่มก็หนาอย่างกับพจนานุกรม ผมถึงกับกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ส่งสายตาไปยังลูกน้องที่กำลังวิ่งเข้ามารับช่วงต่อ

ทันทีที่ลูกน้องผมเห็นคู่มือภาษาอังกฤษ ทั้ง 3 ก็ถอยกรูกลับไปและทำหน้าเลิ่กลั่ก ต่างมองหน้ากันแล้วพยักหน้าพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า

“เดี๋ยวพวกผมไปช่วยพี่เป๊กก่อนนะครับ” แล้วทั้งสามหน่อก็วิ่งตามพี่เป๊กไป

 

ฉิบหายแล้ว! ผมถูกทิ้งไว้กับกรงแมวทองคำแวววับคนเดียวหรือเนี่ย ผมมองไปยังกรงทองแล้วส่งสายตาหวานซึ้งให้คุณแพทริเซีย แต่ทว่าเธอส่งสายตาจิกกัดกลับพร้อมสะบัดหน้าหนีเหมือนรู้ว่าไม่มีใครอยากดูแลเธอ ประหนึ่งเรากำลังเล่นหนังบอลลีวูด น่าจะเป็นบทตอนที่นางเอกแสนงอนตอนวิ่งหนีข้ามภูเขาไป

คุณสาวใช้แจ้งให้ผมพาคุณแพทริเซียเข้าไปที่ห้องพักก่อน เธอจะไปนำคู่มือเล่มที่ 2 3 และ 4 มาให้พร้อมกับเครื่องอะโรมากลิ่นมาทาทาบิเพื่อผ่อนคลายมาให้ด้วย ผมไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คุณสาวใช้คนนั้นพูดนักหรอก แต่รู้ว่าตอนนี้ต้องรีบเอาแมวไปส่งแล้วกลับไปต้อนรับท่านเจ้าชายแล้ว

 



Don`t copy text!