
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 24 : ภาพปริศนา
โดย : เอมอักษร
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที
“โอ๊ย ตกใจหมด” หญิงสาวร่างท้วมโวยวาย ขณะผลักร่างสูงใหญ่ที่ยืนตระหง่านเงื้อมแทบจะติดแผ่นหลัง “ถอยไปหน่อยเจมี่”
แต่อีกฝ่ายไม่ขยับ สายตาเขม้นมองไปที่หน้าจอตาไม่กระพริบ “I can’t believe! there really was something wrong there.”
“ใช่มะ” หมูยอต่อคำ พอเดาได้ว่าชายหนุ่มคงประหลาดใจกับภาพตรงหน้า “ฟลุกสุดๆ ฟลุค ยูโน๊ เจมี ฉันนี่มันอัจฉริยะมากเลย มันวินาทีเดียวเองนะเนี่ย”
เจมีขยับไปนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์แทน สาละวนปรับการตั้งค่าอีกครู่ใหญ่ ก่อนภาพนั้นจะเล่นซ้ำอีกครั้ง ในแบบที่ช้าและดึงภาพเข้ามาใกล้ขึ้น
ภาพนั้นอยู่เกือบสุดขอบซ้ายของกล้อง เป็นกำแพงด้านข้างบ้านของเจิดจันทร์ที่เห็นเพียงเสี้ยวเล็กๆ เท่านั้น มิหนำซ้ำความมืดยังทำให้มองอะไรแทบไม่เห็น แต่การปรับสีและความเร็ว ทำให้มีบางอย่างปรากฏขึ้นมาในจอแวบหนึ่ง นั่นคือก้อนสีดำหล่นผลุบเข้ามาในเขตบ้าน
เจมีซูมเข้าไปใกล้อีก แต่ภาพแตกจนมองรายละเอียดเพิ่มเติมไม่ออกแล้ว
“โพลิส” หมูยอชี้มือไปที่เงาดำนั้น “เราต้องแจ้งโพลิส นี่เป็นหลักฐานสำคัญเลย ว่ามีคนเข้ามาในบ้านเจิดกลางดึก อาจจะเป็นคนร้ายก็ได้”
เจมีเอียงคอมองอย่างพิจารณา เปิดเล่นภาพซ้ำจุดเดิมอีกหลายครั้ง ขมวดคิ้วยุ่ง
“I’m not sure. It might be an animal or something…maybe fruit?”
หมูยอจ้องหน้า ชายหนุ่มจึงพูดศัพท์ที่พอนึกออก “แมว…มั้ย”
“โอ๊ย แมวอะไรตัวใหญ่ขนาดนี้” หมูยอกางแขนกว้าง แต่เมื่อเจมี่ปรับภาพให้อยู่ในโหมดปกติ หญิงสาวก็เริ่มไม่แน่ใจ เพราะภาพนั้นเบลอและไกลเกินกว่าจะจำแนกรูปพรรณสัณฐานได้ถูก
“เอางี้ ยูก๊อบปี้ไฟล์ให้ไอก่อน” หมูยอบอก “ไอต้องรีบโกโฮมแล้ว”
ชายหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ควานหาทัมบ์ไดรฟ์จากกล่องเล็กๆ บนโต๊ะ ก่อนจะคัดลอกไฟล์ลงบนอุปกรณ์
“How are we going to do next? ทำ-อะราย-ต่อ-คับ”
หมูยอบอกอย่างมั่นใจ “ก็โกทูโพลิสไง”
เจมีถอนหายใจ หันไปกดทรานสเลทในโทรศัพท์เพื่อบอกว่าเขาจะไปพบตำรวจกับเธอด้วย เพื่อช่วยกันเล่าเหตุการณ์ แต่ก่อนอื่นเขาอยากมั่นใจก่อนว่า ภาพเงาดำที่เห็นเพียงเสี้ยววินาทีนั้น เป็นสิ่งผิดปกติจริงๆ ไม่ใช่สัตว์หรือสิ่งของที่หล่นมาโดยบังเอิญ
หมูยอนิ่งคิดนิดหนึ่ง อันที่จริงหญิงสาวก็ไม่อยากไปพบตำรวจเพียงลำพังเหมือนกัน เพราะการไปติดต่อราชการด้วยเหตุฆาตกรรมมันใช่เรื่องง่ายที่ไหน ดีไม่ดีคนแจ้งนั่นแหละจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเสียเอง การที่เจมีอาสาไปด้วยนับว่าช่วยให้อุ่นใจขึ้นอีกเล็กน้อย แม้จะยังหวั่นๆ เรื่องการส่งภาษา แต่บัดนี้ ความคุ้นเคยและน้ำใจของชายหนุ่ม ก็เริ่มละลายอาการกลัวฝรั่งของหญิงสาวไปได้ทีละนิด
เจมีเดินมาส่งหญิงสาวที่หน้าบ้าน ทั้งคู่แลกเบอร์โทรศัพท์กัน และตกลงว่าต่างคนต่างไปดูภาพอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ แล้วค่อยนัดกันไปแจ้งตำรวจ
“แต๊งยูเวรี่มัช เจมี” หมูยอขอบใจชายหนุ่มอย่างปลอดโปร่งใจขึ้นเล็กน้อย ซึ่งได้รับรอยยิ้มร่าตอบกลับมาจากอีกฝ่ายตามเคย
“ยินดี-คับ”
หมูยอโบกมืออำลาก่อนก้าวขึ้นรถ เจมี่รอดูว่าหญิงสาวสตาร์ตรถได้อย่างเรียบร้อย จึงหันหลังกลับเข้าบ้าน
หมูยอขยับจะเคลื่อนรถ ก็พอดีกับที่รถที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามเบนหัวออกมาพร้อมกัน
“อ้าว” เจ้าของรถชะโงกหน้าออกมามอง แล้วก็ยิ้มให้หญิงสาวอย่างคุ้นหน้า “หมูยอใช่ไหมครับ”
หญิงสาวเขม้นมอง แล้วนึกออกแทบในทันทีว่าคือเขาคือชายหนุ่มที่เพื่อนสนิทของเธอพร่ำเพ้อถึงอยู่นานนับปีแล้ว หมูยอมีโอกาสได้พบกับปรีเมธอยู่สามสี่ครั้ง ตอนมาค้างกับเจิดจันทร์ที่บ้าน ด้วยใบหน้าหล่อคม บวกกับความสุภาพและอารมณ์ดีของเขา ทำให้หมูยอเข้าใจว่าทำไมเพื่อนสนิทของเธอจึงคลั่งไคล้ชายหนุ่มผู้นี้ยิ่งนัก
หมูยอก็ทำตนเป็นเพื่อนที่ดี โดยการเชียร์คู่นี้ทั้งต่อหน้าและลับหลังมาตลอด แม้จะสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจณิสตาเหมือนกัน แต่เจิดจันทร์ก็ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่ใช่แฟน แถมระยะหลังๆ ฝ่ายชายยังมีทีท่าใส่ใจเจิดจันทร์มากเป็นพิเศษอีกด้วย
“สวัสดีค่ะปรี” หมูยอเบรกรถพรืด ขณะปรีเมธก้าวลงจากรถ เดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวเดาว่าเขามีเรื่องจะคุย เลยขยับจอดรถให้เรียบร้อย แล้วเดินลงมาบ้าง
“หมูยอรู้เรื่องเจิดแล้วใช่ไหมฮะ”
หมูยอมองสีหน้าสลดลึกซึ้งของอีกฝ่าย อดคิดไม่ได้ว่า หรือชายหนุ่มผู้นี้จะมีใจให้เพื่อนสาวของเธอจริงๆ ถ้าเป็นแบบนั้น หมูยอก็ยิ่งเศร้าแทนเพื่อนมากขึ้น เพราะหากเจิดจันทร์ยังอยู่ ก็จะได้ลิ้มรสความสุขจากการสมหวังในรักเป็นครั้งแรกแล้ว
เจิดเอ๊ย หมูยอส่งความคำนึงถึงเพื่อน ฉันอยากให้แกอยู่ตรงนี้จัง แกจะได้รู้ว่ารอบตัวยังมีความรักให้แกอีกมาก ใครๆ ก็รักแกกันทั้งนั้น รีบฟื้นขึ้นมาเถอะนะ ความสุขรอแกอยู่ตรงหน้านี้เอง
คำพูดอันกลั่นจากใจบริสุทธิ์นั้น ล่องลอยไปสู่ผู้ที่หมูยอส่งกระแสจิตถึง เจิดจันทร์สะดุ้งน้อยๆ รับรู้คำพูดนั้นเหมือนสายลมที่พัดมาแผ่วเบา หญิงสาวตื่นจากอาการช็อกนิ่ง ลุกขึ้นยืนอย่างมึนงง ก่อนชะเง้อมองไปรอบๆ เพื่อหาเจ้าของกระแสความคิดนั้น
และเมื่อมองไปที่หน้าบ้าน ก็พบว่าเพื่อนของเธอกำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายที่ทำให้เธอใจสลาย
เจิดจันทร์ตะโกนเรียกเพื่อน ก่อนปราดไปที่รั้วทันที มีปู่ไกรตามหลังไปติดๆ อย่างเป็นห่วง
“เรารู้เรื่องเจิดแล้วค่ะ วันนี้ก็เอาเอกสารมาให้คุณพ่อ” หมูยอสีหน้าสลดไม่แพ้กัน “เดี๋ยวจะแวะไปที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้าน ปรีไปมาแล้วหรือยังคะ”
ปรีเมธส่ายหน้า “ยังเลยครับ พอรู้ข่าวก็ทำอะไรไม่ถูก เลยรีบมาที่บ้านเจิดก่อน” ชายหนุ่มมองไปที่บ้านของเจมีอย่างฉงนนิดๆ “แต่เมื่อกี้ผมเห็นหมูยอออกมาจากบ้านหลังนี้ บ้านใครเหรอครับ เหมือนจะเป็นฝรั่ง เพื่อนเจิดหรือเปล่า”
“อ๋อ ไม่ใช่หรอกค่ะ เพื่อนบ้านน่ะค่ะ พอดี…มีอะไรให้เขาช่วยนิดหน่อย”
“เรื่องเกี่ยวกับเจิดหรือเปล่า ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ก็ยินดีนะครับหมูยอ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว”
หมูยออ้ำอึ้ง ใจหนึ่งก็ไม่อยากแพร่งพรายให้คนอื่นรู้เรื่องภาพในกล้อง เพราะถ้าเงาปริศนาที่เห็นเป็นผู้ร้ายจริง ก็นับว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ แต่อีกใจก็อยากให้ปรีเมธช่วยอีกแรง เพราะเห็นใจที่เขาเป็นห่วงเพื่อนของเธอ และแอบเห็นใจตัวเองด้วย ที่ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ สลับกับเปิดแอปพลิเคชันจนเหนื่อยอ่อนกันทั้งเธอและเจมี่ ถ้าได้ปรีเมธมาร่วมวงอีกคน เขาอาจพูดคุยกับฝรั่งหนุ่มได้เรื่องได้ราวมากกว่านี้ หรือให้คำปรึกษาที่ดีในการไปพบตำรวจ
“อย่า!” เจิดจันทร์ตะโกนก้อง “อย่าเชื่อมันนะหมูยอ”
ปรีเมธมองหญิงสาวที่ยืนอ้ำอึ้ง รู้ทันทีว่ามีเรื่องผิดปกติ จึงยิ้มละไมพร้อมทอดเสียงนุ่มอย่างที่เคยได้ผลกับเพศตรงข้ามแทบทุกคนมาแล้ว
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเจิดหรือเรื่องหมูยอ ผมก็ยินดีช่วยนะครับ” ชายหนุ่มลดเสียงเศร้า “ยิ่งถ้าเป็นเรื่องของเจิด ผมยิ่งเต็มใจที่จะช่วยทุกอย่าง ขอให้ผมได้มีโอกาสทำอะไรเพื่อเจิดบ้าง เล็กน้อยแค่ไหนก็ยังดี”
“หมูย๊ออ อย่าเชื่อมัน กลับบ้านไป๊” เจิดจันทร์ตะโกนเสียงแหบเสียงแห้ง
“ยัยเจิด” ปู่ไกรเข้ามาเรียกหลานสาว “ทำสมาธิสิหลาน เพ่งความคิดไปหาเพื่อน อย่าว่อกแว่ก”
เจิดจันทร์นึกขึ้นได้ หญิงสาวสูดหายใจเต็มแรง เพ่งไปที่เพื่อนสาว ก่อนท่องซ้ำไปมา “กลับบ้านไป หมูยอ กลับบ้านไป”
“คือ…” หมูยอเอ่ยอย่างลังเล “คือบ้านฝรั่งเขามีกล้องวงจรปิดค่ะ ติดอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นนี้แหละ แล้วกล้องมันหันหน้าไปทางบ้านเจิด”
เจิดจันทร์ชะงักกึกเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เบิกตาโตอย่างคาดไม่ถึง หัวใจเต้นเร็วโลดขึ้นมาทันที
เช่นเดียวกับปรีเมธ เขาชะงักทันควัน เมื่อได้ยินคำว่า ‘กล้องวงจรปิด’
“โอ้ บังเอิญมากเลย แล้วยังไงต่อครับ”
“ทีนี้…หมูยอเลยไปขอเขาดูภาพในกล้องตั้งแต่เมื่อวานค่ะ ตั้งแต่เจิดกลับมาบ้านตอนบ่าย ก็ดูไปเรื่อยๆ แต่มันมองอะไรไม่ค่อยชัดหรอกค่ะ กล้องมุมสูง เห็นต้นไม้กับนกเป็นส่วนใหญ่ เห็นหน้าบ้านเจิดแค่นิดเดียวเอง” หมูยอพยายามเรียบเรียงคำพูด
“แล้วไงครับ เจออะไรไหม” ชายหนุ่มถามทันที ดวงตาเป็นประกาย
หมูยอพยักหน้า ล้วงทัมบ์ไดรฟ์อันเล็กออกมาให้ชู ขณะที่เจิดจันทร์ตื่นเต้นแทบจะกลั้นหายใจตายอีกรอบ “เจอค่ะ…แต่มันแค่วินาทีเดียวเองนะคะ เหมือน…ภาพคน หรืออะไรสักอย่างโดดผ่านรั้วบ้านเจิดมากลางดึก”
ปรีเมธเลิกคิ้ว “กี่โมงครับ”
“ก็ดึกมากแล้วค่ะ ประมาณตีสาม”
หญิงสาวถอนหายใจ “เอาจริงๆ ก็…ภาพมันไม่ชัดน่ะค่ะปรี แล้วมันก็เห็นแวบเดียวเอง เจมี หมายถึงฝรั่งเจ้าของบ้านนี้ เขาก็บอกเหมือนกันว่ามันอาจเป็นสัตว์หรือของอะไรหล่นมาก็ได้”
หมูยอนิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนตัดสินใจถามชายหนุ่มที่ยืนขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด “ปรีว่า หมูยอเอาไฟล์ไปให้ตำรวจเลยดีไหมคะ”
ปรีเมธเม้มริมฝีปาก สีหน้าจริงจัง “ใจเย็นก่อนนะครับหมูยอ เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่นะ เราต้องแน่ใจก่อนว่าอะไรเป็นอะไร ดีไม่ดีเดี๋ยวโดนข้อหายื่นหลักฐานเท็จ หรือก่อกวนการสืบพยานหลักฐานละแย่เลย ผมมีเพื่อนเป็นตำรวจหลายคน พอรู้กระบวนการอยู่บ้างครับ เลยไม่อยากให้หมูยอทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า”
หมูยอถอนใจ นั่นไง โชคดีจริงๆ ที่ตัดสินใจปรึกษาปรีเมธเสียก่อน นี่ถ้าลำพังตัวเธอกับเจมี อาจจูงกันไปสร้างเรื่องโกลาหลที่โรงพักก็เป็นได้
“จริงด้วยค่ะ งั้นควรทำยังไงดีคะปรี”
“เราต้องรอบคอบหน่อยครับ ให้รู้ว่าเป็นภาพอะไรก่อนถึงไปแจ้งตำรวจ อ้อ” ชายหนุ่มดีดนิ้ว “ผมมีโปรแกรมแต่งภาพอยู่ แบบที่ใช้ในงานโปรดักชันเลย น่าจะช่วยปรับไฟล์ภาพให้ชัดขึ้นได้”
ชายหนุ่มเอื้อมไปดึงทัมบ์ไดรฟ์จากมือหญิงสาว
“เอางี้ เดี๋ยวผมเอาไฟล์ไปจัดการให้เอง ร้อนใจเหมือนกัน ถ้าได้เรื่องยังไง จะได้ไปหาตำรวจกันพรุ่งนี้เลย”
หมูยอเบิกตาโต ทั้งดีใจที่ปรีเมธยื่นมือเข้ามาช่วยแก้ปัญหา ทั้งตกใจกับการตัดสินใจฉับพลันของเขา แต่จะแย้งก็ยังนึกไม่ออกว่าจะพูดอะไร
“เอ เอางั้นเหรอคะ” หมูยอมองทัมบ์ไดรฟ์ที่เปลี่ยนไปอยู่ในมือของชายหนุ่มอย่างงงๆ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 25 : นรกหลังความตาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 24 : ภาพปริศนา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 23 : ธาตุแท้
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 22 : พี่ชายที่รัก
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 21 : เจนนินทร์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 20 : ภาพสำคัญ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 19 : วิชา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 18 : เจณิสตา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 17 : หลักฐาน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 16 : ด้วยแรงสมาธิ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 15 : เฮี้ยน!
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 14 : เงื่อนงำ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 13 : เพื่อน (คน) ตาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 12 : ปู่ไกร
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 11 : เสียงที่คุ้นเคย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 10 : สืบอลหม่าน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 9 : และแล้ววิญญาณ...ก็อลเวง
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 8 : วันวิกฤต
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 7 : คำอำลา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 6 : เราสองสามคน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 5 : เซอร์ไพรส์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 4 : ฟางเส้นสุดท้าย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 3 : ความกดดัน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 2 : คนแรกของหัวใจ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 1 : เจิดจันทร์