ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 10 : คิวต่อไป

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 10 : คิวต่อไป

โดย : หมอนอิงพิงหลัง

Loading

ถนนสายนี้มีแมวเหมียว โดย หมอนอิงพิงหลัง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาขอเอาใจนักอ่าน โดยเฉพาะนักอ่านทาสแมว กับเรื่องราวของ น้ำปิง  เจ้าพ่อแห่งความเพอร์เฟคที่โดนวงล้อโชคชะตาเล่นตลกและแมวสามสี….ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวสารพัดจนเขาหลงรักชีวิตแบบแมวๆ เข้าอย่างจัง น้ำปิงกับถนนสายแมวเหมียวจะเป็นอย่างไร อ่านกันได้เลยค่ะ

ผมรู้ตัวอีกทีก็ถึงศาลท่านเทพธิดาแล้ว เมื่อตะกี้ที่ไมเคิลล้มลงไปต่อหน้าทำเอาทุกอย่างตื้อไปหมด ผมจำได้แค่ว่าผมบอกลุงจอนให้รีบพาผมมาที่ศาลแห่งนี้ ถ้าผมรีบกลับไปเป็นคนได้น่าจะช่วยเอาไมเคิลไปรักษาได้ทัน

“รีบเข้าไปเถอะน้ำปิง” เสียงลุงจอนเรียกสติผมกลับมาอีกครั้ง พร้อมเอาจมูกเย็นๆ ดันตัวผม

“ขอบคุณนะลุงจอน” ผมตัวสั่นกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าก้าวเข้าไปในศาล ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น เราจะยังจำเรื่องราวต่างๆ ได้อยู่ไหม ถ้าเกิดเราจำอะไรไม่ได้เลยล่ะ เหมือนมีอะไรค้างคามากมายอยู่ในใจ ใช่ผมยังไม่ได้บอกลาเพื่อนๆ คนอื่นเลย แล้วยายจะลำบากไหม ส้มจุกล่ะ ผมยังไม่พร้อมที่จะบอกลาเมืองที่น่ารักแห่งนี้

“โฮ่ง” เสียงลุงจอนเห่าให้กำลังใจผมอีกครั้ง ขอบคุณนะน้ำปิง ถ้าเจอกันอีกทีอย่าลืมสอนการเป็นหมาดีต่อด้วย

ผมพยักหน้าให้และก้าวข้ามประตูเข้าไป

 

ทุกอย่างขาวโพลน ผมล่องลอยอยู่ในทะเลแห่งดวงดาว เป็นสถานที่ที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ มากมายแต่ก็นึกไม่ออกว่าคือเรื่องอะไร หรือที่ไหน ผมหลับตาสูดหายใจลึก ย้ำตัวเองไม่ให้ลืมเรื่องราวและเป้าหมายที่มา ในมือของผมมีกระดาษหนึ่งใบ เขียนไว้ว่าคิวที่ 86 มีคิวข้างหน้าท่าน 3 คิว รอประมาณ 15 นาที ความซึ้งใจเมื่อตะกี้เกือบหายไปหมด เออ เทพธิดาก็งานยุ่งนะนี่ แล้วผมก็เดินไปนั่งรอที่เก้าอี้

ไม่นานนักเสียงเทพธิดาก็ดังขึ้น

“ทำไมรีบมาล่ะน้ำปิง ไม่เที่ยวเล่นต่ออีกสักหน่อยก่อนเหรอ” เทพธิดาปรากฏกายต่อหน้าผม วันนี้เธอมาในลักษณะหญิงสาวผมทองเปล่งประกาย ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลลึก และมีรอยยิ้มที่สามารถสะกดทุกสิ่งให้หันมามองได้ ในมือเธอถือสมุดสีทองไว้หนึ่งเล่ม

“ท่านเทพธิดาใช่ไหมครับ” ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เธอยิ้มตอบ

“ผมอยากกลับไปเป็นคนครับ ผมต้องรีบไปช่วยไมเคิล” ผมก้มลงขอร้องท่านเทพธิดา

ทันใดนั้นกระดาษแผ่นเล็กๆ ในมือผมก็เปลี่ยนเป็นกุญแจ 5 ดอก ผมหยิบขึ้นมาดู กุญแจแต่ละดอกก็มีรูปที่ไม่เหมือนกัน แต่เป็นรูปที่ผมคุ้นเคย คือหน้าของทองแต้ม ลุงจอน สปีด ช็อกบอล และไมเคิล

“วันนี้เธอรู้ความหมายของกุญแจแล้วไหม” ท่านเทพธิดาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ผมส่ายหน้าเพราะยังไม่เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของกุญแจเหล่านั้น ผมนึกมาตลอดว่ากุญแจก็คือความสุขในการใช้ชีวิตในแต่ละวันของแมว กินนอน เที่ยวเล่น ชีวิตใหม่ก็คือการมีความสุขในแต่ละวันและลืมเรื่องร้ายๆ เท่านั้นเองไม่ใช่หรือ

“ทำไมถึงมีรูปลุงจอน สปีด กับช็อกบอลด้วยล่ะ” ผมถามด้วยความไม่เข้าใจ หมุนดูลูกกุญแจไปมา แล้วเทพธิดาก็เอื้อมมือเข้ามาจับมือผมไว้

“ลองมองเข้าไปในกุญแจในแต่ละดอกให้ดีๆ สิ น้ำปิง” เธอพูด

ผมมองลูกกุญแจดีๆ อีกครั้ง หัวกุญแจแต่ละดอกก็ส่องประกายสุกสกาว แล้วท่านเทพธิดาก็เปิดสมุดสีทองที่เธอกอดไว้ออก ทันใดนั้นก็มีลูกแก้วหลากสีลอยขึ้นมา ในแต่ละลูกก็มีภาพความทรงจำของผมกับเพื่อนๆ อยู่ข้างใน

มือผมสั่น หัวใจเต้นแรง ผมค่อยๆ หยิบกุญแจทีละดอกขึ้นมาไขลูกแก้ว

 

ดอกที่ 1 ทองแต้ม ผมเห็นความทรงจำเก่าๆ ที่เราเคยมีให้กัน ความรักความผูกพันที่ไม่จางหายไปกับกาลเวลา ปนกับความเสียใจที่เห็นผมเจ็บปวดแล้วไม่สามารถช่วยได้

ดอกที่ 2 ลุงจอน สายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวผม เต็มไปด้วยความหวัง ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม ถึงแม้ตัวเองจะเคยเจ็บปวดกับสิ่งนั้นมา แต่ก็ไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นเจ็บปวดเช่นกัน

ดอกที่ 3 สปีด ความอุ่นใจ ความยินดี ที่สามารถเอาชนะอดีตที่เหมือนเสี้ยนหนามคอยแทงใจได้

ดอกที่ 4 ช็อกบอล ความบริสุทธิ์ใสซื่อ ไม่โกรธแค้นต่อสิ่งใดๆ ไม่น้อยใจในโชคชะตา

ดอกที่ 5 ไมเคิล ตอนนี้มือของผมสั่นไปหมด พอผมไขกุญแจออก ผมเห็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพความจำที่ไมเคิลมาชวนเล่น มานอนข้างๆ มาหาตั้งแต่วันแรก เป็นเพราะเขาเห็นผมไม่สบายใจ มิตรภาพที่อบอุ่นไม่ลืมเลือน แม้ในยามสุดท้ายก็กลัวว่าผมจะเสียใจมากกว่าห่วงตัวเอง…ไม่มีเขาแล้วน้ำปิงต้องอยู่ให้ได้นะ…นี่คือสิ่งที่ไมเคิลพยายามบอกผม

 

น้ำในตาผมเอ่อขึ้นจนกักไว้ไม่อยู่ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่า ชีวิตนั้นคือการที่เป็นผู้ให้และเป็นผู้รับในเวลาเดียวกัน ผมเช็ดคราบน้ำตาแล้วหันไป

“คราวนี้เป็นตาผมช่วยพวกเขาบ้างแล้ว มีทางไหนบ้างไหมที่จะทำให้ผมไม่ลืมเลือนเวลานี้ไป” ผมพูดกับท่านเทพธิดา

ท่านเทพธิดาส่ายหน้าและส่งยิ้มให้ผม แสงสว่างเข้ามาบดบังทุกสิ่งทุกอย่างอีกครั้ง เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเสียงอ่อนโยนของท่านเทพธิดา

 “อธิษฐานสิ”



Don`t copy text!