ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 9 : ลิ้นแมว (1)
โดย : หมอนอิงพิงหลัง
ถนนสายนี้มีแมวเหมียว โดย หมอนอิงพิงหลัง นวนิยายออนไลน์ที่อ่านเอาขอเอาใจนักอ่าน โดยเฉพาะนักอ่านทาสแมว กับเรื่องราวของ น้ำปิง เจ้าพ่อแห่งความเพอร์เฟคที่โดนวงล้อโชคชะตาเล่นตลกและแมวสามสี….ที่ทำให้เขาต้องเผชิญกับเรื่องราวสารพัดจนเขาหลงรักชีวิตแบบแมวๆ เข้าอย่างจัง น้ำปิงกับถนนสายแมวเหมียวจะเป็นอย่างไร อ่านกันได้เลยค่ะ
ผมนอนหลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนเพื่อคอยดูไมเคิลว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากไมเคิลนอนกรน เขาละเมอถึงปลาหมึกย่าง กว่าจะได้หลับจริงๆ ก็ก่อนฟ้าสางไม่นาน ผมเพิ่งจะรู้ว่าพวกนกนั้นตื่นกันตั้งแต่ตี 3 เมื่อก่อนอยู่คอนโดฯ สูงเลยไม่เคยได้ยินอะไร แต่ตอนนี้เสียงนกก็กลายเป็นเสียงแม่บ้านคุยกันเรื่องจิปาถะแทน เลยได้นอนน้อยไปกันอีก ถ้าผมไปคอมเพลนกับนิติใต้ต้นมะม่วงจะได้ไหมนะ ผมคิดดูเล่นๆ
ตอนนี้ในห้องไม่มีใครอยู่แล้ว ผมเลยรีบโผล่ลงไปดูชั้นล่าง ผมเห็นส้มจุกกำลังป้อนข้าวต้มให้ไมเคิลที่โดนผูกไว้กับแคร่ ส่วนยายก็กำลังเตรียมอาหารเหมือนเดิม ผมทิ้งตัวลงนั่งถอนหายใจแอบยิ้มที่มุมปาก พวกสัตว์นี่เขามีพลังชีวิตกันเหลือเฟือจริงๆ นะเนี่ย
“ส้มจี๊ดกินเข้าไป จะได้หายเร็วๆ” นางพยาบาลส้มจุกเล่นบทโหดอยู่เพราะคนไข้ไม่ยอมกินข้าวเลยส่งผลให้ข้าวต้มกระจายเต็มพื้น
ไมเคิลเห็นผมก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ ซึ่งผมเข้าใจดีว่าเพราะอะไร เมื่อคืนผมก็ต้องกินข้าวต้มข้นๆ ของยายเหมือนกัน ยายไม่ได้ทำไม่ดีหรอกนะแต่ไอ้ลิ้นแมวเจ้ากรรมนี่สิ มันสู้ร้อนไม่ได้ ต้องกินไปเป่าไปกว่าจะหมด ตอนนี้ลิ้นผมที่โดนลวกยังไม่ดีขึ้นเลย
“กินเร็วส้มจี๊ด เดี๋ยวข้าวต้มหายร้อน” ส้มจุกพยายามป้อนไมเคิลต่อสักพักก็หันมาเห็นผมนั่งมองอยู่บนกระได
“ทองแต้มมากินให้ส้มจี๊ดดูหน่อยเร็ว” ว่าแล้วส้มจุกก็เดินมาเอาช้อนที่ใส่น้ำข้าวร้อนๆ ยัดใส่ปากผมซ้ำเข้าไปตรงแผลเดิม นี่ถ้าซื้อหวยก็เหมือนถูก 3 ตัวตรงเลยละ
“แง้วว” ผมร้องเพราะลิ้นโดนลวก
“เห็นไหมส้มจี๊ด ทองแต้มบอกว่าอร่อยมากเลยนะ” ส้มจุกก็กลับไปพยายามป้อนไมเคิลต่อแต่ไมเคิลหันหน้าหนีตลอด
“ส้มจุกเอ้ย ยายฝากป้อนข้าวต่อให้เสร็จนะ เดี๋ยวยายไปหาหลวงลุงแป๊บหนึ่ง” ยายกำลังเตรียมตัวหยิบโน่นนี่ใส่ตะกร้าก่อนจะเดินออกจากบ้าน
ผมนึกขึ้นได้ ตายละ เมื่อวานเรานัดพวกนั้นไว้ว่าตอนเย็นว่าจะไปหานี่นา
“ไมเคิล น้ำปิงตามไปกับยายแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวมา”
“เดี๋ยวน้ำปิง อย่าทิ้งไมเคิลไป” เสียงเรียกของไมเคิลก้องหายไปกับบรรยากาศสบายๆ ยามเช้า
ผมเดินตามยายคำมูลไปวัดเช้าวันนี้ ได้เห็นความถ้อยทีถ้อยอาศัยของคนรุ่นเก่าๆ ยายทักทายเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านก็ชวนทานข้าวเช้า ยายไม่สะดวกก็เอาขนมให้ยายติดไม้ติดมือไป เด็กๆ ที่เล่นกันอยู่ก็วิ่งเข้ามาทักทายยาย ยายก็เอาขนมแจกเด็กๆ พวกนั้น ผมรู้สึกเสียดายที่ภาพสังคมพวกนี้ในสังคมเมืองจางหายไปจนหมดแล้ว เหลือแต่ความรีบร้อนแก่งแย่งกัน การแบ่งปันนี่ช่วยให้สังคมน่าอยู่ขึ้นเยอะเลย
ยายเจอเณรน้อยที่หน้าวัดก็เล่าให้ฟังเรื่องที่ไมเคิลป่วย เณรน้อยฟังเสร็จก็รีบพายายไปหาหลวงลุง ส่วนผมก็มองหาเพื่อนๆ แถวๆ นั้น
ผมเห็นคน 3 คนที่ศาลาริมน้ำกับลูกหมาอีกสองตัว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงรีบวิ่งเข้าไปดู
“นับทั้งหมดได้กี่ไม้ อาหลิว” เสียงซ้อพิ้งค์ดังขึ้น
“ทั้งหมดห้าสิบไม้ค่ะเจ๊” อาหลิว พนักงานบัญชีร้านซ้อพิงค์ตอบ
“ตี๋ทำไมมันเยอะแบบนี้ล่ะ ไหนบอกเจ๊ว่าไม่กี่ไม้เอง”
“คือบางครั้งผมก็ให้ก่อนเอาไปตัดสต็อกหลังร้านน่ะครับ ไอ้ลูกหมาพวกนี้มันดูน่าสงสารมากจริงๆ นะครับ” ตี๋พูดพร้อมเอามือปัดสปีดกับช็อกบอลที่กระโดดเล่นกับขาตี๋ไม่เลิก
“โอ๊ย ตายๆๆ” ซ้อพิ้งค์ทำหน้าปั้นยาก แสดงความกลุ้มใจแทนตี๋
“50 ไม้ ไม้ละ 35 บาท เป็นเงิน 1,750 บาท เท่ากับยอดบัญชีที่ปิดไม่ได้พอดีเลยค่ะ” หลิวตอบอย่างฉะฉาน ใช้สายตาคมกริบของสาวนักบัญชีเชือดเฉือนไปยังตี๋ เหมือนจะบอกความในใจว่า ที่ตัวเองต้องทำโอทีก็เพราะไก่ย่างพวกนี้น่ะแหละ
ซ้อพิ้งค์เอามือกุมหน้าผากอธิบายตี๋ต่อว่า
“รู้ไหม เมื่อวันก่อนทางสรรพากรส่งคนมานั่งนับไม้ไก่ย่างที่ร้านเจ๊ แถมเอาอาน้องหลิวเข้าเครื่องจับเท็จด้วยว่าตัวเลขในบัญชีตรงกันไหม แล้วนี่เจ๊จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย อาตี๋รับผิดชอบไหวไหม” เจ๊มองตี๋และหมาแมวที่ไม่รู้เรื่องพวกนั้น สักพักน้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลออกมา
“ไม่ไหวครับเจ๊ ทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือแค่ห้าบาทแล้วครับ ผมน่ะอดได้ แต่หมาแมวพวกนี้สิ มันหิวมาก น่าสงสารจริง” แล้วตี๋ก็ลงไปเคล้าคลอเคลียพยักพเยิดกับช็อกบอล
ผมนี่ทึ่งกับความใจป้ำของตี๋จริงๆ แต่เขาน่าจะเข้าใจอะไรสักอย่างผิดแล้วละ ผมหันไปมองไอ้ลูกหมาพวกนั้นมีหน้าตาชุ่มฉ่ำบริบูรณ์ มีน้ำมีนวล นี่ถ้าเป็นคนนี่กางเกงขยับไซซ์แล้วนะ ผมกลุ้มใจแทนตี๋ กลุ้มใจแทนซ้อพิ้งค์ด้วย
“เอาๆๆ เดี๋ยวเจ๊กลับไปกับอาหลิวก่อน คราวหน้าคราวหลังอย่าไปใจอ่อนนักล่ะ แล้วเธอก็ทำความสะอาดบริเวณนี้ให้เรียบร้อย กระโดดลงไปในคลองเก็บไม้เสียบไก่ย่าง 3 อันตรงโน้นด้วยนะ” แล้วซ้อพิ้งค์ก็ขึ้นรถสีขาวกลับไปกับน้องหลิว โดยมีสปีดวิ่งไล่ตามหลังไป
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 11 : รถเมล์สายแปด (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 10 : คิวต่อไป
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 9 : ลิ้นแมว (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 9 : ลิ้นแมว (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 8 : ข้าวแมวต้องบี้ให้ละเอียด (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 8 : ข้าวแมวต้องบี้ให้ละเอียด (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 7 : ไม้เสียบไก่สีชมพู (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 7 : ไม้เสียบไก่สีชมพู (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 6 : ตัวแสบและผองเพื่อน
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 5 : ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 5 : ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 4 : สมาคมหมาแมว (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 4 : สมาคมหมาแมว (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 3 : อะไรที่พยายามไขว่คว้า (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 3 : อะไรที่พยายามไขว่คว้า (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 2 : ฝันประหลาด (1)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 1 : ภาพที่งดงามไม่มีวันลืม (2)
- READ ถนนสายนี้มีแมวเหมียว บทที่ 1 : ภาพที่งดงามไม่มีวันลืม (1)