
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 32 : ทางแจ้งเกิด
โดย : เอมอักษร
![]()
ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที
“เจเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” ภาคภูมิเหลียวมามองลูกสาวที่นั่งเงียบกริบจนผิดสังเกต พอเห็นใบหน้าซีดเหมือนจะเป็นลม ก็ยิ่งนึกเสียใจที่ตนแสดงอารมณ์ร้ายให้ลูกเห็น
“พ่อ” หญิงสาวเรียกเสียงสั่น คำพูดถามไถ่ปลอบประโลมที่เตรียมไว้หายวับ สมองหมุนติ้ว มีแต่ภาพเปลือยของตนเองวิ่งอลวนอยู่ในหัว “พ่อคะ เจ…เจขอยืมเงินพ่อสักสองล้านได้ไหมคะ”
ภาคภูมิชะงัก เกือบจะนึกว่าตัวเองหูฝาด เพราะเป็นประโยคที่ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่าลูกสาวจะพูดขึ้น
“อะไรนะลูก”
“คือ…” หญิงสาวกลืนน้ำลาย “เจขอยืมเงินพ่อก่อนสองล้าน เจมีเรื่องต้องใช้ค่ะ ขอวันนี้เลย แล้วเดี๋ยวเจหามาคืนให้ค่ะพ่อ”
ภาคภูมิขมวดคิ้ว “เจจะเอาไปทำอะไรลูก ตั้งสองล้าน ซื้อรถใหม่หรือไง”
เจณิสตาพยายามหาข้ออ้างเหมาะๆ แต่เครียดจัดจนคิดอะไรไม่ออก ภาคภูมิได้แต่มองลูกสาวอย่างแปลกใจ ปกติลูกสาวคนโตเป็นเด็กมีความรับผิดชอบ ตั้งแต่เป็นแอร์โฮสเตสมีรายได้ดีก็ไม่เคยขอเงินทางบ้าน เว้นแต่เขาจะให้เองเป็นครั้งคราว แต่จำนวนก็ไม่เยอะขั้นหลักล้านขนาดนี้
ด้วยความรัก และรู้สึกผิดที่ตนเองกระทำรุนแรงภรรยาต่อหน้าลูก ทำให้ภาคภูมิตัดสินใจว่าจะไม่เคี่ยวเข็ญคำตอบ แต่จะหยิบยื่นเงินจำนวนสองล้านให้เดี๋ยวนี้ เขาก็จนปัญญา
“พ่อไม่ได้มีเงินสดขนาดนั้นลูก” ภาคภูมิพูดเสียงอ่อย “เจก็รู้ว่าบ้านเราค่าใช้จ่ายเยอะ พ่ออยากให้ทุกคนสบาย ก็ให้ใช้ได้ไม่อั้น เลยมีเงินสดเก็บไว้ไม่เท่าไหร่ นอกนั้นก็มีตึกแถวกับที่ดินของปู่…เออ เอางี้ได้ไหมล่ะ ถ้าเจไม่รีบ พ่อเอาตึกแถวไปจำนองก็ได้ แต่ก็ใช้เวลาหน่อยนะ ถ้าหนูจะซื้ออะไร พ่อว่ายังรอได้ ไม่งั้นก็มัดจำให้เขาไปก่อน ถ้าสองสามแสนพ่อหาให้ได้ แต่เยอะกว่านี้คงไม่ไหว พ่อต้องกันเงินไว้เป็นค่ารักษายัยเจิดด้วย”
หญิงสาวมองใบหน้าสลดของบิดา ก่อนจะโผเข้ากอดด้วยความรู้สึกหลากหลายท่วมท้นประดังเข้ามา
เธอพอรู้อยู่แล้วว่าบิดามีแต่ภาพลักษณ์โก้หรูแต่ไม่มีเงิน ด้วยความเป็นลูกคนโตที่ช่างสังเกต ทำให้เจณิสตาประเมินสถานะการเงินของครอบครัวได้ไม่พลาด แต่เธอก็ยังซาบซึ้งในความพยายามของเขา พร้อมกับแค้นใจตัวเองที่เผลอไผลตกเป็นเหยื่อของคนชั่ว เพราะความไว้ใจเพียงข้อเดียวแท้ๆ ที่ให้หญิงสาวที่เพียบพร้อมทุกอย่างต้องเข้ามุมอับอยู่ในขณะนี้
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อ งั้น…เดี๋ยวเจมาคุยกับพ่ออีกทีนะคะ พ่อไม่ต้องกลุ้มไปหรอกค่ะ” เจณิสตายิ้มให้บิดา ที่ยังมีท่าทางไม่สบายใจ “พ่อพักสักนิดเถอะค่ะ ไม่รู้ตำรวจจะมาตอนไหน ถ้าเขามาจะได้มีแรง”
หญิงสาวรีรอเมื่อเดินลงบันไดไปยังห้องรับแขก เจอมารดาเอนหลังพิงพนักน้ำตาซึม ความเจ็บปวดทวีขึ้นเมื่อรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังจะเธอถาม อาจทำให้เรืองรุจีเครียดหนักกว่าเดิม
แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก…
“แม่คะ” เจณิสตาจับแขนมารดา กระซิบเสียงแผ่ว “แม่เป็นยังไงบ้างคะ”
เรืองรุจีลืมตา ยิ้มให้ลูกสาวคนโตอย่างฝืนๆ “ไม่เป็นไรลูก ขอโทษนะที่ทำให้พวกหนูตกใจ”
“แม่” อีกฝ่ายอ้ำอึ้ง “ขอโทษนะคะที่พูดตอนนี้ แต่แม่พอมีให้เจยืมสักสองล้านไหมคะ เจมีเรื่องต้องใช้ แต่อย่าถามเลยค่ะว่าเรื่องอะไร เรื่องมันด่วนจริงๆ แต่เจจะหามาคืนแม่ไม่นานหรอกค่ะ”
เรืองรุจีมีสีหน้าประหลาดใจไม่ผิดกับภาคภูมิ ขยับจะซักถามลูกสาว แต่ก็เหนื่อยอ่อนขึ้นมากะทันหันกับสารพัดเหตุการณ์ที่ประดังประเด และในเมื่อเธอรู้แน่แก่ใจว่าไม่มีเงินจำนวนนั้นให้ลูก ความรู้สึกที่อัดอั้นมานาน ทำให้เรืองรุจีตัดสินใจพูดออกไปตรงๆ
“แม่ไม่มีเงินสดหรอกลูก พ่อเขาให้เงินเดือนแม่นิดเดียว แล้วแม่ต้องวิ่งจัดการอะไรสารพัด อย่างหนูเจนก็ค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งเสื้อผ้าทำผมทำหน้าสารพัด ค่าถ่ายละครยังแทบไม่เหลือเลย ต้องเอาเงินแม่ช่วยโปะด้วยซ้ำ” เรืองรุจีถอนใจเฮือก พอพูดแล้วก็ชักจะแค้นใจขึ้นมาอีก “แล้วทรัพย์สมบัติอะไรก็เป็นชื่อพ่อเขาหมด เขาถือว่าเป็นมรดก แม่ไม่เกี่ยว สรุปคือเขาเอาแม่มาเป็นคนรับใช้กับช่วยเลี้ยงลูกแท้ๆ มิหนำซ้ำยังมาทำให้แม่ช้ำใจอีก”
บ่นยืดยาวแล้วจึงหันไปบอกลูกสาว “เจไปขอพ่อหรือยังลูก ว่าแต่ต้องใช้อะไรทำไมมันมากมายขนาดนี้ ถ้าจะเอาที่แม่ ก็ต้องเอาเครื่องเพชรไปขายละ มีอยู่สองสามชุดคงได้ไม่เท่าไหร่ แต่เงินสดแม่ไม่มีหรอก”
เจณิสตานิ่ง ตัดใจสินอย่างหนักว่าจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มารดาฟังดีไหม ใจหนึ่งก็อยากสารภาพ เพื่อหาทางแก้ปํญหา แต่ใจหนึ่งก็อับอายจนพูดไม่ออก อีกทั้งก็เห็นแววแล้วว่า ต่อให้บิดามารดารู้ความจริงก็อาจช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อไม่มีเงินกันทั้งคู่
เรืองรุจียังคงมองลูกสาวคนโตด้วยแววตาสงสัยแกมกังวล แต่เพราะความกลัดกลุ้มเรื่องลูกสาวคนกลางยังค้ำที่อยู่คอหอย เรืองรุจีจึงพูดอะไรไม่ออกเมื่อเจณิสตาลุกเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
หญิงสาวเดินกลับไปที่ห้องนอน เหม่อลอยจนเกือบจะชนกับน้องสาวคนเล็กที่โผล่ออกมาขวางไว้ก่อนถึงห้อง
“พี่เจ จะเอาเงินไปใช้อะไรตั้งสองล้าน สถานการณ์ที่บ้านเป็นแบบนี้ พี่เจิดก็ยังไม่ฟื้น” เจนนินทร์เปิดฉากอย่างไม่อ้อมค้อม
เจณิสตาสะดุ้ง “เจนรู้ได้ไง”
“โอ๊ย มีอะไรในบ้านนี้ที่เป็นความลับมั่ง” เด็กสาวยักไหล่ ไม่ขยายต่อว่าตนเองแอบฟังพี่สาวสนทนากับมารดาทุกประโยค “จะเป็นความลับก็เรื่องพี่เจนี่แหละ ตอนเป็นแอร์ก็ได้รถใหม่ไปทั้งคันแล้ว พ่อก็ว่าจะผ่อนคอนโดแถวแอร์พอร์ตให้อีกห้องไม่ใช่เหรอ ยังมีเรื่องอะไรต้องใช้เงินอีก”
เจณิสตาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน มองแววตาขุ่นเขียวของน้องสาวแล้วคร้านจะอธิบาย เพราะถึงอย่างไรเธอก็พูดความจริงไม่ได้อยู่ดี
“แล้วยังไง พ่อแม่มีให้ที่ไหน” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง “เจอเจนก็ดีแล้ว พี่ขอเตือนหน่อยว่าอย่ายุ่งกับปรีเมธมาก บอกก่อนนะว่าไม่ใช่พี่หึงหวงอะไรเขา เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่พี่ว่า…เขามีอะไรแปลกๆ เราอย่าไปสนิทด้วยมากจะดีกว่า”
“แปลกตรงไหน” สาวน้อยตั้งคำถามทันที
“เขา…คบกับคนไม่ดี” เจณิสตาหมุนลูกบิดประตู ปวดหัวจี๊ดจนเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยง “เอาเป็นว่าอย่าไปยุ่งกับเขาแล้วกัน เขาโทรมาก็อย่าไปคุยด้วย”
“คนที่แปลกน่ะพี่” เจนนินทร์มองพี่สาวหัวจรดเท้า “พี่ได้ไปหมดทุกอย่างแล้วนะ เป็นลูกสาวคนโต พ่อแม่ก็รักพี่ที่สุด ทำงานดี มีหน้ามีตา มีคนดีๆ อย่างพี่ปรีคอยเอาใจ แต่พี่ดูไม่พอใจอะไรสักอย่าง คอยหาเรื่องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว เดี๋ยวก็ว่าพี่เจิด ไม่รู้พี่เจิดคิดสั้นเพราะพี่หรือเปล่า เดี๋ยวก็ขอเงินพ่อแม่ ใจคอพี่จะฮุบไว้หมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้เจนเลยเหรอไง”
เจณิสตาอ้าปากค้าง “พูดอะไรบ้าๆ น่ะเจน ฉันไม่เคยว่ายัยเจิดสักคำ มีแต่เป็นห่วง เธอเองก็เหมือนกัน ที่ฉันพูดเพราะหวังดี…”
เจนนินทร์ยิ้มหวาน แต่ดวงตาบอกแววที่เชื่อว่าตนเองรู้เท่าทัน “เจนเป็นดารานะพี่ เล่นละครมาไม่รู้กี่เรื่องแล้ว การเสแสร้งน่ะดูออกง่ายมากเลย…”
สาวน้อยเอียงคอมองพี่สาวที่ยืนตะลึง “ช่างเถอะ เจนไม่ยุ่งด้วยละ พี่คงไม่มีวันบอกเจนหรอก งั้นเจนก็ช่วยเหลือตัวเองดีกว่า”
เจนนินทร์สะบัดหน้า สาวเท้าวิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้พี่สาวยืนแข็งค้างอยู่ที่เดิม
เจิดจันทร์ยืนละล้าละลังระหว่างคนทั้งคู่ ในที่สุดก็ตัดสินใจลอยละล่องตามน้องสาว เห็นหลังไวๆ ของเจนนินทร์แอบหลบออกมาทางด้านหลังครัว เดินอย่างเงียบกริบลัดเลาะริมรั้วด้านข้าง พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์
“พี่ปรี” สาวน้อยเรียกอย่างดีใจ ขณะที่ร่างเงาโปร่งใสที่ตามติดอยู่สะดุ้งเฮือก “รับเร็วดีจัง เจนเองค่ะ ที่พี่ปรีว่ามีเพื่อนเป็นช่างภาพถ่ายรูปแฟชั่น ถ้านัดตอนนี้เลยสะดวกไหมคะ คือหลังจากนี้เจนมีคิวถ่ายทุกวัน น่าจะหาเวลายาก”
เจนนินทร์ถอนใจอย่างโล่งอก “จริงเหรอคะ ดีจัง งั้นเจนไปหาพี่ปรีที่คอนโดเลยนะคะ แต่เจนมีเวลาแป๊บเดียวนะคะ ถ่ายเซตสองเซตก่อนก็ได้”
เด็กสาวหย่อนโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง เหลียวซ้ายแลขวาก่อนผลักประตูเข้าออกเล็กๆ ด้านข้าง
“คุณหนูเจน” เสียงแหบพร่าเรียกจากด้านหลัง กิ่งแก้วยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าตื่น “คุณหนูจะไปไหนคะ”
“เจนออกไปธุระแป๊บเดียวค่ะ เดี๋ยวกลับมาทันแน่ๆ ฝากบอกแม่ด้วยนะคะ” เจนนินทร์มองใบหน้างงงวยของแม่บ้าน แล้วพูดอย่างนึกขึ้นได้ “อ้อ เดี๋ยวตำรวจจะมาที่บ้านค่ะป้าแก้ว คงมาคุยหาหลักฐานอะไรเพิ่มเติม แต่เดี๋ยวเจนมาค่ะ ไม่ต้องห่วง”
“ป้า ห้ามเจนไว้นะ” เจิดจันทร์กรีดร้องลั่น แต่ไม่ทันกับความฉับไวของเด็กสาว ที่ผลุบหายออกจากประตูอย่างรวดเร็ว
เจนนินทร์เดินแกมวิ่งอ้อมมาทางหน้าบ้าน อารามรีบร้อนจึงเกือบชนกับสองชายหญิงที่ยืนอยู่มุมรั้ว
ต่างฝ่ายต่างร้องอย่างตกใจ เจนนินทร์จึงเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทพี่สาวคนกลาง และฝรั่งร่างสูงโปร่งที่คลับคล้ายว่าอาศัยอยู่บ้านตรงข้าม
“อ้าว พี่หมูยอ มาทำอะไรตรงนี้คะ”
หมูยออ้ำอึ้ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรว่าเธอกังวลเรื่องคลิปภาพจนต้องย้อนกลับมาปรึกษาเจ้าของกล้องอีกครั้ง
นอกจากนี้ เธอยังเล่าให้ฝรั่งหนุ่มฟังถึงทัมบ์ไดรฟ์ที่ปรีเมธเอาไป พร้อมกับวิธีแต่งภาพที่ชายหนุ่มบอก เจมีฟังอย่างสงสัย จนต้องชวนกันออกมาเดินสำรวจริมกำแพงด้านข้างบ้านเจิดจันทร์ อันเป็นจุดที่เกิดภาพปริศนาในกล้อง
“เจนไปละค่ะ พอดีรีบไปธุระ” เจนนินทร์ตัดบทอย่างไม่รอคำตอบ สาวเท้าเดินลิ่วไปที่ป้อมยาม เพื่อให้ รปภ.เรียกแท็กซี่ให้ เด็กสาวกลัวมารดาจะสังเกตเห็นเธอเสียก่อน เพราะเรืองรุจีไม่มีวันเห็นด้วยที่เธอจะถ่ายภาพเซ็กซี่เพื่อเปลี่ยนลุค
แต่ยังไงก็ต้องลองดู ถึงไม่มั่นใจว่าผลตอบรับจะดังหรือดับ ก็ยังดีกว่าไม่ขยับตัวทำอะไรเลย ที่พี่อ๊บพูดไว้ก็ไม่เกินจริงหรอก เบื้องหลังวงการบันเทิงคือการแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย ขนาดเธออายุเพิ่งยี่สิบต้น แต่เพราะเข้าวงการมาตั้งแต่ยังเล็ก คนดูคุ้นหน้าจนไม่เหลือความตื่นเต้นสดใหม่อีกแล้ว
อีกอย่าง…เธอนึกหมั่นไส้พี่สาวขึ้นมาติดหมัด ปกติก็แอบอิจฉาลึกๆ มาตลอดอยู่แล้ว เพราะเจณิสตาเป็นลูกรักของพ่อ ข้าวของเงินทองก็ได้รับมากกว่าน้องๆ มิหนำซ้ำยังมีบอดีการ์ดที่จงรักภักดีอย่างปรีเมธคอยเอาอกเอาใจไม่ห่าง พอเห็นพี่สาวห้ามเรื่องชายหนุ่มดีนัก ก็อยากจะยั่วเล่นซะหน่อยว่าผู้ชายของพี่สาวก็สนใจเธอเช่นกัน

- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 39 : สิ่งล้ำค่า (จบบริบูรณ์)
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 38 : ปาฏิหาริย์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 37 : ภูมิคุ้มกัน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 36 : หลอน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 35 : ความหลังของกิ่งแก้ว
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 34 : แผนผีสิง
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 33 : รวมพลัง
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 32 : ทางแจ้งเกิด
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 31 : เส้นตาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 30 : หลานชาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 29 : เรื่องเล่าของปู่ไกร
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 28 : จิตอาฆาต
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 27 : หยุดที่...ลมหายใจ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 26 : โอกาสสุดท้าย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 25 : นรกหลังความตาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 24 : ภาพปริศนา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 23 : ธาตุแท้
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 22 : พี่ชายที่รัก
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 21 : เจนนินทร์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 20 : ภาพสำคัญ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 19 : วิชา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 18 : เจณิสตา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 17 : หลักฐาน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 16 : ด้วยแรงสมาธิ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 15 : เฮี้ยน!
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 14 : เงื่อนงำ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 13 : เพื่อน (คน) ตาย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 12 : ปู่ไกร
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 11 : เสียงที่คุ้นเคย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 10 : สืบอลหม่าน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 9 : และแล้ววิญญาณ...ก็อลเวง
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 8 : วันวิกฤต
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 7 : คำอำลา
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 6 : เราสองสามคน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 5 : เซอร์ไพรส์
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 4 : ฟางเส้นสุดท้าย
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 3 : ความกดดัน
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 2 : คนแรกของหัวใจ
- READ ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 1 : เจิดจันทร์







