ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 17 : หลักฐาน

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 17 : หลักฐาน

โดย : เอมอักษร

Loading

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที

หมูยอลืมตาโพลง กระเด้งจากพนักขึ้นมานั่งตัวตรง ทันทีที่สติกลับมาที่ตัว หญิงสาวบอกได้ทันทีว่านั่นคือเสียงของเพื่อนสนิทที่อาการโคม่าอยู่โรงพยาบาล

มันชัดเจนเหมือนเจิดจันทร์เรียกอยู่ข้างตัว และดังเกินกว่าจะคิดว่าเธอจินตนาการไปเอง

หญิงสาวขนลุกซู่ เหลียวซ้ายแลขวาอย่างระแวง แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิท แต่เรื่องของภูตผีปีศาจไม่เข้าใครออกใคร หมูยอผลุนผลันลงจากรถ ด้วยเกรงว่าหากหันไปเห็นกระจก จะสบตากับภาพบางอย่างที่เธอยังทำใจรับไม่ได้

หญิงสาวร่างท้วมย้ายร่างของตัวเองไปนั่งใต้ต้นไม้ริมกำแพงรั้ว วินาทีนี้ไม่สนแล้วว่าตาฝรั่งนั่นจะออกมาส่งภาษาไล่เธอหรือไม่ แม้จะห่วงเพื่อนแค่ไหน แต่หมูยอก็ตัดสินใจว่าประสาทของเธอยังบอบบางและอ่อนหัดเกินกว่าจะเผชิญกับผีสางตัวเป็นๆ เธอยกมือขึ้นพนม หลับตาปี๋ แล้วท่องบทสวดเดียวที่พอจำได้

“นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุธธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุธธัสสะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต โอย กี่รอบแล้ววะเนี่ย” หมูยอพึมพำเสียงสั่น “เจิด ฉันไม่รู้นะว่าตอนนี้แกเป็นไงบ้าง แต่ถ้าแกจะมาฉันด้วยเรื่องอะไรก็ตามแต่ ขอให้แกมาแบบเบาๆ สวยๆ นะเพื่อน แล้วบอกให้รู้ล่วงหน้าด้วยว่าจะมา อย่าโผล่มาแบบชัตเตอร์นะ ไม่งั้นฉันช็อกตายแน่ๆ อ้อ คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองลูกอีกทางด้วยนะคะ อย่าให้ลูกตกใจมากเกินไปนะคะ ซ๊าธุ”

หญิงสาวไหว้ปลกๆ สามครั้ง ยกมือท่วมศีรษะ แล้วลืมตามอง

แล้วเธอก็เห็น อย่างไม่ทันตั้งตัว…ดวงตาสีดำสนิทแวววาวจ้องมองเธอกลับจากบนยอดไม้ คราวนี้ไม่มีอะไรหยุดหมูยอได้ หญิงสาวลุกพรวด กรี๊ดลั่นไปทั้งถนน

ฝรั่งเจ้าของบ้านวิ่งหน้าตาตื่นออกมา มองหญิงสาวที่ยืนเอามือปิดหน้าซอยเท้าเร่าๆ อย่างตกใจ

“Hey you!! What’ s happen? Anything wrong?”

หมูยอชี้มือไปยังยอดไม้ที่รกครึ้ม มือสั่นระริก ขณะพูดแทบไม่เป็นภาษา “โก๊ด โก๊ด ใช่มั้ยๆ มีโก๊ดอยู่ตรงนั้นใช่มั้ย”

ชายหนุ่มกวาดตาสีฟ้าใสมองไปทั่วตามมือที่ชี้ พอเดาออกว่าหญิงสาวพูดถึง ghost หรือผี แต่มองแล้วมองอีกก็ไม่เจออะไร นอกจาก…

เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนสะกิดหมูยอ

“You mean that thing, not a ghost. It’s a security camera. I put it there because I will collect pictures of birds.”

หมูยอยังคงปิดหน้าเพราะฟังไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มจึงต้องเขย่าแขนแรงๆ ชี้ให้ดูกล้องวงจรปิดอันจิ๋วสีดำสนิทที่มีเลนส์สะท้อนแวววาวคล้ายดวงตา พลางพูดซ้ำ “camera camera”

หมูยอหรี่ตามองอย่างหวาดๆ แต่พอตั้งสติได้ก็เห็นเป็นกล้องที่ติดอย่างแนบเนียนจริงดังชายหนุ่มว่า หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ ค้อนขวับอย่างไม่สบอารมณ์

“บ้า บ้ามากๆ มาติดอะไรตรงนี้ ฝรั่งบ้า”

ชายหนุ่มผมทองยังยืนยิ้มแฉ่งตามเคย เขายกมือโบกให้หญิงสาว ก่อนแนะนำตัว “My name is Jamie. What’s your name?”

ประโยคนี้หมูยอพอฟังออก แต่อารมณ์หงุดหงิดทำให้ไม่อยากตอบ กำลังจะหันหลังเดินกลับไปที่รถ  แต่จู่ๆ บางอย่างก็แวบเข้ามาในสมอง

กล้อง…

ที่เธอได้ยินตำรวจคนนั้นพูด เขาว่าอะไรนะ หากล้องวงจรปิดจากบ้านใกล้เคียงไม่ได้เลย

หมูยอหันกลับไปมองกล้องที่ซุกอยู่บนยอดไม้ ตำแหน่งของมันอยู่เยื้องกับหน้าบ้านเจิดจันทร์พอดี

“โผมชือเจมี คูนชือรายคับ” หนุ่มผมทองไม่ยอมแพ้ คราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นส่งภาษาไทยแปร่งๆ หมูยอมองเขานิดหนึ่งอย่างชั่งใจ ก่อนตัดสินใจพูดชัดถ้อยชัดคำ

“หมูยอ”

เจมีพึมพำออกเสียงตาม “มูยอ” แล้วก็ส่งยิ้มกว้างขวางให้อีก “You’re friends with the girl who lives in this house, right? I’ve seen you.”

หมูยอส่ายหน้าทำนองว่าฟังไม่รู้เรื่อง เวลาเจอฝรั่งตัวเป็นๆ ทีไร สติกับความรู้ภาษาอังกฤษที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาลบินหนีหายไปหมดทุกที อาจเพราะเธอเคยเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับภาษาต่างชาติ นับตั้งแต่โดนเพื่อนล้อสำเนียงการออกเสียง ไปจนกระทั่งพยายามพูดกับฝรั่งแล้วถูกเมิน จนเธอฝังใจว่าภาษาอังกฤษมันช่างยากเย็นเหลือเกิน แถมเจ้าของภาษายังหยิ่งและดูแคลนคนที่พูดภาษาเดียวกับเขาไม่ได้เสียอีก

แต่คราวนี้…หมูยอถอนใจเฮือกโต…สิ่งที่เธอสนใจดันเป็นสมบัติของผู้ชายผมทองคนนี้ ถ้าเธอจะ “หนี” เหมือนทุกครั้งที่เจอชาวต่างชาติ เธออาจพลาดเบาะแสสำคัญที่พอจะช่วยเพื่อนสนิทได้

หรือไปบอกตำรวจดี ให้ตำรวจจัดการดีกว่า แต่จะช้าไปไหม เผื่อเมมโมรี่ในกล้องมันลบทุกวันล่ะ… หญิงสาวลังเล จะอ้าปากพูดก็นึกคำศัพท์ไม่ออก ผมสีทองกับตาสีฟ้านี่เหมือนของแสลงสำหรับเธอ พอเจอเข้าครั้งใด ก็มีอาการอึดอัดหายใจไม่ออกทุกที

หญิงสาวล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา นึกได้ว่ามีโปรแกรมแปลภาษาในกูเกิล ถ้าคุยเองไม่ได้ ก็ให้พี่กูคุยให้แล้วกัน แต่แล้วก็ต้องจุปากอย่างหัวเสีย เพราะอินเทอร์เน็ตของเธอดันหมดพอดี

“มูยอ” ชายหนุ่มชี้มือมายังคู่สนทนาที่ทำหน้ายุ่ง พยายามพูดช้าที่สุด “ยู อาร์ เฟรนด์ วิธ…” แล้วชี้มือไปในบ้านของเจิดจันทร์

หญิงสาวตะแคงหูฟัง แล้วเดาว่าเขาหมายถึงเธอเป็นเพื่อนของเจิดจันทร์ เลยพยักหน้า ชายหนุ่มยิ่งยิ้มแป้น “I’ve seen you.”

เอาวะ หมูยอตัดสินใจ เอาแบบนี้ก็ได้ ลองงัดคำศัพท์อนุบาลมาผสมกับภาษามือ มันคงพอสื่อสารกันได้มั่งล่ะ แล้วอีกอย่าง ตาฝรั่งคนนี้ก็ดูไม่น่ากลัวเท่าไร ยังพยายามพูดภาษาไทยงูๆ ปลาๆ บ้าง ถือว่าทำเพื่อยัยเจิดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเกิดโชคร้าย เพื่อนมีอันเป็นไป เธอจะได้ไม่เสียใจที่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเจิดจันทร์แล้ว

“มาย เฟรนด์” หมูยอชี้มือไปในบ้านเจิดจันทร์ “เนม เจิด”

เจมีพยักหน้าหงึกๆ ก่อนออกเสียงชัดเจน “เจิด-จัน”

หมูยอชะงัก มองใบหน้าขาวตรงหน้าอย่างคาดไม่ถึง “โห รู้จักชื่อเจิดด้วย ใช่แล้ว เยส เยส เนม เจิดจันทร์”

เจมียิ้มร่าเริง พ่นภาษาอังกฤษเป็นไฟอีกระลอก “She’s so beautiful, I’ve been peeking at her often, it’s hard to get to know her, because when she see me, she’s always running away”

เจมีมองใบหน้าเหลอหลาของหมูยอ แล้วพยายามพูดใหม่อย่างไม่มั่นใจนัก “She’s so beautiful…ส่วย… นะคับ”

หมูยอเบิกตาโต ฝรั่งคนนี้ชมว่าเจิดจันทร์สวย หญิงสาวอดใจพองฟูแทนเพื่อนสาวไม่ได้ เพราะตั้งแต่คบกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินคนชมรูปร่างหน้าตาของเจิดจันทร์ แถมคนชมคือฝรั่งหน้าตาดีซะด้วย ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเจิดจันทร์มาได้ยินด้วยตัวเองจะกรี๊ดลั่นแค่ไหน

แต่เพื่อความมั่นใจ เพราะลูกสาวบ้านนี้ยังมีอีกสองคน แถมสวยระดับดารากับแอร์โฮสเตส หมูยอเลยควักมือถือมาเลื่อนเปิดภาพในแกลเลอรีให้อีกฝ่ายดู ชี้ไปที่รูปเจิดจันทร์ยิ้มสดใสคู่กับเธอ

เจมีพยักหน้าหงึกๆ เป็นทำนองว่าใช่ แล้วตั้งคำถามใหม่ “Where is she today? Why not with you?”

หมูยอฟังออก แต่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรว่าเจิดจันทร์ประสบเหตุร้ายแรงอยู่ที่โรงพยาบาล ยิ่งพูดเดี๋ยวยิ่งสับสนไปกันใหญ่ เลยตัดสินใจชี้ไปสิ่งที่เธอต้องการ

“คาเมรา ไอ ว้อน คาเมรา ออฟ ยู”

“Security camera? Why?” ฝรั่งหนุ่มทำท่าสงสัยหนัก

หมูยออยากจะทึ้งศีรษะตนเอง นึกโกรธตัวเองที่ไม่ยอมตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่เล็ก เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานที่พึ่งมือถือไม่ได้ขึ้นมา เธอก็เหมือนคนเป็นใบ้ดีๆ นี่เอง

“โอ๊ย จะบอกไงดีวะ คือ…ยู เอ่อ เจมี่ ไอ ว้อน ทู เฮ้ลป์ เจิดจันทร์ น่ะ”

“Help เจิดจัน” ชายหนุ่มทวนคำเบาๆ สีหน้ายังสงสัยไม่คลาย “What happened to her?”

หมูยอขมวดคิ้วยุ่ง พยายามนึกศัพท์สุดชีวิต แล้วโพล่งออกมาด้วยคำเดียวที่นึกออก

“เจิดจันทร์ เดด” หมูยอทำท่าคอหักพับประกอบ “ยู โนว์…เดด…ชี เดด”

ครางนี้ฝรั่งหนุ่มอ้าปากค้าง สีหน้าตื่นตะลึง “You mean she’s dead? Really? Oh, my god!”

 



Don`t copy text!