ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 33 : รวมพลัง

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง บทที่ 33 : รวมพลัง

โดย : เอมอักษร

Loading

ฆาตกรรมอลหม่าน วิญญาณอลเวง นวนิยายรางวัลรองชนะเลิศกับนิยายดราม่าคอเมดี้จากโครงการอ่านเอาก้าวแรก ปี 5 โดย เอมอักษร เรื่องราววุ่นๆ ของหญิงสาวที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายทุกด้านจนขอฆ่าตัวตายเพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่ไหงแค่นอนหลับไปวิญญาณก็ออกจากร่าง เธอจึงต้องลุกขึ้นมาหาวิธีกลับเข้าร่าง หาฆาตกรให้ทันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที

เจิดจันทร์ยืนกระสับกระส่ายอยู่ริมรั้ว พอเดาได้ไม่ยากว่าเจนนินทร์ต้องเจอกับชะตากรรมแบบใด แต่ก็ยังหาทางผ่านรั้วออกไปไม่ได้ เพราะเพียงแค่เข้าใกล้ ก็เหมือนมีรังสีน้ำกรดแผดเผาจนปวดแสบปวดร้อนไปทั่ว

“ยัยเจิด” เสียงปู่ไกรล่องลอยมาเข้าหู หากไม่หลงเหลือร่างให้เห็น “ยัยเจกำลังจะฆ่าตัวตาย มันหยิบคัตเตอร์ขึ้นมาอีกแล้ว”

เจิดจันทร์เข่าอ่อนยวบ รู้สึกขึ้นมาฉับพลันว่า ถ้าโลกถล่มมาตรงหน้าเสียเลยคงดีกว่า เพราะตอนนี้สมองของเธอตึงเครียดเขม็งเกลียวจวนจะเป็นบ้าด้วยความร้อนใจอยู่รอมร่อ

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึก พูดกับปู่ในความว่างเปล่า “ปู่คะ หนูเจนก็กำลังออกไปหาไอ้ปรีเมธ มันต้องถือโอกาสมอมยาถ่ายคลิปหนูเจนอีกคนแน่”

ปู่ไกรเงียบกริบ แม้มองไม่เห็น เจิดจันทร์ก็ยังสัมผัสได้ถึงความสะท้านสะเทือนใจของอีกฝ่าย

“ปู่คะ เราต้องช่วยกัน” หญิงสาวตัดสินใจทันควัน “ปู่ต้องไปห้ามพี่เจ ส่วนเจิดจะหาทางไปช่วยหนูเจน ปู่พอรู้ไหมว่า เจิดจะออกจากบ้านนี้ ตามน้องไปได้ยังไง”

“ปู่แทบไม่เหลือเวลาในโลกนี้แล้ว จะช่วยยัยเจทันได้ยังไง” น้ำเสียงปู่ฟังหดหู่ “โธ่เอ๊ย ปู่ไม่น่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจนลูกหลานลำบากแบบนี้เลย ทั้งตอนอยู่ตอนตาย ปู่ก็ช่วยใครไม่ได้ มิหนำซ้ำลูกหลานยังเดือดร้อน…”

“ใครว่าล่ะปู่ ถ้าปู่ยังพูดกับเจิดได้ ปู่ก็ยังมีพลังช่วยพี่เจได้” เจิดจันทร์เรียกสติอีกฝ่าย “นี่อาจเป็นโอกาสสุดท้าย แต่ก็ยังมีโอกาสนะคะ ถ้าเราสองคนเอาแต่คร่ำครวญ หรือรอความช่วยเหลือของคนอื่น…เจิดรู้แล้วว่ามันไม่ช่วยอะไร”

ปู่ไกรเงียบ ก่อนที่กรอบเงาจางเกือบมองไม่เห็นจะปรากฏขึ้นตรงหน้าหลานสาว

“จริงของหนู” เสียงปู่ไกรเข้มแข็งขึ้นทีละน้อย “แม้จะเป็นเฮือกสุดท้าย ก็ขอให้ได้ทำก่อน ปู่จะไปห้ามยัยเจเดี๋ยวนี้ ส่วนเจิด…ลองเพ่งจิตเรียกเพื่อน บางที ถ้าใช้คนอื่นเป็นสื่อ เราอาจออกไปได้…”

เจิดจันทร์พยักหน้า มองเงาจางของปู่ที่หายวูบไป พร้อมกับสายลมพัดไหวมาเบาๆ กระแสเสียงของปู่ล่องลอยมาเข้าหู แม้จะแผ่วแทบไม่ได้ยิน แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอิ่มใจ

“ปู่ภูมิใจในตัวเจิดนะ คนเก่งของปู่”

ประโยคทิ้งท้ายของปู่ เรียกพลังและความเข้มแข็งให้ทวีมากขึ้น เจิดจันทร์สูดลมหายใจลึกยาว พยายามปล่อยวางความกังวลทุกอย่าง แม้แต่เรื่องของตนเอง บัดนี้ เธอไม่สนใจแล้วว่าตนเองจะกลับเข้าร่างได้หรือไม่ และหากเธอต้องตายไปจริงๆ ก็ขอได้ใช้โอกาสน้อยนิดที่มีอยู่เพื่อช่วยครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย

มีเพียงวิญญาณสองร่างเท่านั้นที่ได้เห็น ได้ยิน และรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง หากเธอและปู่ไม่ช่วย แน่นอนว่าพ่อแม่ต้องเสียลูกสาวอีกสองคนไม่ช้าก็เร็ว และพ่อแม่จะใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไร…

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย…เจิดจันทร์นึกอ้อนวอน…ลูกจะไม่ขออะไรอีกแล้ว นอกจากได้ช่วยพี่สาวน้องสาวให้รอดปลอดภัยเท่านั้น

เจิดจันทร์เพ่งสมาธิไปที่หมูยอด้วยจิตที่นิ่งเร็วกว่าเคย น่าแปลกที่ความรู้สึกอยากจะช่วยเหลือคนอื่น สร้างพลังและจิตตั้งมั่นที่เข้มแข็ง ยิ่งกว่าตอนที่เธอตะเกียกตะกายร้อนรนอยากช่วยตนเองเสียอีก

“หมูยอ ฉันอยู่ตรงนี้” เจิดจันทร์พูดซ้ำไปมา แล้วก็เบิกตากว้างอย่างยินดี เมื่อเพื่อนสนิทชะงักคำพูดจ้อกับฝรั่งหนุ่ม เหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาดๆ

“What’s wrong?” เจมีถามอย่างฉงน เมื่อเห็นเพื่อนใหม่ทำหน้าเลิ่กลั่ก

หมูยอส่ายหัว จะพูดว่าฉันหูฝาดก็นึกคำศัพท์ไม่ออก แต่แล้วก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาวชัดแจ่มแจ๋วอยู่ในรูหู

“หมูยอ นี่ฉันเอง เจิดจันทร์ ตัวจริงเสียงจริง” เจ้าของเสียงรีบย้ำ “แกไม่ต้องกลัวนะ ฉันยังไม่ได้เป็นผีเต็มตัว จะว่ายังไงดี คือวิญญาณฉันออกจากร่าง แต่ยังไม่ตายสนิท”

“เจิด” หมูยอคราง ขนลุกเกรียว เผลอยกมือพนมไหว้อย่างไม่รู้ตัว

“หมูยอ แกมองไม่เห็นฉันหรอก ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอร่างเละๆ” เจิดจันทร์พูดเร็วปรื๋อ ดีใจสุดชีวิตที่สื่อสารกับเพื่อนได้อย่างราบรื่น “ฉันมีเรื่องอยากให้แกช่วย ฟังนะ ไอ้ปรีเมธมันเป็นคนเลว มันหลอกหนูเจนไปถ่ายคลิปโป๊ที่คอนโดมัน แกพาฉันไปช่วยหนูเจนหน่อยนะ”

หมูยอยกมือตบหน้าตนเองซ้ายขวา ทำเอาเจมีสะดุ้งเฮือก

“หมูยอ แกไม่ได้เป็นบ้า นี่ฉันเองจริงๆ เอางี้ แกเคยโพสต์ด่าหัวหน้าในบล็อกขององค์กร จำได้มั้ย เรื่องนี้ไม่มีใครรู้เลย นอกจากฉัน แล้วแกยังเคยแอบปิ๊งนังติ๊กด้วย ตอนมันเข้าทำงานใหม่ๆ เพราะเข้าใจว่ามันแมนทั้งแท่ง…”

“พอ พอแล้ว” หมูยอร้องลั่น “เจิด แกจริงๆ ด้วย โอ๊ย ฉันขนลุกไปหมดแล้ว”

“ไม่มีเวลาแล้วหมูยอ แกรีบขับรถไปคอนโดไอ้ปรีเมธเดี๋ยวนี้เลย แกจำได้ใช่ไหม ที่ฉันเคยพาแกไปแอบซุ่มดูมันน่ะ”

หมูยอเดินอย่างมึนงงไปที่รถ แทบไม่ได้สนใจฝรั่งหนุ่มที่วิ่งตามหน้าตาตื่น

“แกอยู่ตรงไหนน่ะเจิด แกอยู่กับฉันหรือเปล่าตอนนี้” หมูยอถามอย่างหวาดๆ

เจิดจันทร์เพ่งสมาธิอีกครั้ง คราวนี้มองแน่วแน่ไปที่ประตูรั้ว ก่อนตัดสินใจเอื้อมมือไปจับ…

แรงกระตุกดังสายฟ้าฟาดขวับมาที่ร่างกายเหมือนเดิม พร้อมกับแรงผลักมหาศาลหมุนเข้ามากระแทก หากแต่คราวนี้หญิงสาวฝืนความเจ็บปวดทั้งปวง มือยังจับลูกบิดประตูรั้วแน่นไม่ยอมปล่อย

ลูกบิดลุกวาบเป็นเปลวเพลิงขึ้นมาทันที ประกายไฟไหม้ลามท่วมมือหญิงสาวอย่างรวดเร็ว เจิดจันทร์กัดฟันแน่นจนรู้สึกว่ากัดทะลุเนื้อ ฝืนแรงเฮือกสุดท้ายสู้กับความแสบร้อน หมุนลูกบิดประตูออก

“ฉัน – จะ – ไป – ช่วย – น้อง” หญิงสาวตะโกนลั่น ใช้แรงทั้งหมดที่มีกระแทกประตูออก มันอ้าออกเพียงเล็กน้อย พร้อมกับเปลวไฟที่โหมลุกท่วมตลอดประตูและรั้ว กลายเป็นรั้วเพลิงกางกั้นไว้ เจิดจันทร์พยายามเบียดตัวเองฝ่ากองไฟออกมา เพลิงแดงฉานพุ่งเข้าห่อหุ้มร่างเธอจนมิด

อีกนิดเดียว…เจิดจันทร์มองไปที่รถเพื่อนสาว มันอยู่ห่างจากเธอไม่ถึงสิบก้าว เธอต้องทำได้

ความร้อนลุกลามจากผิว จนไหม้แผดเผาไปถึงอวัยวะภายใน วิญญาณสาวทรมานจนขีดสุด แต่ก็ยังฝืนก้าวออกมาทีละนิด

ผลัวะ!

เจิดจันทร์ล้มฟาดไปกับพื้น…นอกรั้วบ้าน

หญิงสาวตะกายลุกขึ้นทันที แทบไม่มีเวลาดีอกดีใจหรือพะวงถึงความปวดแสบปวดร้อน ร่างโปร่งใสกระโจนขึ้นรถหมูยอ ตะโกนใส่หูเพื่อนที่นั่งหน้าตาตื่นบนเบาะคนขับ เหลียวซ้ายแลขวาเลิ่กลั่ก

“ไปเลย หมูยอ ฉันอยู่นี่แล้ว ไป ไป!”

หมูยอสตาร์ตรถมือไม้สั่น แต่ก่อนที่นังหนูแดงจะเคลื่อนตัว ประตูด้านข้างคนขับก็กระชากเปิดออก พร้อมกับที่ฝรั่งหนุ่มโหนตัวขึ้นมานั่งฉับพลัน

“เฮ้ย” สองสาวร้องขึ้นพร้อมกัน เจิดจันทร์ตะโกนบอกเพื่อนทันที

“หมูย๊อ ไล่มันลงไป โอ๊ย ฉันกลัวหัวทองๆ”

“เจิด ใจเย็นๆ คือตานี่เขาเป็นคนดีนะ” หมูยอคิดคำศัพท์ไม่ออก ได้แต่ทำท่าไล่ไปทางฝรั่งหนุ่ม “เจมี ชิ้วๆ เข้าใจไหม ชิ้วๆ ลงไปก่อน ฉันมีธุระ”

“ไป-ดวย” เจมีตะโกนสวน “ไป-ชวย-กัน”

“โอ๊ย พูดไม่รู้เรื่อง” หมูยอตะโกนบ้าง “เจิด ช่างมันเถอะ ฉันนึกอะไรไม่ออกแล้ว ให้เจมีไปด้วยละกัน ฉันจะได้มีเพื่อน”

“เอางั้นเหรอ…โอ๊ย ไม่มีเวลาแล้ว งั้นก็ไปกันเลยหมูยอ ซิ่งไปเลย”

หมูยอพยักหน้า เหยียบคันเร่งอย่างที่ไม่เคยกดมิดขนาดนี้กับนังหนูแดงมาก่อน รถเก๋งสีแดงคันจ้อยพุ่งออกไปทันที

เจิดจันทร์ถอนหายใจยาว ส่งความระลึกถึงปู่ หวังว่าปู่จะห้ามเจณิสตาได้สำเร็จ และเธอจะไปช่วยหนูเจนได้ทันเวลาเช่นกัน

 



Don`t copy text!