
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 10 : สืบอลหม่าน
โดย : เอมอักษร
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที
กิ่งแก้วผวาลุกขึ้น เมื่อได้ยินเสียงประตูรั้วไฟฟ้าเคลื่อนที่พร้อมเสียงรถแล่นเข้ามาจอด แม่บ้านสาวใหญ่ปาดน้ำตาแล้วผลุนผลันลงบันไดไปเปิดประตูหน้าทันที แต่แล้วก็ชะงักกึก เมื่อพบประมุขของบ้านเดินตรงมาด้วยใบหน้าหมองคล้ำ
ด้านหลังมีตำรวจ 3 นาย เดินตามมา
“แก้ว” ภาคภูมิเรียกเสียงระโหย “ตำรวจเขาจะมาตรวจสอบหาหลักฐาน เดี๋ยวเอาน้ำมาเสิร์ฟด้วยนะ”
“คุณภูมิ” กิ่งแก้วถามอย่างขลาดๆ “แล้วคุณเจิดล่ะคะ เมื่อกี้แก้วโทรไปหาคุณเจ คุณเจบอกว่า…”
ภาคภูมิเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาบวมแดงก่ำ “ยังอยู่ที่โรงพยาบาล” เขาตอบสั้นๆ แล้วหันไปมองคณะตำรวจ ชี้มือขึ้นไปชั้นสอง “เชิญเลยครับ ห้องยัยเจิดอยู่ข้างบน”
ตำรวจเดินเรียงแถวตามภาคภูมิขึ้นบันได กิ่งแก้วตัดสินใจสะกิดนายตำรวจหน้าละอ่อนสุดที่อยู่รั้งท้าย กระซิบว่า “คุณตำรวจต้องมาทำอะไรหรือคะ ก็คุณเจิดฆ่าตัวตาย ไม่ได้ถูกใครฆ่า”
“เจ้าบ้านไปแจ้งความครับ พวกผมต้องมาตรวจที่เกิดเหตุ”
“คุณเจิดตายแล้วหรือยังคะ” กิ่งแก้วถามสวนทันที ใบหน้าตื่น ตำรวจหนุ่มน้อยไม่ตอบ เร่งฝีเท้าเดินขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
เจิดจันทร์ลุกขึ้นมาเกาะราวบันไดขณะมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รู้สึกประหลาดที่ทุกคนพูดและทำสิ่งต่างๆ โดยไม่รับรู้ว่าเธอยืนอยู่ตรงหน้า แต่สิ่งที่เธอสนใจที่สุดคือคำโต้ตอบของแม่บ้านและตำรวจ ถ้าฟังไม่ผิด ยังไม่มีใครพูดว่าเธอตายแล้วสักคน อีกทั้งพ่อเธอยังไปแจ้งความ นั่นหมายความว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นงั้นหรือ
เจิดจันทร์เดินกลับไปที่ห้องนอนของตนเอง เหล่านายตำรวจกำลังตรวจตราห้องเธออย่างขะมักเขม้น มีบิดาที่ใบหน้าหมองคล้ำจนหมดสง่าราศียืนรอหน้าห้อง หญิงสาวโฉบเข้าไปดูการทำงานของตำรวจอย่างใกล้ชิดทุกซอกทุกมุม นึกในใจว่าหากทำเช่นนี้ได้ตอนยังมีชีวิตอยู่ เธอคงได้เป็นนักข่าวมือรางวัล หรือยูทูบเบอร์สายอาชญากรรมที่ช่องฮิตถล่มทลาย
“เก็บหลักฐานไปให้หมดนะ แก้วน้ำ น้ำในขวด กระปุกยา โทรศัพท์มือถือ เส้นผม และรอยนิ้วมือทั้งห้อง น่าเสียดายที่ตัดสายชาร์จกันกระจุยหมด แต่ไม่เป็นไร ตรวจลายนิ้วมือได้”
นายตำรวจที่มีลักษณะเป็นหัวหน้าทีม เดินมาหาภาคภูมิ
“คงต้องใช้เวลาในการเก็บหลักฐานอีกพักใหญ่นะครับ และผมคงต้องขอสอบปากคำผู้อยู่อาศัยในบ้านทั้งหมดด้วย อ้า แล้วที่ว่าคุณติดกล้องวงจรปิดไว้ทั้งบ้าน ชั้นบนคือมุมนั้นใช่ไหมครับ” เขาชี้ไปที่สุดเพดานมุมโถงห้อง พอเจ้าบ้านพยักหน้า เขาก็เรียกนายตำรวจหนุ่มเข้ามา
“เอก เดี๋ยวเช็กกล้องวงจรปิดด้วย เห็นว่ามีสี่ตัวทั้งบ้าน คุณภูมิจะนำไปดูจุดเองหรือเปล่าครับ”
ภาคภูมิพยักหน้าเซื่องซึม ท่าทางหมดเรี่ยวแรงราวกับจะล้มแผ่ได้ทุกเมื่อ กิ่งแก้วเข้าไปแตะแขนนายผู้ชายอย่างห่วงใย
“คุณภูมิไหวไหมคะ นั่งก่อนเถอะค่ะ ทำท่าเหมือนจะเป็นลม” เธอหันไปบอกนายตำรวจหนุ่ม “เดี๋ยวป้าพาไปดูกล้องเองค่ะ”
ภาคภูมิพยักหน้า ตำรวจหนุ่มน้อยยิ้มให้แม่บ้าน แล้วขยับเดินตามอย่างกระฉับกระเฉง กิ่งแก้วเดินนำไปทางหน้าบ้านอย่างใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ป้าร้องไห้แทบจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว” กิ่งแก้วแอบกระซิบ “โทรไปหาคุณเจ พี่สาวคุณเจิดน่ะค่ะ ได้ยินแต่เสียงร้องไห้ ป้าก็นึกว่าคุณเจิดตายแล้ว แต่คุณภูมิบอกว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ตกลงคุณเจิดเสียแล้วหรือยังคะ”
“เอ ผมก็ไม่ทราบอะไรมากนะครับ” สิบตำรวจโทเอกอวรรธ์เอ่ยเบาๆ “แต่คิดว่าคงยังอยู่ที่โรงพยาบาล ถ้าเสียชีวิตแล้ว โรงพยาบาลต้องแจ้งชันสูตรพลิกศพ เพราะเป็นการตายผิดธรรมชาติ แต่อันนี้คุณภาคภูมิเจ้าบ้านมาแจ้งความ เราก็ต้องมาสืบหาหลักฐานพยานให้สิ้นสงสัย ตามหน้าที่น่ะครับ”
“หมายความว่า” กิ่งแก้วตาโต “ตัวคุณเจิดมีอะไรผิดปกติใช่ไหมคะ คุณตำรวจเลยต้องมา”
สิบตำรวจโทเอกอวรรธ์ยิ้มอย่างใจเย็น ก่อนจะชี้มือไปที่กล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บริเวณเสาด้านในฝั่งลานจอดรถ
“ผมเห็นกล้องหน้าบ้านแล้ว แล้วมีตรงไหนอีกครับ”
“เอ้อ ก็มีหลังบ้าน ในบ้านชั้นล่าง กับชั้นบน รวมเป็นสี่ตัวค่ะ แต่คุณตำรวจคะ” กิ่งแก้วไม่ยอมแพ้ “ป้าเป็นห่วงคุณเจิดจริงๆ เลี้ยงเธอมาตั้งแต่อายุไม่กี่เดือน ไม่นึกเลยว่าเธอจะคิดสั้นแบบนี้ ตกลงเธอเป็นอย่างไรบ้างคะ”
เอกอวรรธ์ยิ้มเย็นตามเคย แล้วขอตัวไปสำรวจกล้องทั้ง 4 ตัว มีกิ่งแก้ว และคนที่กิ่งแก้วเป็นห่วง นั่นคือ เจิดจันทร์ในสภาพของวิญญาณ ลอยละล่องติดตามไปด้วย
อย่าว่าแต่ป้าแก้วเลย เจิดจันทร์คิด แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองมีสภาพเป็นอย่างไรกันแน่ พยายามตะแคงหูฟังคนพูดกันเท่าไร ก็ยังไม่ได้ความชัดเจน
เธอตายแล้วอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือแค่วิญญาณออกจากร่างชั่วคราว
ร่างของเธอตอนนี้อยู่ที่ไหน กับใคร ในสภาพอย่างไร พบอะไรผิดปกติหรือไม่
เธอยังมีหวังกลับเข้าร่างตัวเองได้ไหม ถ้าได้ต้องทำอย่างไร
หรือหากล่องลอยอยู่เฉยๆ ไปแบบนี้ จะมีเทวดาหรือยมบาลมารับเหมือนในหนังหรือเปล่า เจิดจันทร์พยายามทบทวนชีวิตตัวเองเร็วจี๋ แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ทำบาปอะไรร้ายแรงนัก แต่จะเรียกว่าเป็นคนดีบริสุทธิ์ผุดผ่องก็คงไม่ได้ อย่างไรเสียถ้านิสัยขี้เกียจและขี้น้อยใจอยู่ในหมวดกรรมชั่ว ก็หวั่นใจว่ายมทูตรายแรกที่มารับน่าจะมาจากนรกเสียมากกว่า
หญิงสาวรู้สึกหวาดสยองขึ้นมาฉับพลัน ถ้าจู่ๆ มีท่านยมบาลหน้าดุร่างใหญ่มาฉุดกระชากเธอไปรับกรรมในกระทะทองแดง เธอจะหนีไปทางไหนหรือขอความช่วยเหลือจากใครได้เล่า
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 10 : สืบอลหม่าน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 9 : และแล้ววิญญาณ...ก็อลเวง
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 8 : วันวิกฤต
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 7 : คำอำลา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 6 : เราสองสามคน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 5 : เซอร์ไพรส์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 4 : ฟางเส้นสุดท้าย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 3 : ความกดดัน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 2 : คนแรกของหัวใจ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 1 : เจิดจันทร์